Topic Summary
|
จากคุณ: soon_soon |
โพสเมื่อวันที่: 08/09/18 เวลา 07:35:06 |
" ตอบแบบนี้ สามล้อหน้า รพ ก็ตอบได้. และ คำพูดที่เหยียดหยาม.. เสียงตอบกลับจากเวที ก็บอกว่า คิดเสียว่า จบไปแล้ว เจอหนักกว่านี้... ปล สมัยผม ก็ โดนแบบนี้ ก็ นอยด์+ตลกนิดหน่อย แต่ก็ผ่านมาได้ ตอนนี้ผมก็สอน นศพ ไม่เคยใช้ คำพูดทำนองนี้เลย ลูกผมก็กำลังเรียนที่นั่น ผมก็ได้เเต่ บอกว่า อยากไปเอง ก็ต้องทำใจ
|
จากคุณ: doreus |
โพสเมื่อวันที่: 08/09/18 เวลา 08:37:51 |
เจอแบบ นั่นใช้สมองหรือหัวแม่โป้งตีนตอบ. แต่ไม่ถือนะอาจารย์สนิทกันและแกชอบพูดตลกยังเคารพเสมอมา. คนละ โรงเรียนกัน
|
จากคุณ: zinc |
โพสเมื่อวันที่: 08/09/18 เวลา 09:16:18 |
ตอนนักศึกษาแพทย์ไปชวนน้องม.6มาเรียนก็ควรบอกความจริงให้หมดไม่ใช่บอกแต่ด้า นสวยงามสดใส จริงๆชีวิตแพทย์ถ้าไม่รักในการเสียสละแล้วอยู่ยากครับ ที่อยากรวยก็ต้องไปรีดชาวบ้านต่ออีกกลายเป็นเวชพานิชย์ก็เยอะ
|
จากคุณ: -=Jfk=- |
โพสเมื่อวันที่: 08/09/18 เวลา 11:07:42 |
เฮ้ยยยยยยยยย แค่นี้ ก็เป็นประเด็นได้เหรอ ประโยค ที่อจ.หรือ รุ่นพี่ชอบแซวๆ ว่า อาการอย่างนี้ หรือ โรคอย่างนี้ สามล้อหน้ารพ. หรือ คนเข็นเปล ก็รู้ ก็ตอบได้ นี่ อจ.หรือพี่ๆ ใช้กันบ่อยๆ มันบอกให้รู้ว่า เรื่องแบบนี้ เป็นเรื่องที่ง่ายมากๆ หมอต้องควรรู้ ไม่พลาด ขนาด คนไม่ได้เรียนมา หรือ คนทั่วไป ยังรู้เลย
|
จากคุณ: know555 |
โพสเมื่อวันที่: 08/09/18 เวลา 11:21:52 |
on 08/09/18 เวลา 11:07:42, -=Jfk=- wrote:เฮ้ยยยยยยยยย แค่นี้ ก็เป็นประเด็นได้เหรอ ประโยค ที่อจ.หรือ รุ่นพี่ชอบแซวๆ ว่า อาการอย่างนี้ หรือ โรคอย่างนี้ สามล้อหน้ารพ. หรือ คนเข็นเปล ก็รู้ ก็ตอบได้ นี่ อจ.หรือพี่ๆ ใช้กันบ่อยๆ มันบอกให้รู้ว่า เรื่องแบบนี้ เป็นเรื่องที่ง่ายมากๆ หมอต้องควรรู้ ไม่พลาด ขนาด คนไม่ได้เรียนมา หรือ คนทั่วไป ยังรู้เลย |
|
|
จากคุณ: 6699 |
โพสเมื่อวันที่: 08/09/18 เวลา 13:18:09 |
ถ้าอาจารย์ด่า แสดงว่า อาจารย์เขารัก ถ้าอาจารย์เขานิ่งเงียบ แสดงว่ามีปัญหาแล้ว
|
จากคุณ: bridge |
โพสเมื่อวันที่: 08/09/18 เวลา 13:55:00 |
อาจารย์ไม่เข้าใจวิธีสอนเด็ก การพูดดีๆไม่ให้เด็กเครียด ทำให้เด็กได้ความรู้ดีกว่า ปฎิบัติงานได้ดีกว่า ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ทำงานก็ดีกว่า แก้รุ่่นเก่าไม่ได้ รุ่นเราเลือกไม่ทำต่อได้และไม่ให้ลูกหลานไปเรียนครับ
|
จากคุณ: MK ลุยงานอย่างเดียว |
โพสเมื่อวันที่: 08/09/18 เวลา 15:52:15 |
สำหรับผมเฉยๆนะ ตอนเป็นนสพ.อาจแอบเซ็งนิดๆว่าไรวะ ทีผู้หญิงถามได้คำตอบอย่างดี แต่พอผู้ชายถามกลับได้ความว่าบ่อน้ำไม่เดินมาหาควายหรอกอะไรประมาณนั้น แต่บางหน่วยเวลา consult ต้องให้นสพ.ชายไปเพราะนสพ.หญิงไปโดนซอยทุกที ส่วนตัวไป consult แผนกที่ว่าก็โดนซอยไม่ต่างกัน แต่อาจต่างกันตรงผู้ชายส่วนใหญ่ไม่ค่อยคิดมาก (มั้ง) ครับ
|
จากคุณ: soon_soon |
โพสเมื่อวันที่: 08/09/18 เวลา 15:58:49 |
อาจจจะเพราะว่า ปีที่เเล้ว นศพ โดดตึดตาย มั้ง เลย มีการ ยกประโยคนี้มาถก กัน ปล สำหรับผม ทำผิด ด่าได้ เเต่ ต้องสอนว่า ที่ถูก คืออะไร ไม่ใช่ ด่ายันเตทุกประโยค ตั้งเเต่นาทีเเรก
|
จากคุณ: crv01 |
โพสเมื่อวันที่: 08/09/18 เวลา 18:01:53 |
รุ่นใหม่ความอดทนต่ำ. อาจารย์สอนให้ชินกับความกดดันของสังคม. ในสังคมแรงกว่านี้ครับ. สมัยก่อนหนักกว่านี้เยอะ. ตอบไม่ได้ให้ไปกระโดดตึก. หรือถาม chief. Dent. ก่อน. แล้วไล่ไป. Dent 2. 1. ตอบไม่ได้ถึงจะไปถามนศพ. โหขายหน้ามากเพราะนศพดันตอบได้. ตอนหลังชิฟเดนท์บอกน้องๆว่าถ้าพี่ตอบไม่ได้พวกเองต้องบอกว่าไม่ทราบ. อาจารย์นี้เจอไม้นี้เข้าจุกเลย
|
จากคุณ: Ines_de_BK |
โพสเมื่อวันที่: 08/09/18 เวลา 18:44:42 |
ห้ามไล่ไปโดดตึก เพราะโดดจิง อยากทราบว่าการพูดสอนดีๆให้กำลังใจ ตามตำรา med ed คือมองตามความเป็นจริงนะ จบไปเด็กจะcultural shock กว่าเดิมไหม มีใครทำการศึกษาหรือมีงานวิจัยรองรับในบริบทประเทศไทยไหม ต้องการทราบจริงๆ
|
จากคุณ: Hippo |
โพสเมื่อวันที่: 08/09/18 เวลา 18:48:10 |
ผมยังคุยกับเพื่อนว่า เราควรจะฝึกแพทย์ให้เหมือนหน่วยซีลไหม ไม่มีอ่อน ไม่มีปราณี ไม่มีลดเกณฑ์เพื่อให้ผ่าน ไม่งั้นคุณภาพออกไปไม่คับแก้ว แต่หมอเราคงไม่ถึงขั้นนั้น คงต้องมีทั้งไม้อ่อนไม้แข็ง
|
จากคุณ: Ines_de_BK |
โพสเมื่อวันที่: 08/09/18 เวลา 18:51:55 |
เพราะบริบทหมอภาครัฐของไทยที่ต้องการตอนนี้คือพวกอดทนสิบล้อชนไม่ตายนะ เห็นด้วยกับการฝึกแบบซีล แกร่งทั้งร่างกายและจิตใจ
|
จากคุณ: Tennoji |
โพสเมื่อวันที่: 08/09/18 เวลา 20:11:24 |
ผมว่าอาจารย์เขาก็เน้นฮาๆ ไม่น่าเอามาเป็นประเด็นอะไรนะ ถ้าต้องสอนแบบระวังมาก อะไรนิดอะไรหน่อยก็แตะไม่ได้ ผมว่า คงต้องไปเรียนกะ robot ก็แล้วกัน
|
จากคุณ: Hybrid VI |
โพสเมื่อวันที่: 08/09/18 เวลา 22:09:17 |
โลกกำลังจะหมุนเปลี่ยน แต่เห็นหลายคนยังยึดติดกับความคิดเดิมๆ การไปเบลมอาชีพอื่น การดูถูกดูแคลนอาชีพอื่น ต่อไปจะเป็นสิ่งที่รับไม่ได้ และไม่สมควรจะออกมาจากปากคนที่ได้ชื่อว่าเป็นอาจารย์แพทย์ที่ นศพ.จะยึดถือเป็น Role model แล้วครับ สมมติไปพูดอย่างนั้นหน้าเตียงคนไข้ บังเอิญคนไข้ที่นอนอยู่ทำอาชีพสามล้อ คิดว่าจะมีดราม่าไหม ถ้าเขาลุกขึ้นถามว่า "คุณหมอคิดว่าคนถีบสามล้่อโง่มากเลยเหรอครับ" จะทำหน้ายังไง ยิ่งเห็นข้อความที่พยายามบอกประมาณว่า "ตอนผมเรียนเจอยิ่งกว่านี้" มันจะต่างอะไรกับคำพูดของ ผบห.กระทรวง ที่มักจะบอกว่า "ตอนผมเป็นหมอผมอยู่เวรทุกวันยังอยู่ได้" ที่เรามักจะยกคำพูดแนวนั้นมาด่า ผบห.ล่ะครับ
|
จากคุณ: 921684 |
โพสเมื่อวันที่: 08/09/18 เวลา 22:49:40 |
คณะอื่นเขาพูดกันดีๆ ได้ ใช้เหตุผลในการสอน วิศวะ บัญชี นิติ อักษร ฯลฯ แต่กลายเป็นว่า คณะหมอ พูดเหมือนลูกศิษย์ไม่ใช่คน คิดว่าคนไม่ใช่คน เออ ก็แปลกดีค่ะ
|
จากคุณ: brownie |
โพสเมื่อวันที่: 08/10/18 เวลา 00:01:37 |
ด่าแบบนี้ เจ็บกว่า พูดขำๆให้ออกไปทางหน้าต่างอีกครับ (นอกหน้าต่างมีระเบียง ไม่ตกตึกครับ) การพูดเปรียบเทียบ ใช้คำหยาบ เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ ยิ่งคนทำงานหนักมาทั้งคืนอย่าง dent ยิ่งทำให้เขาเสียใจ ถ้าจะเรียกมาว่ากล่าวตักเตือน รอให้เขาพร้อมที่จะฟังก่อน
|
จากคุณ: MuanN |
โพสเมื่อวันที่: 08/10/18 เวลา 00:03:09 |
สอนกันปาวๆ ให้รักษาคนไข้อย่างมีหัวใจเป็นมนุษย์...
|
จากคุณ: Sazuke |
โพสเมื่อวันที่: 08/10/18 เวลา 08:24:16 |
เด็กสมัยนี้คิดมากไปรึเปล่าครับ ตย.ที่ว่าอันนี้ผมว่าอ.พูดแซวขำๆเอง ถ้าจริงจังกันขนาดนั้นคงไม่ต้องสอนกันละ ผู้ใหญ่ว่าอะไร ล้ออะไรไม่ได้เลยเพราะegoสูงกันหมด ?
|
จากคุณ: Something in the rain |
โพสเมื่อวันที่: 08/10/18 เวลา 08:32:32 |
งานวิจัยของ อาจารย์ท่านหนึ่งที่ให้ นศพ. ตอบแบบสอบถาม เรียงลำดับจากคะแนนมากไปน้อยคือ 1 ละเมิดทางวาจา หรือที่เค้าเรียกว่า กินหัว verbal abuse (59.0%) เช่น ดุ ติ ทำให้อับอาย 2 เลือกปฎิบัติ discriminative behavior (51%) คือ ตามเพศ หรือ ความชอบส่วนตัว 3 ใช้อำนาจกดขี่ power abuse (18.1%) 4 ละเมิดทางกาย physical abuse (12.7%) เช่น ตี หยิก ขว้างของใส่ 5 sexual harassment การปฏิบัติที่ส่อไปในทางเพศ แบบไม่เหมาะสม เช่น ใช้วาจาหยาบโลน สัมผัส ลูบคลำ เอ่อ มีถึง 5% เชียวนะคะ ส่วนตัวเคยโดนทั้ง verbal abuse , discriminative behavior , physical abuse แต่ก็ผ่านมันมาได้ แต่ก็มีdepressไปพักนึงกว่าจะกลับมาได้ก็เป๋ไปเหมือนกัน ถามว่าวัฒนธรรมแบบนี้ควรจะมีอยู่ในองค์กรแบบนี้ใช่ไหมครับ เมื่อทำอะไรผิดพลาด แค่พูดตักเตือนเบาๆทั้ง นศพ resident fellowก็รู้สึกผิดมาก จิตตกไปนานแล้วครับ ผมยังเชื่อว่าไม่ pain ก็ gainได้ครับ ผมเคยเห็นบางคนตอนเป็น นศพ. ทำตัวเกเร ชอบเที่ยว ไม่ค่อยรับผิดชอบ แต่พอเค้าเริ่มเป็นผู้ใหญ่ขึ้น เริ่มมีครอบครัว มีลูก ดูเปลี่ยนแปลงไปมาก ตอนมาเรียนresidentก็สอบได้ที่หนึ่งบอร์ดครับ คนเรามันเปลี่ยนแปลงกันได้ครับ ถ้าเป็นอาจารย์แล้วก็มีหน้าที่สั่งสอน ให้อยู่ในลู่ทางที่ควรจะเป็นครับ เรียกมาตักเตือน สั่งสอน พูดคุยดีๆเป็นการส่วนตัวก็ได้ครับ ไม่จำเป็นต้องไปประจานหรือทำให้เขาอับอายต่อหน้าคนอื่น เรื่องไม่ดีให้เอามาคุยในที่ลับ เรื่องดีให้เอามาคุยในที่แจ้ง
|
จากคุณ: Something in the rain |
โพสเมื่อวันที่: 08/10/18 เวลา 08:35:05 |
คำพูด ต่างๆที่กล่าวมามันขึ้นอยู่กับ น้ำเสียง ท่าทางคนพูดด้วยครับ ว่าพูดขำๆล้อเล่น หรือ ด่าจริงจัง มีเจตนาทำให้อับอาย คนฟังเองเป็นคนรู้สึกได้ครับ
|
จากคุณ: jumpoo |
โพสเมื่อวันที่: 08/10/18 เวลา 11:39:43 |
วงการหมอ มันมีพวกขี้แซะเยอะ
|
จากคุณ: bridge |
โพสเมื่อวันที่: 08/10/18 เวลา 11:59:37 |
ถ้าสถานการณ์กลางวงราวด์ Young staff สอน dent อยู่แล้ว old staff บอกว่า สอนแบบนี้สามล้อก็สอนได้ คิดว่าโอเคไหมครับ ถ้าบอกว่า old staff รักและหวังดี
|
จากคุณ: positive |
โพสเมื่อวันที่: 08/10/18 เวลา 15:17:01 |
อะไรควรปรับปรุง ก็คือควรปรับปรุงครับ เห็นด้วยกับคุณ Something in the rain ที่ว่าไม่ pain ก็ gain ได้ อาจารย์ ก็ใช้คำที่เหมาะสมมากขึ้น เป็นประโยชน์กับตัวอาจาย์เอง พูดดีๆ ก็เป็นมงคลกับตัวเอง สำหรับน้อง นศพ. เขาไม่ชอบคำแบบนี้แน่ ไม่มีใครชอบวิธีนี้ แต่ไม่ควรถึงกับ รับไม่ได้ เพราะอนาคตเจออีกมาก ไม่ตบหัวแล้วลูบหลังเหมือนอาจารย์-ลูกศิษย์ คนข้างนอก เขาตบหัว แล้วชักปืนจ่อครับ ชีวิตไม่เคยง่าย แต่อย่าลืมว่าเรา อาจจะเปลี่ยน หรือ ควบคุมสังคมรอบตัวเรา ในช่วงปัจจุบัน 5-10 ปีข้างหน้าไม่ได้ แต่เราเลือกที่จะมีทัศนคติที่เป็นประโยชน์กันตัวเรา หรือ ทำให้เราทุกข์น้อยได้ครับ แล้วเรียนรู้ ที่จะไม่ทำในสิ่งที่เราไม่ชอบกับคนอื่น
|
จากคุณ: bridge |
โพสเมื่อวันที่: 08/10/18 เวลา 17:24:41 |
ทำไมถึงคิดแทนคนอื่นว่าออกไปข้างนอกลำบากกว่าโรงเรียนแพทย์ครับ สำหรับผมแล้วชีวิตที่แย่ที่สุดเป็นโรงเรียนแพทย์นะครับ ออกไปข้างนอกชีวิตดีกว่าเยอะ อีกอย่างผมไม่คิดว่าระบบแย่ๆแก้ได้ด้วยการทนนะครับ
|
จากคุณ: Hybrid VI |
โพสเมื่อวันที่: 08/10/18 เวลา 17:59:42 |
on 08/10/18 เวลา 15:17:01, positive wrote:อะไรควรปรับปรุง ก็คือควรปรับปรุงครับ เห็นด้วยกับคุณ Something in the rain ที่ว่าไม่ pain ก็ gain ได้ อาจารย์ ก็ใช้คำที่เหมาะสมมากขึ้น เป็นประโยชน์กับตัวอาจาย์เอง พูดดีๆ ก็เป็นมงคลกับตัวเอง สำหรับน้อง นศพ. เขาไม่ชอบคำแบบนี้แน่ ไม่มีใครชอบวิธีนี้ แต่ไม่ควรถึงกับ รับไม่ได้ เพราะอนาคตเจออีกมาก ไม่ตบหัวแล้วลูบหลังเหมือนอาจารย์-ลูกศิษย์ คนข้างนอก เขาตบหัว แล้วชักปืนจ่อครับ ชีวิตไม่เคยง่าย แต่อย่าลืมว่าเรา อาจจะเปลี่ยน หรือ ควบคุมสังคมรอบตัวเรา ในช่วงปัจจุบัน 5-10 ปีข้างหน้าไม่ได้ แต่เราเลือกที่จะมีทัศนคติที่เป็นประโยชน์กันตัวเรา หรือ ทำให้เราทุกข์น้อยได้ครับ แล้วเรียนรู้ ที่จะไม่ทำในสิ่งที่เราไม่ชอบกับคนอื่น |
| ข้างนอกตบหัวแล้วเอาปืนจ่อ ก็ใช้กฎหมายแจ้งความเอาผิดสิครับ อ๋อ.. เรียนมาแบบนี้ เวลาจบออกมาเจอแบบนั้นก็สอนกันให้ยอมๆ กันไป หรือไม่ก็เอากระเช้าไปกราบเท้าเขาเหรอครับ
|
จากคุณ: อาร์ตสุดติ่ง |
โพสเมื่อวันที่: 08/10/18 เวลา 18:12:04 |
มันกินหัวต่อๆกันมานานแล้ว​จนสืบสันดาน ไม่สามารถเลิกได้.เเละจะมีต่อไป​
|
จากคุณ: Humble_guy |
โพสเมื่อวันที่: 08/10/18 เวลา 21:48:19 |
การกินหัวเป็นการเรียกร้องความสนใจรูปแบบหนึ่ง คนพวกนี้มักมีความผิดปกติในการพูดคุยสื่อสารกับผู้อื่นอย่างที่คนปกติทั่วไป เค้าทำกัน เคยรู้จักอาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่นักกินหัวคนหนึ่ง แต่ตอนอยู่บ้านโดนทั้งเมียทั้งลูกแกล้งสารพัดน่าสงสาร
|
จากคุณ: Hybrid VI |
โพสเมื่อวันที่: 08/10/18 เวลา 23:05:35 |
กลุ่มแพทย์จำเอาพฤติกรรมการกินหัว การดูถูกเหยียดหยามมาจากอาจารย์แพทย์ จบมาก็เอามาใช้กับวิชาชีพอื่นต่อ ทั้งๆ ที่เค้าไม่ได้เป็นลูกน้องเรา เขาเป็นผู้ร่วมงาน แต่ก็ทำกันจนเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว ทำไมไม่ปรับเปลี่ยน ตั้งแต่ รพ.แพทย์ล่ะครับ ให้พฤติกรรมแบบนั้นมันหมดไป เพราะไม่มีการวิจัยไหนเลยที่บอกว่า การกินหัว ทำให้ นศพ.จำได้ดีขึ้น หรือขยันขึ้น แพทย์ยึดถือคติ first do no harm แต่การกินกินหัว เป็นพฤติกรรมที่ harm แถมไม่ได้ประโยชน์ จะทำทำไม ..??
|
จากคุณ: Innominate |
โพสเมื่อวันที่: 08/13/18 เวลา 00:31:58 |
การ abuse เป็นปัญหาของ med ed. ทั่วโลกครับ ไม่รู้ว่าสั่งสอนกันมายังไงถึงได้เป็นแบบนี้ แต่หลังๆเริ่มมีการวิจัยที่หยิบประเด็นนี้ขึ้นมาพูดเหมือนที่เม้นข้างบนพูดม าเยอะขึ้น ถ้าอ.เก่าๆคิดแต่จะสอนแบบเก่าๆก็เหมือนกับคนที่พูดว่า ผมก็เคยโดนซ่อมแต่ไม่ตาย นั่นแหละครับ
|
จากคุณ: Hybrid VI |
โพสเมื่อวันที่: 08/13/18 เวลา 19:40:21 |
on 08/13/18 เวลา 00:31:58, Innominate wrote:การ abuse เป็นปัญหาของ med ed. ทั่วโลกครับ ไม่รู้ว่าสั่งสอนกันมายังไงถึงได้เป็นแบบนี้ แต่หลังๆเริ่มมีการวิจัยที่หยิบประเด็นนี้ขึ้นมาพูดเหมือนที่เม้นข้างบนพูดม าเยอะขึ้น ถ้าอ.เก่าๆคิดแต่จะสอนแบบเก่าๆก็เหมือนกับคนที่พูดว่า ผมก็เคยโดนซ่อมแต่ไม่ตาย นั่นแหละครับ |
| กดไลค์..
|