Topic Summary
|
จากคุณ: gundamwing |
โพสเมื่อวันที่: 08/05/18 เวลา 17:03:44 |
https://www.prachachat.net/marketing/news-199759
|
จากคุณ: crv01 |
โพสเมื่อวันที่: 08/05/18 เวลา 18:05:21 |
รัฐผลิตให้เอกชน. ไม่น่าให้ธุรกิจโรงบาลเอกชนเข้าตลาดหลักทรัพย์เลย.
|
จากคุณ: doreus |
โพสเมื่อวันที่: 08/05/18 เวลา 19:57:17 |
ดีออก เราจะโดนแย่งตัวละ อิอิ ใครถือ หุ้นโรงพยาบาล เตรียมโดนเท
|
จากคุณ: megacure |
โพสเมื่อวันที่: 08/05/18 เวลา 21:08:54 |
ยัง supply แพทย์ก็ล้น ทุกคนต้องดิ้นรนไปเรียน resident โดนกดขี่ภาค 2 รวมอย่างน้อย 10 ปี (6+1+3)
|
จากคุณ: SantaNiCo |
โพสเมื่อวันที่: 08/05/18 เวลา 22:04:52 |
แหม จบมาก้ลาออกกันอยู่ดี ลาออกไปทำสกินบ้าง ฟลูไทมเอกชนบ้าง ไปฟรีเทรนบ้าง คนที่เก่งๆดังๆก็โดนดูดกันไป เหลือแต่หมอจบใหม่ที่โดนขังอยู่รพ.รับด้วยค่าปรับราคาขี้แตกนี่แหล่ะ พอจบ3ปี ก้ออก ใครจะมาทนกับรพ.รัฐ
|
จากคุณ: simath |
โพสเมื่อวันที่: 08/05/18 เวลา 22:18:07 |
เปิดใหม่อีกไม่กี่ที่ เทียบกับที่มีอยู่ในปัจจุบันก็นิดเดียว ผมว่ามันไม่ได้มีผลกระทบอะไรมากมายหรอก ยังไงกำลังการผลิตแพทย์ตอนนี้ก็มากกว่านั้นมากแล้ว
|
จากคุณ: Dr._Panya |
โพสเมื่อวันที่: 08/06/18 เวลา 10:40:49 |
รพ. เอกชนขนาดใหญ่ หรือชั้นนำ ไม่ว่าเปิดใหม่/ เปิดอยู่แล้ว...ถ้าเลือกได้ เค้าอยากจะดึงตัว อาจารย์โรงเรียนแพทย์/ แพทย์อาวุโส ซึ่งมีทั้งความรู้ทางวิชาการที่ดี+ มีชื่อเสียงมานาน+ มีประสบการณ์สูง...มากกว่าแพทย์จบใหม่ครับ (นอกจากว่าคุณจบแพทย์เฉพาะทางใหม่ๆ แต่มีเส้นสายใหญ่โต อะนะ ครับ) เพราะงั้น ที่จะกระทบก็คือ โรงเรียนแพทย์โน่นแหละ ที่อาจจะสูญเสียบุคคลากรที่มีความรู้ความสามารถไปบ้าง ครับ...เพราะงั้นอาจารย์แพทย์อาวุโสของโรงเรียนแพทย์ชั้นนำเนี่ย เนื้อหอมฟุ้งยิ่งกว่า ณเดชน์/ ญาญ่า ครับ อิ อิ อิ
|
จากคุณ: anantom |
โพสเมื่อวันที่: 08/06/18 เวลา 12:51:05 |
เป็นมานานแล้วครับ ยิ่ง ฟรีแทรน แสดงว่าไป รพ เอกชนแน่ น่าที่รัฐจะออกกฎ สถานศึกษาของรัฐต้องรับแพทย์มีทุนของรัฐก่อน ถ้าที่ว่างเหลือจึงจะรับฟรีเทรนได้ กำหนดโทษทั้งจำและปรับเลย น่าจะช่วยได้มากกว่าครับ
|
จากคุณ: Hybrid VI |
โพสเมื่อวันที่: 08/06/18 เวลา 23:18:27 |
เดี๋ยวอีกไม่นาน หมอ specialist 3 สาขาที่เพิ่งจบมาใหม่ น่าจะลาออกกันยกทีมล่ะ เพราะรับไม่ได้กับค่าตอบแทน OT ที่ได้เหมาจ่าย 1100 บาท/8 ชม.
|
จากคุณ: anantom |
โพสเมื่อวันที่: 08/07/18 เวลา 12:09:27 |
on 08/06/18 เวลา 23:18:27, Hybrid VI wrote:เดี๋ยวอีกไม่นาน หมอ specialist 3 สาขาที่เพิ่งจบมาใหม่ น่าจะลาออกกันยกทีมล่ะ เพราะรับไม่ได้กับค่าตอบแทน OT ที่ได้เหมาจ่าย 1100 บาท/8 ชม. |
| เดี๋ยวก็มีหมอแก่ๆในกระทรวงออกมาด่าว่าไม่เสียสละ เพราะเขาเคยอยู่กัน 150 บาท/8 ชม (แต่ไม่บอกว่าทองคำตอนนั้น 600 บาท/ทองหนัก 15.2 gm) 555
|
จากคุณ: Something in the rain |
โพสเมื่อวันที่: 08/07/18 เวลา 14:32:41 |
on 08/06/18 เวลา 12:51:05, anantom wrote:เป็นมานานแล้วครับ ยิ่ง ฟรีแทรน แสดงว่าไป รพ เอกชนแน่ น่าที่รัฐจะออกกฎ สถานศึกษาของรัฐต้องรับแพทย์มีทุนของรัฐก่อน ถ้าที่ว่างเหลือจึงจะรับฟรีเทรนได้ กำหนดโทษทั้งจำและปรับเลย น่าจะช่วยได้มากกว่าครับ |
| แล้วถ้าคนสัมภาษณ์คิดว่าคนเอาทุนมาperformanceไม่ดีเมื่อเทียบกับfree train และให้เหตุผลว่าคนเอาทุนมาน่าจะเรียนไม่จบบอร์ดแน่หรือมีโอกาสที่จะoff training จะทำอย่างไรครับ อีกอย่างจะให้อาจารย์แพทย์โดนปรับและโดนจำนั้นก็ไม่ได้มีประโยชน์แน่กับคณะแ พทย์ อาจารย์หลายคนสอนอยู่หลายระดับตั้งแต่ นศพ. resident ยันfellow ที่อาจารย์อยู่กันนั้นก็เสียสละมากแล้วครับ จะบีบให้เค้าลาออกอีกหรืออย่างไร
|
จากคุณ: carter |
โพสเมื่อวันที่: 08/09/18 เวลา 11:52:21 |
เหรียญมี 2 ด้านครับ มีทั้งข้อดีและเสีย ในความเห็นของผม ทั้งภาครัฐและเอกชนต้องพึ่งพากัน ถ้าขาดเอกชน ภาครัฐก้ออยู่ยากนะครับ เพราะคนที่มีกำลังทรัพย์ซึ่งเดิมเข้าใช้บริการที่เอกชนเขาก้อจะเทมาภาครัฐหม ด หมอพยาบาลของภาครัฐจะรับไหวเหรอครับ ในขณะที่เงินเดือนของภาครัฐก้อไม่ได้เยอะอะไรเมื่อเทียบกับข้าราชการสายตุลา การอัยการ สวัสดิการ ก้อถูกหั่นถูกลด จนแทบจะไม่เหลืออะไรแล้ว ถ้าไม่มีรพ.เอกชนให้ไปรับ parttime อีก รายได้อาจจะไม่เพียงพอนะครับ น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่าครับ ส่วนจำนวนรพ.เอกชน ที่มากขึ้นในกรุงเทพถึงแม้ว่าข้อเสียคือ หมอพยาบาลในภาครัฐอาจจะจะลาออกไปอยู่เยอะขึ้นก้อจริง แต่ก้อจะมีส่วนนึงที่เขาไม่ลาออก แค่ไปรับ parttime นอกเวลาราชการ เป็นการเพิ่มรายได้ให้เขาด้วย พอรายได้เพียงพอ เขาก้อไม่ลาออกครับ ส่วนข้อดีที่จะตกถึงประชาชนคือ ราคาค่ารักษาก้อจะไม่ขึ้นมากนัก เพราะมี supply เยอะขึ้นแข่งกันเอง ไม่ต้องผูกขาดอยู่แค่เครือ BDMS การที่มีรพ.เอกชนอยู่ในตลาดหุ้น จริงๆก้อมีข้อดี ทำให้เขามีเงินทุนที่จะพัฒนาตัวเองได้ ดูเครือ BDMS เป็นตัวอย่างที่ดี เขาพัฒนาในหลายๆด้าน ซึ่งในบางเรื่องภาครัฐระดับโรงเรียนแพทย์เองก้อไม่มีองค์ความรู้เลย เช่น เรื่องการลำเลียงผู้ป่วย ทั้ง groung refer และ Air refer เขามีมาตราฐานที่ไปไกลจากภาครัฐมากๆๆแล้ว ECMO transportation ก้อทำได้แล้วครับ
|
จากคุณ: Sazuke |
โพสเมื่อวันที่: 08/10/18 เวลา 08:40:34 |
มีทั้งดีและเสีย ข้อดี พอรพ รัฐกดขี่มาก ก็หนีไปเอกชนได้ ข้อเสีย ถ้า รพ เอกชนนั้นเป็นเครือใหญ่ ก็โดนบีบอีกต่อ จะออกไปที่ใหม่ก็เจอเครือเดิม อาจโดนบีบให้ทำอะไรแย่ๆแต่เวลามีเรื่อง หมอโดนเอาผิดคนเดียว ,รพ.อ้างว่าหมอทำเอง จะเอาแย่แบบไหนเลือกเอาเอง
|
จากคุณ: Dr._Panya |
โพสเมื่อวันที่: 08/11/18 เวลา 09:45:50 |
ถ้าเป็นระดับศาสตราจารย์ นายแพทย์/ แพทย์หญิง ของแผนกสูติ- ศัลย์-เมด-เด็ก-ออร์โธ โดยเฉพาะจาก จุฬาฯ - ศิริราช- รามาฯ ล่ะก้อจะไปทำ FT/ PT ที่รพ.เอกชนไหนๆ เค้าก็อ้าแขนรับทั้งสิ้นแหละครับ ต่อให้ตำแหน่งเต็มแล้วก็เปิดรับเพิ่มได้สบาย แต่ว่าแพทย์จบเฉพาะทางใหม่ๆ อย่าหวังว่าจะได้ไปทำงานรพ.เอกชนชั้นนำเลยครับ เพราะงั้นไม่ต้องตื่นตระหนก ว่าจะเกิดปรากฎการณ์สมองไหล จนกระเทือนวงการแพทย์เลยครับ
|
จากคุณ: luzeus |
โพสเมื่อวันที่: 09/16/18 เวลา 23:58:30 |
on 08/06/18 เวลา 23:18:27, Hybrid VI wrote:เดี๋ยวอีกไม่นาน หมอ specialist 3 สาขาที่เพิ่งจบมาใหม่ น่าจะลาออกกันยกทีมล่ะ เพราะรับไม่ได้กับค่าตอบแทน OT ที่ได้เหมาจ่าย 1100 บาท/8 ชม. |
| ลาออกเลยค่ะ เค้าจะได้ขึ้น OT ให้ (รึปร่าว)
|