|
Topic Summary
|
|
จากคุณ: cherrycat |
โพสเมื่อวันที่: 07/29/18 เวลา 03:26:23 |
กำลังเทรนเฉพาะทางอยู่ค่ะ เหนื่อยตรากตรำมากแต่ก็ทนค่ะ มีเพื่อนรุ่นเดียวกันเป็นโรคซึมเศร้า 3 คน ลาออกไปแล้ว ไปทำสกินทั้งหมดค่ะ
ถ้าย้อนไปตอน Extern เพื่อนในรุ่นที่จบแล้วไม่ใช้ทุน ไปทำสกินเลย ก็ดูมีแต่คนแย่ๆ ชอบโดดราวน์ โดนแอดวอร์ดพวกนี้ค่ะ
และย้อนไปช่วงใช้ทุน เคยเจอน้อง Extern กลุ่มแย่ๆ ที่มาวนวอร์ดเรา หนีเวร ออเดอร์มั่ว พวกนี้พอจบก็ทำสกินกันทั้งกลุ่มเลยค่ะ
คนดีๆ มาตรากตรำเรียนเด้นท์กันอยู่หรอค่ะ พวกแย่ๆสมัยเรียน จบปุ๊บ สบายปั๊บ รายได้เยอะกว่าเรา
จะน่าเป็นห่วงคนไข้สกินความงามแค่ไหนคะที่ได้แต่คนขาดความรับผิดชอบพวกนี้ไป
|
|
จากคุณ: SantaNiCo |
โพสเมื่อวันที่: 07/29/18 เวลา 08:02:56 |
|
ตัวคุณดีขนาดไหน ว่าคนอื่นแย่ไปหมด
|
|
จากคุณ: ชายไทยไม่ทราบชื่อ |
โพสเมื่อวันที่: 07/29/18 เวลา 08:24:54 |
ไม่รู้ว่าคับแค้นใจจริงๆ หรือ โพสท์ล่อเป้านะครับ เอาเป็นว่า จะลองตอบดูละกันครับ
คนดีๆมาตรากตรำเรียนเด้นท์ ผมว่าทุกอาชีพ ทุกวิชา ถ้าจะตั้งใจจริงต้องทุ่มเท ตรากตรำทั้งนั้น ไม่เกี่ยวกับอาชีพ หรือ ดีเลว การทุ่มเทตอนเทรนก็ดีอยู่แล้ว แต่ถ้าไม่มีความสุข พยายามหาว่าสาเหตุเกิดจากอะไร ถ้าจากเนื้องานอาจต้องดูว่าเลือกเทรนตรงกับนิสัยหรือเปล่า ถ้าจากปริมาณงานอาจต้องดูว่าจะบริหารจัดการอย่างไร ถ้าจากรายได้อาจต้องเลือกเก็บเงินก่อนไปเทรน (ผมก็เลือกเก็บเงินก่อนเทรน) แต่ถ้าตัดสินใจไปแล้ว เทรนไปแล้ว ไม่อยาก off ก็ต้องทนไป ก็เลือกเองรับเองครับ
เรียนจบปุ๊บ สบายปั๊บ รายได้เยอะกว่าเรา เดาว่าหนึ่งในสาเหตุที่ไม่สบายใจ คือ รู้สึกว่าไม่แฟร์เรื่องรายได้ ต้องอธิบายอย่างนี้ครับ รายได้กับเนื้องาน ไม่เกี่ยวกันครับ ในมุมหนึ่งดารานักร้องได้เงินเยอะกว่า แพทย์ วิศวะ นักวิทยาศาสตร์ บางคนอาจมองว่าประโยชน์น้อย ทำไมได้เงินเยอะ แต่เจ้าตัวมีความภูมิใจในงานของเค้า เป็นศิลปะการแสดง คำถามที่ควรถามคือ แล้วพวกเราที่เทรนอยู่ภูมิใจในงานของเราหรือเปล่า อีกตัวอย่าง คือ เพื่อนผมไม่เคยตั้งใจเรียนเลย แต่เป็นลูกเจ้าของโรงงาน ร้อยกว่าล้าน แต่จบไปเค้าดูแลกิจการได้ดี เรื่องอย่างนี้ทางใครทางมัน ระวังเผลอไปอิจฉาเค้าครับ
น่าเป็นห่วงคนไข้สกิน ผมรู้สึกว่า ไม่ต้องห่วงเค้าหรอกครับ อ่านมาทั้งหมด คนที่ต้องห่วงคือ จขกท.ครับ เอาอย่างนี้ครับ
เขาจะมี ส่วนเลวบ้าง ช่างหัวเขา
จงเลือกเอา สิ่งดี เขามีอยู่
เป็นประโยชน์ ต่อโลกบ้าง จงตรองดู
ส่วนที่ชั่ว อย่าไปรู้ ของเขาเลย
|
|
จากคุณ: simath |
โพสเมื่อวันที่: 07/29/18 เวลา 09:12:25 |
ทำไมคนไปทำ skin รุ่นผม มีแต่เกียรตินิยมนะ ตัวผมเองเคยอยากลอง แต่ก็ไม่เคยทำซักที
ไม่ต้องเป็นห่วงคนไข้เขาหรอกครับ ผมว่าทุกคนก็มีความรับผิดชอบต่อคนไข้ตัวเองอยู่แล้ว
เป็นห่วง จขกท. ก่อนเลยดีกว่า ถ้าเครียดมาก ลองปรึกษาอาจารย์ Psychy น่าจะดีนะครับ
|
|
จากคุณ: WeaReGroot |
โพสเมื่อวันที่: 07/29/18 เวลา 16:11:49 |
ล้อเป้านะครับ
ว่าคนอื่นเค้าแย่ ... แล้วอะไรคือดีในสายตาคุณละครับ
ต่างคนต่างมีเส้นทางของตัวเอง
จะให้คนแย่ๆเค้าจมปลักหรือไงกัน
|
|
จากคุณ: AsylumSeeker |
โพสเมื่อวันที่: 07/29/18 เวลา 17:37:46 |
|
|
จากคุณ: SantaNiCo |
โพสเมื่อวันที่: 07/29/18 เวลา 20:08:49 |
on 07/29/18 เวลา 16:11:49, WeaReGroot wrote:ล้อเป้านะครับ
ว่าคนอื่นเค้าแย่ ... แล้วอะไรคือดีในสายตาคุณละครับ
ต่างคนต่างมีเส้นทางของตัวเอง
จะให้คนแย่ๆเค้าจมปลักหรือไงกัน |
|
ใช่ค่ะ เห็นด้วย
คุณคิดเอาเองว่าตัวเองดี คุณคิดว่าเองตัวเองถูก
จริงๆแล้วเส้นทางชีวิตหลังจบแพทย์มีหลายทาง
ไม่จำกัดแค่ จบแพทย์-->ใช้ทุน-->เรียนต่อเฉพาะทางนิ ,ใครทำสกิน=เลว ? ตลกมากค่ะ โคบแคบและLoserอย่างเห็นได้ชัด
|
|
จากคุณ: megacure |
โพสเมื่อวันที่: 07/29/18 เวลา 21:52:34 |
ตอนแรกนึกว่า comment จะแนวตามน้ำ
สังคมนี้ยังเปิดกว้างกว่าที่คิด ดีครับ
สำหรับผม ใครรักษาคนไข้ ถูกต้องตามวิชาการ รักษาคนไข้เพื่อสุขภาวะของคนไข้ ไม่เอาเงินที่ตนจะได้มาเป็นปัจจัยแรกในการเลือกวิธีรักษาให้คนไข้ และรับผิดชอบหน้าที่ ถือว่าเป็นคนดี เป็นแพทย์ที่ดีหมด ไม่ว่าจะอยู่รัฐหรือเอกชน
|
|
จากคุณ: Any_Obtion |
โพสเมื่อวันที่: 07/29/18 เวลา 22:27:24 |
คนพูดความจริง
บาดเจ็บล้มตายมาเยอะแล้ว
|
|
จากคุณ: Hybrid VI |
โพสเมื่อวันที่: 07/29/18 เวลา 23:48:11 |
มันเป็นสูตรสำเร็จ เรียนจบ ต้องการหาเงิน โดยทางหาเงินที่ได้ไวที่สุด คือ หาเงินกับกิเลสคน จะหาเงินได้เร็วกว่าการรักษาคน
คนเรามันก็แปลก เสียเงิน 30 บาทเพื่อรักษาชีวิตเสือกเสียดาย แต่ยอมกำเงินเป็นหมื่นเป็นแสนเพื่อทำให้หนังหน้าตัวเองดีขึ้น ดันยินยอมซะงั้น
ไม่ได้บอกว่า คนทำคลินิค skin ไม่ดีนะ
คนที่ทำถูกทำควร คือ คนที่เรียน skin med หรืออย่างน้อยๆ เคย take course ด้าน diploma มา มีความรู้เฉพาะด้านมาเปิดคลินิครักษาอย่างถูกต้อง อันนี้ตามสบายครับ
แต่คนที่ไม่น่าจะถูก คือ พวกหมอจบใหม่ จบมาก็มาทำการรักษาด้าน skin เลย ฮัลโหล.. มีความรู้แล้วเหรอครับ ตอนเรียนแพทย์ อาจารย์สอนเท่าไรกันครับเกี่ยวกับ aesthetic เนี่ย แฟนผมเคยไปคลินิคพวกนี้ รักษาสิว ได้ amoxy มา 30 เม็ด คือ งง อย่างนี้ก็ได้เหรอ
เรียนจบ GP แต่มาทำคลินิค skin ก็เหมือนพวกจบ GP มาผ่าตัดนี่แหละ
หรือไม่ก็หมอฟันจบใหม่ มาจัดฟันให้คนไข้นั่นแหละ
|
|
จากคุณ: jonathan |
โพสเมื่อวันที่: 07/30/18 เวลา 01:05:26 |
on 07/29/18 เวลา 23:48:11, Hybrid VI wrote:คนที่ทำถูกทำควร คือ คนที่เรียน skin med หรืออย่างน้อยๆ เคย take course ด้าน diploma มา มีความรู้เฉพาะด้านมาเปิดคลินิครักษาอย่างถูกต้อง อันนี้ตามสบายครับ
แต่คนที่ไม่น่าจะถูก คือ พวกหมอจบใหม่ จบมาก็มาทำการรักษาด้าน skin เลย ฮัลโหล.. มีความรู้แล้วเหรอครับ ตอนเรียนแพทย์ อาจารย์สอนเท่าไรกันครับเกี่ยวกับ aesthetic เนี่ย แฟนผมเคยไปคลินิคพวกนี้ รักษาสิว ได้ amoxy มา 30 เม็ด คือ งง อย่างนี้ก็ได้เหรอ
เรียนจบ GP แต่มาทำคลินิค skin ก็เหมือนพวกจบ GP มาผ่าตัดนี่แหละ
หรือไม่ก็หมอฟันจบใหม่ มาจัดฟันให้คนไข้นั่นแหละ |
|
อ่อแล้วถ้าสมมติจบบอร์ด EYE ENT รังสีวินิจฉัย ระบาดวิทยา สูติ จิตเวช นิติเวช เวชศาสตร์การบิน แต่ไม่เคย take course ด้าน diploma มาไม่มีวุฒิใดๆ ทางdermatology แล้วมาทำด้านสกิน คุณว่ากรณีอย่างงี้จะถูกต้องไหม ในความคิดของคุณ
|
|
จากคุณ: ชายไทยไม่ทราบชื่อ |
โพสเมื่อวันที่: 07/30/18 เวลา 01:08:00 |
on 07/29/18 เวลา 22:27:24, Any_Obtion wrote:คนพูดความจริง
บาดเจ็บล้มตายมาเยอะแล้ว
|
|
ประเด็นนี้ขอคุยต่อนะครับ พอดีเจอคำพูดประมาณนี้บ่อย แต่ออกตัวก่อนว่า ไม่ได้ชวนทะเลาะนะครับ แค่แชร์กันเฉยๆ
คือ น้องๆชอบบ่นกับผมประมาณนี้อ่ะครับ พูดจริงแล้วเดือดร้อน
แต่ทุกเรื่องที่บ่นมา เกิดจากการพูด ไม่รู้จักกาลเทศะทั้งนั้นเลยครับ
ขอยกตัวอย่าง การเชื่อปัจจัยด้านเดียว แบบนี้
พูดจริงแล้วต้องได้ดี เอ่อ...มันยังต้องดูผู้ฟัง สถานการณ์ สถานที่ เวลา ฯลฯ ด้วย
ขยันแล้วต้องรวย เอ่อ...มันยังต้องเก็บออม ป้องกันความเสี่ยง ลงทุนฯลฯ ด้วย
ตั้งใจเรียนแล้วต้องประสบความสำเร็จ เอ่อ...มันยังต้องดูความต้องการตลาด career path เศรษฐศาสตร์มหภาค ฯลฯ ด้วย
การใช้ปัจจัยด้านเดียว บนเรื่องที่ complex และ multifactorial นั้น โอกาสพลาดมันเยอะมากนะครับ
มีคนแชร์กันว่อน line แล้ว ผมแชร์มาอีกทีละกัน
ก่อนจะพูด...
ดูก่อนว่าเรื่องจริงหรือเปล่า
ดูก่อนว่าเรื่องจริงนั้นพูดแล้วเกิดประโยชน์หรือเปล่า
ดูก่อนว่าเรื่องจริงที่มีประโยชน์นั้น กำลังจะพูดด้วยความหวังดีหรือเปล่า
ถ้าผ่านทั้ง 3 ข้อ แล้ว...ค่อยพูด
ป.ล. ผมเคยบอกน้องคนนึง (สนิทกัน) ว่า ถ้าเชื่อว่าพูดจริงแล้วทุกคนต้องฟัง ลองเดินออกจากห้องพักแพทย์ไป เจอใครแล้วบอกว่า พ่อแม่คุณมีเซ็กส์กัน (เรื่องจริงแน่ๆ พวกเราเกิดมาจากการปฏิสนธิทั้งนั้น) แล้วดูซิว่า พูดจริงมันดีจริงแน่เหรอ
|
|
จากคุณ: Hybrid VI |
โพสเมื่อวันที่: 07/30/18 เวลา 01:34:45 |
on 07/30/18 เวลา 01:05:26, jonathan wrote:
อ่อแล้วถ้าสมมติจบบอร์ด EYE ENT รังสีวินิจฉัย ระบาดวิทยา สูติ จิตเวช นิติเวช เวชศาสตร์การบิน แต่ไม่เคย take course ด้าน diploma มาไม่มีวุฒิใดๆ ทางdermatology แล้วมาทำด้านสกิน คุณว่ากรณีอย่างงี้จะถูกต้องไหม ในความคิดของคุณ
|
|
ก็ไม่ถูกนิครับ.. จบรังสี จบ eye มา แต่จะมาทำ aesthetic ก็ต้องมี certificate ด้าน aesthetic มาก่อน ไม่ใช่จบทำหมันหมา แล้วจะมาทำหมันคนได้ เก๊ตไหม
|
|
จากคุณ: brownie |
โพสเมื่อวันที่: 07/30/18 เวลา 02:04:30 |
ถ้ารุ่น เลข ว 30000 ต้นๆ
พวกเรียนไม่ดี ส่วนใหญ่ความรับผิดชอบโอเคครับ ใช้ทุน ขอทุนมาต่อเด้นท์ กลับไปใช้ทุน ตจว.ชีวิตแฮปปี้ดี
พวกกลางๆถึงเก่ง ก็มี free train จบแล้วอยู่เอกชน หรือขอทุนกลับไปทำงาน ตจว.ไม่เบี้ยว
พวกเก่ง ก็ไปนอก ทำงานที่โน่นหรือจบแล้วกลับมาเป็นอาจารย์เยอะแยะ
พวกที่ไปต่อสกิน ไม่เกี่ยวกับการเรียนหรือความรับผิดชอบ
ครับ บางคนเขามีปัญหาสุขภาพ ต่อ dent ไม่ไหว เลยทำสกิน
|
|
จากคุณ: a_few_good_men |
โพสเมื่อวันที่: 07/30/18 เวลา 08:04:38 |
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
เห็นประโยชน์เพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง
ประโยชน์ส่วนตนเป็นกิจที่สอง
เท่านั้นแหละ
จะเป็นหมออะไรก็ได้
|
|
จากคุณ: devilmanToT @.โหมดลั้นลา |
โพสเมื่อวันที่: 07/30/18 เวลา 10:15:09 |
|
อย่างแรกเลย ลดๆอีโก้ลงบ้างครับ
|
|
จากคุณ: crv01 |
โพสเมื่อวันที่: 07/30/18 เวลา 10:52:12 |
|
สังคมปัจจุบันคือทุนนิยมครับ. คนเรารู้ตัวว่าทำอะไรและย่อมรู้อยู่แก่ใจ. อะไรผิดหรือถูกย่อมเข้าใจไม่ยาก. อย่าไปตัดสินใครเลย
|
|
จากคุณ: know555 |
โพสเมื่อวันที่: 07/30/18 เวลา 13:39:41 |
|
มาฟังเฉยๆครับ
|
|
จากคุณ: blitzs |
โพสเมื่อวันที่: 07/31/18 เวลา 09:03:24 |
คนไปทำสกินเขาเก่งนะ อย่างน้อยก็เก่งที่รู้ว่าทำไรแล้วมีความสุขหรือได้เงินเยอะ ก็ทำในสิ่งที่อยากทำสะ
ผิดกับคนที่ต้องมาทนเรียน ก็ไม่รู้จะมาเทรนไปทำไม
|
|
จากคุณ: moulini |
โพสเมื่อวันที่: 07/31/18 เวลา 11:42:13 |
เรียนแย่ ไม่แย่ไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ หน้าตาไม่แย่แน่ค่ะ
|
|
จากคุณ: Sazuke |
โพสเมื่อวันที่: 08/02/18 เวลา 14:20:42 |
อาจจะไม่ได้เป็นแบบนั้นทุกคนนะ
คนที่ทำคือ
1.ชอบงานแนวนี้จริงๆ
2.ไม่ชอบสาขาอื่น เพราะหนักเกิน ไม่ถนัด ตังน้อย ไม่อยากเป็นหมอ ฯลฯ
ส่วนการที่ จขกท มักเจอคนแบบที่ว่า ก็ไม่แปลก เพราะคนแบบทีี่ว่าก็คงทำสาขาที่หนักๆไม่ไหวจริงๆ จะเลิกเป็นหมอก็อาจจะไม่รู้จะทำอะไร
คนไข้ก็คงต้องวัดดวงเอาเองว่าเจอแบบไหน เพราะการที่อยากสวยด้วยแพทย์ยังไงก็เสี่ยงอยู่แล้ว
|
|
จากคุณ: SeReE |
โพสเมื่อวันที่: 08/02/18 เวลา 17:29:56 |
|
individual นะ ... ไม่น่าเหมาเข่ง
|
หน้าแรกเว็บบอร์ด
For MD.
