หน้าแรกเว็บบอร์ด หน้าแรกเว็บบอร์ด
   For MD.
   Doctor Room l ห้องพักแพทย์
   Post reply ( Re: ชีวิตอาจารย์แพทย์อยู่ยากขึ้น )
ขอเชิญเพื่อนแพทย์พูดคุย แสดงความคิดเห็นครับ
หัวข้อ:
ใส่ชื่อ:
Email:
Add YABBC tags:
Add Smileys: <more...>
ข้อความ:

Disable Smilies




Topic Summary
จากคุณ: 921684 โพสเมื่อวันที่: 06/18/18 เวลา 10:04:13
ชีวิตอาจารย์แพทย์ อยู่ยากขึ้นค่ะ
งานบริการ งานสอน งานวิจัย เป็นสิ่งที่ต้องทำอยู่แล้วใครๆ ก็รู้ดี
แต่การวัดผล และประเมินผล รัดกุมมากขึ้น .. ตรงจุด? รึเปล่า? ยังไม่แน่ใจ
หลายคนเริ่มบ่นๆ “หรือเราจะไม่เหมาะกับการเป็นอาจารย์แพทย์?”
ความก้าวหน้าในสายงาน ดูเลือนลางไปทุกที
 
หลายคนชอบงานสอน หลายคนชอบงานบริการ แต่บางคนไม่ถนัดวิจัยนัก.. ในอนาคต คนกลุ่มนี้ อาจไม่สามารถอยู่ในโรงเรียนแพทย์ได้อย่างภาคภูมิ
เราต้องการคนที่พร้อมทั้งสามด้านจริงหรือ? ถ้าพูดกันตรงๆ incentive เพียงพอไหม เทียบกับการไปอยู่ รพท หรือ fulltime เอกชน??
ใครๆ ก็รู้ว่า เงินได้ อจ รรพ คุ้มไหม กับสิ่งที่ทุ่มเทลงไปHuh
 
อาจารย์โรงเรียนแพทย์ ต้องเสียสละ! อันนี้ทุกคนทราบดี
แต่คนที่มีเจตคติดี มีความเสียสละ ชอบเซอร์วิส ชอบสอน เอาใจใส่เด็ก แต่วิจัยไม่เก่ง “คุณจะไม่ให้เค้าโตเลยหรือ?”
หลายคน มาทำงานเสาร์อาทิตย์ ไม่ได้เงินเพิ่ม คุณจะบอกว่า พวกเขาไม่เสียสละ อย่างนั้นหรือ?
 
ทำไม ไม่ทำสภาพแวดล้อม ที่ยืดยุ่น ให้อยู่และโตในตำแหน่งได้
จะขาดไปบ้าง อย่างน้อย พวกเขาก็เป็นอาจารย์แพทย์ ที่ดี ที่เอาใจใส่เด็ก
ไม่ใช่แบบ อยู่ได้ แต่ไม่โต ไม่รู้ว่าวันข้างหน้า จะมีอะไรใหม่ๆ มากดอีก!!
ทำให้พวกเขาเห็นว่า ความสามารถของพวกเขา มีดีพอ ที่จะอยู่โรงเรียนแพทย์
ไม่เช่นนั้น ในอนาคต คงจะไม่เกิดผลดีกับใครเลย เด็ก อาจารย์แพทย์ แม้แต่ สถาบัน!!
จากคุณ: motorbike โพสเมื่อวันที่: 06/18/18 เวลา 10:38:38
Where
จากคุณ: candy girl โพสเมื่อวันที่: 06/18/18 เวลา 11:09:45
ทำไม ระบบ ไม่เคยให้  เท่ากับที่เสียสละไป  ทำมากควรได้มาก
จากคุณ: 921684 โพสเมื่อวันที่: 06/18/18 เวลา 11:20:17
อจ รรพ ตอนนี้ไม่ใช่ข้าราชการ สวัสดิการ ก็ ปกส ทั่วไป ไม่ต่าง พนง บริษัท
ไม่มีเงินบำนาญ อย่างราชการเขา
เงินได้ แค่พออยู่ได้ ไม่ต้องไปเทียบกับเอกชนฟูลไทม์
ส่วนใหญ่ที่อยู่กันได้ ก็เพราะไปทำพาร์ทไทม์ เอกชน
บวกกับยังชอบบรรยากาศ รรพ ชอบสอนเด็ก ทั้ง undergrad และเดนท์-เฟลโลว์
งานพวกนี้ไม่ได้ก่อให้เกิดรายเหมือนงานเซอร์วิสตามเอกชนเลย ที่ทำเพราะเราชอบและเห็นว่ามีประโยชน์
แต่ถ้าเบื้องบนเห็นว่าไม่มีประโยชน์ หาเรื่องกดเรา ทั้งตำแหน่ง และค่าตอบแทน ที่มีอยู่น้อยอยู่แล้ว ให้น้อยลงไปอีก
เราก็คงไม่รู้จะเลี้ยงดูครอบครัวยังไงค่ะ
จากคุณ: blitzs โพสเมื่อวันที่: 06/18/18 เวลา 11:26:53
  เขามองว่าเมืองไทยด้อยพัฒนา เพราะไม่วิจัย  ฝรั่งว่าไงเราว่าตาม ความคาดหวังเลยถูกส่งให้เหล่าอาจารย์  ถ้ามหาวิทยาลัยทำได้แค่สอนตามตำรา อาจารย์ก็จะเป็นได้แค่ครู  
     ส่วนเรื่องเงินบอกเลยว่าไม่คุ้ม  ต้องทำด้วยความมันส์ ความสนุก เท่านั้น
จากคุณ: know555 โพสเมื่อวันที่: 06/18/18 เวลา 12:39:41
on 06/18/18 เวลา 11:26:53, blitzs wrote:
  เขามองว่าเมืองไทยด้อยพัฒนา เพราะไม่วิจัย  ฝรั่งว่าไงเราว่าตาม ความคาดหวังเลยถูกส่งให้เหล่าอาจารย์  ถ้ามหาวิทยาลัยทำได้แค่สอนตามตำรา อาจารย์ก็จะเป็นได้แค่ครู  
     ส่วนเรื่องเงินบอกเลยว่าไม่คุ้ม  ต้องทำด้วยความมันส์ ความสนุก เท่านั้น

จากคุณ: doreus โพสเมื่อวันที่: 06/18/18 เวลา 12:41:28
ขึ้นกับสาขาอะไรหรือเปล่าครับ เท่าที่เห็นคนละเรื่องกับที่เล่าเลยนะครับ
จากคุณ: 921684 โพสเมื่อวันที่: 06/18/18 เวลา 13:01:56
on 06/18/18 เวลา 11:26:53, blitzs wrote:
  เขามองว่าเมืองไทยด้อยพัฒนา เพราะไม่วิจัย  ฝรั่งว่าไงเราว่าตาม ความคาดหวังเลยถูกส่งให้เหล่าอาจารย์  ถ้ามหาวิทยาลัยทำได้แค่สอนตามตำรา อาจารย์ก็จะเป็นได้แค่ครู  
     ส่วนเรื่องเงินบอกเลยว่าไม่คุ้ม  ต้องทำด้วยความมันส์ ความสนุก เท่านั้น

 
เราก็ทำของเราให้ดีที่สุดค่ะ เป็นได้แค่ครู ... ก็คงเป็นได้แค่นั้นค่ะ คือครูแพทย์
ถ้าเบื้องบนต้องการมากกว่านั้น .. เราก็ไม่รู้จะทำยังไงค่ะ
 
 
on 06/18/18 เวลา 12:41:28, doreus wrote:
ขึ้นกับสาขาอะไรหรือเปล่าครับ เท่าที่เห็นคนละเรื่องกับที่เล่าเลยนะครับ

 
ไม่ทราบว่า พอจะลองแบ่งปันประสบการณ์ได้ไหมคะ? ขอบคุณค่ะ
จากคุณ: 6699 โพสเมื่อวันที่: 06/18/18 เวลา 15:16:46
พอจะบอกได้หรือเปล่า เป็นอาจารย์แพทย์ในโรงเรียนแพทย์เก่า หรือใน รพ.ศูนย์ เพราะบริบทต่างกันมาก
จากคุณ: 921684 โพสเมื่อวันที่: 06/18/18 เวลา 15:35:04
on 06/18/18 เวลา 15:16:46, 6699 wrote:
พอจะบอกได้หรือเปล่า เป็นอาจารย์แพทย์ในโรงเรียนแพทย์เก่า หรือใน รพ.ศูนย์ เพราะบริบทต่างกันมาก

 
โรงเรียนแพทย์ค่ะ ไม่ใช่ รพ.ศูนย์
จากคุณ: blitzs โพสเมื่อวันที่: 06/18/18 เวลา 16:21:44
  ก็วิจัยไปสิครับ  ไม่ต้องเรื่องใหญ่โตทางคลินิก  เอาแค่ resident อดนอน แล้ว รักษาพลาดเป้า  โดนอาจารย์กินหัวยังไงบ้าง เปลืองค่ารักษาเพิ่มแค่ไหน  จะได้มีงานวิจัยรองรับ ว่าแพทย์ไม่ควรควงกะ รักษาคนไข้
 
     งานวิจัย เอาเข้าจริงๆ  มันก็แค่การเก็บตัวเลข มาแล้วใช้ภาษา สร้างความชอบธรรมให้กับสิ่งที่เราเชื่อ  เหมือนวิจัยยาใหม่ๆ ไม่ชนะยาเก่า ก็วิจัยให้ชนะแป้งก็ยังดี  pure science  มันตายไปหมดแล้ว โลกขับไปด้วยทุนนิยม ทุกคำถามมันมีคำตอบล่วงหน้าแล้ว
 
   แต่จริงๆถ้าทำงานมาระดับหนึ่ง ยังไงก็มีประสปการณ์ ความสามารถที่ เหนือกว่าตำรา  แค่บางท่านไม่สามารถนำสิ่งดีๆที่ตัวเองทำอยู่ มารวบรวมเป็น บทความ หรือแนวทาง ให้คนอื่นทำตามแล้วได้ผลดีเหมือนเราทำเอง บางเรื่องอาจเป็นเรื่องเล็กน้อย ที่เราทำจนชิน ลองมองหาดูเดี๋ยวก็เจอ   ยกตัวอย่าง คนไข้มา ER ไม่หายปวดท้อง จะไม่ให้กลับบ้าน เราก็จะไม่พลาดเคศไส้ติ่ง  ไม่โดนฟ้อง อะไรประมาณนี้ ตำราไม่เขียน แต่ฉันทำแบบนี้แล้วมันดี  แค่เก็บตัวเลข แล้วก็เขียนแบบที่เราเชื่อ ก็ได้แล้ว
จากคุณ: Hippo โพสเมื่อวันที่: 06/18/18 เวลา 17:15:38
ถ้ารักในการเป็นอาจารย์ยังไงก็ต้องปรับตัวครับ
ลองเปลี่ยนมุมมอง มองสิ่งที่ไม่ชอบ ให้เป็นโอกาส
ลองคิดดูว่าทุกคนอยากทำให้สถาบันดีขึ้น มีชื่อเสียงขึ้น
งานวิจัยก็เป็นกลไกนึงที่สากลเขายอมรับ  
ถ้าไม่ชอบงานวิจัยจริงๆต้องรับพาร์ทไทม์เยอะขึ้นแหละครับ
จากคุณ: megacure โพสเมื่อวันที่: 06/18/18 เวลา 18:39:22
เราต้องมององค์กรให้ออก ก็จะเติบโตได้
 
หน่วยงานใดที่ทำกำไรได้มาก หน่วยงานนั้นก็จะโตเร็ว
 
หาก รรพ. ของท่านมองงานวิจัยเป็นกำไรของบริษัท ท่านก็ต้องทำวิจัยถึงจะเติบโต
 
ท่านไปทำงานที่ผู้บริหารไม่เห็นคุณค่า ต่อให้เสียสละเพียงใด ในสายตาผู้บริหารท่านก็แค่ตัวถ่วง พวกไม่ได้เรื่อง
 
หากรับไม่ได้ ก็ไปหาที่ที่ต้องการสิ่งที่ท่านชอบทำ ซึ่งอาจไม่ใช่ รรพ. ที่ท่านอยู่
จากคุณ: chez โพสเมื่อวันที่: 06/18/18 เวลา 18:45:00
น่าเห็นใจ อจ. ครับ  แพทย์ ที่ทำงานตามที่ต่างๆ ก้อมีความหนักความยากลำบากทุกที่แหละครับ  ถ้าให้ทุกคนแจกแจงความอึดอัดคับข้องใจ ต่อการทำงานตามที่ต่างๆ ผมเชื่อว่าทุกคนน่าจะแจกแจงความอึดอัดออกมาได้ไม่น้อยกว่า อจ. ครับ  ต้องปรับตัว ปรับทัศนคติ จึงจะอยู่อย่างมีความสุขได้  สู้ๆ นะครับ อจ.  
 
จากคุณ: candy girl โพสเมื่อวันที่: 06/18/18 เวลา 20:37:30
อนาคต อาจารย์แพทย์คงน้อยลง  ค่ะ
จากคุณ: agoodwind โพสเมื่อวันที่: 06/19/18 เวลา 08:13:58
ผมเพิ่งคุยกับอาจารย์แพทย์ที่มหาลัยต่างๆเมื่อวาน
เห็นใจอย่างมากครับ
อาจารย์สวัสดิการไม่เหมือนข้าราชการ
อา่จารย์หลายๆท่านชอบตรวจรักษาและสอน แต่ไม่ทำงานวิจัย
แล้วต้องทำวิจัย (โอ้ว ยาดำของผมเลย)
เห็นใจครับ
เป็นกำลังใจครับอาจารย์
 Wink
จากคุณ: Something in the rain โพสเมื่อวันที่: 06/19/18 เวลา 09:20:40
สถาบันผมนี่ยิ่งกว่าครับ สอนresident กับfellowนี่ไม่นับเป็นภาระงานของอาจารย์ให้นะครับ  ต้องสอน นศพ.เค้าจึงจะนับเป็นภาระงานครับ
 
การทำงานวิจัยมันมีเหตุผลในตัวมันว่าทำไมอาจารย์ควรทำครับ
จากคุณ: te_shirt โพสเมื่อวันที่: 06/19/18 เวลา 11:53:23
น่าเห็นใจ อจ แพทย์นะครับ
ทั้งๆ ที่ทุมเททำงานและเสียสละอย่างเต็มที่ ก็ยังมีปัญหาได้
ผมขอมองต่างมุมครับ
เนื่องจากปัจจุบัน โลกก้าวหน้าไปไกล ทุกวันนี้การจะตรวจหรือรักษาโรคอะไรสักอย่างก็มักจะอ้างถึงงานวิจัยเป็นหลัก  ว่าผลเป็นอย่างไร โดยเฉพาะ รรพ แทบจะคุยเป็นภาษาวิจัย อจ ใน รรพ มีวัตถุดิบที่ดีอย่างยิ่งทั้งปริมาณผู้ป่วยที่เข้าร่วมวิจัย และ ผู้ช่วยทำ โดยเฉพาะ fellow และ resident ที่ต้องทำงานวิจัยอยู่แล้ว ผมเห็นว่าไม่ควรปล่อยให้โอกาสนี้หายไป อจ จะได้ทั้งผลงานวิจัยตัวเองที่ภาคภูมิใจ และ ตำแหล่งที่โตขึ้นตามมาเองครับ
จากคุณ: brownie โพสเมื่อวันที่: 06/19/18 เวลา 18:22:42
outcome หนึ่งของการเทรน resident fellow คือการทำวิจัย ถ้าอาจารย์วิจัยไม่เป็น จะสอนแพทย์เหล่านี้ได้อย่างไร
 
การเขียนตำราที่มีคุณภาพดี ก็ควรอ้างงานวิจัยที่ผู้เขียนเคยทำ ถ้าแค่ลอกตำราฝรั่งมา ตำราไทยนั้นก็ถือว่าไม่มีคุณภาพดีเท่าไร
จากคุณ: หมอเมืองสยาม โพสเมื่อวันที่: 06/19/18 เวลา 18:24:57
      ชีวิตอาจารย์แพทย์อยู่ยาก(มั้ย) ? - " ไม่ยากหรอกครับ  รอคนสมัครใจ "
จากคุณ: Something in the rain โพสเมื่อวันที่: 06/19/18 เวลา 19:11:19
การทำงานวิจัยมันทำให้เราได้ค้นคว้าหาความรู้ด้านนั้นในเชิงลึกมากๆครับ
และยังมีปัญหาอีกมากมายเกี่ยวกับคนไข้ที่เรารักษาทุกๆวันซึ่งยังไม่มีคำตอบช ัดเจนอยู่อีกมาก และถึงแม้จะมีการศึกษาจากต่างประเทศมากมายแต่เราก็ไม่ทราบเช่นกันว่ามันจะนำ มาใช้กับคนไข้บ้านเราได้หรือเปล่า ถ้าไม่ทำวิจัยจะเอาคำตอบจากไหนมาใช้รักษาคนไข้กลุ่มนี้ครับ
จากคุณ: 921684 โพสเมื่อวันที่: 06/19/18 เวลา 20:18:28
คือ ไม่ได้มีเจตนาที่จะบอกว่า งานในส่วนวิจัย ไม่มีความสำคัญนะคะ
งานวิจัยสำคัญค่ะ และมีบทบาทต่อการสอน และการรักษามากๆ
เพียงแต่สิ่งที่ต้องการสื่อคือ ภาระงานในส่วนของการวิจัย มีความเหมาะสมหรือไม่ ยิ่งโดยเฉพาะในยุคนี้ และยุคถัดไป
งานวิจัยมีผลถึงขนาดชี้เป็นชี้ตายในการเติบโต และ/หรือ ลดค่าตอบแทนที่พึงได้ ซึ่งแต่เดิมตั้งไว้ให้มีเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้อาจารย์แพทย์ทำงานได้ต่อ ไป โดยไม่รู้สึกว่ารายได้ของตนนั้นแตกต่างจากเพื่อนแพทย์ที่ทำงานในหน่วยงานรัฐ หรือเอกชนอื่นมากนัก
 
บางครั้งเราก็ไม่สามารถทำความเข้าใจได้ว่า มีความสัมพันธ์ระหว่าง ภาระงาน - เวลาที่ต้องใช้ - ค่าตอบแทน หรือไม่ เพราะอย่าลืมว่า แม้ว่าภาระงานด้านวิจัยจะมากขึ้น ไม่ได้หมายความว่าภาระงานด้านอื่นจะลดลง ผู้ป่วย ก็ยังมารักษาอยู่ ด้วยจำนวนที่มากขึ้น การสอน undergrad และ postgrad ก็ปรับเปลี่ยนรูปแบบให้ละเอียดลึกซึ้ง และต้องใช้เวลาในการเอาใจใส่มากขึ้น
ทั้งหมดนี้ ได้ค่าตอบแทน เท่าเดิม หรือน้อยกว่าเดิม .. และอนาคต จะยิ่งลำบากชึ้น เพราะจำนวนอาจารย์ ที่จะลดน้อยถอยลง ตามภาพใหญ่ ที่เบื้องบนต้องการให้เป็น ??
จากคุณ: 6699 โพสเมื่อวันที่: 06/19/18 เวลา 21:11:01
ดูแล้วน่าเห็นใจ ผลตอบแทนอาจารย์รร.แพทย์น้อย เมื่อเทียบกับอาจารย์รร.แพทย์ที่รพศ.  
หรืออาจจะย้ายมาเป็นอาจารย์โรงเรียนแพทย์ตามรพศ.ดีหรือเปล่า เท่าที่ดูหลายแห่ง วิจัยไม่ต้องมาก มีสอนนักเรียนตามที่ต้องการ และได้งานบริการผู้ป่วยอีกด้วย และยังสามารถมีตำแหน่งใหญ่โตตามที่ต้องการได้ ถ้าต้องการเช่นนั้น
จากคุณ: Humble_guy โพสเมื่อวันที่: 06/19/18 เวลา 21:17:11
สมัยนี้ต้องยอมรับว่า ถ้าชอบสอน ชอบรักษาผู้ป่วย แต่ไม่ชอบทำวิจัย ยากที่จะเจริญก้าวหน้าในรรพ.ได้ ควรไปอยู่ รพ.ศูนย์รอบรองได้รักษาคนไข้ทั้งวันทั้งคืน ทั้งสอนเอ๊กซ์เทิร์น อินเทิร์น สอนเดนท์ elective เป็นทั้งอาจารย์แถมได้เป็นข้าราชการด้วย มีความสุขกว่าเยอะ  
 
ส่วนคำนำหน้า ผศ. รศ. ศ. คำพวกนี้มาด้วยการทำวิจัยเลี่ยงไม่ได้ สมัยนี้ใน รรพ.เป็น อาจารย์อย่างเดียวนานๆเค้าก็จะไม่ต่อสัญญาให้ ถึงแม้ว่าจะสอนเก่งหรือรักษาเก่งแค่ไหนก็ตาม ถึงตอนนั้นก็จะมีประวัติติดตัว
จากคุณ: 921684 โพสเมื่อวันที่: 06/19/18 เวลา 21:47:24
on 06/19/18 เวลา 21:17:11, Humble_guy wrote:
สมัยนี้ต้องยอมรับว่า ถ้าชอบสอน ชอบรักษาผู้ป่วย แต่ไม่ชอบทำวิจัย ยากที่จะเจริญก้าวหน้าในรรพ.ได้ ควรไปอยู่ รพ.ศูนย์รอบรองได้รักษาคนไข้ทั้งวันทั้งคืน ทั้งสอนเอ๊กซ์เทิร์น อินเทิร์น สอนเดนท์ elective เป็นทั้งอาจารย์แถมได้เป็นข้าราชการด้วย มีความสุขกว่าเยอะ  
 
ส่วนคำนำหน้า ผศ. รศ. ศ. คำพวกนี้มาด้วยการทำวิจัยเลี่ยงไม่ได้ สมัยนี้ใน รรพ.เป็น อาจารย์อย่างเดียวนานๆเค้าก็จะไม่ต่อสัญญาให้ ถึงแม้ว่าจะสอนเก่งหรือรักษาเก่งแค่ไหนก็ตาม ถึงตอนนั้นก็จะมีประวัติติดตัว

 
ใช่ค่ะ หลายๆ คน ยิ่งโดยเฉพาะ young staff ที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายใหม่ๆ ค่อนข้างลำบากทีเดียว (คนที่อยู่มานานค่อนข้างได้รับผลกระทบน้อยกว่า) จะออกไปราชการ ก็ว่าอายุราชการจะน้อยจนอาจไม่ได้บำนาญเอา ทางเลือกเหลือไม่มากเลยจริงๆ เช่น ยอมที่จะไม่รับเงินส่วนวิจัย และยอมให้ถูกประเมินได้ไม่ดีนัก (เนื่องจากขาดคะแนนในส่วนของวิจัย) และนำเวลาไปทำพาร์ทไทม์ให้มากขึ้น (แต่ต้องทำงานสอนและเซอร์วิซภายใน ให้ดีเหมือนเดิม) หรือไม่ ... ก็ออกไปเป็นฟูลไทม์เอกชนเลย
จากคุณ: candy girl โพสเมื่อวันที่: 06/19/18 เวลา 22:08:25
อารมณ์ ประมาณ อยากได่ผลงานแต่ไม่อยากจ่ายเงินเพิ่ม ยังไงยังงั้นเลย  เห้อ!  เพิ่มคนให้เหมาะกับปริมาณงาน จัดีที่สุดค่ะ   ระบบ แรงงานทาส เกิดขึ้นแล้ว  มีเงินสร้างได้มากมาย แต่ไม่มีเงินจ้างคนให้พอดีกับงาน
จากคุณ: Dr._Panya โพสเมื่อวันที่: 06/20/18 เวลา 10:32:20
เมื่อ20+ ปีก่อน ตอนผมเป็นนักเรียนแพทย์ อาจารย์อาวุโสบางท่านที่ภาควิชาศัลย์จุฬาฯ ก็พูดออกมาเอง ทำนองเดียวกันว่า ถนัดผ่าตัด+ ถนัดการสอนนักเรียนแพทย์/ แพทย์ประจำบ้าน มากกว่าการทำวิจัย
ปัจจุบัน อาจารย์แพทย์ บางท่าน/ หลายท่าน น่าจะมีความรู้สึกอย่างนั้นมากขึ้น เพราะดูเหมือนว่า จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จะเน้นเป็นมหาวิทยาลัยที่มีผลงานวิชาการ/ งานวิจัยมากขึ้น กว่าแต่ก่อนด้วยซ้ำ
 
ป.ล. แต่ไม่เคยได้ยินอาจารย์ภาควิชาอื่น พูด/ บ่น(เล็กๆ) แบบนี้นะครับ อิ อิ อิ
จากคุณ: motorbike โพสเมื่อวันที่: 06/20/18 เวลา 11:21:04
ลาออกครับ...แล้วขอมาช่วยตรวจช่วยสอน  แบบ parttime
จากคุณ: หมอเมืองสยาม โพสเมื่อวันที่: 06/20/18 เวลา 14:09:46
     ชีวิตอาจารย์แพทย์อยู่ยากขึ้น , จริงมั้ย ? - " เท่าที่กระผมสังเกต   ทุกชีวิตก็อยู่ยากขึ้น ครับ".....
จากคุณ: Catgut โพสเมื่อวันที่: 06/20/18 เวลา 21:47:42
อาจารย์ใน รรพ.  ผมเห็นเปิดตำแหน่งทีไร ก็มีคนมาเต็มตลอด , จริงๆ อาจารย์ แพทย์  ต้องมีครบ ทั้งสอน /บริการ /วิจัย  อยู่แล้ว เป็นสิ่งที่ต้องรู้ก่อนมาเดินทางนี้  หลายที่บอกล่วงหน้าเลยว่า ถ้าไม่ได้ ผ.ศ. ใน 5ปี จะไม่ต่อสัญญา และเชิญออก  คุณก็ควรยอมรับ ถ้าไม่ไหวก็ควรเดินออกมา ให้คนที่พร้อมกว่าเข้าไปแทนครับ.
จากคุณ: candy girl โพสเมื่อวันที่: 06/20/18 เวลา 23:25:04
ดีค่ะ แทนที่จะช่วยเหลือให้ อาจารย์แพทย์ อยู่ง่ายอยู่นาน  บางเม้นท์ ก็ no สน no care ชั้นไม่เดือนร้อน  ถ้าอาจารย์ แพทย์ เปลี่ยน บ่อยๆ มันจะดีเหรอค่ะ หรือ ถ้ามาแค่ ทำผลงานไม่สอน  ไม่สนใจ เด็กเหมือนที่เคยเห็น  มันดีแล้วเหรอ
เราต้องการ อาจารย์ แพทย์ ที่ ตั้งใจสอน เพื่อผลิต แพทย์ ดีๆ เป็นตัวอย่าง ให้แพทย์  รุ่นหลัง แต่ถ้าไปทำวิจัย ไม่สนใจเด็ก  มันดีแล้วเหรอ
จากคุณ: candy girl โพสเมื่อวันที่: 06/20/18 เวลา 23:25:46
ความคิด แบบ no สน no care แพทย์ ก็ลาออกเรื่อย มาตลอด ไม่คิดจะแก้ไขหน่อยเหรอ
 
น่าจะกลับมามองที่ได้แล้ว เวลามีปัญหา เกิดขึ้น มันเกิดที่คน หรือที่ ระบบ เพราะ ถ่าระบบห่วยๆ  ยังไงปัญหามันก็เกิด ไม่ว่าจะเปลี่ยนซักกี่คน รพ วิจัยก็ไม่พัฒนา   อยากให้ ถ้าอยากได้งานวิจัย ก็จ้างทีมวิจัยมาเลยค่ะ  ไม่ต้องมายุ่งกับส่วนอื่น  
อยากให้ อาจารย์ มีส่วนร่วมก็ได้ จะได้มีผลงาน ด้วย และ reflect clinical  แต่ไม่รบกวนอาจารย์แพทย์มากนักค่ะ
จากคุณ: หมอเมืองสยาม โพสเมื่อวันที่: 06/22/18 เวลา 12:24:47
   เพิ่งเริ่มอาจารย์แพทย์ไม่ควรคิดอะไรให้เยอะ ใจมันจะหมกมุ่น  ฟุ้งซ่าน......
จากคุณ: SeReE โพสเมื่อวันที่: 06/23/18 เวลา 10:48:48
on 06/18/18 เวลา 16:21:44, blitzs wrote:
   
 
     งานวิจัย เอาเข้าจริงๆ  มันก็แค่การเก็บตัวเลข มาแล้วใช้ภาษา สร้างความชอบธรรมให้กับสิ่งที่เราเชื่อ  เหมือนวิจัยยาใหม่ๆ ไม่ชนะยาเก่า ก็วิจัยให้ชนะแป้งก็ยังดี  pure science  มันตายไปหมดแล้ว โลกขับไปด้วยทุนนิยม ทุกคำถามมันมีคำตอบล่วงหน้าแล้ว
 
      

 
 
 Grin Grin Grin
จากคุณ: หมอเมืองสยาม โพสเมื่อวันที่: 06/26/18 เวลา 18:14:10
    น้อยใจชีวิตอาจารย์แพทย์อยู่ยาก  ควรทำไง? - " โดดด่านฟ้าตึก ครับ"
จากคุณ: หมอเมืองสยาม โพสเมื่อวันที่: 06/27/18 เวลา 14:03:45
  อยู่ยากขึ้น  ขอคำแนะนำ ? - " ตะแบงอยู่ต่อไป ครับ"
จากคุณ: หมอเมืองสยาม โพสเมื่อวันที่: 06/29/18 เวลา 16:17:03
      คำแนะนำ? - คืองี้....ไม่มีใครได้ไปเสียทุกอย่าง ครับ


  • ข้อความและรูปภาพที่ท่านเห็นส่วนใหญ่ ได้ถูกส่งมาจาก ทางบ้าน
    ทางเว็บไซต์ Thaiclinic.com ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของข้อความและรูปภาพที่ถูกส่งมา

  • ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชนและส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ
    เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง
    ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง

  • ถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมหรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล
    หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ webmaster@thaiclinic.com หรือ กดแจ้งที่ปุ่ม
    "แจ้งลบกระทู้"
    เพื่อให้ทีมงานทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ครับ

ThaiClinic.Com . All Rights Reserved. !--BEGIN WEB STAT CODE-->

Powered by