หน้าแรกเว็บบอร์ด หน้าแรกเว็บบอร์ด
   For MD.
   Doctor Room l ห้องพักแพทย์
   Post reply ( Re: - - รายได้ ศัลยแพทย์ทั่วไป )
ขอเชิญเพื่อนแพทย์พูดคุย แสดงความคิดเห็นครับ
หัวข้อ:
ใส่ชื่อ:
Email:
Add YABBC tags:
Add Smileys: <more...>
ข้อความ:

Disable Smilies




Topic Summary
จากคุณ: built โพสเมื่อวันที่: 05/26/18 เวลา 19:03:19
ผมคิดไม่ตกว่าควรลาออกไหมครับ
ตอนนี้ผมมีความจำเป็นเรื่องการเงินนิดๆ
แต่การทำงานใน รพ รัฐบาล ปริมาณเคสในการฝึก skill ผ่าตัดก็มากพอควร
 
ตอนนี้ผมเป็นศัลยแพทย์ทั่วไป ที่โรงพยาบาลศุนย์แห่งหนึ่ง
รับเอกชน part time เล็กน้อย จะได้รายได้จากเอกชนประมาณเดือนละ 30,000-40,000 ต่อเดือน ขึ้นอยู่กับจำนวนเคส
 
รายได้รวมกับจาก รพ รัฐบาลก็ประมาณ 1 แสนนิดๆ
 
 
ผมคุยกับหลายคนที่ไปเป็น Fulltime GenSx เอกชน
จะได้ Guarantee 150,000-200,000 ขึ้นอยู่กับความใหญ่ของโรงพยาบาลนั้นๆ
และ guarantee 1-2 ปี
 
ผมอยากถามความเห็นคนที่เคยลาออกจากรัฐบาล ไปอยู่เอกชน
 
มีความรู้สึกอย่างไร เช่น คิดถูก ? คิดผิด?
 
 
กราบขอบพระคุณครับ
จากคุณ: Winter is coming โพสเมื่อวันที่: 05/26/18 เวลา 19:40:43
จังหวัดที่อยู่มีประชากรประมาณกี่คนครับ  แล้วในจังหวัดมีโรงพยาบาลเอกชนกี่แห่งครับ
จากคุณ: cemetery99 โพสเมื่อวันที่: 05/26/18 เวลา 21:34:39
150k นี่น้อยไปนะผมว่า gen sx ทำ 45 hr/wk ไม่น่าจะต่ำกว่า 200-250k  
 
นะครับ ถ้าในกทม.และปริมณฑล
จากคุณ: megacure โพสเมื่อวันที่: 05/26/18 เวลา 22:26:04
เรื่องการันตีไม่ทราบ แต่ รพ.ที่อยู่ gen sx ได้ 300,000+
จากคุณ: crv01 โพสเมื่อวันที่: 05/27/18 เวลา 09:26:16
ควรมองระยะยาวด้วยครับ.   อยู่รัฐก็สามารถสร้างความมั่นคงได้.   ที่สำคัญได้มีโอกาสพัฒนาตัวเองต่อเนื่องอย่างมีศักดิ์ศรี.   เปิดคลินิกของตนเองครับ.  อย่าหวังพึ่งคนอื่น.  สร้างอาณาจักรของเราเอง.  ผมพูดจากประสบการณ์สามสิบกว่าปีในระบบราชการ.
จากคุณ: megacure โพสเมื่อวันที่: 05/27/18 เวลา 10:08:14
on 05/27/18 เวลา 09:26:16, crv01 wrote:
ควรมองระยะยาวด้วยครับ.   อยู่รัฐก็สามารถสร้างความมั่นคงได้.   ที่สำคัญได้มีโอกาสพัฒนาตัวเองต่อเนื่องอย่างมีศักดิ์ศรี.   เปิดคลินิกของตนเองครับ.  อย่าหวังพึ่งคนอื่น.  สร้างอาณาจักรของเราเอง.  ผมพูดจากประสบการณ์สามสิบกว่าปีในระบบราชการ.  

 
การสร้างอาณาจักรตนเองใน กทม. เป็นเรื่องยากมากแล้วครับ รพ.ดี ๆ เยอะ สู้กันรุนแรง เป็น red ocean business
จากคุณ: 6699 โพสเมื่อวันที่: 05/27/18 เวลา 10:09:48
ไม่มีถูกผิด แต่ถ้าหากว่า เป็นไปได้ อย่าหยุดแค่ทำงานรพ.เอกชน หาทางเป็นเจ้าของรพ.เอกชน ในยุคหมอมากแบบนี้ ใครเป็นเจ้าของรพ.เอกชนมีโอกาสโชดดีได้มหาศาล เรื่องสุขภาพ เป็นไม่กี่อย่างที่อย่างที่คนที่ใช้บริการไม่ได้เกี่ยงเรื่องเงิน ไม่ได้ตัดสินจากราคา เราสามารถสร้างอาณาจักรของเราเองได้ ไม่ต้องพึ่งคนอื่น แต่สามารถให้คนอื่นพึ่งได้  
ตอนนี้ ประเทศเพื่อนบ้าน  เป็นโอกาสทองที่จะทำเงิน ถ้าสามารถเปิดรพ.เอกชนติดต่อกับคนเหล่านี้ น่าจะได้เงินมาก เคยไปที่ประเทศเขามา เขาไม่ได้ส่งเสริมเรื่องนี้
 
 ถ้าหากว่า เรายังมีเวลาอยู่ในโลกได้นาน เราคิดว่า เราจะเปิดรพ.เอกชน เพื่อรับคนเหล่านี้ คิดว่า ลงทุนประมาณ 500-1000 ล้าน ประมาณ สิบปี น่าจะคืนทุนได้หมด  
มองดูแล้วแปลกใจ รพ.รัฐ มองว่า ชาวต่างชาติ ประเทศเพื่อนบ้านทำให้ขาดทุน แต่รพ.เอกชน เกือบทั้งหมด มีแต่ชาวต่างชาติเหล่านี้ บอกว่า กำไรดี ไม่ต้องอาศัยคนไทยเลยในเรื่องธุรกิจสุขภาพ และยังไม่มีปัญหาเรื่องภาษี เพราะคนพวกนี้ ไม่ต้องการใบเสร็จ และไม่มีปัญหาเรื่องการฟ้องร้องทางการแพทย์อีก
 
ถ้าจขกท อายุยังน้อย กล้าเสียง เป็นศัลยแพทย์ฝีมือดี อาจจะหาทีมมาช่วยทำให้ครบสาขาหลัก เช่น  Med, Ped, สูติ  โชคลาภ พิสวาทคนกล้า อยากได้โชค ต้องกล้าหน่อย พูดจากประสบการณ์ ทำรพ.เอกชน และราชการ มานาน
จากคุณ: ม้าคะนอง โพสเมื่อวันที่: 05/27/18 เวลา 10:42:49
สวัสดีครับ ตอบในฐานะศัลยแพทย์ ปัจจุบันออกมาอยู่ฟูลทามเอกชนหลายปีนะครับ
 
ตัดสินใจออกจากราชการเนื่องด้วยสาขาศัลยกรรมเรา ยิ่งแก่ยิ่งลำบากไม่เหมือนสาขาอื่นที่ยิ่งแก่ยิ่งสบาย สังเกตสตาฟ med ped รุ่นเดียวกัน ช่วงกลางคืน มาราวน์ 1 รอบ ดูเฉพาะเคสมีปัญหาที่น้องๆรับมือไม่ได้ ส่วนเรา ก็ผ่าทั้งคืน ไม่มาไม่ได้ ทำให้เวลาให้ครอบครัวน้อยลงมาก ไม่ได้นอนกับลูกๆครับ
 
ส่วนเรื่องรายได้ก็เป็นปัจจัยหนึ่งครับ อยู่รัฐรวมเอกชน พอๆกับน้องเลย แต่มันไม่ได้เข้ามาเป็นก้อน มีตกเบิกซะเยอะ ถ้าอยากทำรายได้ให้เท่าเอกชนเลยคงต้องรับเวรนอกทุกคืน ก็พอดีชีวิตครอบครัวคงพังก่อน
 
การเปิดคลินิกของ gen sx เองค่อนข้างยากในการสร้างชื่อ เพราะถ้าต้องการผ่าที่คลินิกด้วยต้องลงทุนสูง ไม่เหมือน Ent , Ped, Med , Sx Uro , Sx plastic พวกนี้เปิดคลินิกรุ่ง
 
ข้อเสียเอกชนสำหรับผม อยู่แล้วเหมือนตัวเองด้อยค่าลงทุกวัน เคสผ่าใหญ่ๆน้อยมาก (จะได้ผ่าเยอะแน่นอนต้องมีชื่อเสียงระดับอาจารย์) ฝีมือเราจะรู้สึกว่าทำอะไรติดๆขัดๆ ช้าลง  แต่พวกเคสทั่วๆไป แบบไส้เลื่อน ไส้ติ่ง ริดสีดวง นั่นก็ไม่มีปัญหาอะไรนะครับ แต่การจะไปลุย whipple , APR พวกนี้คงไม่ได้ทำอีกนาน  เวลามองดูเพื่อนๆที่คุยกันพวก staff รร แพทย์ เราจะรู้สึกด้อยกว่าทันที (แต่ก็มีเงินมากกว่าเขาเยอะ)  อ้อแล้วก็อย่างที่หลายๆกระทู้เขาตั้งไปแล้วคืออยู่เอกชนก็ต้องหัดวางแผนการเ งินให้ดี เก็บออมยามเกษียนให้ได้เนื่องจากไม่มีบำนาญแล้ว
 
 
ข้อดี ได้ชีวิตที่ตื่นเข้างานเลิกงานตามปกติเหมือนคนอื่น นานๆครั้งมีผ่านอกเวลาซักที ได้ออกกำลังกายมากขึ้น ได้มีเวลาให้ครอบครัว ไปรับไปส่งลูกโรงเรียน นอนช่วงกลางคืนได้เต็มอิ่มขึ้น ผ่อนบ้านหมดเร็วขึ้น ม ไม่ต้องทำงาน HA , ไม่ต้องรู้สึกผิดเวลาขายเวร ER ให้น้อง เพราะน้องบางคนก้ไม่อยากรับ ไม่ต้องมีเวรชันสูตร ไม่ต้องมีงานองค์กรแพทย์ที่ไม่จำเป็น
 
 
สำหรับผม ผมคิดว่าคิดไม่ผิดที่ออกมาเอกชนก่อน รอให้ภาครัฐปรับค่าตอบแทนแพทย์ให้เป็นธรรม บรรจุพยาบาลให้ครบ แก้ระบบต่างๆให้ดีซะก่อน จะกลับไปทำงานอีกครั้งก็ไม่สาย  
จากคุณ: Hybrid VI โพสเมื่อวันที่: 05/27/18 เวลา 13:10:03
on 05/27/18 เวลา 10:09:48, 6699 wrote:
ไม่มีถูกผิด แต่ถ้าหากว่า เป็นไปได้ อย่าหยุดแค่ทำงานรพ.เอกชน หาทางเป็นเจ้าของรพ.เอกชน ในยุคหมอมากแบบนี้ ใครเป็นเจ้าของรพ.เอกชนมีโอกาสโชดดีได้มหาศาล เรื่องสุขภาพ เป็นไม่กี่อย่างที่อย่างที่คนที่ใช้บริการไม่ได้เกี่ยงเรื่องเงิน ไม่ได้ตัดสินจากราคา เราสามารถสร้างอาณาจักรของเราเองได้ ไม่ต้องพึ่งคนอื่น แต่สามารถให้คนอื่นพึ่งได้  
ตอนนี้ ประเทศเพื่อนบ้าน  เป็นโอกาสทองที่จะทำเงิน ถ้าสามารถเปิดรพ.เอกชนติดต่อกับคนเหล่านี้ น่าจะได้เงินมาก เคยไปที่ประเทศเขามา เขาไม่ได้ส่งเสริมเรื่องนี้
 
 ถ้าหากว่า เรายังมีเวลาอยู่ในโลกได้นาน เราคิดว่า เราจะเปิดรพ.เอกชน เพื่อรับคนเหล่านี้ คิดว่า ลงทุนประมาณ 500-1000 ล้าน ประมาณ สิบปี น่าจะคืนทุนได้หมด  
มองดูแล้วแปลกใจ รพ.รัฐ มองว่า ชาวต่างชาติ ประเทศเพื่อนบ้านทำให้ขาดทุน แต่รพ.เอกชน เกือบทั้งหมด มีแต่ชาวต่างชาติเหล่านี้ บอกว่า กำไรดี ไม่ต้องอาศัยคนไทยเลยในเรื่องธุรกิจสุขภาพ และยังไม่มีปัญหาเรื่องภาษี เพราะคนพวกนี้ ไม่ต้องการใบเสร็จ และไม่มีปัญหาเรื่องการฟ้องร้องทางการแพทย์อีก
 
ถ้าจขกท อายุยังน้อย กล้าเสียง เป็นศัลยแพทย์ฝีมือดี อาจจะหาทีมมาช่วยทำให้ครบสาขาหลัก เช่น  Med, Ped, สูติ  โชคลาภ พิสวาทคนกล้า อยากได้โชค ต้องกล้าหน่อย พูดจากประสบการณ์ ทำรพ.เอกชน และราชการ มานาน

 
ไม่แปลกใจครับ ที่ รพ.รัฐจะมองว่า คน ตปท.ทำให้ขาดทุน
เพราะเขามารักษาฟรีไง ลองให้เสียเงินเอง ก็ยินดีต้อนรับอยู่แล้ว
จากคุณ: know555 โพสเมื่อวันที่: 05/27/18 เวลา 13:35:21
on 05/27/18 เวลา 10:42:49, ม้าคะนอง wrote:
สวัสดีครับ ตอบในฐานะศัลยแพทย์ ปัจจุบันออกมาอยู่ฟูลทามเอกชนหลายปีนะครับ
 
ตัดสินใจออกจากราชการเนื่องด้วยสาขาศัลยกรรมเรา ยิ่งแก่ยิ่งลำบากไม่เหมือนสาขาอื่นที่ยิ่งแก่ยิ่งสบาย สังเกตสตาฟ med ped รุ่นเดียวกัน ช่วงกลางคืน มาราวน์ 1 รอบ ดูเฉพาะเคสมีปัญหาที่น้องๆรับมือไม่ได้ ส่วนเรา ก็ผ่าทั้งคืน ไม่มาไม่ได้ ทำให้เวลาให้ครอบครัวน้อยลงมาก ไม่ได้นอนกับลูกๆครับ
 
ส่วนเรื่องรายได้ก็เป็นปัจจัยหนึ่งครับ อยู่รัฐรวมเอกชน พอๆกับน้องเลย แต่มันไม่ได้เข้ามาเป็นก้อน มีตกเบิกซะเยอะ ถ้าอยากทำรายได้ให้เท่าเอกชนเลยคงต้องรับเวรนอกทุกคืน ก็พอดีชีวิตครอบครัวคงพังก่อน
 
การเปิดคลินิกของ gen sx เองค่อนข้างยากในการสร้างชื่อ เพราะถ้าต้องการผ่าที่คลินิกด้วยต้องลงทุนสูง ไม่เหมือน Ent , Ped, Med , Sx Uro , Sx plastic พวกนี้เปิดคลินิกรุ่ง
 
ข้อเสียเอกชนสำหรับผม อยู่แล้วเหมือนตัวเองด้อยค่าลงทุกวัน เคสผ่าใหญ่ๆน้อยมาก (จะได้ผ่าเยอะแน่นอนต้องมีชื่อเสียงระดับอาจารย์) ฝีมือเราจะรู้สึกว่าทำอะไรติดๆขัดๆ ช้าลง  แต่พวกเคสทั่วๆไป แบบไส้เลื่อน ไส้ติ่ง ริดสีดวง นั่นก็ไม่มีปัญหาอะไรนะครับ แต่การจะไปลุย whipple , APR พวกนี้คงไม่ได้ทำอีกนาน  เวลามองดูเพื่อนๆที่คุยกันพวก staff รร แพทย์ เราจะรู้สึกด้อยกว่าทันที (แต่ก็มีเงินมากกว่าเขาเยอะ)  อ้อแล้วก็อย่างที่หลายๆกระทู้เขาตั้งไปแล้วคืออยู่เอกชนก็ต้องหัดวางแผนการ เงินให้ดี เก็บออมยามเกษียนให้ได้เนื่องจากไม่มีบำนาญแล้ว
 
 
ข้อดี ได้ชีวิตที่ตื่นเข้างานเลิกงานตามปกติเหมือนคนอื่น นานๆครั้งมีผ่านอกเวลาซักที ได้ออกกำลังกายมากขึ้น ได้มีเวลาให้ครอบครัว ไปรับไปส่งลูกโรงเรียน นอนช่วงกลางคืนได้เต็มอิ่มขึ้น ผ่อนบ้านหมดเร็วขึ้น ม ไม่ต้องทำงาน HA , ไม่ต้องรู้สึกผิดเวลาขายเวร ER ให้น้อง เพราะน้องบางคนก้ไม่อยากรับ ไม่ต้องมีเวรชันสูตร ไม่ต้องมีงานองค์กรแพทย์ที่ไม่จำเป็น
 
 
สำหรับผม ผมคิดว่าคิดไม่ผิดที่ออกมาเอกชนก่อน รอให้ภาครัฐปรับค่าตอบแทนแพทย์ให้เป็นธรรม บรรจุพยาบาลให้ครบ แก้ระบบต่างๆให้ดีซะก่อน จะกลับไปทำงานอีกครั้งก็ไม่สาย  

 
 
confirmตามนี้ครับ
จากคุณ: 6699 โพสเมื่อวันที่: 05/27/18 เวลา 15:31:04
on 05/27/18 เวลา 13:10:03, Hybrid VI wrote:

 
ไม่แปลกใจครับ ที่ รพ.รัฐจะมองว่า คน ตปท.ทำให้ขาดทุน
เพราะเขามารักษาฟรีไง ลองให้เสียเงินเอง ก็ยินดีต้อนรับอยู่แล้ว

 
เท่าที่มีข้อมูล ถึงเสียเงิน อาจจะไม่ได้ยินดีรักษา และชาว ตปท. ส่วนใหญ่ก็ต้องเสียเงินก่อนทำการรักษาเสมอ เนื่องจากเก็บเงินก่อน และมีการเก็บเงินรายวันเหมือนกับรพ.เอกชน แต่ทีมรักษา อาจจะมองว่า เป็นภาระส่วนตัว ไม่ได้เป็นรายได้ของรพ. แต่ก็ดี ทำให้เกิดรายได้หลักของรพ.เอกชน
จากคุณ: dr.urofarm โพสเมื่อวันที่: 05/28/18 เวลา 00:05:55
ย้ายมาทำงานที่รพท.จังหวัดผมด้วยกันไหมครับ
รายได้ดี งานไม่หนักมาก ขาดแคลนแพทย์ศัลยกรรมทั่วไป ไม่ต้องไปแย่งงาน แย่งแบ่งรายได้กับใคร ผู้คนและเพื่อนร่วมงานที่นี่ให้เกียรติหมอศัลย์ค่อนข้างมาก
ระยะทางห่าง กทม. รัอยกม.ต้นๆ บรรยากาศการทำงานดี
รพ.กำลังขยายพัฒนา แพทย์สามัคคีร่วมใจกันดี เมืองน่าอยู่ น่าเที่ยว เมืองกำลังเติบโตทิศทางชัดเจน ค่าครองชีพไม่แพง อากาศดี น้ำดี อาหารอร่อย ป่าใหญ่มีภูเขา ชายทะเล
โรงเรียนสำหรับลูกๆก็มีชื่อเสียงพอสมควร เด็กจว.ข้างเคียงมาเรียนกันมาก
line มาคุยกันได้ครับ ผมทำงานอยู่ที่นี่ 21 ปีแล้วครับ
Id line: dr.urofarm
 Wink
จากคุณ: <<GOOD LIFE<< โพสเมื่อวันที่: 05/29/18 เวลา 15:27:13
รายได้ สัมพันธ์กับ "ทัศนคติ"  
 
ยิ่งสร้าง impact กับคนได้มากเท่าไหร่
 
เงินจะยิ่งตามมาเอง....มากเท่านั้น
 
จริงๆเรื่องเงินไม่ต้องเสียเวลาคิด เอาเวลาไปคิด  
 
ว่าจะสร้างคุณค่าให้มากกว่านี้ 10 เท่า 100 เท่าได้อย่างไร  
 
เรื่องอยู่ที่ไหน สำคัญรองลงมาครับ
จากคุณ: Keyhole โพสเมื่อวันที่: 05/29/18 เวลา 22:33:43
on 05/27/18 เวลา 10:42:49, ม้าคะนอง wrote:
สวัสดีครับ ตอบในฐานะศัลยแพทย์ ปัจจุบันออกมาอยู่ฟูลทามเอกชนหลายปีนะครับ
 
ตัดสินใจออกจากราชการเนื่องด้วยสาขาศัลยกรรมเรา ยิ่งแก่ยิ่งลำบากไม่เหมือนสาขาอื่นที่ยิ่งแก่ยิ่งสบาย สังเกตสตาฟ med ped รุ่นเดียวกัน ช่วงกลางคืน มาราวน์ 1 รอบ ดูเฉพาะเคสมีปัญหาที่น้องๆรับมือไม่ได้ ส่วนเรา ก็ผ่าทั้งคืน ไม่มาไม่ได้ ทำให้เวลาให้ครอบครัวน้อยลงมาก ไม่ได้นอนกับลูกๆครับ
 
ส่วนเรื่องรายได้ก็เป็นปัจจัยหนึ่งครับ อยู่รัฐรวมเอกชน พอๆกับน้องเลย แต่มันไม่ได้เข้ามาเป็นก้อน มีตกเบิกซะเยอะ ถ้าอยากทำรายได้ให้เท่าเอกชนเลยคงต้องรับเวรนอกทุกคืน ก็พอดีชีวิตครอบครัวคงพังก่อน
 
การเปิดคลินิกของ gen sx เองค่อนข้างยากในการสร้างชื่อ เพราะถ้าต้องการผ่าที่คลินิกด้วยต้องลงทุนสูง ไม่เหมือน Ent , Ped, Med , Sx Uro , Sx plastic พวกนี้เปิดคลินิกรุ่ง
 
ข้อเสียเอกชนสำหรับผม อยู่แล้วเหมือนตัวเองด้อยค่าลงทุกวัน เคสผ่าใหญ่ๆน้อยมาก (จะได้ผ่าเยอะแน่นอนต้องมีชื่อเสียงระดับอาจารย์) ฝีมือเราจะรู้สึกว่าทำอะไรติดๆขัดๆ ช้าลง  แต่พวกเคสทั่วๆไป แบบไส้เลื่อน ไส้ติ่ง ริดสีดวง นั่นก็ไม่มีปัญหาอะไรนะครับ แต่การจะไปลุย whipple , APR พวกนี้คงไม่ได้ทำอีกนาน  เวลามองดูเพื่อนๆที่คุยกันพวก staff รร แพทย์ เราจะรู้สึกด้อยกว่าทันที (แต่ก็มีเงินมากกว่าเขาเยอะ)  อ้อแล้วก็อย่างที่หลายๆกระทู้เขาตั้งไปแล้วคืออยู่เอกชนก็ต้องหัดวางแผนการ เงินให้ดี เก็บออมยามเกษียนให้ได้เนื่องจากไม่มีบำนาญแล้ว
 
 
ข้อดี ได้ชีวิตที่ตื่นเข้างานเลิกงานตามปกติเหมือนคนอื่น นานๆครั้งมีผ่านอกเวลาซักที ได้ออกกำลังกายมากขึ้น ได้มีเวลาให้ครอบครัว ไปรับไปส่งลูกโรงเรียน นอนช่วงกลางคืนได้เต็มอิ่มขึ้น ผ่อนบ้านหมดเร็วขึ้น ม ไม่ต้องทำงาน HA , ไม่ต้องรู้สึกผิดเวลาขายเวร ER ให้น้อง เพราะน้องบางคนก้ไม่อยากรับ ไม่ต้องมีเวรชันสูตร ไม่ต้องมีงานองค์กรแพทย์ที่ไม่จำเป็น
 
 
สำหรับผม ผมคิดว่าคิดไม่ผิดที่ออกมาเอกชนก่อน รอให้ภาครัฐปรับค่าตอบแทนแพทย์ให้เป็นธรรม บรรจุพยาบาลให้ครบ แก้ระบบต่างๆให้ดีซะก่อน จะกลับไปทำงานอีกครั้งก็ไม่สาย  

   มองต่างนะครับ  ผมมาอยู่เอกชน กลับมีเคสให้ทำเยอะมากกว่าอยู่รัฐบาล เพราะเครื่องไม้เครื่องมือพร้อมมากกว่า  ทำเคสได้หลากหลายมากกว่า  ถ้าอยู่รัฐบาล คงมีหลายๆหัตถการที่ทำไม่ได้หรือไม่มีโอกาสทำ
จากคุณ: ม้าคะนอง โพสเมื่อวันที่: 05/30/18 เวลา 12:12:57
on 05/29/18 เวลา 22:33:43, Keyhole wrote:

   มองต่างนะครับ  ผมมาอยู่เอกชน กลับมีเคสให้ทำเยอะมากกว่าอยู่รัฐบาล เพราะเครื่องไม้เครื่องมือพร้อมมากกว่า  ทำเคสได้หลากหลายมากกว่า  ถ้าอยู่รัฐบาล คงมีหลายๆหัตถการที่ทำไม่ได้หรือไม่มีโอกาสทำ

 
ขึ้นอยู่กับ รพ ด้วยละครับ ถ้า รพ รับ ปกส รับ 30 บาท มีเคสทำมากแน่ แต่ถ้าเป็น รพ รับประกันชีวิตกับเงินสด แล้วได้ทำเยอะแบบนี้ถือว่าดีมากเลยครับ ฝีมือไม่ขึ้นสนิมแน่นอน
จากคุณ: only2b โพสเมื่อวันที่: 05/30/18 เวลา 14:08:22
อยู่เอกชน เคสมากหรือน้อยก็ดีไปคนละอย่าง แต่อย่าไปทำให้มีเคสมากๆแบบไม่มีประโยชน์  เห็นแล้วรู้สึกเสื่อม ระดับอาจารย์แพทย์ที่เป็นกรรมการสอบบอร์ด ทำบ่อยๆที่เอกชน เอาผป.ไปดมยาจี้ติ่งเนื้อที่คอ (เล่าลือกันในอดีตกาลนานมาแล้ว ณ ต่างจังหวัด ที่ปัจจุบันคนจีนมาเที่ยวเยอะมาก    ปัจจุบันคงไม่มีแล้ว)


  • ข้อความและรูปภาพที่ท่านเห็นส่วนใหญ่ ได้ถูกส่งมาจาก ทางบ้าน
    ทางเว็บไซต์ Thaiclinic.com ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของข้อความและรูปภาพที่ถูกส่งมา

  • ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชนและส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ
    เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง
    ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง

  • ถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมหรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล
    หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ webmaster@thaiclinic.com หรือ กดแจ้งที่ปุ่ม
    "แจ้งลบกระทู้"
    เพื่อให้ทีมงานทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ครับ

ThaiClinic.Com . All Rights Reserved. !--BEGIN WEB STAT CODE-->

Powered by