หน้าแรกเว็บบอร์ด หน้าแรกเว็บบอร์ด
   For MD.
   Doctor Room l ห้องพักแพทย์
   Post reply ( Re: ทำไมเวลา staff รพศ.ไม่มาอยู่ รพช.เลย จะได้ดูเคสดีตั้งแต่แรก )
ขอเชิญเพื่อนแพทย์พูดคุย แสดงความคิดเห็นครับ
หัวข้อ:
ใส่ชื่อ:
Email:
Add YABBC tags:
Add Smileys: <more...>
ข้อความ:

Disable Smilies




Topic Summary
จากคุณ: Hybrid VI โพสเมื่อวันที่: 05/17/18 เวลา 09:37:17
feedback จาก รพศ.โดยเฉพาะเคส refer จาก รพช.มักจะมี staff จาก รพศ.ออกมาบอกว่า ดูคนไข้ไม่ดีตั้งแต่แรก คนไข้ก็เลยแย่
ทำไมเคสนี้ส่งมา ดูเองไม่ได้เหรอ  
เคสนี้ทำไมไม่ส่งมา รอจนเน่าแล้วค่อยส่งมา
ฯลฯ
ทั้งๆ ที่ รพช.แห่งนั้น ก็เป็น specialist ดูแลเหมือนกัน
อยากจะถามเหมือนกันว่า.. ถ้า รพช.ดูแลคนไข้ไม่ดี ทำความลำบากแก่ รพศ. ทำไม staff รพศ.ไม่ย้ายไปทำงาน รพช.ล่ะ เผื่อว่ากระบวนการดูแลคนไข้ตั้งแต่แรกจะดีสมความต้องการ
เผื่อว่าจะดูเคสเองได้มากขึ้น ไม่ต้องส่ง refer เคสที่บอกว่า "รพช.ก็ดูเองได้"
จากคุณ: Echo โพสเมื่อวันที่: 05/17/18 เวลา 10:50:27
สตาฟ ปาก
จากคุณ: candy girl โพสเมื่อวันที่: 05/17/18 เวลา 11:00:37
สงสัย ต้องมี morbit mortal ระหว่าง รพ ค่ะ ยกเคสขึ้นมาdisscusกันเลย เป็น tele conferenceก็ได้ค่ะ
จากคุณ: blitzs โพสเมื่อวันที่: 05/17/18 เวลา 11:34:31
   อาจเป็นข้ออ้างของคนไม่มีความสามารถ ถ้าเก่งจริง จะเยินแค่ไหนก็ต้องแก้ไขได้ หรือผ่อนหนักเป็นเบา รับปัญหาไว้เองไม่ปัดให้คนอื่น
    หรือ ทุกคนก็แค่คน  ที่บางครั้งก็คาดหวังเยอะไปหน่อย หวังว่าคนอื่นจะทำได้ดีกว่านี้  ว่าคนอื่นจะบ่นน้อยกว่านี้  หวังว่าเราจะช่วยเขาได้ถ้าไม่เยินขนาดนี้
    หรือ ทุกคำบ่นก็เป็นโอกาศพัฒนา  และทุกคนก็ตายได้บ่นไปก็ไม่ฟื้น
 
  เอาเป็นว่าที่ไม่สบายใจ ไม่ใช่เพราะ พ. รพศ บ่นว่าอะไร แต่แค่เราเลือกเอาเครื่องมืออะไรก็ได้  ข้างต้น  หรือที่คิดออกเองรับมือกับสถานการณ์นี้สะ แล้วจะสบายใจขึ้นเอง
จากคุณ: Dr._Panya โพสเมื่อวันที่: 05/17/18 เวลา 11:54:56
ความเป็นจริงก็คือ ที่เค้าไปเรียน Board/ Sub Board เพราะว่าพวกเค้า/ พวกเรา อยากจะดูแลเคสจำนวนน้อยลง ไม่ใช่อยากจะดูแลเคสได้ดีขึ้นนะครับ
เพราะงั้นเรื่องอะไร Staff จะไปอยู่ รพช. ล่ะครับ (ถ้าไม่ติดทุน/ สัญญา)  
 
อิ อิ อิ
จากคุณ: samco โพสเมื่อวันที่: 05/17/18 เวลา 13:14:01
ต้องแยกก่อนครับ ว่าสิ่งที่เขาด่ามา  รพช.รักษาไม่ดีจริงหรือไม่  
ถ้ารักษาดีจริงแล้วโดนด่า  อย่างนี้ต้อง feedback เอาเรื่องให้ถึงที่สุดครับ  
 
แต่ถ้าที่เขาด่าเป็นเรื่องจริง  รักษาแล้วไม่ดี มีผลกับชีวิตหรือระยะเวลาการนอนรพ.ของคนไข้จริง   ฝ่ายที่ควรปรับปรุงคือรพช.ไม่ใช่เหรอครับ  Huh   กลายเป็นคนรักษาถูกควรจะยอมรับคนที่รักษาบกพร่อง
หมอเราไม่ได้เรียนกันมาแบบนี้เหรอครับ  ตอน train ตอนเรียนก็ใช้ระบบการเรียนแบบนี้ อ.แพทย์อัดหนักกว่านี้จะตายถ้าเรารักษาไม่ได้มาตรฐาน ยิ่งถ้าส่งผลถึงชีวิตคนไข้  เวลาอ.ติง  ก็เถียง อ.ไปว่า ผมรักษาได้แค่นี้ ผมจะไม่อยู่รรพ.อยู่แล้ว   อ.อยากให้รักษาได้ดีๆไม่ไปออกอยู่รพ.ตามต่างจังหวัดล่ะ  อยู่แต่รรพ.
อาชีพหมอน่าจะเป็นอาชีพที่ update ความรู้ตลอดเวลาเพื่อประโยชน์คนไข้
   
เสียสละอยู่รพช.เป็นสิ่งที่ดี  แต่ไม่ใช่บุญคุณถึงขนาดว่าจะเป็นกลายเป็นสิ่งศํกดิ์สิทธิ์ รับการ feedback ให้ถูกต้องไม่ได้    ไม่ใช่ว่าการที่เสียสละอยู่รพช.แล้วจะรักษาอย่างไรก็ได้  รักษาพลาดอย่างไรก็ได้ มันคนละเรื่องกันหรือเปล่าครับ    การรักษาคนไข้ได้ถูกต้อง  คือสิ่งที่ควรคำนึงก่อนไม่ใช่เหรอครับ    รพช.เดี๋ยวนี้หมอไม่น้อยมากๆแบบสมัยก่อนแล้วนิครับ เนื่องจากโครงการผลิตหมอเพิ่มที่ผ่านมา   มาตรฐานการรักษาคนไทยควรจะได้ควรจะมีมาตรฐานไม่แพ้ในตัวเมืองนะครับ  เพราะเรียนมาตำราเดียวกัน      
 
จากคุณ: cmu33 โพสเมื่อวันที่: 05/17/18 เวลา 15:10:17
น่าจะทำ conference ร่วมกับ รพศ. ในกลุ่มงานที่เขา comment มา โดยทำทุกเดือน น่าจะได้ประโยชน์ร่วมกัน จะไดเห็นข้อจำกัดของแต่ละฝ่ายและปรับปรุงแนวทางในการดูแลผู้ป่วยกลุ่มมีปัญห าให้ดีขึ้นด้วยครับ. รพช. ก็ได้อัพเดทความรู้ไปเรื่อยๆตอนทำ conference
จากคุณ: Hybrid VI โพสเมื่อวันที่: 05/17/18 เวลา 16:15:24
on 05/17/18 เวลา 13:14:01, samco wrote:
ต้องแยกก่อนครับ ว่าสิ่งที่เขาด่ามา  รพช.รักษาไม่ดีจริงหรือไม่  
ถ้ารักษาดีจริงแล้วโดนด่า  อย่างนี้ต้อง feedback เอาเรื่องให้ถึงที่สุดครับ  
 
แต่ถ้าที่เขาด่าเป็นเรื่องจริง  รักษาแล้วไม่ดี มีผลกับชีวิตหรือระยะเวลาการนอนรพ.ของคนไข้จริง   ฝ่ายที่ควรปรับปรุงคือรพช.ไม่ใช่เหรอครับ  Huh   กลายเป็นคนรักษาถูกควรจะยอมรับคนที่รักษาบกพร่อง
หมอเราไม่ได้เรียนกันมาแบบนี้เหรอครับ  ตอน train ตอนเรียนก็ใช้ระบบการเรียนแบบนี้ อ.แพทย์อัดหนักกว่านี้จะตายถ้าเรารักษาไม่ได้มาตรฐาน ยิ่งถ้าส่งผลถึงชีวิตคนไข้  เวลาอ.ติง  ก็เถียง อ.ไปว่า ผมรักษาได้แค่นี้ ผมจะไม่อยู่รรพ.อยู่แล้ว   อ.อยากให้รักษาได้ดีๆไม่ไปออกอยู่รพ.ตามต่างจังหวัดล่ะ  อยู่แต่รรพ.
อาชีพหมอน่าจะเป็นอาชีพที่ update ความรู้ตลอดเวลาเพื่อประโยชน์คนไข้
    
เสียสละอยู่รพช.เป็นสิ่งที่ดี  แต่ไม่ใช่บุญคุณถึงขนาดว่าจะเป็นกลายเป็นสิ่งศํกดิ์สิทธิ์ รับการ feedback ให้ถูกต้องไม่ได้    ไม่ใช่ว่าการที่เสียสละอยู่รพช.แล้วจะรักษาอย่างไรก็ได้  รักษาพลาดอย่างไรก็ได้      มันคนละเรื่องกันหรือเปล่าครับ    การรักษาคนไข้ได้ถูกต้อง  คือสิ่งที่ควรคำนึงก่อนไม่ใช่เหรอครับ    รพช.เดี๋ยวนี้หมอไม่น้อยมากๆแบบสมัยก่อนแล้วนิครับ เนื่องจากโครงการผลิตหมอเพิ่มที่ผ่านมา   มาตรฐานการรักษาคนไทยควรจะได้ควรจะมีมาตรฐานไม่แพ้ในตัวเมืองนะครับ  เพราะเรียนมาตำราเดียวกัน      
 
 

 
คือ หลายๆ เรื่อง มันเป็นข้อจำกัดของ รพช. ทั้งเรื่องเครื่องมือ สถานที่ บุคลากร อย่างเช่น เคสสูติ ที่มี indication C/S นอกเวลา แต่ รพช.หมอสูติอายุใกล้เกษียณไม่อยู่เวรนอกเวลา ก็ต้อง refer ไป รพศ. ก็มักจะโดนถามว่า รพ.xxx มีหมอสูติอยู่ไม่ใช่เหรอ  
เคส stroke on rtPA แต่ observe ICU เต็ม พอจะ refer บอกให้ observe ward ปกติ ไม่ต้อง refer แบบเนี้ย
จากคุณ: Mr.Note โพสเมื่อวันที่: 05/17/18 เวลา 16:53:27
ต้องแยกแต่ละ จ ด้วยมั้งครับ
สมัยผมใช้ทุน จะรีเฟอ อินเทริน รพช ต้องโทรติดต่อ สตาฟ รพศ เอง มีบ่นบ้าง รึมีออเดอร์ให้ดูต่อ รพช บ้าง
พอปีต่อมาจับฉลากย้าย จ ไป อีกที่ถ้าคิดว่าสมควรส่ง สามารถส่งไป รพท ได้เลย พยบ เป็นคนส่งเวรไม่ต้องติดต่อเอง(ให้โดนด่า)ตะหาก
 
พอมา ปจบ อยู่ รพศ เอง ที่ผมอยู่ รพช สามารถส่งมาได้เลยติดต่อแค่ที่ER พอมาถึงERก็ต้องรับหมดอยู่ละ ขำๆ Grin
จากคุณ: crv01 โพสเมื่อวันที่: 05/17/18 เวลา 18:45:12
ยุบรพชให้เห็นแค่ opdไม่มีแอดมิต.    ให้แพทย์ไปรวมกันที่รพศจบ.
จากคุณ: Hippo โพสเมื่อวันที่: 05/17/18 เวลา 19:16:04
หมอเราไม่ค่อยได้เรียนศิลปะการทำงานเป็นทีม จึงมีหมอปากไม่ดีเยอะครับ Tongue
จากคุณ: philosophy โพสเมื่อวันที่: 05/17/18 เวลา 19:36:36
นี่เป็นที่มาว่าทำไม  ถึงต้องให้ intern ผ่าน รพช
 
เพราะ ว่า   เมื่ออยู่ รพช  จะเกิด  ประโยคอยู่ 1  ประโยค ที่มีหมอเคยเขียนเรียงความไว้
 
คือคำว่า    ท่ามกลางความจำกัด..........................
 
 
ความรู้อาจมีเหมือนกัน   แต่หมอที่ไม่เคยผ่าน รพช   เขาจะไม่รู้ว่าที่ รพมีหรือ ไม่มีอะไรบ้าง
 
ตั้งแต่ lab  ความพร้อมของทีมงาน  และยา  รวมถึงเครื่องไม้เครื่องมือ
 
รวมทั้งศัรทธา ของโณงพยาบาลเล็กเมื่อเที่ยบกัโรงพยาบาลใหญ่
 
 
การรักษา คน   ทำคนเดียวได้ซะที่ไหน ถึงทำได้ก้ไม่ดี  ต้องทำกันเป็นทีม
 
 
ดังนั้น ต่อให้หมอเก่งแค่ไหนหากไปอยู่ใหม่ๆก็ทำอะไรไม่ได้มากนักนอกจาก หมอจะบุกเบิก สร้างทีมขึ้นมาเอง
 
เหมือนโงพยาบาลหลายแห่ง ซึ่ถ้าทำได้  หมอคนนั้นมักจะได้รบคำชื่นชมและบางคนได้รับรางวัลด้วย
จากคุณ: anantom โพสเมื่อวันที่: 05/17/18 เวลา 20:08:23
on 05/17/18 เวลา 09:37:17, Hybrid VI wrote:

อยากจะถามเหมือนกันว่า.. ถ้า รพช.ดูแลคนไข้ไม่ดี ทำความลำบากแก่ รพศ. ทำไม staff รพศ.ไม่ย้ายไปทำงาน รพช.ล่ะ เผื่อว่ากระบวนการดูแลคนไข้ตั้งแต่แรกจะดีสมความต้องการ
เผื่อว่าจะดูเคสเองได้มากขึ้น ไม่ต้องส่ง refer เคสที่บอกว่า "รพช.ก็ดูเองได้"

 
อยากออกไปดูและสั่งการเหมือนกันครับ แต่ ผอก รพท/รพศ และ ผอก รพช อยู่คนละกรม กอง กันครับ สั่งมากๆมีปัญหาหากไม่ฟัง รพช ลองไฟ้ท์มาอยู่สำนักปลัดฯด้วยกันดีไหมครับ จะได้ดูแลง่าย
จากคุณ: anantom โพสเมื่อวันที่: 05/17/18 เวลา 20:12:44
on 05/17/18 เวลา 18:45:12, crv01 wrote:
ยุบรพชให้เห็นแค่ opdไม่มีแอดมิต.    ให้แพทย์ไปรวมกันที่รพศจบ.  

เห็นด้วยครับ ยิ่งจบปอร์ดแล้วไม่ทำงาน อย่างสูติ ไม่ c/s ,ortho ไม่ผ่า น่าจับย้ายไป รพท/รพศ ให้หมดครับ
จากคุณ: simath โพสเมื่อวันที่: 05/17/18 เวลา 23:38:13
on 05/17/18 เวลา 18:45:12, crv01 wrote:
ยุบรพชให้เห็นแค่ opdไม่มีแอดมิต.    ให้แพทย์ไปรวมกันที่รพศจบ.  

เห็นด้วยครับ หลายๆประเทศก็เป็นแบบนั้น โรงพยาบาลที่จะเปิดวอร์ดหรือห้องฉุกเฉินนอกเวลา ต้องมีแพทย์เฉพาะทางสาขาหลักอยู่เวรครบ เพื่อป้องกันความผิดพลาด
 
GP รพช. ทำทุกอย่าง ตั้งแต่รับเด็ก, ดึง Vac, ใส่ ICD, ปรับ ARV, close reduction จะไปหวังให้ทำได้ดีเหมือน specialist มันไม่ได้อยู่แล้ว
 
สมัยอยู่ รพช. (เป็นรพช.ที่มี CT) เคยเจอเคส trauma on ETT, BP drop ท้อง Guard โทรไปขอ refer ก็ไม่ยอมให้ refer
 
ศูนย์ refer บอกให้ CT กับ resus ให้ขึ้นก่อนแล้วค่อยส่งไป สุดท้ายก็ expire ทั้งๆที่ ถ้ารถกู้ชีพนำส่ง รพศ แต่แรก อาจได้ set OR emergency เขาอาจรอดก็ได้
 
การส่งโรงพยาบาลที่ใกล้กว่า แต่ศักยภาพไม่ถึง และ refer ออกได้ยาก กลับกลายเป็นผลร้ายกับคนไข้มากกว่าไปโรงพยาบาลใหญ่ที่อยู่ไกลเสียอีก
 
 Cry Cry
จากคุณ: samco โพสเมื่อวันที่: 05/18/18 เวลา 00:34:25
คำตอบน่าจะเป็นคำตอบอยู่ในตัวเองนะครับ  
ทีไม่ย้ายไปกัน น่าจะเพราะรพช.เครื่องมือไม่พร้อม  
 
แทนที่จะให้ staff รพศ.ย้ายมาที่ๆเครื่องมือไม่พร้อมให้คนไข้รับความเสี่ยง  
 
น่าจะย้าย staff  รพช. ไปอยู่รพศ.มากกว่า  ที่จะspecialist อยู่รพช. มีชื่อกินโควต้าทุนจังหวัดแต่ไม่อยู่เวร  แล้วบอกว่าเสียสละ     แล้วรพช.ที่เครื่องมือและบุคลากรไม่พร้อมก็เปิดแต่ OPD ไป
จากคุณ: megacure โพสเมื่อวันที่: 05/18/18 เวลา 10:45:32
ผมเห็นด้วยกับการยุบ รพช. แต่ไม่ต้องปิด รพ. เปลี่ยนเป็น Hospice/end of life care center ดีกว่า
จากคุณ: candy girl โพสเมื่อวันที่: 05/18/18 เวลา 11:23:03
เดว ระบบส่งต่อ รพศ มันcontroll ๆม่ได้ งานหนักเงินน้อย คนไข้เยอะ
จากคุณ: Hybrid VI โพสเมื่อวันที่: 05/19/18 เวลา 00:07:58
on 05/17/18 เวลา 19:36:36, philosophy wrote:
นี่เป็นที่มาว่าทำไม  ถึงต้องให้ intern ผ่าน รพช
 
เพราะ ว่า   เมื่ออยู่ รพช  จะเกิด  ประโยคอยู่ 1  ประโยค ที่มีหมอเคยเขียนเรียงความไว้
 
คือคำว่า    ท่ามกลางความจำกัด..........................
 
 
ความรู้อาจมีเหมือนกัน   แต่หมอที่ไม่เคยผ่าน รพช   เขาจะไม่รู้ว่าที่ รพมีหรือ ไม่มีอะไรบ้าง
 
ตั้งแต่ lab  ความพร้อมของทีมงาน  และยา  รวมถึงเครื่องไม้เครื่องมือ
 
รวมทั้งศัรทธา ของโณงพยาบาลเล็กเมื่อเที่ยบกัโรงพยาบาลใหญ่
 
 
การรักษา คน   ทำคนเดียวได้ซะที่ไหน ถึงทำได้ก้ไม่ดี  ต้องทำกันเป็นทีม
 
 
ดังนั้น ต่อให้หมอเก่งแค่ไหนหากไปอยู่ใหม่ๆก็ทำอะไรไม่ได้มากนักนอกจาก หมอจะบุกเบิก สร้างทีมขึ้นมาเอง
 
เหมือนโงพยาบาลหลายแห่ง ซึ่ถ้าทำได้  หมอคนนั้นมักจะได้รบคำชื่นชมและบางคนได้รับรางวัลด้วย

 
Intern ผ่าน รพช. เรียน board จบไป รพศ. โทร refer เคสไป กินหัวมาซะเยอะแยะ ทั้งๆ ที่ก่อนไปเรียน มา rotate ที่ รพช.ผม ตัวเองก็เคยโดนกินหัวจนมาร้องห่มร้องไห้ให้ฟังหลายครั้ง
จากคุณ: megacure โพสเมื่อวันที่: 05/19/18 เวลา 11:00:27
ระบบ refer ที่มีปัญหาเพราะ conflict of interest อย่างที่ได้กล่าวไปหลายครั้ง
 
จะทำให้ดีขึ้นได้ต้องแก้ระบบ ไม่ให้ staff รพ.ปลายมีอำนาจตัดสินใจรับ refer เพราะเสียประโยชน์จากการต้องทำงานมากขึ้น
 
จะใช้ระบบ pre-authorization, ระบบศูนย์ refer พิจารณาส่งเคสโดยศูนย์ refer ไม่ได้ขึ้นกับ รพ.ปลายทางแต่มีข้อมูลเตียง/ศักยภาพของ รพ. ที่เกี่ยวข้องในมือ หรือใช้ระบบ รพศ.รับหมดและทำ audit feedback(คือทำ audit พบ refer ไม่เหมาะสมก็ทำ conference +/- ตัดเงิน รพ.ต้นทาง) ก็เป็นทางออกที่ทำได้ทั้งนั้น
จากคุณ: candy girl โพสเมื่อวันที่: 05/19/18 เวลา 13:28:49
on 05/19/18 เวลา 11:00:27, megacure wrote:
ระบบ refer ที่มีปัญหาเพราะ conflict of interest อย่างที่ได้กล่าวไปหลายครั้ง
 
จะทำให้ดีขึ้นได้ต้องแก้ระบบ ไม่ให้ staff รพ.ปลายมีอำนาจตัดสินใจรับ refer เพราะเสียประโยชน์จากการต้องทำงานมากขึ้น
 
จะใช้ระบบ pre-authorization, ระบบศูนย์ refer พิจารณาส่งเคสโดยศูนย์ refer ไม่ได้ขึ้นกับ รพ.ปลายทางแต่มีข้อมูลเตียง/ศักยภาพของ รพ. ที่เกี่ยวข้องในมือ หรือใช้ระบบ รพศ.รับหมดและทำ audit feedback(คือทำ audit พบ refer ไม่เหมาะสมก็ทำ conference +/- ตัดเงิน รพ.ต้นทาง) ก็เป็นทางออกที่ทำได้ทั้งนั้น

 เห็นด้วยค่ะ  แต่หลัก จำนวน คงมีผล การเคลียเตียง
สงสัยว่า รพศ จะดองเคส ปล่อยให้เตียงเต็ม เพราะไม่ต้องการรับรีเฟอรึเปล่า
จากคุณ: WeaReGroot โพสเมื่อวันที่: 05/19/18 เวลา 20:39:46
เอามาดูเคสต่อเคสสิครับ ว่าปัญหาอยู่ที่ไหน จะได้แก้ไขได้
(เพ้อฝันไปงั้นแหละ รับบมันห่วย ต้องยอมรับ)
จากคุณ: GURU01234 โพสเมื่อวันที่: 05/30/18 เวลา 12:08:06
อยากให้แพทยสภาไปศึกษาพรบ.มรรยาททนายความ ทำไมเขาถึงคุมคนในวิชาชีพกฎหมายไม่ให้วิจารณ์กล่าวหากันในทางเสียหายให้เป็น เรื่องราวใหญ่โตแบบอาชีพหมอ ของแพทย์น่าจะมีการอบรมมรรยาทในการประกอบวิชาชีพช่วงปีสุดท้ายและจัดสอบด้วย น่าจะดี หรือออกเป็นพรบ.มรรยาทในการประกอบวิชาชีพเวชกรรมก็จะยิ่งดี
จากคุณ: Ines_de_BK โพสเมื่อวันที่: 06/02/18 เวลา 22:55:03
มารยาทดีแต่ระบบกาก มันก็จะต้องระเบิดสักวันอยุ่ดี


  • ข้อความและรูปภาพที่ท่านเห็นส่วนใหญ่ ได้ถูกส่งมาจาก ทางบ้าน
    ทางเว็บไซต์ Thaiclinic.com ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของข้อความและรูปภาพที่ถูกส่งมา

  • ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชนและส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ
    เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง
    ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง

  • ถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมหรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล
    หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ webmaster@thaiclinic.com หรือ กดแจ้งที่ปุ่ม
    "แจ้งลบกระทู้"
    เพื่อให้ทีมงานทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ครับ

ThaiClinic.Com . All Rights Reserved. !--BEGIN WEB STAT CODE-->

Powered by