หน้าแรกเว็บบอร์ด หน้าแรกเว็บบอร์ด
   For MD.
   Doctor Room l ห้องพักแพทย์
   Post reply ( Re: จดหมายเพื่อนแพทย์ ฉบับที่ 207 )
ขอเชิญเพื่อนแพทย์พูดคุย แสดงความคิดเห็นครับ
หัวข้อ:
ใส่ชื่อ:
Email:
Add YABBC tags:
Add Smileys: <more...>
ข้อความ:

Disable Smilies




Topic Summary
จากคุณ: dr.friend โพสเมื่อวันที่: 03/09/18 เวลา 13:47:50
ฉบับที่ 207
 
วันที่  8  มีนาคม  2561
 
เพื่อนแพทย์ที่รัก :  Rota  ค่อย ๆ หมดฤทธิ์แล้ว  แต่หมาบ้ามาอาละวาดแทน  ทำให้เกิดความวุ่นวายมากเลยครับ  เพราะหมาเมืองไทยก็มีเยอะ  มีทั้งมีเจ้าของประจำ  มีเจ้าของชั่วคราว (คือเอาอาหารมาเลี้ยงเป็นครั้งคราว)  และมีทั้งหมาไม่มีเจ้าของ  ซึ่งอาจจะมีคนที่ผ่านมาแล้วยื่นเศษอาหารให้ แล้วก็ไม่มีใครรู้เลยว่าเดินเฉียดหมาแล้วจะโดนมันกัดเอาเมื่อไรก็ไม่รู้  นอกจากนี้ยังมีกฎหมายห้ามทารุณสัตว์ด้วย  เพราะฉนั้น ชีวิตจะลำบากมากขึ้นอีกแล้ว  ตอนนี้เพื่อความปลอดภัยเจอะหมาต้องเดินหนีเสมอนะครับ  หน้าที่ของแพทย์ถ้าผู้ป่วยโดนหมากัดต้องบอกผู้ป่วย ต้องทำอย่างไร  แน่นอนเลย
(1)  ต้องฉีด Tetanus    (2)  ต้องฉีด Rabies Vaccine  (3)  ต้องเฝ้าหมา และเก็บหมาไว้ว่าจะกลายเป็นหมาบ้าหรือเปล่า   (ซึ่งบางครั้งก็ไม่มีความสามารถที่จะติดตามหมาได้เลย)  ซึ่งข้อ (1) และ (2)  ถ้าอยู่คลีนิคและไม่สามารถให้ได้  เพื่อน ๆ ต้องรีบแนะนำให้ไปฉีดที่โรงพยาบาล  ส่วนข้อ (4) การฉีด Immunoglobulin มันคงจะมีข้อจำกัดในการใช้มากทีเดียว  เพราะไม่ได้มีอยู่ทุกโรงพยาบาล และราคาสูงมาก (ประมาณ 2-3 หมื่น)  แต่คำแนะนำ คือ ถ้าโดนหมากัดแล้วมีเลือดออก และไม่ได้เคยฉีด Rabies Vaccine มาครบขนาดมาก่อน แนะนำให้ฉีด Immunoglobulin จะปลอดภัยกว่า  แต่เนื่องจากมีราคาสูงดังกล่าวมันจึงเป็นปัญหา  แน่นอนระหว่างเจ้าของหมาและคนถูกหมากัด คนปวดหัวก็กลายเป็นโรงพยาบาลและแพทย์ ครับ    
   1.  ฉุกเฉินวิกฤติใช้สิทธิทุกที่ เดินหน้าต่อเนื่องมาตลอด ในเดือน กุมภาพันธ์นี้ 28 วัน ผู้ป่วยฉุกเฉินที่มาโรงพยาบาล และโรงพยาบาลส่งไปประเมินทั้งหมด 9,410 ราย และเข้าเกณฑ์ 1,578 ราย    จะเห็นได้ว่าทางโรงพยาบาลส่งประเมินมากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อจะได้ตอบผู้ป่วยได้ว่าเข้าเกณฑ์ต้องรีบรับการรักษาที่โรงพยาบาลนั้น ๆ จนปลอดภัยและเคลื่อนย้ายได้  แต่ถ้าไม่เข้าเกณฑ์ก็แปลว่า ในความฉุกเฉินนี้ผู้ป่วยสามารถเดินทางไปรักษายังโรงพยาบาลหรือเครือข่ายโรงพ ยาบาลที่เป็นต้นสังกัดของผู้ป่วยได้  เพื่อที่จะได้ชี้แจงกับผู้ป่วยได้  แต่ถ้าผู้ป่วยประสงค์จะรักษายังโรงพยาบาลที่ไม่ใช่ต้นสังกัด คงจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง  
   ตอนเริ่มต้น UCEP ในเดือนเมษายน 2560  ส่วนใหญ่ประชาชนในกรุงเทพฯ เป็นผู้เริ่มใช้ก่อน  แต่ผ่านมาจะครบ 1 ปี ปรากฏว่าต่างจังหวัดใช้มากกว่ากรุงเทพฯ แล้ว (กรุงเทพฯ เข้าเกณฑ์  687 ราย   ต่างจังหวัด  เข้าเกณฑ์ 891 ราย)  ส่วนตัวผมก็ยังคงยืนยันว่า UCEP อยู่คู่ประเทศไทย และจะมีข่าวเรื่องความไม่เข้าใจของประชาชนอยู่ตลอดเวลา  เพราะไม่มีใครไม่ชอบ ของดีที่ไม่ต้องจ่ายเอง
 
รัก & เป็นห่วง
นายแพทย์เอื้อชาติ    กาญจนพิทักษ์
E-mail:aurchart@gmail.com, Fax: 02-3740804, มือถือ 081-9118901
   
 
 
ปัญหาทุกเรื่องติดต่อได้ครับ :  พญ. สมศรี     081-8214593,     นพ.ชาตรี    081-9850839,
นพ. วิสูตร     086-0019228, นพ. ทวีศิลป     089-8139393,     นพ. เอื้อชาติ    081-9118901


  • ข้อความและรูปภาพที่ท่านเห็นส่วนใหญ่ ได้ถูกส่งมาจาก ทางบ้าน
    ทางเว็บไซต์ Thaiclinic.com ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของข้อความและรูปภาพที่ถูกส่งมา

  • ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชนและส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ
    เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง
    ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง

  • ถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมหรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล
    หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ webmaster@thaiclinic.com หรือ กดแจ้งที่ปุ่ม
    "แจ้งลบกระทู้"
    เพื่อให้ทีมงานทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ครับ

ThaiClinic.Com . All Rights Reserved. !--BEGIN WEB STAT CODE-->

Powered by