หน้าแรกเว็บบอร์ด หน้าแรกเว็บบอร์ด
   For MD.
   Doctor Room l ห้องพักแพทย์
   Post reply ( Re: หมอด้วยกันตีค่าgpอย่างไร? สังคมตีค่าgpอย่างไร? )
ขอเชิญเพื่อนแพทย์พูดคุย แสดงความคิดเห็นครับ
หัวข้อ:
ใส่ชื่อ:
Email:
Add YABBC tags:
Add Smileys: <more...>
ข้อความ:

Disable Smilies




Topic Summary
จากคุณ: Supernoid โพสเมื่อวันที่: 02/01/18 เวลา 08:42:58
ผมพึ่งได้คุยกับรุ่นพี่ท่านนึง ปัจจุบันยังทำรพช.อยู่ในฐานะgp
 
คุยไปเรื่อยๆ พี่เค้าก็เล่าให้ฟังถึงน้องคนนึงปัจจุบันเป็นเฉพาะทางอยู่รพศ.
 
“เฮ้ย จำไอ้เอ๋ย(นามสมมติได้มั้ย)”
 
ผม:จำได้ครับพี่
 
“เมื่อคืนพึ่งส่งรีเฟอร์ไปว่ะ โอยพี่โดนซักยังกะนศพ.”
 
ผม:ขนาดนั้นเลยหรือพี่
 
“เออ ขนาดเขียนใบรีเฟอร์ ประวัติตรวจร่างกายโดยละเอียดไปแล้วนะเนี่ย”
 
ผม:แล้วเค้ารู้มั้ยครับว่าเป็นพี่ที่ส่งไป
 
“รู้สิ แต่น้ำเสียงนี่ซอยสุดๆ”
 
“เมื่อก่อนไม่เป็นแบบนี้เลยนะ พี่ยังจำได้ พี่เคยสอนเค้าใส่ทิวป์ ใส่icdเลย”
 
ผม:ใช่พี่ ผมเห็นเค้าก็น่ารักนะ มีสัมมาคารวะดี
 
“เออ สงสัยพี่เป็นแค่จีพีว่ะ น้องมันคงไม่เห็นหัวละ”
 
ผม:....
 
 
 
ผมว่าในปัจจุบันบทบาทของจีพีมันดูจะลดลงเรื่อยๆแล้วนะครับ
 
สมัยไหนต่อไหนหน้าที่เราก็คือgate keeperหรือหนังหน้าไฟนั่นเอง
 
 
ท่านคิดว่าคุณค่าของจีพีอยู่ตรงไหน.  
 
เคยเจอแบบที่พี่เค้าเจอหรือไม่
 
คิดเห็นอย่างไรต่อเรื่องนี้ครับ
จากคุณ: candy girl โพสเมื่อวันที่: 02/01/18 เวลา 09:05:33
ขอเถียงค่ะ จีพียังมีที่ยืน ในการรักษาแน่นอน  
เพราะ จีพี สามารถ รักษาเบื้องต้นได้ทั้งหมด  
แต่ ใน ยาก ที่ complicated บทบาท ของจีพีคงน้อยลง
จากคุณ: candy girl โพสเมื่อวันที่: 02/01/18 เวลา 09:11:13
ใน poplationที่ ประกร เยอะ  คนแก่ๆ ไม่มาก
ประชากร ค่อนข้าง healthyจีพี น่าจะดี
ถ้าอยกเป็น จีพีเก่ง ให้ ไปอยู่ รร แพทย์ ทำตำแหน่งจีพี จะมีโอกาส ดูเคส ยากๆ เนอะ consult ง่าย เพิ่มพูนประสบการณ์  
แต่ ถ้าอยู ต่างจังหวัด นี่ ลำบากหน่อย ยิ่งรีเฟอยาก  คนไข้ ที่ยากจน  มีโรค ซับซ้อน และไม่สามารถ เข้าถึง รพ ขนาดใหญ่ ได้  เป็นจีพีตงลำบาก เพราะ มี สถานการณ์ ที่บังคับ ให้ต้องดูคนไข้ ยากๆ เยอะ
จากคุณ: -=Jfk=- โพสเมื่อวันที่: 02/01/18 เวลา 09:58:57
น่าจะเป็นเรื่องของตัวบุคคล เองมากกว่า ทั้ง ตัว คุณหมอ GP เอง และคุณหมอที่ เป็นบอร์ด รับรีเฟอร์
 
ส่วนตัวเองก็เป็น GP แต่สอบ อนุมัติ FamMed ได้ ก็เลยมีบอร์ดสำรองติดตัวกับเค้า
 
แต่ที่ผ่านมา ยังไม่เคยเจอใครดูถูก ว่าไม่ได้เทรน แต่อย่างใด
จากคุณ: Supernoid โพสเมื่อวันที่: 02/01/18 เวลา 10:13:10
on 02/01/18 เวลา 09:58:57, -=Jfk=- wrote:
น่าจะเป็นเรื่องของตัวบุคคล เองมากกว่า ทั้ง ตัว คุณหมอ GP เอง และคุณหมอที่ เป็นบอร์ด รับรีเฟอร์
 
ส่วนตัวเองก็เป็น GP แต่สอบ อนุมัติ FamMed ได้ ก็เลยมีบอร์ดสำรองติดตัวกับเค้า
 
แต่ที่ผ่านมา ยังไม่เคยเจอใครดูถูก ว่าไม่ได้เทรน แต่อย่างใด

 
ถ้าว่ากันตามคนในสังคมทั่วไปผมว่าไม่มีใครดูถูกพี่เจได้หรอกครับ
 
ถ้าได้เห็นคอลเลคชั่นนาฬิกากับรถยนต์นะครับ
 
โดนตอกกลับได้ง่ายๆเลย
จากคุณ: -=Jfk=- โพสเมื่อวันที่: 02/01/18 เวลา 10:31:57
on 02/01/18 เวลา 10:13:10, Supernoid wrote:

 
ถ้าว่ากันตามคนในสังคมทั่วไปผมว่าไม่มีใครดูถูกพี่เจได้หรอกครับ
 
ถ้าได้เห็นคอลเลคชั่นนาฬิกากับรถยนต์นะครับ
 
โดนตอกกลับได้ง่ายๆเลย

 
เด๋วๆ ครับ เรากำลังคุยกันเรื่อง วิชาการ ในส่วนของแพทย์ ด้วยกัน ด้านการรักษา และการรีเฟอร์ไม่ใช่เหรอ Smiley
จากคุณ: SantaNiCo โพสเมื่อวันที่: 02/01/18 เวลา 10:55:34
on 02/01/18 เวลา 10:13:10, Supernoid wrote:

 
ถ้าว่ากันตามคนในสังคมทั่วไปผมว่าไม่มีใครดูถูกพี่เจได้หรอกครับ
 
ถ้าได้เห็นคอลเลคชั่นนาฬิกากับรถยนต์นะครับ
 
โดนตอกกลับได้ง่ายๆเลย

คุณค่าคนวัดที่ตรงไหน ตานอย?
นาฬิกา? โคตรเปลือก
 
แก่แต่ตัวจริงๆนะคะ
หุๆ
จากคุณ: SantaNiCo โพสเมื่อวันที่: 02/01/18 เวลา 10:57:32
ไม่มีใครลดคุณค่าคนอื่นได้
เว้นแต่พวกที่low self esteem อยู่เดิม
จากคุณ: doreus โพสเมื่อวันที่: 02/01/18 เวลา 11:20:31
ไม่เคยเจอเหมือนกัน แต่การให้ข้อมูลคนไข้เป็นประโยชน์กับคนไข้นะครับไม่ใช่การดูถูกแต่อย่างใดถ้ าน้องเค้าไม่ได้หยาบคายอะไรนี่ผิดตรงไหนพี่งง ที่ซักเหมือนตอนเรียน นศพ. เพราะวิชาแพทย์มันมีมาตรฐานไงครับซึ่งเป็นเกียรติของวิชาชีพคือมันศักดิ์สิท ธิ์นั่นเอง เหมือนกระทู้สร้างความแตกแยกนะครับ
ถ้ารู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ก็ควรจะไปเรียนซะ ก็จบ
ส่วนตัวชีวิตมันไม่ได้จบแค่เป็นหมอนะ มันมีเรื่องต้องเรียนรู้อีกเยอะมาก  
 
หลุดจากตรงนั้นแล้วออกมานอกกรอบ บางครั้งอาจประสบความสำเร็จกว่า
 
http://www.newsdataonline.com/index.php/2011-03-14-05-46-05/2012-08-05-0 4-22-45/78531-2013-08-11-16-31-04
 
รุ่นพี่พี่เอง
จากคุณ: positive โพสเมื่อวันที่: 02/01/18 เวลา 11:50:59
คุณค่าอยู่ที่เราให้ตนเอง  
 
เคยเจอแบบพี่ท่านนั้นครับ ผมว่าส่วนใหญ่น่าจะเจอกันเป็นปกติ
 
คิดว่าปกติครับ โลกธรรม 8  
 
 
 
 
 
 
 
 
 
จากคุณ: know555 โพสเมื่อวันที่: 02/01/18 เวลา 12:04:51
Wink
จากคุณ: necessary evil โพสเมื่อวันที่: 02/01/18 เวลา 12:09:56
แสดงว่ายังไม่เคยเห็น GP เชิญ subboard มาต่อว่าอย่างสุภาพ
"ผมไม่อยากให้หมอทำแบบนี้นะครับ เพราะระบบจะมีปัญหา"
 
If you have money, then everything else follows.
จากคุณ: Supernoid โพสเมื่อวันที่: 02/01/18 เวลา 12:15:37
on 02/01/18 เวลา 10:55:34, SantaNiCo wrote:

คุณค่าคนวัดที่ตรงไหน ตานอย?
นาฬิกา? โคตรเปลือก
 
แก่แต่ตัวจริงๆนะคะ
หุๆ

 
ทีอย่างนี้ไวเชียวนะซาตาน
 
นาฬิกามันแสดงฐานะได้ไง
 
ในสังคมเค้าก็ชื่มชอบคนประสบความสำเร็จ ถามต่อว่าวัดกันยังไงว่าสำเร็จ
 
ดูง่ายๆก็ทรัพย์สินเงินทอง บ้าน รถ ไง
 
ไม่งั้นไม่มีคนมาอวดพอร์ทหุ้น บัตรเครดิตเฟิร์สคลาส รถยนต์กันหรอกจริงมั้ย
 
คอร์สสอนรวยผุดมากันแบบดอกเห็ดบอกอะไรซาตานได้บ้างHuh
 
 
จากคุณ: Supernoid โพสเมื่อวันที่: 02/01/18 เวลา 12:17:17
on 02/01/18 เวลา 11:50:59, positive wrote:
คุณค่าอยู่ที่เราให้ตนเอง  
 
เคยเจอแบบพี่ท่านนั้นครับ ผมว่าส่วนใหญ่น่าจะเจอกันเป็นปกติ
 
คิดว่าปกติครับ โลกธรรม 8  
 
ครับ เหมือนที่อาจารย์ผมสอนไว้เลย ได้ลาภเสื่อมลาภ
 
ได้ยศเสื่อมยศ
 
ธรรมดาโลก
 
 
 
 
 
 
 
 
 

จากคุณ: Supernoid โพสเมื่อวันที่: 02/01/18 เวลา 12:20:28
on 02/01/18 เวลา 12:09:56, necessary evil wrote:
แสดงว่ายังไม่เคยเห็น GP เชิญ subboard มาต่อว่าอย่างสุภาพ
"ผมไม่อยากให้หมอทำแบบนี้นะครับ เพราะระบบจะมีปัญหา"
 
If you have money, then everything else follows.

 
 
 
ครับพี่
 
 
ผมเคยเห็นหมอเฉพาะทางไปเรียกเนิสเอดว่าอาจารย์ก็มีมาแล้วครับ
ในสถาบันความงาม
 
พอพี่ผมคุยให้ฟังก็เลยสงสัยว่า
 
คุณค่าของคน ในที่นี้คือคนที่ทำอาชีพหมอ
 
มันต่างกันมั้ยครับ
 
แต่ดูเหมือนคำถามผมจะทำให้บางคนหงุดหงิด
 
ผมไม่ได้หมายถึงพี่นะครับ
จากคุณ: Supernoid โพสเมื่อวันที่: 02/01/18 เวลา 12:24:26
on 02/01/18 เวลา 11:20:31, doreus wrote:
ไม่เคยเจอเหมือนกัน แต่การให้ข้อมูลคนไข้เป็นประโยชน์กับคนไข้นะครับไม่ใช่การดูถูกแต่อย่างใดถ้ าน้องเค้าไม่ได้หยาบคายอะไรนี่ผิดตรงไหนพี่งง ที่ซักเหมือนตอนเรียน นศพ. เพราะวิชาแพทย์มันมีมาตรฐานไงครับซึ่งเป็นเกียรติของวิชาชีพคือมันศักดิ์สิท ธิ์นั่นเอง เหมือนกระทู้สร้างความแตกแยกนะครับ
ถ้ารู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ก็ควรจะไปเรียนซะ ก็จบ
ส่วนตัวชีวิตมันไม่ได้จบแค่เป็นหมอนะ มันมีเรื่องต้องเรียนรู้อีกเยอะมาก  
 
หลุดจากตรงนั้นแล้วออกมานอกกรอบ บางครั้งอาจประสบความสำเร็จกว่า
 
http://www.newsdataonline.com/index.php/2011-03-14-05-46-05/2012-08-05-0 4-22-45/78531-2013-08-11-16-31-04
 
รุ่นพี่พี่เอง

 
พี่เค้าเล่าให้ฟังถึงน้ำเสียง การใช้ภาษา
 
ท่าทีครับพี่ น้ำเสียง อันนี้ดูกันออกครับ
 
ผมเล่าละเอียดมากไม่ได้เดี๋ยวรู้ว่าเป็นใครหมด
 
ผมเลยสงสัยเอามาถามเฉยๆ
 
ไม่ได้จะสร้างความแตกแยกครับ
 
ถ้าทำให้ท่านใดไม่พอใจขออภัยนะครับ
 
เพียงแค่อยากทราบสถานะของจีพีที่สังคมภายนอก และสังคมหมอด้วยกันเองตีค่าไว้ว่าอย่างไร
เท่านั้นเองครับ
จากคุณ: necessary evil โพสเมื่อวันที่: 02/01/18 เวลา 12:29:04
คุณค่าของคนในโลกทุนนิยม คือวัดที่เงิน วัดที่อำนาจ จริงๆครับ
 
หมอที่รวยสุดในประเทศก็เป็น GP และไม่มี speciallty คนไหนกล้ากินหัว(ถ้ายังอยากทำงานเอกชนในประเทศไทยหรือในเอเชียอาคเนย์ได้อยู ่นะ)
จากคุณ: drclinic โพสเมื่อวันที่: 02/01/18 เวลา 12:50:28

เป็น  GP ก็ต้องยอมรับความจริงค่ะ  ค่านิยมของสังคม  ก็เป็นหมอชั้นสอง หมอกระจอก ขออภัยใช้คำแรงแต่สื่อถึงความจริงค่ะ
 
(โดนอยู่ทุกวัน 555+)
จากคุณ: doreus โพสเมื่อวันที่: 02/01/18 เวลา 12:53:53
เค้าเป็นgpแต่ไม่ได้ทำงานหมอนะครับ ถ้าอยากรวยอยากมีอำนาจจริงจะมัวมาทำงานgpทำไมครับ
จากคุณ: Supernoid โพสเมื่อวันที่: 02/01/18 เวลา 12:58:46
on 02/01/18 เวลา 12:50:28, drclinic wrote:

เป็น  GP ก็ต้องยอมรับความจริงค่ะ  ค่านิยมของสังคม  ก็เป็นหมอชั้นสอง หมอกระจอก ขออภัยใช้คำแรงแต่สื่อถึงความจริงค่ะ
 
(โดนอยู่ทุกวัน 555+)

 
 
เคยเจอเหมือนกันใช่มั้ยครับ
 
ผมก็เคยครับ
จากคุณ: candy girl โพสเมื่อวันที่: 02/01/18 เวลา 13:19:25
ลองมองที่ตัวคนไข้เป็นหลักไหมค่ะ  
แล้วจะรู้ว่า  ใครมีหน้าที่แค่ไหน
ส่วน หมอที่ทำหน้าที่ซักประวัติตรวจร่างกายอย่างละเอียด  
ก็เป็นผลดีต่อคนไข้ค่ะ
    ส่วนตัวคาดหวัง ให้ จีพี ส่งต่อเคสที่เกินศัดยภาพในการรักษา  ในแง่ เครื่องมือ  การให้การรักษา และ การดูแลความเสี่ยง มากกว่า ส่งต่อเพราะ  ที่ รพ รักษา ได้ แต่จีพี ไม่มีความความรู้    
       แต่อย่างไรก็ตาม  จะรีเฟอ เพราะ ตัวหมอไม่สามารถ รักษา คนไข้ ได้ด้วยเหตุผลอื่น นอกจากข้างต้น ก็ ยังยอมรับได้ค่ะ เช่น คนไข้ต้องการ คนไข้  เป็น difficult patient
จากคุณ: megacure โพสเมื่อวันที่: 02/01/18 เวลา 14:39:41
เป็นเรื่องจริง ที่จริงต้องโทษตั้งแต่โรงเรียนแพทย์เลย มีการ discriminate GP แบบสุด ๆ
 
ทุกคนน่าจะเคยเจอคำพูดประมาณว่า "น้องทำแบบนี้ก็ไม่ต่างจาก GP" หรือ "ถ้ามีความรู้แค่นี้ก็คงเป็นได้แค่ GP"
 
ต้องแก้ไขใหม่ตั้งแต่ระดับอาจารย์แพทย์เลย ให้อาจารย์แพทย์มอง GP ว่าดี มีบทบาทในแบบของตน ไม่ใช่เจอใครทำตัวแย่ก็เปรียบเปรยว่ายังกับ GP
 
การกระทำของราชวิทยาลัยต่าง ๆ ที่พยายามกระทำในเชิงที่ว่าห้าม GP ทำยังงั้นอย่างงี้เพราะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ จุดนี้ก็ต้องระวังเป็นอย่างยิ่ง หลายอย่างเห็นชัดเจนว่าเป็นการเหยียดชนชั้น ไม่ใช่ประสงค์ในความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก
 
แพทย์ที่เป็น GP ก็ควรเติบโตในสายงานได้โดยไม่ต้องเรียนจบบอร์ด เช่น ปลัดกระทรวงเป็น GP ก็เป็นได้ แต่ควรจะเรียนต่อบริหารมาเช่น MBA มากกว่าจะต้องจบบอร์ด
จากคุณ: candy girl โพสเมื่อวันที่: 02/01/18 เวลา 16:29:26
อย่างไหน เป็นประโยชน์ต่อคนไข้ มากที่สุดและปลอดภัย  ความเลือกอันนั้น  มองรายได้ เป็นรอง  รักษา โดยมีหลักฐานทางวิชาการ  
จะรักษาเอง หรือ รีเฟอ  จะ ตัดนม เสริมสวยหรือ  ให้เพาะทางทำ
จากคุณ: devilmanToT @.โหมดลั้นลา โพสเมื่อวันที่: 02/01/18 เวลา 18:00:07
GP สิ สบายดีออก ไม่ต้องรับผิดชอบเยอะ เคสไหนแลดูซับซ้อน สุ่มเสี่ยงต่อการโดนฟ้อง ก็ส่งต่อให้หมด
จากคุณ: Supernoid โพสเมื่อวันที่: 02/01/18 เวลา 18:10:22
on 02/01/18 เวลา 14:39:41, megacure wrote:
เป็นเรื่องจริง ที่จริงต้องโทษตั้งแต่โรงเรียนแพทย์เลย มีการ discriminate GP แบบสุด ๆ
 
ทุกคนน่าจะเคยเจอคำพูดประมาณว่า "น้องทำแบบนี้ก็ไม่ต่างจาก GP" หรือ "ถ้ามีความรู้แค่นี้ก็คงเป็นได้แค่ GP"
 
ต้องแก้ไขใหม่ตั้งแต่ระดับอาจารย์แพทย์เลย ให้อาจารย์แพทย์มอง GP ว่าดี มีบทบาทในแบบของตน ไม่ใช่เจอใครทำตัวแย่ก็เปรียบเปรยว่ายังกับ GP
 
การกระทำของราชวิทยาลัยต่าง ๆ ที่พยายามกระทำในเชิงที่ว่าห้าม GP ทำยังงั้นอย่างงี้เพราะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ จุดนี้ก็ต้องระวังเป็นอย่างยิ่ง หลายอย่างเห็นชัดเจนว่าเป็นการเหยียดชนชั้น ไม่ใช่ประสงค์ในความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก
 
แพทย์ที่เป็น GP ก็ควรเติบโตในสายงานได้โดยไม่ต้องเรียนจบบอร์ด เช่น ปลัดกระทรวงเป็น GP ก็เป็นได้ แต่ควรจะเรียนต่อบริหารมาเช่น MBA มากกว่าจะต้องจบบอร์ด

 
เห็นด้วยครับ
 
บ้านเราคนพูดความจริงจะโดนด่าเอาครับ
จากคุณ: Dunkirk โพสเมื่อวันที่: 02/01/18 เวลา 22:52:18
ผมเป็นสับบอร์ดเมด ผมมองจีพีเป็นหมอตัวจริง
มองตัวเองเป็นกึ่งๆ technician ไม่เหมือนหมอเท่าไหร่
ผมไม่กล้าทำคลอด ไม่กล้ารักษาคนไข้เด็ก รักษาสิวก็ไม่เป็น ใส่เฝือกไม่เป็น ผ่าไส้ติ่งไม่เป็น
สมัยนี้อะไรที่จีพีไม่รู้ กู๊กเกิ้ลในโทรศัพท์แป๊บเดียวก็รู้แล้ว
จากคุณ: DoctorMafia โพสเมื่อวันที่: 02/02/18 เวลา 04:08:28
อยู่ที่คนมากกว่า สมัยก่อนรุ่นพ่อ รุ่นแม่ มีบอร์ดจีพี คือทำได้ทุกอย่างยันต่อแขน ผ่าสมอง เพราะสังคมไม่ใช่แบบปัจจุบัน
จีพี คือรู้รอบ   เชี่ยวชาญคือรู้ลึกแต่อาจไม่รอบ  ถนัดคนละแบบ
สมัยก่อนตอนอยู่เวรเอกชน เป็นจีพี โทรหาอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญ ท่านก็ให้คำตอบด้วยความสุภาพ แถมเรียกเราอาจารย์ด้วย น่ารัก เจอดุๆ ก็แยะ ชินแระ
ทุกวันนี้ เป็นผู้เชี่ยวชาญ จะรีเฟอร์ก็ไม่เห็นต้องโทรมาคุย รับหมด เพราะเข้าใจว่าจีพี รพช ปัจจุบันไม่สามารถทำอะไรได้มากแล้ว เพราะขีดจำกัดมาก  ใช่มั้ย?
จงภูมิใจที่เป็นจีพีเถอะ บางทีไม่ได้ไปเรียน ไม่ใช่ขี่เกียจ แต่อาจมีภาระส่วนตัวของแต่ละท่าน  
 Smiley
จากคุณ: 6699 โพสเมื่อวันที่: 02/02/18 เวลา 05:40:33
ไม่ได้ทำเวชปฏิบัติแล้ว เพราะสุขภาพไม่ดี  
แต่เข้าใจว่า หมอ GP มีที่ยืนในสังคมน้อย ไม่ว่าจะเป็นมุมมองด้านของผู้ป่วย หรือหมอด้วยกัน หรือความก้าวหน้าทางราชการ ในยุคที่ผลิตหมอปีละเกือบสามพันคน แต่ละคนต้องรีบหาที่เรียนต่อ เพื่อไม่ให้ตกรุ่นเหมือนโทรศัพท์มือถือ  
 
ด้านผู้ป่วย หมอเก่ง สู้หมอใกล้ไม่ได้ก็จริง แต่ผู้ป่วยที่เลือกหมอได้ จะทำให้หมอใกล้ทำเรื่องส่งตัวให้หมอเก่งที่อยู่ไกลออกไป ถ้าหมอ GP คนหนึ่ง ทำร้าน ไม่น่าจะรุ่งเรืองมาก หรือถ้ารุ่งเรือง ก็ต้องเลือกที่กันดารมาก ทำให้ภูมิศาสตร์เป็นตัวกำหนดให้คนป่วย ไม่มีที่เลือกไป การทำงานที่รพ.เอกชน ก็ยากมาก แทบจะไม่มีที่เปิดรับสมัครให้ทำงาน ยกเว้นการอยู่เวรตอนดึกซึ่งไม่จีรัง และน่าหดหู่
 
ด้านหมอด้วยกัน  ไม่มีใครทำอะไรให้ใคร ด้วยความสำนึกในบุญคุณที่เคยมีแต่ก่อน แต่จะทำด้วย ความกลัว และความหวังผลตอบแทนในอนาคต  
 
ด้านความก้าวหน้าทางราชการ ไม่น่าจะได้เกิน ซี 8  ถ้าเอารายชื่อของผู้อำนวยการโรงพยาบาล หรือรองผอ. หรือรายชื่อของผู้บริหารในกระทรวง ความน่าจะเป็นหมอ GP ในพ.ศ. นี้ มีน้อยมาก แต่ละคน ได้บอร์ดอย่างใดอย่างหนึ่งมาก่อน และยิ่งในอนาคต อาจจะต้องเพิ่มเงื่อนไขอีก เช่นสามารถพูดภาษาต่างประเทศได้อย่างดี
จากคุณ: Supernoid โพสเมื่อวันที่: 02/02/18 เวลา 07:52:18
on 02/02/18 เวลา 05:40:33, 6699 wrote:

ด้านหมอด้วยกัน  ไม่มีใครทำอะไรให้ใคร ด้วยความสำนึกในบุญคุณที่เคยมีแต่ก่อน แต่จะทำด้วย ความกลัว และความหวังผลตอบแทนในอนาคต

 
เห็นด้วยอย่างมากโดยเฉพาะย่อหน้านี้ครับ
จากคุณ: candy girl โพสเมื่อวันที่: 02/02/18 เวลา 08:20:55
เราว่าหมอเฉพาะทางเค้า ก็ไม่เห็นว่าไรเลย ถ้าจีพีมีเหตุผล มีความรู้  ส่วนคนไข้ ก็  ถ้ารักษาเค้าได้ ให้คำตอบเค้าได้  ก็ระดับนึงไม่ใช่ทุกคนไปหาหมอเฉพาะทางนะ  
    เบื้องหลังที่โดน ด่า เรื่องรีเฟอ  มันมี hidden agendaไรป่าว แต่ถ้าคิดจะหารายได้ จะskill ที่ไม่เชี่ยวชาญ  ไม่ใช่ภาวะฉุกเฉิน เอาคนไข้ มาลอง นี่ ใจเขาใจเราค่ะ  ถ้าเป็น ญาติ หมอ หมอจะเลือกแพทย์แบบไหน
 จะให้คุณค่า ตัวเองจากปากคนอื่น  ......
ส่วนตัว ดิฉัน รู้ มีค่า เวลา รักษา คุณไข้ แล้วมีคำว่าขอบคุณจากปากคนไข้
จากคุณ: candy girl โพสเมื่อวันที่: 02/02/18 เวลา 08:21:57
มักเจอในคนไข้  ที่รักษา ฟรี  5555
จากคุณ: <<BluE_BurN>> โพสเมื่อวันที่: 02/02/18 เวลา 09:19:09
Quote:
ด้านหมอด้วยกัน  ไม่มีใครทำอะไรให้ใคร ด้วยความสำนึกในบุญคุณที่เคยมีแต่ก่อน แต่จะทำด้วย ความกลัว และความหวังผลตอบแทนในอนาคต

 
on 02/02/18 เวลา 07:52:18, Supernoid wrote:

 
เห็นด้วยอย่างมากโดยเฉพาะย่อหน้านี้ครับ

 
 
ผมกลับไม่เห็นด้วยอย่างมาก  ทุกวันนี้เวลามีหมอด้วยกันหรือแม้แต่ญาติหมอมาปรึกษาหรือรักษา  แทบไม่เคยคิดค่ายาค่ารักษาเวันแต่ว่าตัวยาแพงมาก ๆ   เวลาไปรักษากับเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ หมอ ก็ไม่เคยโดนค่า DF โหด ๆ   มีแต่ชวนให้ไปทำที่รพ.รัฐฯที่หมอเหล่านั้นทำอยู่ จะได้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายมาก
 
ย่ิ่งถ้าเป็นรุ่นพี่เป็นน้อง เป็นเพื่อนที่รู้จักเป็นการส่วนตัวนี่  ช่วยกันเต็มที่
 
สงสัยจะอยู่คนกันละสังคม คนละยุคกัน
 
จากคุณ: megacure โพสเมื่อวันที่: 02/02/18 เวลา 09:39:29
ผู้บริหารโรงพยาบาลควรเป็นแพทย์เฉพาะทาง หรือว่าควรเป็นนักบริหารมืออาชีพ(เรียนต่อบริหาร เช่น MBA MPPM) ผมว่ามันชัดเจนว่าเราใช้คนผิดประเภท
จากคุณ: Echo โพสเมื่อวันที่: 02/02/18 เวลา 17:54:08
refer เร็วก็ว่า ช้าก็ด่า
จากคุณ: brownie โพสเมื่อวันที่: 02/04/18 เวลา 00:49:37
ข้อมูลที่เล่ามา จขกท.ฟังจากคนอื่นอีกที ผู้เล่าก็แค่ได้ยินเสียงจากการพูดคุยทางโทรศัพท์ ไม่ได้เห็นท่าทางต่อหน้า อย่าเพิ่งไปตัดสินว่า หมอเฉพาะทางคนนั้นมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อ GP
 
GP ยังไงก็ยังสำคัญ จะให้หมอเฉพาะทางบางสาขา สกรีนเคสทั่วไป ตรวจรักษา ER ยังไงก็สู้ GP ไม่ได้
จากคุณ: หมอเมืองสยาม โพสเมื่อวันที่: 02/04/18 เวลา 11:32:55
       GPเหมือนอาหารจานเด็ด  ส่วนSpecialistก็เหมือนต้มซีอิ้ว กับ เติมน้ำจิ้มลงไปอีก ครับ...
จากคุณ: drclinic โพสเมื่อวันที่: 02/06/18 เวลา 09:52:55
on 02/01/18 เวลา 12:58:46, Supernoid wrote:

 
 
เคยเจอเหมือนกันใช่มั้ยครับ
 
ผมก็เคยครับ

 
ทุกวันค่ะ   Wink
จากคุณ: หมอเมืองสยาม โพสเมื่อวันที่: 02/06/18 เวลา 15:02:51
      Specialist(บางคน)คิดยังไงกับGP ? - " ในหัวGPมีแต่นุ่นยัดไว้ ".!?!..
จากคุณ: Hybrid VI โพสเมื่อวันที่: 02/09/18 เวลา 17:56:44
on 02/01/18 เวลา 12:29:04, necessary evil wrote:
คุณค่าของคนในโลกทุนนิยม คือวัดที่เงิน วัดที่อำนาจ จริงๆครับ
 
หมอที่รวยสุดในประเทศก็เป็น GP และไม่มี speciallty คนไหนกล้ากินหัว(ถ้ายังอยากทำงานเอกชนในประเทศไทยหรือในเอเชียอาคเนย์ได้อยู่นะ)

 
หมอปราเสริฐ เข้าใจว่าเป็นหมอศัลย์นะครับ
จากคุณ: spiderman โพสเมื่อวันที่: 03/01/18 เวลา 19:44:58
gp ดีๆช่วยเหลือคนไข้จริงๆผมก็นับถือนะครับ แต่มีบางคนเปิดแต่คลินิก แล้วรักษามั่วๆเอาแต่เงินอย่างเดียวแบบนี้ก็ต้องโดนดูถูก เป็นไปตามกรรมที่ทำใว้แหล่ะครับ


  • ข้อความและรูปภาพที่ท่านเห็นส่วนใหญ่ ได้ถูกส่งมาจาก ทางบ้าน
    ทางเว็บไซต์ Thaiclinic.com ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของข้อความและรูปภาพที่ถูกส่งมา

  • ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชนและส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ
    เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง
    ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง

  • ถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมหรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล
    หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ webmaster@thaiclinic.com หรือ กดแจ้งที่ปุ่ม
    "แจ้งลบกระทู้"
    เพื่อให้ทีมงานทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ครับ

ThaiClinic.Com . All Rights Reserved. !--BEGIN WEB STAT CODE-->

Powered by