หน้าแรกเว็บบอร์ด หน้าแรกเว็บบอร์ด
   For MD.
   Doctor Room l ห้องพักแพทย์
   Post reply ( Re: ผู้ป่วยบอกว่าจะไปแจ้งความ )
ขอเชิญเพื่อนแพทย์พูดคุย แสดงความคิดเห็นครับ
หัวข้อ:
ใส่ชื่อ:
Email:
Add YABBC tags:
Add Smileys: <more...>
ข้อความ:

Disable Smilies




Topic Summary
จากคุณ: noyjirat โพสเมื่อวันที่: 11/29/17 เวลา 01:53:09
 คนไข้ชาย อายุ 65 ปี ปวดฟันกรามบนขวาซี่สุดท้าย Imp. root abscess Rx.
para IM + pen V400000 + brufen + alum tab วันต่อมา นัด para IM ซ้ำ
ผู้ป่วย บอก อาการดีขึ้น เว้น 1 วัน คนไข้ กลับมาบอกว่า เจ็บสะโพก ขาซ้ายไม่ค่อยมีแรง เป็นตั้งแต่ คืนที่ฉีดยาวันที่ 2 กลัวจะเป็นอัมพาต สงสัยว่า หมอจะฉีดโดนเส้น  
    หมอ[ผม]บอกว่าไม่ได้ฉีดโดนเส้นอะไร เพราะถ้าโดนอะไรผิดปกติ คงมีอาการปวดตั้งแต่ตอนฉีดแล้ว ไปทำอย่างอื่นที่อาจทำให้เจ็บหรือเปล่า ผู้ป่วย
บอกว่าไม่ได้ทำอะไร ส่วนผมก็ยืนยันว่าไม่ได้เกิดจากฉีดยา สรุป ผู้ป่วยบอกว่าจะไปแจ้งความ  
     ผมควรทำอย่างไร Huh Huh
จากคุณ: misspeaceful โพสเมื่อวันที่: 11/29/17 เวลา 06:48:31
Huh Huh Huh
จากคุณ: bridge โพสเมื่อวันที่: 11/29/17 เวลา 07:47:00
ทำประกันวิชาชีพครับ
เลิกฉีดพารา im ด้วยครับจากที่อ่านคนไข้ ทานได้แล้วการฉีด imไม่มีข้อมูลสนับสนุนว่าออกฤทธิ์ได้เร็วกว่า oral
จากคุณ: know555 โพสเมื่อวันที่: 11/29/17 เวลา 10:58:23
Injection palsy can begin suddenly or hours following damage to the sciatic nerve. Misplaced intramuscular injection at the gluteal region is the most common cause of injury  
 
The persistent and most reported symptoms are pain and abnormal gait pattern.
 
Foot drop
External rotation and abduction contracture of the hip
Equinovarus or Equinus deformity
Muscular weakness/atrophy
Motor and sensory deficit such as paresthesia and numbnes
 
In most cases, symptoms of sciatic nerve injury does not respond to the use of NSAIDS, opiods and myorelaxants. However, the use of methyl prednisolone via transscaral block was effective to manage the neuropathic pain, motor and sensory decifits. In addition, a recent study showed beneficial use of methyprednisolone via both intravenous and oral routes.
 
Surgery is opted for patients that did not improve beyond 3 months of sustaining injection palsy
 
 
 
หวังวาจะไม่ใช่นะครับ   ลองตรวจร่างกายดูก่อนและสงทำEMG
 
ปล1 paraผมก็ฉีดบ่อย  จึงคิดว่าถ้าถูกตำแหน่งไม่น่ามีปัญหาจากยา
ปล2 อย่าคิดว่าฉีดยานั้นหมู  แล้วคิดค่าฉีดยาถูกๆ เพราะถ้าเกิดปัญหาจะไม่คุ้มค่า  แค่ไม่สบายใจก็ไม่คุ้มแล้ว  หมอใหม่ๆมักใจกล้าและประมาท  ต้องเก้บการฉีดยาสำหรับคนที่จำเป็นหรือจ่ายได้ในราคาสูง(เพราะความเสี่ยงมีม ากขึ้น)
จากคุณ: doreus โพสเมื่อวันที่: 11/29/17 เวลา 11:25:27
ทำไมไม่ลองตรวจก่อนล่ะครับ หรือแบบแสดงออกว่าอาจจะต้องconsult เพราะ ผป มีอาการเค้าต้องตกใจแน่ๆ ไปปัดความรับผิดชอบทันทีเค้าก็โกรธ เรื่องจะเลยเถิดไปไกล เคสนี้ถ้าถึง second opinion แล้วพิสูจน์ได้ว่าหมอผิดจริง เดาว่า เละ
จากคุณ: anantom โพสเมื่อวันที่: 11/29/17 เวลา 11:50:01
para IM + pen V400000 + brufen + alum tab  
ทำไมต้องให้alum tab  
para im ปกติไม่ให้ครับ ถ้าปวดมากให้ codiene tab ครับ
จากคุณ: หมอเมืองสยาม โพสเมื่อวันที่: 11/29/17 เวลา 12:11:34
     ทำไงดี ?  - " แหม...คนไข้พูดแค่นี้  คุณก็ขวัญกระเจิงเสียแล้ว    คนไข้รู้คงหัวเราะเยาะตาย "
จากคุณ: know555 โพสเมื่อวันที่: 11/29/17 เวลา 12:39:14
on 11/29/17 เวลา 11:50:01, anantom wrote:
para IM + pen V400000 + brufen + alum tab  
ทำไมต้องให้alum tab  
para im ปกติไม่ให้ครับ ถ้าปวดมากให้ codiene tab ครับ

 
 
เคยเจอคนไข้อายุประมาณ30ชาย มาเรื่องback pain เลยให้กลุ่มnsaids&mydocalm 4-5วันกลับมาด่าว่าปวดท้องแสบท้องเพราะยาไปกัดกระเพาะ แถมไม่ให้ยาลดกรดไปกินป้องกันไว้อีก555  
ปล เล่าให้ฟังเฉยๆนะ  ไม่ได้แปลว่าจะต้องให้ยาลดกรดทุกราย  ผมว่าเลอกเฉพาะที่แก่ๆหรือมีโรคแผลอยู่ก่อนและทานยาหลายวันดีกว่า  
 
 
ส่วนไอ้paraที่มชอบฉีดนั่นเพราะไม่ได้หวังผลลดปวดอะไรมากมายหรอกครับ  แต่เข่าใจอารมณ์คนไข้ที่มันอยากฉีดยามั้ย  จะเอาnsaidsก็กลัวแพ้ยา กลัวปวด  ไม่รู้จะเอาอะไรให้ดี  ก็อันนี้แหละว้า  แพ้น้อยสุด ลดปวดก็ได้  หาง่าย(ไม่ต้องขออนุญาติซื้อเหมือนmo/tramol) ได้ฉีดยาสมใจคนไข้ด้วย    
 
 
นี่เป็นแค่คหสต.นะ ไม่ใช่ทฤษฎีอะไร555 Grin
จากคุณ: doreus โพสเมื่อวันที่: 11/29/17 เวลา 14:36:04
on 11/29/17 เวลา 12:39:14, know555 wrote:

 
 
เคยเจอคนไข้อายุประมาณ30ชาย มาเรื่องback pain เลยให้กลุ่มnsaids&mydocalm 4-5วันกลับมาด่าว่าปวดท้องแสบท้องเพราะยาไปกัดกระเพาะ แถมไม่ให้ยาลดกรดไปกินป้องกันไว้อีก555  
ปล เล่าให้ฟังเฉยๆนะ  ไม่ได้แปลว่าจะต้องให้ยาลดกรดทุกราย  ผมว่าเลอกเฉพาะที่แก่ๆหรือมีโรคแผลอยู่ก่อนและทานยาหลายวันดีกว่า  
 
 
ส่วนไอ้paraที่มชอบฉีดนั่นเพราะไม่ได้หวังผลลดปวดอะไรมากมายหรอกครับ  แต่เข่าใจอารมณ์คนไข้ที่มันอยากฉีดยามั้ย  จะเอาnsaidsก็กลัวแพ้ยา กลัวปวด  ไม่รู้จะเอาอะไรให้ดี  ก็อันนี้แหละว้า  แพ้น้อยสุด ลดปวดก็ได้  หาง่าย(ไม่ต้องขออนุญาติซื้อเหมือนmo/tramol) ได้ฉีดยาสมใจคนไข้ด้วย    
 
 
นี่เป็นแค่คหสต.นะ ไม่ใช่ทฤษฎีอะไร555 Grin

 
 
พี่ไม่รู้ว่าสมัยนี้เค้าใช้ alum tab กันside effect ของnsaid กันได้แล้วเหรอ สมัยเรียน เค้าให้ใช้proton pump เพราะalum tab กันไม่ได้ และทำให้ยาดูดซึมไม่ดี  ขอความรู้ด้วยคนครับ
จากคุณ: :: King of BANPU :: โพสเมื่อวันที่: 11/29/17 เวลา 16:07:55

ตรวจร่างกายให้ละเอียด + refer   Smiley
 
จากคุณ: know555 โพสเมื่อวันที่: 11/29/17 เวลา 17:51:49
on 11/29/17 เวลา 14:36:04, doreus wrote:

 
 
พี่ไม่รู้ว่าสมัยนี้เค้าใช้ alum tab กันside effect ของnsaid กันได้แล้วเหรอ สมัยเรียน เค้าให้ใช้proton pump เพราะalum tab กันไม่ได้ และทำให้ยาดูดซึมไม่ดี  ขอความรู้ด้วยคนครับ

 
 
เห็นด้วยกับพี่ครับว่าalum tabไม่ใช่standardครับ น้องเค้าคงเอามาแทนยาอื่นมั้ง
 
Two methods are commonly employed to prevent the development of peptic ulceration and mucosal injury in patients taking NSAIDs:  
(i) co-therapy with a PPI, high-dose (2เท่า)H2RA, or the synthetic prostaglandin E1 analog, misoprostol
(ii) substitution of a COX-2 inhibitor for a traditional NSAID.  
 
Although co-therapy with a standard-dose H2RA may prevent duodenal ulcers it has not been shown to prevent NSAID-related gastric ulceration.  
 
Enteric coating or buffering of NSAIDs and co-therapy with sucralfate have not been shown to be effective in preventing NSAID-related gastric or duodenal ulceration
จากคุณ: brownie โพสเมื่อวันที่: 11/29/17 เวลา 18:48:06
จริงๆ เรื่องการฉีดยาไม่หมูนะครับ ตามคลินิกอย่าไว้ใจพยาบาลมาก ถ้าไม่จำเป็น ผมก็ไม่ฉีด
เคยมีเคสฉีดยา IM แล้วติดเชือก็มีครับ
 
ส่วนยา amoxy  น่าจะครอบคลุมเชื้อดีกว่านะครับ
 
เคสนี้ให้คนช่วยพูดให้ประนีประนอมดีกว่า เพราะการรักษาก็แปลกๆหลายอย่าง
จากคุณ: Blitz โพสเมื่อวันที่: 11/29/17 เวลา 20:18:52
 ทำประกันก่อนเลย ถ้าจะฉีดยาเอง
  ถ้าคนไข้สงสัย อย่าร้อนรน อย่าปฏิเสธ ขอตรวจร่างกายเขาก่อน  และ เสนอความช่วยเหลือเช่น เขียนใบส่งต่อเพื่อตรวจเพิ่ม ให้ยากินบรรเทาอาการ หมอส่วนใหญ่ไม่ฆ่ากันเอง(หรือเปล่า) ถ้าส่งต่อไปโดยเขียนใบอธิบายอาการไป ก็คงจะช่วยกันอธิบายให้คนไข้ผ่อนหนักเป็นเบาครับ  ที่ รพ ผมก็เคยเจอที่ จนท. ฉีดแล้วเดินไม่ได้ถาวรเลย ก็ใช้สติ แก้ด้วยคำว่าเป็นผลข้างเคียงที่เจอได้น้อย  ไม่มีคำว่าฉีดผิดหรือใครผิด  มีแต่ รพ จะรับดูแลต่อให้เต็มที่ ก็รอดมาได้นะครับ  ญาติก็ไม่เอาเรื่องเอาความ  เรื่องแบบนี้ยิ่งปัดออกยิ่งมีปัญหาครับ
จากคุณ: noyjirat โพสเมื่อวันที่: 11/30/17 เวลา 02:41:29
ขอบคุณ สำหรับความเห็นดีๆมีประโยชน์ โดยเฉพาะ ความรู้จาก คห.3 ครับ แสดงว่า อาการนี้ อาจเกิดจากการฉีดยาได้จริง โดยที่ไม่ต้องเกิดทันทีหลังฉีด แต่อาจ
เกิดหลังจากการฉีดหลายชั่วโมงก็ได้ และสาเหตุส่วนใหญ่ เกิดจากฉีดผิดที่
แสดงว่า แม้จะฉีดถูกที่ส่วนน้อยก็ยังคงเกิดอาการนี้ขึ้นได้ ผมเข้าใจถูกไหมครับ
 ถ้าเป็นเช่นนี้ เหตุการณ์อย่างนี้ก็อาจเกิดได้กับแพทย์ทุกๆท่านที่ทั้งที่ฉีดเองหรือให้พยาบ าลฉืด ปัญหาก็คือ
   1. จะพิสูจน์อย่างไร ว่าเกิดจากการฉีดยาจริงๆ อันนี้หมายรวมไปถึง มิจฉาชีพที่คอยจ้องจะหลอกเงินจากทุกๆอยู่ท่าน เพราะท่านจะไปรู้ได้ยังไง ว่าเจ็บจริงหรือเจ็บหลอก
   2. การฉีดยาเป็นการบริหารยา ที่เกิดขึ้นเสมอ แพทย์ทุกคนต้องเคยทำ หรือสั่งให้พยาบาลทำ ถ้าผู้ป่วยบอกว่าตัวเองมีอาการเช่นนี้ แพทย์ผู้นั้นจะต้องรับผิดชอบถึงระดับไหน ที่ว่าให้ refer หรือ consult อาจช่วยประนีประนอมปัญหา แต่ก็อาจเกิด second opinion ของ คห.4 ที่ทำให้ท่านเละ
กว่าเดิมก็ได้ ยิ่งปัจจุบัน มีการแชร์ comment ทั้งหลายจะช่วยยุยงให้เรื่อง
มันใหญ่ขึ้น
 ผมก็อยู่ในเรือลำเดียวกับแพทย์ทุกท่าน ปัญหาของผมมันจบลงอย่างไร
ก็จะเป็นกระจกให้ทุกท่าน ส่องดูตัวเองนั่นแหละครับ
     เมื่อเกิดปัญหาขึ้น ไม่มีอะไรคุ้มครอง แพทย์ได้เลยหรือครับ หวังได้แค่เพียง การประนีประนอม ขอความเห็นใจ ตาม คห.11 เท่านั้นหรือครับ
จากคุณ: doreus โพสเมื่อวันที่: 11/30/17 เวลา 09:36:16
1 จากการตรวจร่างกาย ไงครับ มิจฉาชีพคอยจ้องหลอกเงินแพทย์ที่มีความรู้ดีในเรื่องที่ตนทำ ยากมาก.  แต่ไม่ได้หมายความว่า เรามีความรู้ดีแล้วจะไม่เกิดอุบัติเหตุทางการแพทย์นะครับ เกิดได้ตลอดโดยเฉพาะยิ่งคนไข้เยอะก็ยิ่งมีโอกาสเกิด เค้าถึงมี CPG กันไงครับ
2 ฉีดยาหรือบริหารยาควรทำเท่าที่จำเป็น และดูประโยชน์ผู้ป่วยไม่ใช่ตามใจผู้ป่วย อย่างความรู้เรื่อง para กิน กับฉีด ผลไม่ต่างกัน ต้องถามตัวเองว่าทำไมเลือกฉีด แพทย์ต้องรับผิดชอบตั้งแต่เริ่มตรวจร่างกายคนไข้ยันส่งคนไข้กลับบ้านแหละครั บ ถ้าผิดขั้นตอนไหนก็คือผิดทั้งหมด เช่น diagnosis root abscess จากอะไร มีฟิลม์มั้ยทำไมไม่ส่งต่อให้หมอฟัน ส่วนรุนแรงแค่ไหนถ้าดำเนินการในชั้นศาลแล้วก็สุดแต่ศาลจะพิจารณาเป็นเรื่องค วบคุมไม่ได้ ดังนั้นไม่ควรมีเรื่องในชั้นศาล เพราะที่บอก 2 opinion ก็อาจจะไม่ใช่คนคนเดียวก็ได้ ส่วนเรื่อง refer การประกอบธุรกิจต้องมีเพื่อนมีอาจารย์ที่ไว้ใจไว้consult บ้างครับ เค้าเรียกว่า CONNECTION ซึ่งสำคัญมากในการทำธุรกิจ
3 เมื่อเกิดปัญหา ตอนนี้มีประกันพอจะช่วยได้ครับซึ่งประกันเองก็ใช้การประนีประนอมเหมือนกัน ประนีประนอมไม่ใช่แพ้ นะครับ แต่แค่ทำให้เรื่องยุ่งยากน้อยลง ดีทั้งสองฝ่ายทั้งแพทย์เองและผู้ป่วย. ที่สำคัญคือความรู้ ควรupdate ความรู้ตนเองอย่างต่อเนื่อง มันจะป้องกัน ทั้งก่อน ขณะ และหลังการเกิดความผิดพลาดทางการแพทย์ได้
หวังว่าคงได้อะไรบ้าง ส่วนตัวคิดว่าถ้าไม่ใช่ injection site  abscess เดี๋ยวคนไข้ก็หาย แต่ควรดูแลเช่นนัดมาดู หรือพาไปพบแพทย์ที่รพ.เอกชน ให้เค้าเห็นว่าเราไม่ทอดทิ้ง อยู่เคียงข้างเค้าตลอด เรื่องเกิดยากมาก และตามมารยาทแพทย์ส่วนใหญ่จะไม่ซ้ำเติมกันหรอกครับจากที่ประสบมา เพราะสมัยก่อนเราสอนกันมาอย่างนั้น
จากคุณ: หมอเมืองสยาม โพสเมื่อวันที่: 11/30/17 เวลา 11:20:04
     คุณนี่ใจเต้าหู้จริงๆ    คนไข้พูดแค่นี้ก็ทำคุณกลัวตัวสั่นติ้วๆ  กลัวจนขี้หักใน    อย่าห่วง....เรื่องอาจไม่เป็นอย่างที่นึก   และคนจริงไม่พูดเยอะ  ครับ
จากคุณ: know555 โพสเมื่อวันที่: 11/30/17 เวลา 11:22:55
ให้ตรวจสะโพกแล้วหารอยเข็มให้เร็วที่สุดและถ่ายรูปเก็บไว้    เพราะถ้าศาลเห็นตำแหน่งที่เราฉีดถูกต้องก็ไม่สามารถเอาผิดเราได้
 
ปล ปัญหาของน้องดีมากครับ ช่วยเตือนสติพี่ๆด้วยเช่นกัน  ว่านอกจากจะระวังแล้ว  การปฎิบัติตัวหลังเกิดเรื่องไปแล้วก็คือแบ่งรับแบ่งสู้ไว้ก่อน  ถ้ามั่นใจว่าทำถูก มีหลักฐานก็โต้ข้อกล่าวหาได้เลย  แต่ถ้ายังไม่แน่ใจต้องสืบค้นหาหลักฐานไว้ให้มากที่สุดซึ่งก็คือตรวจร่างกาย และตรวจEMGครับ     มีเบอร์โทรคนไข้ไหมครับลองโทรไปถามอาการดู  แล้วเรียกมาตรวจใหม่อีกทีดีมั้ยครับ  ถ้ามั่นใจว่าเราไม่ผิดก็บอกคนไข้ไปว่าค่าตรวจให้คนไข้ออกไปก่อน แล้วหากผลพิสูจน์ออกมาว่าเกิดจากความผิดพลาดของเราจะคืนเงินให้พร้อมออกค่าร ักษา
จากคุณ: drclinic โพสเมื่อวันที่: 11/30/17 เวลา 15:34:09

คุยกับเขาดีๆค่ะ
 
ว่าถ้าสงสัยว่ามีอาการแทรกซ้อนจากการฉีดยาจริง
 
ให้ไปตรวจกับแพทย์  ortho  เพื่อขอใบรับรอง
 
แล้วจะชดใช้ค่าเสียหายให้
 
ถ้าเขาไม่ตรวจเพิ่มเติมแล้วมาโมเมว่าเป็นเพราะเราฉีดยาให้  ก็ไม่แฟร์ ศาลก็น่าจะรับฟัง
จากคุณ: Hybrid VI โพสเมื่อวันที่: 11/30/17 เวลา 18:29:22
Para IM ยังมีฉีดอยู่อีกเหรอ..  Shocked
จากคุณ: Vast โพสเมื่อวันที่: 11/30/17 เวลา 19:47:24
MRI จะช่วยบอกลักษณะ lesion ได้ครับ  
ยังไงลองส่งพบแพทย์เฉพาะทางดูก่อน อย่าเพิ่งปัดความรับผิดชอบ
ถ้าจะให้ดีเป็นหมอไม่ควรตามใจคนไข้ครับ เพราะถ้าเกิดเรื่องแบบนี้เราซวย
จากคุณ: Obes โพสเมื่อวันที่: 11/30/17 เวลา 22:57:54
เคยเจอเคสคล้ายๆๆกันค่ะ  แต่ไม่ได้เป้นคนสั่งฉีดยา  เคยได้รับรายงานมา
 
1. ควรมีการพูดคุยอย่างประนีประนอม ตั้งแต่เริ่มต้นค่ะ อาจเป้นเพราะ จขกท  มั่นใจเกินไปว่าไม่ได้เกิดจากการฉีดยา มันทำให้สัมพันธภาพแย่ลง  
2. ส่งปรึกษาหมอกระดูก ให้ตรวจอย่างละเอียด ว่ามีสาเหตุจากอย่างอื่นหรือไม่ก่อนค่ะ
3. ฉีดยาโดนnerve ส่วนใหญ่ recover นะคะ  ขึ้นอยุ่ว่า  จะช้าหรือเร็วค่ะ
4. เป็นกำลังใจให้ค่ะ  ความดีจะปกป้องเราค่ะ  ถ้าเราทำด้วยเจตนาที่ดี  
 
จากคุณ: หมอเมืองสยาม โพสเมื่อวันที่: 12/01/17 เวลา 11:19:16
       ทำไงดี ? - ทำอะไรอยู่ที่น้ำหนักของเรื่อง  กรณีของคุณตอนนี้ยังไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น ครับ....
จากคุณ: bodinkung โพสเมื่อวันที่: 12/01/17 เวลา 12:52:19
ผิดตั้งแต่ไม่ส่งหมอฟันแล้วครับ
 
ถอนฟันออกก็จบ จ่ายยาฉีดยา ต้นเหตุของโรคมันหายไป? Huh
จากคุณ: อาร์ตสุดติ่ง โพสเมื่อวันที่: 12/02/17 เวลา 11:27:19
on 11/29/17 เวลา 14:36:04, doreus wrote:

 
 
พี่ไม่รู้ว่าสมัยนี้เค้าใช้ alum tab กันside effect ของnsaid กันได้แล้วเหรอ สมัยเรียน เค้าให้ใช้proton pump เพราะalum tab กันไม่ได้ และทำให้ยาดูดซึมไม่ดี  ขอความรู้ด้วยคนครับ

 
พูดดีได้ครั้งแรกครับ ผมใช้แต่cereblex
จากคุณ: อาร์ตสุดติ่ง โพสเมื่อวันที่: 12/02/17 เวลา 11:29:17
on 12/01/17 เวลา 12:52:19, bodinkung wrote:
ผิดตั้งแต่ไม่ส่งหมอฟันแล้วครับ
 
ถอนฟันออกก็จบ จ่ายยาฉีดยา ต้นเหตุของโรคมันหายไป? Huh

 
หมอฟันไม่ถอนครับ จนกว่าจะหายปวด และติดเชื้อ
จากคุณ: อาร์ตสุดติ่ง โพสเมื่อวันที่: 12/02/17 เวลา 11:32:38
on 11/29/17 เวลา 01:53:09, noyjirat wrote:
 คนไข้ชาย อายุ 65 ปี ปวดฟันกรามบนขวาซี่สุดท้าย Imp. root abscess Rx.
para IM + pen V400000 + brufen + alum tab วันต่อมา นัด para IM ซ้ำ
ผู้ป่วย บอก อาการดีขึ้น เว้น 1 วัน คนไข้ กลับมาบอกว่า เจ็บสะโพก ขาซ้ายไม่ค่อยมีแรง เป็นตั้งแต่ คืนที่ฉีดยาวันที่ 2 กลัวจะเป็นอัมพาต สงสัยว่า หมอจะฉีดโดนเส้น  
    หมอ[ผม]บอกว่าไม่ได้ฉีดโดนเส้นอะไร เพราะถ้าโดนอะไรผิดปกติ คงมีอาการปวดตั้งแต่ตอนฉีดแล้ว ไปทำอย่างอื่นที่อาจทำให้เจ็บหรือเปล่า ผู้ป่วย
บอกว่าไม่ได้ทำอะไร ส่วนผมก็ยืนยันว่าไม่ได้เกิดจากฉีดยา สรุป ผู้ป่วยบอกว่าจะไปแจ้งความ  
     ผมควรทำอย่างไร Huh Huh

 
โดนnerve ต้องมีsciatic symtom
 
ออ้ ผมใช้Augmantinครับ กินcodienและPARA
 
 
จากคุณ: Head_transplant โพสเมื่อวันที่: 12/02/17 เวลา 12:29:17
on 12/02/17 เวลา 11:27:19, อาร์ตสุดติ่ง wrote:

 
พูดดีได้ครั้งแรกครับ ผมใช้แต่cereblex

 
Celebrex
จากคุณ: หมอเมืองสยาม โพสเมื่อวันที่: 12/02/17 เวลา 19:25:46
       ยังไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น   ดูเหมือน หมอ กับ คนไข้ ตื่นตูมพอๆกัน...
จากคุณ: doreus โพสเมื่อวันที่: 12/04/17 เวลา 14:37:43
on 12/02/17 เวลา 11:29:17, อาร์ตสุดติ่ง wrote:

 
หมอฟันไม่ถอนครับ จนกว่าจะหายปวด และติดเชื้อ

 
antibiotics aren't routinely prescribed for dental abscesses, but may be used if the infection spreads or is particularly severe.
 
ส่วน cerebrex ไม่ทราบจะสื่ออะไร  
ดูจากสองเม้นท์พอจะเดาอายุได้ว่าต้องไม่ใช่หมอเด็กๆแล้ว และไม่ค่อยได้practiceแล้วแน่ๆ
จากคุณ: หมอเมืองสยาม โพสเมื่อวันที่: 12/05/17 เวลา 13:24:11
      ถูกขู่ฟ้อง? - ให้ตอบว่า " คุณต้องแพ้แน่ และผมจะฟ้องกลับ "...
จากคุณ: หมอเมืองสยาม โพสเมื่อวันที่: 12/09/17 เวลา 11:52:49
   จู่ๆคนไข้ขู่ฟอดๆ  ทำไง(ดี)? - ให้บอกว่า " เห่าพอหรือยัง"...
จากคุณ: หมอเมืองสยาม โพสเมื่อวันที่: 12/10/17 เวลา 11:14:46
    ทำไงดี ? - " ใช้กลวิธีเตะตัดแข้ง ครับ  ให้บอกว่า อย่าพูดพล่อยๆ  และเราจะฟ้องกลับ "
จากคุณ: doctoranch โพสเมื่อวันที่: 12/11/17 เวลา 07:17:14
นี่เป็นตัวอย่างที่ดี ถามหน่อยถ้ามีคนไข้หลงมาที่แผนกในรพ.รัฐจะรักษาแบบนี้ไหมหรือconsult dendistHuh  มีบ่อยที่ผมไมเข้าใจว่าทำไมพี่ๆน้องๆหมอจึงชอบ hold case ที่ไม่ใช่ของตัว อยู่รพ.เกี่ยงเคส แต่อยู่คลินิกเอาหมด. เรื่องหมอฟันไม่ถอนตอนอักเสบเป็นเรื่องจริง(ถูกไม่ถูกไม่รู้แต่เจอบ่อยมากคร ับ)แต่ก็ไม่ควรตัดสินใจรักษาเอง ถ้าฟ้องร้องก็คงตกม้าตายตั้งแต่แรก
จากคุณ: หมอเมืองสยาม โพสเมื่อวันที่: 12/11/17 เวลา 12:19:03
       คนไข้ขู่ฟ้อง ทำไงดี ? - " ส้นตีน"...
จากคุณ: หมอเมืองสยาม โพสเมื่อวันที่: 12/20/17 เวลา 11:59:28
        คนไข้ขู่  ทำไง? - คำตอบ " ขู่กลับ ครับ"
จากคุณ: jubjeab โพสเมื่อวันที่: 01/23/18 เวลา 21:27:07
อธิบายแล้วไม่เข้าใจก็เฉยๆไว้ครับ ถ้าเราไม่ผิดไม่ต้องกลัว


  • ข้อความและรูปภาพที่ท่านเห็นส่วนใหญ่ ได้ถูกส่งมาจาก ทางบ้าน
    ทางเว็บไซต์ Thaiclinic.com ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของข้อความและรูปภาพที่ถูกส่งมา

  • ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชนและส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ
    เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง
    ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง

  • ถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมหรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล
    หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ webmaster@thaiclinic.com หรือ กดแจ้งที่ปุ่ม
    "แจ้งลบกระทู้"
    เพื่อให้ทีมงานทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ครับ

ThaiClinic.Com . All Rights Reserved. !--BEGIN WEB STAT CODE-->

Powered by