Topic Summary
|
จากคุณ: yui |
โพสเมื่อวันที่: 11/13/17 เวลา 19:17:30 |
ประเทศญี่ปุ่น เมื่อ ค.ศ. 2002 การสิ้น ชีพิตักษัยของเจ้าชายทาคามาโดะ โนริฮิโตะ( Prince Takamado Norihito ) รัชทายาทอันดับที่ 7 แห่งราชวงศ์ญี่ปุ่น ในขณะทรงกีฬา Squas สร้างความแตกตื่นให้กับคนญี่ปุ่น. และมีการสอบสวนทางการแพทย์ พบว่าสาเหตุเกิดจาก การที่คนรอบข้าง ทำการกู้ชีพ(CPR)ไม่เป็น และขาดเครื่องกระตุกไฟฟ้าหัวใจ หรือ AED ในครั้งนั้นได้เกิดความตระหนักในความสำคัญของการทำ CPR ด้วยเครื่อง AED. ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ คือ มีการสอนการทำ CPR ด้วยเครื่อง AED ในคนญี่ปุ่น. มีการบรรจุหลักสูตร CPR ในเด็ก มีการสอน CPR ในประชาชนญี่ปุ่น. มีการออกกฏหมายให้มีการติดตั้งเครื่อง AED ในที่สาธารณะทั่วญี่ปุ่น. ในปัจจุบันถ้าใครไปเที่ยวญี่ปุ่นจะสามารถเห็นเครื่อง AED ได้ทุกที่. ตั้งแต่สนามบิน. สถานที่ท่องเที่ยว สวนสนุก บนภูเขาสูงที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวก็สามารถหาเครื่อง AED ได้ การเสียชีวิตอย่างกระทันหันของคุณโจ บอยสเก๊าท์. เป็นข่าวที่ครึกโครมมาก. ทั้งที่การเสียชีวิตกระทันหันของคนไทยในลักษณะนี้ เกิดขึ้นทุกๆวัน แต่คุณโจ เกิดอาการหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน ในขณะที่จัดคอนเสิร์ต มีการถ่ายคลิปวิดิโอจำนวนมาก. มีคนเห็นเหตุการณ์จำนวนมากแต่ไม่มีใครปฐมพยาบาลเป็น วีดีโอมีการเผยแพร่ไปทั่ว. คนที่ได้ดูก็จะรู้สึกตกใจและเกิดความกังวล. ต่างโทษกันไปมาว่าใครผิด ผู้ที่มีความรู้เรื่อง CPR เมื่อดูวีดิโอ ก็จะรู้สึกเสียดายชีวิตที่น่าจะช่วยเหลือได้ถ้ามีคนทำ CPR เป็น. ถ้ามีเครื่อง AED อยู่ใกล้ๆ และได้ใช้ ก็อาจจะรอดชีวิตได้ คนที่ไม่รู้เรื่อง CPR ก็เริ่มตระหนักรู้และเห็นความสำคัญของการฝึก CPR มีการค้นหาความรู้. อยากจะฝึก CPR รวมทั้งอยากจะใช้เครื่อง AED เป็น. ถ้าเราเอาความสูญเสียนี้ มาจุดประเด็น. มองในแง่ ผิดเป็นครู ไม่โทษว่าใครผิด มาช่วยกันระดมความคิด. หาทางแก้ไข จัดระบบการสอน CPR with AED ให้ทุกคนสามารถทำได้. จัดหาเครื่อง AED ไว้ประจำตามแหล่งชุมชนที่จะอาจเกิดเหตุ. ในอนาคต เมื่อเกิดเหตุหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน. เราจะสามารถช่วยให้คนไข้มีโอกาสรอดชีวิตได้สูงขึ้น. ถ้าการเสียชีวิตของ โจ บอยสเก๊าท์. ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของการช่วยชีวิตในประเทศไทย. เช่นเดียวกับที่เกิดในญี่ปุ่น. ก็ต้องถือว่าการเสียชีวิตของโจ ได้สร้างคุณประโยชน์ให้กับคนไทย ไม่สูญเปล่าไปกับการเสียชีวิตของเขา
|
จากคุณ: positive |
โพสเมื่อวันที่: 11/13/17 เวลา 21:07:30 |
ขอให้เป็นเช่นนั้นครับ
|
จากคุณ: know555 |
โพสเมื่อวันที่: 11/14/17 เวลา 10:23:57 |
เครื่องนึงถูกที่สุด40000 งานนี้ต้องมีเจ้าภาพทำให้ราคาถูกลง ส่วนรัฐต้องมีเครื่องนี้ติดในทุกที่สถานราชการและสวนสาธารณะ
|
จากคุณ: <<BluE_BurN>> |
โพสเมื่อวันที่: 11/14/17 เวลา 11:36:03 |
ต่อให้ฝึกได้ ถ้า CPR แล้วรอดก็แล้วไป แต่ถ้าไม่รอดก็ต้องมากังวลว่าจะโดนฟ้องหรือเปล่า เมืองไทยเป็นกันแบบนี้กันแล้ว https://pantip.com/topic/37078131
|
จากคุณ: positive |
โพสเมื่อวันที่: 11/14/17 เวลา 11:39:18 |
หนึ่งในปัญหาสำคัญคือ ทำยังไงไม่ให้เครื่องหาย
|
จากคุณ: หมอเมืองสยาม |
โพสเมื่อวันที่: 11/14/17 เวลา 12:14:58 |
ปุบปับตาย ทำไม ? - อยู่มานานเกินกว่าประโยชน์แล้ว ครับ....
|
จากคุณ: know555 |
โพสเมื่อวันที่: 11/14/17 เวลา 12:35:11 |
on 11/14/17 เวลา 11:36:03, <<BluE_BurN>> wrote: น่าคิด
|
จากคุณ: :: King of BANPU :: |
โพสเมื่อวันที่: 11/14/17 เวลา 13:27:34 |
ถ้ามีการบรรจุเป็นหลักสูตร ก็คิดว่าดีเหมือนกันครับ ขออย่ากลัวทำ "ซีพีอาร์" แล้วยิ่งทำให้ตาย ชี้หัวใจวายเท่ากับตายอยู่แล้ว Quote: นายกสมาคมเวชศาสตร์ฉุกเฉินฯ ขอประชาชนอย่ากลัวทำ "ซีพีอาร์" เพราะหวั่นทำคนหัวใจวายตาย ชี้หากไม่ทำก็เท่ากับ "ตาย" อยู่แล้ว แต่หากทำซีพีอาร์ย่อมมีโอกาสรอดมากขึ้น ชี้ไม่มีความรู้เป็นสาเหตุหนึ่งที่ไม่ยอมทำ เร่งเดินหน้าชง ศธ.บรรจุเป็นหลักสูตร ย้ำแน่นหน้าอกสัญญาณเตือนก่อนเกิดเหตุสลด ให้รีบอมยาใต้ลิ้น |
| https://mgronline.com/qol/detail/9600000114648
|
จากคุณ: หมอเมืองสยาม |
โพสเมื่อวันที่: 11/15/17 เวลา 11:51:53 |
คนเก่าไม่ตาย คนใหม่ไม่เกิด ครับ...
|
จากคุณ: teetotal |
โพสเมื่อวันที่: 11/15/17 เวลา 12:15:34 |
ผมยังจำ กรณี คุณ ย.โย่ง ได้เลยครับ
|
จากคุณ: bromine |
โพสเมื่อวันที่: 11/15/17 เวลา 18:38:15 |
แล้วเด๋วคนที่ผ่านกาาอบรมเข้าไปช่วยก็โดนหมายเรียกศาลครับ ให้ไปอธิบายว่า ได้ให้การช่วยเหลือที่ถูกต้องแล้ว อย่างไร จงแถลงต่อศาล
|
จากคุณ: หมอเมืองสยาม |
โพสเมื่อวันที่: 11/16/17 เวลา 11:53:10 |
CPR , (กระผม)คิดยังไง? - " จู่ๆCPR....ถามคนไข้หรือยัง "
|
จากคุณ: bodinkung |
โพสเมื่อวันที่: 11/27/17 เวลา 08:11:39 |
รอ AED ผลิตในจีนครับ เครื่องนึงคงซัก4000 ดูของ รพ แล้วราคามันแรงเกินไป ไม่ได้ดูมีราคาขนาดนั้นค้ากำไรเกินควร
|