« เมื่อ: 11/14/23 เวลา 15:55:38 » |
|
เซ ทรงตัวไม่อยู่ อันตราย! รู้ตัวก่อนสาย ตรวจด้วย เครื่องวิเคราะห์การทรงตัว ผลงานเด่นจากนักวิจัย จุฬาฯ อาจารย์วิศวฯ จุฬาฯ คิดค้น เครื่องวิเคราะห์การทรงตัว นวัตกรรมรางวัลเหรียญทองจาก ITEX2023 ณ สหพันธรัฐมาเลเซีย และรางวัลพิเศษ (Special award) ระดับเหรียญทอง จาก World Invention Intellectual Property Associations (WIIPA) ตรวจสอบการทรงตัว ยืนเซ เพื่อปรับพฤติกรรม ป้องกันอันตรายจากการล้ม เมื่อขึ้นรถโดยสารสาธารณะและต้องยืนอยู่เป็นประจำ อาจารย์ชัชนี ภควัตสุนทร อาจารย์พิเศษสำนักบริหารหลักสูตรวิศวกรรมนานาชาติ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สังเกตตัวเองว่าทรงตัวไม่ค่อยอยู่ และเซอยู่บ่อยครั้ง อาการเซและทรงตัวไม่ค่อยได้แบบนี้เรียกว่าปกติหรือเปล่า จะมีวิธีปรับแก้หรือทำให้ทรงตัวดีขึ้นได้อย่างไร อาจารย์ชัชนีตั้งคำถามและค้นหาคำตอบจนเกิดเป็นนวัตกรรม เครื่องวิเคราะห์การทรงตัว ที่สามารถประเมินการทรงตัวของแต่ละบุคคลได้จากการขึ้นไปยืนบนแท่นทดสอบ โดยนวัตกรรมชิ้นนี้ได้รับรางวัลเหรียญทอง จาก ITEX2023 และรางวัลพิเศษ (Special award) ระดับเหรียญทอง จาก World Invention Intellectual Property Associations (WIIPA) ในงาน 34th International Innovation & Technology Exhibition 2023 (ITEX 2023) ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ สหพันธรัฐมาเลเซีย ด้วยการสนับสนุนนจาก ชมรมจุฬาฯ สปินออฟ (Club Chula Spin-off) นวัตกรรมชิ้นนี้เกิดจากการสังเกตตัวเองว่าเวลาที่ยืนบนรถโดยสารแล้วตัวเองท รงตัวไม่ค่อยอยู่ เซบ่อย ด้วยความสนใจ จึงไปค้นคว้าเพิ่มเติมเพื่อที่จะหาวิธีที่ทำให้ทรงตัวบนรถโดยสารได้ แล้วก็พบว่า เรายังไม่มีอุปกรณ์ที่จะวิเคราะห์การทรงตัวแบบเฉพาะบุคคล จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้คิดค้นนวัตกรรมชิ้นนี้ เพื่อที่จะได้รู้ว่าเราจะต้องฝึกฝนหรือปรับพฤติกรรมอย่างไร อาจารย์ชัชนีตั้งใจคิดค้นนวัตกรรมนี้เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ เช่น ใช้ในการคัดกรองและประเมินสุขภาพเบื้องต้น ใช้วิเคราะห์การทรงตัวเพื่อออกแบบการทำกายภาพบำบัดและการออกกำลังกาย นอกจากนี้ ยังสามารถใช้อุปรณ์นี้กับการฝึกฝนพัฒนาบุคลิกภาพเพื่อการประกอบอาชีพได้อีกด ้วย ทรงตัวผิดปกติ เดิน-ยืนเซ อันตรายที่มองไม่เห็น การเดินเซ หรือปัญหาการทรงตัวเป็นปัญหาที่แฝงอยู่ในการเคลื่อนไหวของร่างกายในทุกอิริย าบถ จังหวะการก้าวเดินที่ไม่สมดุลจะทำให้เราไม่สามารถก้าวต่อไปได้อย่างมั่นคง ทำให้ล้ม เป็นอันตรายถึงชีวิตได้ การทรงตัวที่ไม่ปกติเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นพันธุกรรม โรค การบาดเจ็บ การใช้ชีวิตประจำวันของแต่ละบุคคล รวมถึงสภาพร่างกายของแต่ละคน โดยเฉพาะกล้ามเนื้อ ข้อต่อ ระบบประสาทรับรู้ความรู้สึก การส่งสัญญาณ ไปจนถึงระบบสมอง หูมีผลต่อการทรงตัว หากมีอาการผิดปกติของหูข้างใดข้างหนึ่ง มีผลต่อให้ไม่สามารถทรงตัวได้ โดยเมื่อมีการเคลื่อนไหวจะแสดงอาการ พฤติกรรมในการใช้ชีวิตประจำวัน อาชีพที่ต้องใช้กำลังกล้ามเนื้อ ก็ส่งผลต่อการทรงตัวของเราเหมือนกัน อาจารย์ชัชนีกล่าวยกตัวอย่างเหตุที่อาจก่อให้เกิดการทรงตัวผิดปกติ การมองด้วยตาเปล่า จะเห็นการทรงตัวผิดปกติได้แค่คร่าว ๆ เท่านั้น โดยมาก เราจะรู้ว่าการทรงตัวของเราผิดปกติ ก็ต่อเมื่อรู้สึกเซ หรือมีอาการเซ ไปจนถึงขั้นล้มแล้ว ดังนั้น การมีอุปกรณ์ที่สามารถวิเคราะห์การทรงตัวก็จะช่วยให้เรารับรู้ความผิดปกติขอ งเรา เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และป้องกันไม่ให้เกิดการล้มในอนาคต อุปกรณ์เดียว วิเคราะห์สารพัดด้านการทรงตัว นวัตกรรมเครื่องวิเคราะห์การทรงตัวเป็นอุปกรณ์ดิจิทัลเทคโนโลยีแบบ Deep Tech มีขนาดเล็กกะทัดรัด น้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายได้สะดวก ประกอบด้วย 2 อุปกรณ์หลักคือ ตัวแท่นยืน และสาย USB สำหรับต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือโทรศัพท์มือถือเพื่อแสดงผลผ่านหน้าจอ ตัวเครื่องนอกจากจะสามารถวัดค่าพื้นฐาน เช่น น้ำหนัก ดัชนีมวลกาย (BMI) ได้แล้ว ยังสามารถวัดค่าพื้นที่ในการทรงตัวและค่าระยะในการทรงตัวได้ด้วย เพื่อที่ผู้ใช้จะได้รู้ว่าเวลาที่เรายืนบนรถโดยสาร หรือยืนรอ หรือเดิน เราจะเซในระยะเท่าไร เซแบบนี้ถือว่าอยู่ในระดับปกติไหมเมื่อเทียบกับคนที่อยู่ในช่วงอายุและเพศเด ียวกัน และนำไปวิเคราะห์ว่าเราจำเป็นต้องเปลี่ยนพฤติกรรมหรือไม่ อาจารย์ชัชนีอธิบาย การใช้งานอุปกรณ์นี้ก็ง่าย เพียงต่อสาย USB จากแท่นยืนเข้ากับอุปกรณ์ที่เรามี เช่น แท็บเล็ต มือถือ หรือคอมพิวเตอร์ จากนั้นก็ขึ้นไปยืนบนแท่นยืนเหมือนกับเครื่องชั่งน้ำหนัก เครื่องก็จะแสดงผลการวิเคราะห์การทรงตัวของเราออกมาบนหน้าจออุปกรณ์ที่เราเช ื่อมต่อด้วย แบบเรียลไทม์ บนหน้าจอแสดงผลการวิเคราะห์การทรงตัว ที่ทดสอบและแสดงผลแบบเรียลไทม์บนไมโครซอฟท์ เอ็กซ์เซล (Microsoft Excel) ทั้งนี้ เครื่องวิเคราะห์การทรงตัวจะแสดงผลออกมา 3 รูปแบบด้วยกัน ได้แก่ 1. การแสดงผลการทรงตัวแบบแผนภูมิวงกลม แสดงค่าการทรงตัวของผู้ใช้ พื้นที่ในการทรงตัว และระยะการทรงตัว หากค่าการทรงตัวของผู้ใช้อยู่ในระดับสีเขียวอ่อน (วงกลมเล็กสุด) หมายถึงมีการทรงตัวอยู่ในระดับที่ดีมาก สีเขียวเข้ม (วงกลมกลาง) หมายถึงมีการทรงตัวอยู่ในระดับค่าเฉลี่ยทั่วไป ไล่ระดับการทรงตัวไปจนถึงระดับสีแดง (วงกลมใหญ่สุด) ที่อยู่ในเกณฑ์ที่การทรงตัวไม่สมดุล แต่ยังสามารถดำรงชีวิตประจำวันได้ และหากเกินระดับวงกลมสีแดง (วงกลมใหญ่สุด) หมายถึงอยู่ในระดับที่อันตราย มีความผิดปกติและมีความเสี่ยงสูง ต้องเข้าพบแพทย์โดยด่วน เพราะการทรงตัวผิดปกติในระดับนี้จะส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันได้ นอกจากนี้ อาจจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ช่วยในการทรงตัวด้วย เช่น ไม้เท้า รถเข็น ระดับของการทรงตัวมีหลายระดับ แม้แต่คนที่มีการทรงตัวอยู่ในเกณฑ์ปกติก็ยังแบ่งได้เป็นหลายระดับ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มนักกีฬายิมนาสติก ครูสอนโยคะ ซึ่งมักเป็นกลุ่มที่มีการทรงตัวในระดับที่ดีมาก ไปจนถึงคนธรรมดาที่มีเซบ้าง แต่ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ สำหรับคนที่มีอาการเซเล็กน้อยไม่รุนแรง การปรับสมดุลของแต่ละบุคคลก็สามารถทำได้จากการอ่านแผนภูมิวงกลม เมื่อพบว่าการทรงตัวของเราค่อนไปทางซ้ายมากกว่า เราก็ควรต้องปรับร่างกายสมดุลไปทางด้านขวาเพิ่มขึ้นเล็กน้อย จะทำให้การรักษาสมดุลทรงตัวดีขึ้น 2. การแสดงตารางข้อมูลเฉพาะบุคคล ว่าตนเองมีการทรงตัวอยู่ในเกณฑ์ปกติหรือไม่ในช่วงวัยและเพศเดียวกัน หรือเปรียบเทียบว่าในวัยของเราควรมีค่าการทรงตัวอยู่ในระดับใด 3. การแสดงค่าดัชนีมวลกาย (BMI) ได้แก่ น้ำหนัก ปริมาณไขมัน และปริมาณน้ำในร่างกาย สำหรับกลุ่มที่สนใจทางด้านสุขภาพ การปรับบุคลิกภาพ และการออกกำลังกาย ใคร ๆ ก็ตรวจสอบการทรงตัวได้ เครื่องวิเคราะห์การทรงตัวไม่ได้เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับกลุ่มผู้สูงอายุเท่ านั้น แต่สามารถนำไปใช้ได้ตั้งแต่เด็กที่มีอายุ 4 ปีขึ้นไป (หรือมีน้ำหนัก 10 กิโลกรัมขึ้นไป) รวมถึงนักกีฬา ผู้ที่ชอบออกกำลังกาย ผู้ที่ต้องการพัฒนาบุคลิกภาพ ซึ่งประโยชน์ที่ได้รับจากเครื่องวิเคราะห์การทรงตัวจะแตกต่างกันไปตามแต่ละช ่วงวัยและความต้องการของแต่ละคน กลุ่มเด็กเล็ก ในช่วงวัยนี้ เด็กอาจจะมีปัญหาเรื่องการทรงตัว ยืนไม่มั่นคง เดินเซ หรือกล้ามเนื้อไม่แข็งแรง ซึ่งอาจจะทำให้ร่างกายของเด็กไม่สามารถพัฒนาการไปตามช่วงอายุที่เหมาะสมได้ เราสามารถนำเครื่องวิเคราะห์การทรงตัวไปใช้เพื่อดูการทรงตัวของเด็กว่ามีการ พัฒนาตามวัยที่เหมาะสมหรือไม่ เพื่อที่จะได้นำไปปรับด้วยการฝึกการทรงตัวและท่าทางเพื่อพัฒนากำลังกล้ามเนื ้อของเด็ก นักกีฬาและคนออกกำลังกาย เครื่องวิเคราะห์การทรงตัวสามารถนำไปใช้เป็นส่วนหนึ่งของสปอร์ตคลับหรือฟิตเ นส โดยวิเคราะห์ว่าแต่ละคนมีปัญหาด้านการทรงตัวอย่างไร แล้วใช้วิธีการฝึกฝนร่างกายและปรับพฤติกรรมตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ นักกีฬาบางคนเวลายืนอาจจะเอนตัวไปด้านหนึ่งทางมากกว่า ก็สามารถวิเคราะห์แล้วฝึกฝนร่างกายเพื่อปรับการทรงตัว นอกจากนี้ตัวเครื่องยังสามารถชั่งน้ำหนัก วัดปริมาณไขมันและปริมาณน้ำในร่างกายได้เช่นเดียวกับเครื่องชั่งน้ำหนักที่ม ีในฟิตเนส แต่พิเศษมากกว่าตรงที่สามารถวัดค่าการทรงตัวได้ด้วยในเครื่องเดียวกัน ส่งเสริมบุคลิกภาพสำหรับสายอาชีพ เช่น แอร์โฮสเตส พิธีกร ผู้ประกาศข่าว ผู้ที่มีอาชีพดังกล่าวสามารถฝึกและพัฒนาบุคลิกภาพของตัวเองได้ โดยขึ้นไปยืนบนเครื่องแล้วซ้อมยืน ซ้อมพูด เพื่อดูการยืน หากยืนไม่ตรง ยืนเซ หรือยืนทิ้งน้ำหนักข้างใดข้างหนึ่งมากเกินไป ก็จะสามารถรู้ได้ว่าตัวเราเอนไปทางใดแล้วปรับร่างกายได้ ยิ่งใช้เครื่องนี้เป็นประจำ ก็จะทราบว่าต้องปรับพฤติกรรมอย่างไร และรู้ว่าสภาวะการยืนของตัวเราเป็นอย่างไร อาจารย์ชัชนีกล่าวแนะ กลุ่มผู้สูงอายุ เป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายจากการล้มมากที่สุด ดังนั้น การใช้งานเครื่องมือนี้จะช่วยประเมินภาวะเสี่ยงล้ม เพื่อให้ผู้สูงวัยได้ปรับพฤติกรรม หรือระวังได้ถูกจุด เช่น ขาซ้ายมีปัญหา จะปรับท่า หรือสร้างกล้ามเนื้ออย่างไร ฯลฯ อาจารย์ชัชนีกล่าวเสริมว่า เครื่องวิเคราะห์การทรงตัวสามารถนำมาใช้ได้หลายวัตถุประสงค์ ตามความต้องการของคนในแต่ละช่วงวัย เมื่อใช้อย่างสม่ำเสมอ ประเมินการทรงตัวไปเรื่อย ๆ ก็จะทำให้เกิดการรู้ตัว (self-alert) ในชีวิตประจำวัน ว่าการทรงตัวของเราเป็นอย่างไร จะต้องปรับหรือรักษาอย่างไรเพื่อให้เราสามารถพัฒนาการทรงตัวไปตามที่เราต้อง การ และต้องระวังส่วนใดบ้าง อ่านข่าวประชาสัมพันธ์เพิ่มเติมได้ที่ https://www.thaipr.net/education/3409119
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้ายเมื่อ: 11/23/23 เวลา 07:49:17 by IQ » |
|
ส่งโดย: IQ
สถานะ: Executive Member
จำนวนความเห็น: 1807
|
|
58.82.140.* |
|