แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print

 หัวข้อ 39792: Cordis ซื้อกิจการ MedAlliance เรียบร้อยแล้ว  (จำนวนคนอ่าน 73 ครั้ง)
« เมื่อ: 10/03/23 เวลา 13:29:20 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

MedAlliance บริษัทเทคโนโลยีการแพทย์จากสวิตเซอร์แลนด์ ถูก Cordis เข้าซื้อกิจการเป็นอันเสร็จสิ้น ซึ่งประกอบด้วยเงินลงทุนเริ่มต้นเมื่อปี 2565 รวม 35 ล้านดอลลาร์ เงินชำระล่วงหน้า 200 ล้านดอลลาร์ในปี 2566 เงินสูงสุด 125 ล้านดอลลาร์ตามความสำเร็จด้านการกำกับดูแล และเงินสูงสุด 775 ล้านดอลลาร์ตามความสำเร็จเชิงพาณิชย์ไปจนถึงปี 2572 ซึ่งส่งผลให้ข้อตกลงนี้มีมูลค่ารวมสูงถึง 1.135 พันล้านดอลลาร์
 
Cordis เป็นผู้นำระดับโลกด้านการพัฒนาและการผลิตเทคโนโลยีสำหรับโรคหัวใจและหลอดเลื อดและการสวนหลอดเลือด ขณะที่ MedAlliance นำเสนอผลิตภัณฑ์เซลูชัน เอสแอลอาร์ (SELUTION SLR(TM) หรือ Sustained Limus Release) ซึ่งเป็นบอลลูนเคลือบยา (DEB) ไซโลลิมัสปล่อยยาสม่ำเสมอที่เปี่ยมด้วยนวัตกรรมและมุ่งปฏิวัติวงการ ซึ่งจะเข้ามาเติมเต็มผลิตภัณฑ์เดิมของ Cordis รวมถึงส่งเสริมการขาย การตลาด และความเชี่ยวชาญด้านการจัดจำหน่าย อีกทั้งลูกค้าของ Cordis จะได้รับประโยชน์จากโครงการศึกษาทางคลินิกที่กว้างขวางและแผนการเผยแพร่ผลกา รศึกษาของ MedAlliance เพื่อสานต่อมรดกของ Cordis ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เปี่ยมด้วยนวัตกรรมให้แก่ผู้ป่วย
 
"การซื้อกิจการโดย Cordis จะช่วยเร่งการเข้าถึงเทคโนโลยีอันก้าวล้ำนี้ แก่ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจและโรคหลอดเลือดแดงส่วนปลายทั่วโลก" คุณเจฟฟรีย์ บี จัมป์ (Jeffrey B. Jump) ผู้ก่อตั้ง ประธานกรรมการ และซีอีโอบริษัท MedAlliance กล่าว "ผมต้องขอบคุณทีมงาน MedAlliance ทุกท่าน รวมถึงแพทย์ ผู้จัดจำหน่าย และผู้ป่วยทางคลินิกที่ประสบความสำเร็จในการพลิกโฉมตลาดหลอดเลือดหัวใจและหล อดเลือดแดงส่วนปลาย เพื่อนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ คลังข้อมูลทางคลินิกจากบอลลูนเคลือบยาเซลูชัน เอสแอลอาร์ ได้รับการออกแบบมาเพื่อเปลี่ยนแปลงแนวปฏิบัติทางการแพทย์และปรับปรุงผลลัพธ์ ของผู้ป่วย"
 
"เกือบ 20 ปีที่แล้ว Cordis ได้เปิดตัวไซเฟอร์ (CYPHER(R)) ซึ่งเป็นขดลวดเคลือบยาตัวแรกที่พลิกโฉมการรักษาโรคหัวใจและหลอดเลือดสำหรับผ ู้ป่วยทั่วโลก" คุณชาร์ มาติน (Shar Matin) ซีอีโอของ Cordis กล่าว "ในฐานะบริษัทอิสระแห่งใหม่ เราภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้สานต่อมรดกด้านนวัตกรรมและพลิกโฉมตลาดร่วมกับ MedAlliance และเซลูชัน เอสแอลอาร์ บอลลูนเคลือบยาไซโลลิมัสแบบไมโครเรเซอร์วัวร์ (MicroReservoirs) ตัวแรก"
 
คุณจอร์จ อดัมส์ (George Adams) สมาชิกคณะกรรมการอำนวยการประจำโครงการ US SELUTION4SFA และ SELUTION4BTK IDE และผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดแดงส่วนปลาย โรงพยาบาลเร็กซ์ เมืองราลี รัฐนอร์ทแคโรไลนา สหรัฐอเมริกา กล่าวว่า "ผมรู้สึกตื่นเต้นที่ได้รายงานข้อมูลเชิงบวกของเซลูชัน เอสแอลอาร์ มาจนถึงตอนนี้ ด้วยประสบการณ์ตรงจากการสัมผัสกับผลลัพธ์ทางคลินิกอันน่าประทับใจของผู้ป่วย ที่ได้รับการรักษาด้วยเซลูชัน เอสแอลอาร์ ในญี่ปุ่น อินเดีย ยุโรป และอเมริกาใต้ ปัจจุบัน เรากำลังพยายามสร้างผลลัพธ์เช่นนี้ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเทคโนโลยีนี้มีโอกาสอย่างมากในการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์การรักษาสำหรับ ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดแดงส่วนปลาย"
 
เซลูชัน เอสแอลอาร์ ได้รับการรับรองมาตรฐานซีอี มาร์ค (CE Mark) สำหรับรักษาโรคหลอดเลือดแดงส่วนปลายเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2563 และผ่านการรับรองให้ใช้รักษาโรคหลอดเลือดหัวใจเมื่อเดือนพฤษภาคม 2563 MedAlliance เป็นผู้ผลิตบอลลูนเคลือบยาแห่งแรกที่ได้รับการรับรองสถานะ Breakthrough Designation ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) นอกจากข้อบ่งใช้สำหรับการรักษาโรคหลอดเลือดบริเวณใต้หัวเข่า (BTK) และโรคหลอดเลือดแดงบริเวณต้นขาชั้นตื้น (SFA) ซึ่งบริษัทได้รับการรับรอง IDE จาก FDA ในเดือนพฤษภาคมและสิงหาคม 2565 แล้ว MedAlliance ยังได้รับการรับรอง IDE สำหรับโรคหลอดเลือดที่เกิดการตีบซ้ำภายในขดลวด (ISR) ในเดือนตุลาคม 2565 และการรับรองสำหรับรอยโรคหลอดเลือดหัวใจที่เกิดครั้งแรกเมื่อเดือนมกราคม 2566
 
หลังจากที่ได้รับสถานะ IDE แล้ว โครงการวิจัยเซลูชัน เอสแอลอาร์ ที่ดำเนินการกับ FDA รวม 3 รายการ ขณะนี้กำลังเปิดรับอาสาสมัครร่วมโครงการที่ 4 โดยจะสรรหาผู้ป่วยที่มีรอยโรคหลอดเลือดหัวใจที่เกิดครั้งแรก ซึ่งมีแผนเริ่มดำเนินการในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้ โครงการล่าสุดนี้จะเสริมด้วยประสบการณ์ที่มีมากมายจากโครงการทดลองเซลูชัน เดอโนโว (SELUTION DeNovo) ในยุโรป ซึ่งมีผู้ป่วยเข้าร่วมโครงการกว่า 1,700 รายแล้ว มาถึงครึ่งทางแล้วจากจำนวนที่วางแผนไว้ที่ 3,326 คน ทั้งนี้ โครงการศึกษาเซลูชัน เดอโนโว นี้เปรียบเทียบวิธีการรักษาโดยใช้บอลลูนเคลือบยาไซโรลิมัส เซลูชัน เอสแอลอาร์ กับขดลวดเคลือบยา (DES) ลิมัส [ClinicalTrials.gov Identifier: NCT04859985] การศึกษานี้ออกแบบมาเพื่อเปลี่ยนแปลงการปฏิบัติทางการแพทย์ เนื่องจากในปัจจุบันรอยโรคหลอดเลือดหัวใจที่เกิดครั้งแรกโดยส่วนใหญ่ได้รับก ารรักษาด้วยขดลวดโลหะแบบถาวร
 
เทคโนโลยีบอลลูนเคลือบยาของ MedAlliance ประกอบด้วยไมโครเรเซอร์วัวร์ (MicroReservoirs) ซึ่งผลิตขึ้นจากพอลิเมอร์แบบสลายได้ทางชีวภาพผสมเข้ากับยาไซโลลิมัส (Sirolimus) ลดการตีบตันซ้ำที่เคลือบบนพื้นผิวของบอลลูนขยายหลอดเลือด ไมโครเรเซอร์วัวร์เหล่านี้ทำหน้าที่ควบคุมการปลดปล่อยยาให้สม่ำเสมอเป็นเวลา ถึง 90 วัน ขณะเดียวกัน เทคโนโลยี CAT(TM) (Cell Adherent Technology) อันเป็นกรรมสิทธิ์ของ MedAlliance ยังช่วยให้ไมโครเรเซอร์วัวร์เคลือบบนบอลลูนและติดเข้ากับช่องภายในหลอดเลือด ขณะให้ยาผ่านบอลลูนขยายหลอดเลือด
 
เซลูชัน เอสแอลอาร์ มีวางจำหน่ายในยุโรป เอเชีย ตะวันออกกลาง และทวีปอเมริกา (นอกสหรัฐอเมริกา) และเกือบทุกประเทศที่ยอมรับมาตรฐานซีอี มาร์ค โดยมีการใช้งานไปแล้วกว่า 40,000 ชุดสำหรับการรักษาผู้ป่วยในเวชปฏิบัติทั่วไปหรือในการทดลองทางคลินิกเพื่อรั กษาโรคหลอดเลือดหัวใจ
 
เกี่ยวกับ Cordis
 
Cordis เป็นผู้นำระดับโลกด้านการพัฒนาและการผลิตเทคโนโลยีการรักษาโรคหัวใจและหลอดเ ลือด โดยมีประวัติยาวนานกว่า 60 ปีในการบุกเบิกการบำบัดรักษาผู้ป่วยหลายล้านคน ประกอบกับชื่อเสียงด้านความเชี่ยวชาญทางคลินิก การฝึกอบรม และการบริการ Cordis มีมรดกด้านนวัตกรรมผลิตภัณฑ์รักษาโรคหัวใจและหลอดเลือดที่มีคุณภาพสูงและทำใ ห้เกิดแผลน้อย พร้อมวางรากฐานที่แข็งแกร่งระดับโลกด้วยการดำเนินงานกว่าใน 70 ประเทศทั่วโลก
 
สื่อมวลชนติดต่อ ริชาร์ด เคนยอน (Richard Kenyon)
อีเมล: rkenyon@medalliance.com
โทร: +44 7831 569940  
 
รูปภาพ: https://mma.prnewswire.com/media/2236013/MedAlliance.jpg
โลโก้: https://mma.prnewswire.com/media/1196864/4316239/MedAlliance_Logo.jpg
ส่งโดย: IQ
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1807  
   
124.122.84.*


Page(s) : 1 




Reply this Topic reserved for registed member only. Register



  • ข้อความและรูปภาพที่ท่านเห็นส่วนใหญ่ ได้ถูกส่งมาจาก ทางบ้าน
    ทางเว็บไซต์ Thaiclinic.com ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของข้อความและรูปภาพที่ถูกส่งมา

  • ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชนและส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ
    เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง
    ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง

  • ถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมหรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล
    หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ webmaster@thaiclinic.com หรือ กดแจ้งที่ปุ่ม
    "แจ้งลบกระทู้"
    เพื่อให้ทีมงานทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ครับ

ThaiClinic.Com . All Rights Reserved. !--BEGIN WEB STAT CODE-->

Powered by