แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print

 หัวข้อ 39524: เรดฮิลล์เดินหน้าโครงการทดลองรักษาอาการบาดเจ็บจากรังสีนิวเคลียร์  (จำนวนคนอ่าน 116 ครั้ง)
« เมื่อ: 11/17/22 เวลา 14:10:56 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

"เรดฮิลล์" เดินหน้าโครงการทดลองรักษาอาการบาดเจ็บจากรังสีนิวเคลียร์ด้วยยาโอพากานิบ พร้อมเผยแพร่ข้อมูลการศึกษาที่น่าพอใจ
 
ข้อมูลขั้นพรีคลินิกที่แข็งแกร่งซึ่งถูกตีพิมพ์เมื่อเร็ว ๆ นี้ในวารสารนานาชาติว่าด้วยวิทยาศาสตร์โมเลกุล จากการศึกษายาโอพากานิบในร่างกายที่ได้รับทุนสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐ จำนวน 8 ฉบับ ได้สนับสนุนศักยภาพของยาโอพากานิบในการรักษาอาการบาดเจ็บจากรังสีนิวเคลียร์ ในมาตรการรับมือทางการแพทย์สำหรับวัสดุที่เป็นภัยต่อความมั่นคงภายในประเทศ และการรักษาด้วยรังสีต้านเนื้องอก
 
ในฐานะยาเม็ดโมเลกุลขนาดเล็กแบบรับประทานที่มีความเสถียรสูงและมีอายุการเก็ บรักษานานกว่า 5 ปี ยาโอพากานิบนั้นง่ายต่อการดูแลและการแจกจ่าย สนับสนุนการกักตุนยาส่วนกลางโดยรัฐบาลสำหรับใช้ในเหตุการณ์กัมมันตภาพรังสีน ิวเคลียร์ที่มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก
 
ผลการศึกษาการป้องกันอาการบาดเจ็บจากกัมมันตภาพรังสีของยาโอพากานิบนั้นไม่จ ำกัดอยู่แค่เพียงวัตถุกัมมันตภาพรังสีหรือส่วนต่าง ๆ ของร่างกายเท่านั้น ต่างจากตัวเลือกในการรักษาในปัจจุบันอย่างเม็ดไอโอดีน ในทางกลับกัน กลไกการออกฤทธิ์ของยาโอพากานิบเชื่อว่าสามารถยับยั้งความเป็นพิษของรังสีที่ แตกตัวเป็นไอออนและความเสียหายจากการอักเสบของเนื้อเยื่อปกติ และยังเสริมสร้างความแข็งแกร่งของเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดให้ทนทานต่อความเส ียหายจากรังสี ซึ่งอาจนำไปสู่อัตราการรอดชีวิตที่เพิ่มขึ้นและอาการเจ็บป่วยที่ลดลง
 
การสังเกตจากแบบจำลองภายในร่างกายที่เน้นระบบทางเดินอาหารหลายตัวระบุว่า ยาโอพากานิบอาจปกป้องเนื้อเยื่อปกติจากความเสียหายจากรังสีที่แตกตัวเป็นไออ อนหรือการฉายรังสีมะเร็ง เพิ่มฤทธิ์การต่อต้านเนื้องอกและการตอบสนองต่อเคมีบำบัด เพิ่มความทนทานต่อโรคและอัตราการรอดชีวิต
 
การศึกษาอิสระภายนอกร่างกายเกี่ยวกับความสามารถในการป้องกันรังสีของยาโอพาก านิบในไขกระดูก ยังแสดงให้เห็นถึงอัตราการรอดชีวิตที่เพิ่มขึ้นจากการถูกรังสีทั่วร่างกายที ่เป็นภัยต่อชีวิตและกึ่งเป็นภัยต่อชีวิต
 
การศึกษาอื่นได้ริเริ่มขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้โดยเรดฮิลล์ และหุ้นส่วนอย่างอโพจี ไบโอเทคโนโลยี คอร์ปอเรชัน เพื่อประเมินผลการป้องกันของโอพากานิบต่อความเป็นพิษทางโลหิตวิทยาและไตที่เ กิดจากรังสี
 
อ้างอิงจากคำแนะนำขององค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกาสำหรับยาโอพากานิบ และการประชุมหารือร่วมกับองค์การและยาแห่งสหรัฐอเมริกา เรดฮิลล์คาดว่าการพัฒนายาโอพากานิบในฐานะมาตรการรับมือทางการแพทย์สำหรับวัต ถุนิวเคลียร์ที่เป็นภัยต่อความมั่นคงภายในประเทศ จะสอดคล้องกับกฎการทดลองยาในสัตว์ ที่ซึ่งจะถูกนำมาใช้เมื่อการทดลองทางคลินิกในมนุษย์ไม่เป็นไปตามหลักจริยธรร มหรือไม่สามารถทำได้ ทั้งนี้ การอภิปรายเกี่ยวกับการสนับสนุน เงินทุน และเส้นทางการพัฒนาเพิ่มเติมเพื่อการอนุมัติได้มีขึ้นร่วมกับรัฐบาลสหรัฐฯ และรัฐบาลอื่น ๆ แล้ว
 
ผู้สนับสนุนการใช้ผลิตภัณฑ์ยาที่ได้รับการอนุมัติในฐานะมาตรการรับมือทางการ แพทย์ จะได้รับสิทธิ์ในการยื่นขอต่อองค์การอาหารและยาสหรัฐเพื่อเร่งกระบวนการพิจา รณาอนุญาต
 
การพัฒนายาโอพากานิบยังคงดำเนินต่อไปสำหรับในแง่การรักษาโรคโควิด-19 การบ่งชี้การต้านไวรัสและมะเร็งเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับแพร่ระบาดอื่น ๆ ทำให้โอพากานิบมีสถานะที่แข็งแกร่งในการเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อใช้ตามข้อบ่งชี้ต ่าง ๆ
 
เรดฮิลล์ ไบโอฟาร์มา (RedHill Biopharma Ltd.) (Nasdaq: RDHL) ("เรดฮิลล์" หรือ "บริษัท") ซึ่งเป็นบริษัทชีวเภสัชภัณฑ์เฉพาะทาง ประกาศเร่งการพัฒนายาโอพากานิบ (opaganib) ในโครงการป้องกันการบาดเจ็บจากรังสีและการฉายรังสีรักษามะเร็ง โดยวารสารนานาชาติว่าด้วยวิทยาศาสตร์โมเลกุล (International Journal of Molecular Sciences) ในหัวข้อ "โอพากานิบและการป้องกันภาวะเป็นพิษที่เกิดจากรังสี: ข้อบ่งชี้ด้านความมั่นคงภายในประเทศและการฉายรังสีเพื่อต่อต้านเนื้องอก" (Opaganib Protects against Radiation Toxicity: Implications for Homeland Security and Antitumor Radiotherapy) ได้อธิบายผลการศึกษาวิจัยรวมในร่างกายที่ได้รับทุนสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐ จำนวน 8 ชิ้น โดยเรดฮิลล์และอโพจี ไบโอเทคโนโลยี คอร์ปอเรชัน (Apogee Biotechnology Corporation) ("อโพจี") รวมถึงการทดลองเพิ่มเติมอื่น ๆ ซึ่งชี้ให้เห็นถึงความเป็นไปได้ของยาโอพากานิบ [1] ในการป้องกันอาการบาดเจ็บจากรังสีนิวเคลียร์[2]
 
วารสารฉบับดังกล่าวเน้นย้ำถึงข้อสังเกตจากการศึกษาจำนวนมากเกี่ยวกับการป้อง กันความเป็นพิษจากรังสีและการฉายรังสีรักษามะเร็ง การศึกษายาโอพากานิบในรูปแบบที่เกี่ยวข้องแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์เกี่ยว กับการปกป้องเนื้อเยื่อปกติ ซึ่งรวมถึงเนื้อเยื่อในระบบทางเดินอาหาร จากความเสียหายที่เกิดจากรังสีที่แตกตัวเป็นไอออนหรือการฉายรังสีรักษามะเร็ ง ตลอดจนการปรับปรุงฤทธิ์ต้านเนื้องอก การตอบสนองต่อเคมีบำบัด การเพิ่มความต้านทานและอัตราการรอดชีวิต การศึกษาอิสระเพิ่มเติมยังแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการป้องกันรังสีของยาโ อพากานิบในไขกระดูก โดยโอพากานิบแสดงให้เห็นอัตราการรอดชีวิตที่เพิ่มขึ้นในหนูทดลองที่ได้รับการฉายรังสีทั่วร่างกายที่เป็นภัยต่อชีวิตและกึ่งเป็นภัยต่อชีวิต[3]
 
"ภายใต้ความสอดคล้องเพิ่มเติมร่วมกับองค์การอาหารและยาสหรัฐ เราตั้งใจที่จะปฏิบัติตามกฎระเบียบการทดลองยาในสัตว์เพื่อการอนุมัติตัวยาโอ พากานิบ โดยอิงตามคำแนะนำขององค์การอาหารและยาสหรัฐสำหรับยาโอพากานิบโดยเฉพาะ การพัฒนามาตรการรับมือทางการแพทย์อาจเป็นไปตามกฎระเบียบการทดลองยาในสัตว์ โดยมีการศึกษาแบบจำลองสัตว์ที่สำคัญเมื่อการทดลองทางคลินิกในมนุษย์ไม่เป็นไ ปตามหลักจริยธรรมหรือไม่สามารถทำได้ นอกจากนี้ เราตั้งใจที่จะแสวงหากรอบเวลาการพัฒนาที่รวดเร็วและสิทธิ์ในการยื่นขอการเร่ งพิจารณาอนุมัติตัวยา เรายังได้เร่งแผนการพัฒนาของเราเพื่อทดสอบยาโอพากานิบเพิ่มเติมในฐานะมาตรกา รป้องกันความเป็นพิษของรังสีนิวเคลียร์ ท่ามกลางความตระหนักที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับความต้องการมาตรการรับมือทางการแพ ทย์ต่อเป็นภัยคุกคามทางวัตถุ และข้อสังเกตในเชิงบวกที่เห็นได้จากการศึกษาความเป็นพิษของรังสีในระบบทางเด ินอาหารในร่างกาย และการศึกษาด้วยรังสีเพื่อการรักษามะเร็ง โดยมีข้อมูลภายนอกที่บ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ในการป้องกันรังสีในไขกระดูกของ โอพากานิบ เราได้เร่งแผนพัฒนาเพื่อทดสอบยาโอพากานิบเป็นสารป้องกันความเป็นพิษของรังสี นิวเคลียร์ เมื่อเร็ว ๆ นี้ เราได้ริเริ่มการศึกษาใหม่เพื่อประเมินการป้องกันผลกระทบของยาโอพากานิบต่อค วามเป็นพิษทางโลหิตวิทยาและไตที่เกิดจากรังสีร่วมกับอโพจี ซึ่งเป็นพันธมิตรของเรา นอกจากนี้ เรายังได้กำหนดการประชุมร่วมกับองค์การอาหารและยาสหรัฐอีกครั้ง เพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับเส้นทางสู่การอนุมัติตัวยาในฐานะมาตรการรั บมือทางการแพทย์เพื่อความมั่นคงแห่งชาติ รวมทั้งมีการปรึกษาร่วมกับหน่วยงานรัฐบาลหลายแห่งในสหรัฐอเมริกาและต่างประเ ทศเกี่ยวกับเงินทุนและการสนับสนุนจากรัฐบาลอื่น ๆ" กิลีด ราเดย์ (Gilead Raday) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการและหัวหน้าฝ่ายวิจัยและพัฒนาของเรดฮิลล์ กล่าว "ที่สำคัญ โอพากานิบยังได้แสดงให้เห็นถึงความปลอดภัยและความต้านทานจากการศึกษาในกลุ่ม ตัวอย่างมากกว่า 470 คนในการศึกษาสิ่งบ่งชี้อื่น ๆ รวมถึงการใช้งานในรูปแบบอื่น ๆ ในฐานะที่เป็นยาเม็ดขนาดเล็กที่มีความเสถียรสูงและมีอายุการเก็บรักษานานกว่ า 5 ปี โอพากานิบนั้นง่ายต่อการดูแลและแจกจ่าย ซึ่งสนับสนุนมาตรการรับมือภัยคุกคามโดยการกักตุนยาส่วนกลางของรัฐบาล"
 
อ่านต่อเพิ่มเติมได้ที่ https://www.thaipr.net/health/3268315
« แก้ไขครั้งสุดท้ายเมื่อ: 11/17/22 เวลา 14:11:16 by IQ »
ส่งโดย: IQ
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1807  
   
101.109.203.*


Page(s) : 1 




Reply this Topic reserved for registed member only. Register



  • ข้อความและรูปภาพที่ท่านเห็นส่วนใหญ่ ได้ถูกส่งมาจาก ทางบ้าน
    ทางเว็บไซต์ Thaiclinic.com ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของข้อความและรูปภาพที่ถูกส่งมา

  • ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชนและส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ
    เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง
    ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง

  • ถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมหรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล
    หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ webmaster@thaiclinic.com หรือ กดแจ้งที่ปุ่ม
    "แจ้งลบกระทู้"
    เพื่อให้ทีมงานทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ครับ

ThaiClinic.Com . All Rights Reserved. !--BEGIN WEB STAT CODE-->

Powered by