แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print

 หัวข้อ 39490: "คอร์ดิส" เตรียมเข้าซื้อกิจการ "เม็ดอัลไลแอนซ์"  (จำนวนคนอ่าน 118 ครั้ง)
« เมื่อ: 10/21/22 เวลา 14:39:33 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

เม็ดอัลไลแอนซ์ (MedAlliance) บริษัทเทคโนโลยีการแพทย์จากสวิตเซอร์แลนด์ ประกาศว่าได้ทำข้อตกลงกับคอร์ดิส (Cordis) สำหรับการเข้าซื้อกิจการ ซึ่งประกอบด้วยเงินลงทุนเริ่มต้น 35 ล้านดอลลาร์, เงินชำระล่วงหน้า 200 ล้านดอลลาร์, เงินสูงสุด 125 ล้านดอลลาร์ตามความสำเร็จด้านการกำกับดูแล และเงินสูงสุด 775 ล้านดอลลาร์ตามความสำเร็จเชิงพาณิชย์ ไปจนถึงปี 2572 ซึ่งส่งผลให้ข้อตกลงนี้มีมูลค่ารวมสูงถึง 1.135 พันล้านดอลลาร์
 
คอร์ดิสเป็นผู้นำระดับโลกด้านการพัฒนาและการผลิตเทคโนโลยีสำหรับโรคหัวใจและ หลอดเลือดและการสวนหลอดเลือด ขณะที่เม็ดอัลไลแอนซ์นำเสนอผลิตภัณฑ์เซลูชัน เอสแอลอาร์ (SELUTION SLR(TM) หรือ Sustained Limus Release) ซึ่งเป็นบอลลูนเคลือบยา (DEB) ไซโลลิมัสปล่อยยาสม่ำเสมอที่เปี่ยมด้วยนวัตกรรมและมุ่งปฏิวัติวงการ ซึ่งจะเข้ามาเติมเต็มผลิตภัณฑ์เดิมของคอร์ดิส รวมถึงส่งเสริมการขาย การตลาด และความเชี่ยวชาญด้านการจัดจำหน่าย อีกทั้งลูกค้าของคอร์ดิสจะได้รับประโยชน์จากโครงการศึกษาทางคลินิกที่กว้างข วางและแผนการเผยแพร่ผลการศึกษาของเม็ดอัลไลแอนซ์ เพื่อสานต่อมรดกของคอร์ดิสในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เปี่ยมด้วยนวัตกรรมให้แก่ ผู้ป่วย
 
เม็ดอัลไลแอนซ์มีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองนียง ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยมีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำและการจำหน่ายอุปกรณ์ปลดปล ่อยตัวยาขั้นสูงสำหรับรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจและโรคหลอดเลือดแดงส่วนปลาย โดยมีผลิตภัณฑ์เรือธงคือเซลูชัน เอสแอลอาร์ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีบอลลูนเคลือบยาไซโลลิมัสแบบใหม่
 
คุณเจฟฟรีย์ บี. จัมป์ (Jeffrey B. Jump) ประธานและซีอีโอบริษัทเม็ดอัลไลแอนซ์ กล่าวว่า "เราโชคดีมากที่ได้พบกับพาร์ทเนอร์อย่างคอร์ดิสที่สั่งสมประวัติอันโชกโชนด้ านนวัตกรรม บริษัทเปิดตัวขดลวดเคลือบยาไซโลลิมัสเมื่อปี 2542 และกำลังจะเปิดตัวเซลูชัน เอสแอลอาร์ บอลลูนเคลือบยาไซโลลิมัสที่ปล่อยยาสม่ำเสมอ ซึ่งช่วยหลีกเลี่ยงการฝังโลหะถาวร และนำเสนอวิธีการขยายหลอดเลือดแบบไม่ใช้ขดลวดให้แก่ผู้ป่วยทั่วโลก"
 
คุณชาร์ มาติน (Shar Matin) ซีอีโอของคอร์ดิส กล่าวว่า "เกือบ 20 ปีที่แล้ว คอร์ดิสได้เปิดตัว ไซเฟอร์ (CYPHER (R)) ซึ่งเป็นขดลวดเคลือบยาตัวแรกที่พลิกโฉมการรักษาโรคหัวใจและหลอดเลือดสำหรับผ ู้ป่วยทั่วโลก ในฐานะบริษัทอิสระแห่งใหม่ เราภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้สานต่อมรดกด้านนวัตกรรมและพลิกโฉมตลาดร่วมกับเม็ดอ ัลไลแอนซ์และเซลูชัน เอสแอลอาร์ บอลลูนเคลือบยาไซโลลิมัสแบบไมโครเรเซอร์วัวร์ (MicroReservoirs) ตัวแรก"
 
"ผมรู้สึกตื่นเต้นที่ได้รายงานข้อมูลเชิงบวกของเซลูชัน เอสแอลอาร์ มาจนถึงตอนนี้ ด้วยประสบการณ์ตรงจากการสัมผัสกับผลลัพธ์ทางคลินิกอันน่าประทับใจของผู้ป่วย ที่ได้รับการรักษาด้วยเซลูชัน เอสแอลอาร์ ในญี่ปุ่น อินเดีย ยุโรป และอเมริกาใต้ ปัจจุบัน เรากำลังพยายามสร้างผลลัพธ์เช่นนี้ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเทคโนโลยีนี้มีโอกาสอย่างมากในการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์การรักษาสำหรับ ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดแดงส่วนปลาย" คุณจอร์จ อดัม (George Adams) นักวิจัยหลักของการวิจัย US SELUTION4SFA IDE และผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดแดงส่วนปลาย โรงพยาบาลเร็กซ์ เมืองราลี รัฐนอร์ทแคโรไลนา สหรัฐอเมริกา กล่าว
 
เซลูชัน เอสแอลอาร์ ได้รับการรับรองมาตรฐานซีอี มาร์ค (CE Mark) สำหรับรักษาโรคหลอดเลือดแดงส่วนปลายเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2563 และผ่านการรับรองให้ใช้รักษาโรคหลอดเลือดหัวใจเมื่อเดือนพฤษภาคม 2563 ด้านองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) ได้ให้การรับรองสถานะ Breakthrough Designation รวม 4 การรับรองแก่เซลูชัน เอสแอลอาร์ สำหรับรักษาโรคหลอดเลือดแดงแข็ง โรคหลอดเลือดที่เกิดการตีบซ้ำภายในขดลวด โรคหลอดเลือดแดงส่วนปลายบริเวณใต้เข่า และการผ่าตัดทำเส้นเลือดล้างไตสำหรับผู้ป่วยที่ฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม นอกจากนี้ ข้อบ่งชี้ในการรักษาหลอดเลือดหัวใจ หลอดเลือดบริเวณใต้เข่า (BTK) และหลอดเลือดแดงต้นขาชั้นตื้น (SFA) ยังผ่านการรับรอง Investigational Device Exemption (IDE) จาก FDA และปัจจุบันการศึกษาทางคลินิกของ IDE กำลังเปิดรับสมัครผู้ป่วยเข้าร่วม
 
ผู้ป่วยกว่า 500 คน จากเป้าหมาย 3,326 คน ได้เข้าร่วมการทดลองแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุม เพื่อประเมินประสิทธิภาพของเซลูชัน เอสแอลอาร์ เทียบกับขดลวดเคลือบยา (DES) ลิมัส เพื่อแสดงความเหนือกว่าของการใช้บอลลูนเคลือบยาเซลูชัน เอสแอลอาร์ เมื่อเทียบกับขดลวดเคลือบยา โดยเซลูชัน เดโนโว (SELUTION DeNovo) ถือเป็นการศึกษาบอลลูนเคลือบยาครั้งใหญ่ที่สุดและอาจมีศักยภาพในการเปลี่ยนแ ปลงเวชปฏิบัติ
 
เทคโนโลยีของเซลูชัน เอสแอลอาร์ ประกอบด้วยไมโครเรเซอร์วัวร์ (MicroReservoirs) ซึ่งผลิตขึ้นจากพอลิเมอร์แบบสลายได้ทางชีวภาพผสมเข้ากับยาไซโลลิมัส (Sirolimus) ลดการตีบตันซ้ำ โดยไมโครเรเซอร์วัวร์ทำหน้าที่ควบคุมการปลดปล่อยยาลิมัสให้สม่ำเสมอเป็นเวลา ถึง 90 วัน ซึ่งการปลดปล่อยยาไซโลลิมัสอย่างต่อเนื่องจากขดลวดได้รับการพิสูจน์แล้วว่าไ ด้ผลดีทั้งในระบบหลอดเลือดเลี้ยงหัวใจและหลอดเลือดส่วนปลาย ขณะเดียวกัน เทคโนโลยี CAT(TM) (Cell Adherent Technology) อันเป็นกรรมสิทธิ์ของเม็ดอัลไลแอนซ์ ยังช่วยให้ไมโครเรเซอร์วัวร์เคลือบบนบอลลูนและติดเข้ากับช่องภายในหลอดเลือด ขณะให้ยาผ่านบอลลูนขยายหลอดเลือด
 
เซลูชัน เอสแอลอาร์ มีวางจำหน่ายในยุโรป และประเทศอื่น ๆ ที่ยอมรับมาตรฐานซีอี มาร์ค
 
สื่อมวลชนติดต่อ:
ริชาร์ด เคนยอน (Richard Kenyon)
อีเมล: rkenyon@medalliance.com
โทร. +44 7831 569940
 
เกี่ยวกับคอร์ดิส
 
คอร์ดิส (Cordis) เป็นผู้นำระดับโลกด้านการพัฒนาและการผลิตเทคโนโลยีการรักษาโรคหัวใจและหลอดเ ลือด โดยมีประวัติยาวนานกว่า 60 ปีในการบุกเบิกการบำบัดรักษาผู้ป่วยหลายล้านคน ประกอบกับชื่อเสียงด้านความเชี่ยวชาญทางคลินิก การฝึกอบรม และการบริการ คอร์ดิสมีมรดกด้านนวัตกรรมผลิตภัณฑ์รักษาโรคหัวใจและหลอดเลือดที่มีคุณภาพสู งและทำให้เกิดแผลน้อย พร้อมวางรากฐานที่แข็งแกร่งระดับโลกด้วยการดำเนินงานกว่าใน 70 ประเทศทั่วโลก
 
รูปภาพ: https://mma.prnewswire.com/media/1923959/MedAlliance_Image.jpg
โลโก้: https://mma.prnewswire.com/media/1196864/MedAlliance_Logo.jpg
ส่งโดย: IQ
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1807  
   
110.77.163.*


Page(s) : 1 




Reply this Topic reserved for registed member only. Register



  • ข้อความและรูปภาพที่ท่านเห็นส่วนใหญ่ ได้ถูกส่งมาจาก ทางบ้าน
    ทางเว็บไซต์ Thaiclinic.com ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของข้อความและรูปภาพที่ถูกส่งมา

  • ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชนและส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ
    เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง
    ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง

  • ถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมหรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล
    หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ webmaster@thaiclinic.com หรือ กดแจ้งที่ปุ่ม
    "แจ้งลบกระทู้"
    เพื่อให้ทีมงานทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ครับ

ThaiClinic.Com . All Rights Reserved. !--BEGIN WEB STAT CODE-->

Powered by