แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print

 หัวข้อ 39459: โครงการวิจัยบอลลูนเคลือบยารักษาภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ  (จำนวนคนอ่าน 161 ครั้ง)
« เมื่อ: 09/19/22 เวลา 06:48:18 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ชายชาวไต้หวันวัย 82 ปีได้กลายเป็นผู้ป่วยรายแรกในโครงการทดลองแบบสุ่ม (RCT) เพื่อรักษาภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ (ED) โดยใช้บอลลูนเคลือบยาไซโลลิมัสแบบใหม่ของเม็ดอัลไลแอนซ์ (MedAlliance) อย่างเซลูชัน เอสแอลอาร์ (SELUTION SLR(TM))
 
โครงการ PERFECT-SELUTION FIM ซึ่งย่อมาจาก PElvic Revascularization For EreCTile dysfuction-SELUTION First-In-Man (การเปิดหลอดเลือดเชิงกรานที่อุดตันเพื่อรักษาภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศโดยใ ช้เซลูชันเป็นครั้งแรกกับมนุษย์) ประกอบด้วยผู้ป่วยโรคเส้นเลือดแดงตีบบริเวณหว่างขาส่วนในด้านปลาย-องคชาต และผู้ที่มีภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ รวมทั้งสิ้น 54 ราย ผู้ป่วยถูกสุ่มให้ได้รับการรักษาด้วยเซลูชัน เอสแอลอาร์ หรือไม่ก็ขยายหลอดเลือดหัวใจด้วยบอลลูน (POBA) แบบไม่เคลือบยา จากนั้นติดตามอาการเป็นเวลา 12 สัปดาห์ ผลลัพธ์หลักด้านประสิทธิภาพของการวิจัยนี้อยู่ที่การตีบซ้ำของหลอดเลือด (โดยที่เส้นผ่านศูนย์กลางช่องภายในหลอดตีบมากกว่าหรือเท่ากับ 50%) เมื่อตรวจด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT) ส่วนผลลัพธ์หลักด้านความปลอดภัยอยู่ที่อัตราการเกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์
 
"เรารู้สึกตื่นเต้นในการเริ่มโครงการวิจัยนี้กับกลุ่มผู้ป่วยที่ต้องทนทุกข์ มาอย่างยาวนาน เราหวังว่าการวิจัยนี้จะเปิดโอกาสให้ผู้ป่วยเหล่านี้ใช้ชีวิตตามปกติได้ และหวังที่จะได้เห็นผลลัพธ์" ซ่ง-เต้า หวัง (Tzung-Dau Wang) ศาสตราจารย์สาขาแพทยศาสตร์ และผู้อำนวยการห้องปฏิบัติการตรวจสวนหลอดเลือดหัวใจ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวัน ซึ่งขยายหลอดเลือดหัวใจตีบบริเวณหว่างขาและองคชาตด้วยอุปกรณ์ทั่วไป (POBA และ/หรือขดลวด) กับผู้ป่วยโรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศจากการที่เลือดเข้าไปเลี้ยงอวัยวะเพศได้ไ ม่เพียงพอรวมกันกว่า 500 ราย และยอมรับว่าผู้ป่วยที่รักษาแล้วกว่า 30% เกิดการตีบซ้ำอีก กล่าว "เราจำเป็นต้องมีเทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อทำลายอุปสรรคนี้ เรามีความยินดีในการเริ่มการวิจัยนี้ โดยผู้ป่วยรายแรกตอบสนองต่อเทคนิคนี้ได้ดี"
 
เจฟฟรีย์ บี จัมป์ (Jeffrey B. Jump) ประธานและซีอีโอบริษัทเม็ดอัลไลแอนซ์ กล่าวว่า "เรามีความยินดีอย่างยิ่งกับผลลัพธ์ทางคลินิกที่เห็นได้จากการนำเทคโนโลยีดั งกล่าวไปใช้ในด้านต่าง ๆ ทั้งรักษาการเกิดการตีบซ้ำภายในขดลวด เส้นเลือดเลี้ยงหัวใจอุดตันใหม่ ทั้งบริเวณใต้และเหนือเข่า การผ่าตัดทำเส้นเลือดล้างไต และล่าสุดอย่างการรักษาภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ เทคโนโลยีที่ผสานรวมการใช้ยากับอุปกรณ์ดูจะให้ประโยชน์รอบด้าน เราหวังที่จะได้เห็นผลลัพธ์จากการวิจัยที่แพทย์ริเริ่มขึ้นนี้ เพราะเห็นได้ชัดว่าเป็นปัญหาจำเป็นเร่งด่วนที่กระทบชีวิตของคนหลายร้อยล้านค นทั่วโลก"
 
การวิจัยนี้สืบเนื่องมาจากการศึกษาความเป็นไปได้ที่ประสบผลสำเร็จเป็นอย่างด ีในยุโรปเมื่อเดือนสิงหาคม 2564 กับผู้ป่วยภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ 10 ราย
 
ทั่วโลกมีผู้ชายเป็นภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศกว่า 300 ล้านรายในปี 2563 และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 322 ล้านรายภายในปี 2568 เกือบ 30% ของผู้ป่วยกลุ่มนี้มีอายุระหว่าง 40 ถึง 70 ปี สาเหตุหลัก ๆ ของภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศคือโรคหลอดเลือด โดย 70% ของต้นตอเบื้องหลังภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศในทางกายภาพนั้นมาจากการที่เลือ ดไหลเวียนไปเลี้ยงอวัยวะเพศชายลดลง ยายับยั้งเอนไซม์ PDE5 เช่น ไวอากร้า และเซียลิส เป็นยาที่นิยมใช้รักษาภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศมากที่สุด แต่ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาถึง 50% กลับตอบสนองไม่เพียงพอ สำหรับตัวเลือกอื่น ๆ ที่มีศักยภาพใช้รักษาผู้ป่วยกลุ่มนี้ได้คือการรักษาหลอดเลือดบริเวณหว่างขา และ/หรือบริเวณองคชาตทางผิวหนังโดยใช้ขดลวดหรือบอลลูนโลหะ โดยการที่หลอดเลือดบริเวณเอว หว่างขา และองคชาตเกิดภาวะหลอดเลือดแดงแข็งจนทำให้อวัยวะเพศชายขาดเลือดหล่อเลี้ยงนั ้น ส่งผลกระทบต่อผู้เป็นภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศถึง 75%
 
เซลูชัน เอสแอลอาร์ ได้รับการรับรองมาตรฐานซีอี มาร์ค (CE Mark) สำหรับรักษาโรคหลอดเลือดแดงส่วนปลายเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2563 และผ่านการรับรองให้ใช้รักษาโรคหลอดเลือดหัวใจเมื่อเดือนพฤษภาคม 2563 ด้านองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกาได้ให้การรับรองสถานะ Breakthrough Designation รวม 4 การรับรองแก่เซลูชัน เอสแอลอาร์ สำหรับรักษาโรคหลอดเลือดแดงแข็ง โรคหลอดเลือดที่เกิดการตีบซ้ำภายในขดลวด โรคหลอดเลือดแดงส่วนปลายบริเวณใต้เข่า และการผ่าตัดทำเส้นเลือดล้างไต
 
เมื่อเดือนสิงหาคม 2564 เม็ดอัลไลแอนซ์ได้รับผู้ป่วยรายแรกจากเป้าหมายกว่า 3,000 คน เข้าร่วมการศึกษาโรคหลอดเลือดแดงแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุม เพื่อประเมินประสิทธิภาพของเซลูชัน เอสแอลอาร์ เทียบกับขดลวดเคลือบยา (DES) ลิมัส ถือเป็นการศึกษาบอลลูนเคลือบยาครั้งใหญ่ที่สุดและอาจมีศักยภาพในการเปลี่ยนแ ปลงเวชปฏิบัติ
 
เทคโนโลยีบอลลูนเคลือบยาของเม็ดอัลไลแอนซ์ ประกอบด้วยไมโครเรเซอร์วัวร์ (MicroReservoirs) ซึ่งผลิตขึ้นจากพอลิเมอร์แบบสลายได้ทางชีวภาพผสมเข้ากับยาไซโลลิมัส (Sirolimus) ลดการตีบตันซ้ำ โดยไมโครเรเซอร์วัวร์ทำหน้าที่ควบคุมการปลดปล่อยยาลิมัสให้สม่ำเสมอได้นานถึ ง 90 วัน[1] ซึ่งการปลดปล่อยยาไซโลลิมัสอย่างต่อเนื่องจากขดลวดได้รับการพิสูจน์แล้วว่าไ ด้ผลดีทั้งในระบบหลอดเลือดเลี้ยงหัวใจและหลอดเลือดส่วนปลาย ขณะเดียวกัน เทคโนโลยี CAT(TM) (Cell Adherent Technology) อันเป็นกรรมสิทธิ์ของเม็ดอัลไลแอนซ์ ยังช่วยให้ไมโครเรเซอร์วัวร์เคลือบบนบอลลูนและติดเข้ากับช่องภายในหลอดเลือด ขณะให้ยาผ่านบอลลูนขยายหลอดเลือด
 
สื่อมวลชนติดต่อ
 
ริชาร์ด เคนยอน (Richard Kenyon)
 
อีเมล: rkenyon@medalliance.com
 
โทร: +44 7831 569940
 
เกี่ยวกับเม็ดอัลไลแอนซ์
 
เม็ดอัลไลแอนซ์ (MedAlliance) เป็นบริษัทเทคโนโลยีการแพทย์เอกชนที่มีสำนักงานใหญ่ในเมืองนียง ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และมีสำนักงานสาขาในเยอรมนี สิงคโปร์ สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา เม็ดอัลไลแอนซ์มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำและการจำหน่ายอ ุปกรณ์ปลดปล่อยตัวยาขั้นสูงสำหรับรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจและโรคหลอดเลือดแดง ส่วนปลาย สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที www.medalliance.com  
 
1 ความเข้มข้นของยาที่พบในไมโครเรเซอร์วัวร์และเนื้อเยื่อ ข้อมูลจากแฟ้มของบริษัทเอ็ม เอ เม็ด อัลไลแอนซ์ เอส เอ (M.A. Med Alliance SA)
 
รูปภาพ: https://mma.prnewswire.com/media/1895522/MedAlliance_Image.jpg
 
โลโก้: https://mma.prnewswire.com/media/1196864/MedAlliance_Logo.jpg
ส่งโดย: IQ
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1807  
   
96.30.79.*


Page(s) : 1 




Reply this Topic reserved for registed member only. Register



  • ข้อความและรูปภาพที่ท่านเห็นส่วนใหญ่ ได้ถูกส่งมาจาก ทางบ้าน
    ทางเว็บไซต์ Thaiclinic.com ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของข้อความและรูปภาพที่ถูกส่งมา

  • ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชนและส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ
    เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง
    ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง

  • ถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมหรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล
    หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ webmaster@thaiclinic.com หรือ กดแจ้งที่ปุ่ม
    "แจ้งลบกระทู้"
    เพื่อให้ทีมงานทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ครับ

ThaiClinic.Com . All Rights Reserved. !--BEGIN WEB STAT CODE-->

Powered by