แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print

 หัวข้อ 39359: เมนารินีและเรเดียสขอขึ้นทะเบียนอีลาเซสแทรนท์เป็นยาใหม่ต่ออย.สหรัฐ  (จำนวนคนอ่าน 142 ครั้ง)
« เมื่อ: 06/24/22 เวลา 10:59:09 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

มุ่งใช้เป็นยารักษาผู้ป่วยมะเร็งเต้านมระยะลุกลามหรือแพร่กระจายชนิด ER+/HER2-
 
ยื่นคำขอให้เร่งประเมินยา ซึ่งหากคำขอดังกล่าวได้รับความยินยอมแล้ว คาดว่าอย.สหรัฐจะใช้เวลาประเมิน 8 เดือน
 
ข้อมูลจากการวิจัยในโครงการ EMERALD ให้ผลลัพธ์ทางบวก ตามที่เคยประกาศไว้เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2564
 
เป็นยากลุ่ม SERD ชนิดรับประทานตัวแรกและตัวเดียวในขณะนี้ที่เบื้องต้นปรากฏให้เห็นผลลัพธ์ในท างบวก
 
นำเสนอข้อมูลเพิ่มเติมไปในการประชุม SABCS (ธันวาคม 2564) และ ASCO (มิถุนายน 2565)
 
มีแผนยื่นขออนุญาตวางจำหน่ายยาอีลาเซสแทรนท์ในสหภาพยุโรป ช่วงครึ่งหลังของปี 2565
 
เมนารินี กรุ๊ป (Menarini Group) หรือ "เมนารินี" (Menarini) และเรเดียส เฮลธ์ อิงค์ (Radius Health, Inc.) หรือ "เรเดียส" (Radius) (NASDAQ: RDUS) (ในที่นี้เรียกรวมกันว่า "บริษัททั้งสอง") ประกาศว่า เมนารินีซึ่งมีเรเดียสสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ได้ยื่นขอขึ้นทะเบียนยาใหม่ (NDA) ต่อสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (FDA) เพื่อขึ้นทะเบียนยาอีลาเซสแทรนท์ (elacestrant) ซึ่งใช้ในการรักษาผู้ป่วยมะเร็งเต้านมระยะลุกลามหรือแพร่กระจายชนิดที่มีผลบ วกต่อตัวรับฮอร์โมนและผลลบต่อตัวรับเฮอร์ทู (ER+/HER2-)
 
 
ในการยื่นขอขึ้นทะเบียนครั้งนี้ บริษัททั้งสองได้ขอให้ FDA เร่งประเมินยาดังกล่าว ซึ่งหากได้รับความยินยอมแล้ว บริษัททั้งสองคาดว่า FDA น่าจะใช้เวลาประเมิน 8 เดือน ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวรวมการประเมินเร่งด่วน 6 เดือนแล้ว
 
 
การยื่นขอขึ้นทะเบียนยาใหม่นี้อาศัยข้อมูลเชิงบวกจากการวิจัยเฟส 3 ในโครงการ EMERALD ซึ่งได้ประกาศให้ทราบไปเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2564 โดยโครงการ EMERALD ได้บรรลุผลลัพธ์หลักทั้งสองข้อในการวิจัย ได้แก่ อัตราการรอดชีวิตโดยโรคสงบ (PFS) ในผู้ป่วยทั้งหมด และในกลุ่มย่อยซึ่งเป็นผู้ป่วยที่มีการกลายพันธุ์ของตัวรับฮอร์โมนเอสโตรเจน  1 (ESR1) เมื่อเทียบกับการรักษาตามมาตรฐาน (SoC) โดยเลือกว่าจะรักษาด้วยยาฟูลเวสแทรนท์ หรือยายับยั้งเอ็นไซม์อะโรมาเทส
 
 
อีลาเซสแทรนท์เป็นยากลุ่ม SERD ชนิดรับประทานตัวแรกและตัวเดียวในขณะนี้ที่เบื้องต้นปรากฏให้เห็นผลลัพธ์ที่ ดี ในการทดลองเพื่อใช้ในการรักษาผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนและผู้ชายที่เป็นมะเร็ งเต้านมระยะลุกลามหรือระยะแพร่กระจายชนิด ER+/HER2- นอกจากนี้ ผลลัพธ์เหล่านี้ยังแสดงให้เห็นด้วยว่า ยาอีลาเซสแทรนท์ออกฤทธิ์ในผู้ป่วยที่มีการกลายพันธุ์ของ ESR1 ในเนื้องอก ซึ่งเป็นหนึ่งในกลไกขัดขวางการรักษาที่ก่อตัวขึ้นหลังเข้ารับการรักษามะเร็ง เต้านมระยะแพร่กระจายในช่วงหลังๆ
 
 
หลังโครงการ EMERALD ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว ก็ได้มีการนำเสนอข้อมูลจากการวิจัยดังกล่าวที่การประชุมสัมมนาด้านมะเร็งเต้ านมแห่งแซนแอนโทนีโอ (SABCS) เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งได้เผยแพร่ไว้ในวารสารมะเร็งวิทยา (JCO) เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2565 ทั้งยังได้นำเสนอผลการวิเคราะห์กลุ่มย่อยเพิ่มเติมที่การประชุมของสมาคมมะเร ็งวิทยาแห่งอเมริกัน (ASCO) ประจำปี 2565 เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2565 ด้วย
 
 
เอลซิน บาร์เคอร์ เออร์กัน (Elcin Barker Ergun) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเมนารินี กล่าวว่า "เรารู้สึกตื่นเต้นกับโอกาสของยาอีลาเซสแทรนท์เมื่ออนุญาตให้ใช้ในการรักษาม ะเร็งเต้านมระยะลุกลามหรือแพร่กระจายชนิด ER+/HER2- ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนราว 70% ของมะเร็งเต้านมทั้งหมด และยังคงเป็นขอบข่ายความต้องการทางการแพทย์ที่ยังไม่ได้รับการตอบสนอง" และเพิ่มเติมว่า "ยาอีลาเซสแทรนท์ยังปรากฏให้เห็นประสิทธิภาพที่มีนัยสำคัญทางสถิติเมื่อเทีย บกับการรักษาตามมาตรฐานทั่วไป ทั้งในกลุ่มผู้ป่วยทั้งหมดและในกลุ่มที่มีการกลายพันธุ์ของ ESR1 ในเนื้องอก ซึ่งเป็นกลไกต่อต้านการรักษาที่จัดการยากเป็นอันดับต้นๆ ที่ก่อตัวขึ้นหลังเข้ารับการรักษามะเร็งเต้านมระยะลุกลาม/แพร่กระจายในช่วงห ลังๆ"
 
 
ชายา ชาห์ (Chhaya Shah) รองประธานอาวุโสฝ่ายการทดลองและการกำกับดูแลของเรเดียส กล่าวว่า "เราได้เปิดรับอาสาสมัครและดำเนินการทดลองโครงการ EMERALD จนเสร็จสิ้นอย่างมีคุณภาพ โดยเบื้องต้นได้ผลลัพธ์ในทางที่ดี และได้เตรียมยื่นขอขึ้นทะเบียนยาใหม่ต่ออย.สหรัฐ การยื่นขอขึ้นทะเบียนนี้นับเป็นความก้าวหน้าสำคัญของทั้งสองบริษัท และเราขอชื่นชมพนักงานหลายๆ คนของเมนารินีและเรเดียสที่ทำงานอย่างหนักและร่วมมือร่วมใจอย่างเข้มแข็ง เช่นเดียวกับนักวิจัย ผู้ป่วย และครอบครัวของผู้ป่วย เมื่อรวมพลังกันแล้ว เราหวังที่จะพัฒนายาอีลาเซสแทรนท์ให้ล้ำหน้าต่อไป พร้อมเปิดโอกาสมอบประโยชน์ใหม่ๆ ให้ผู้ป่วย"
 
 
นาสเซอร์ ฮับบูบี (Nassir Habboubi) หัวหน้าฝ่ายวิจัยและพัฒนาเภสัชภัณฑ์ของเมนารินี กรุ๊ป กล่าวเสริมว่า "ทีมงานของเมนารินีและเรเดียสได้ทำผลงานเอาไว้อย่างยอดเยี่ยม หลังจากที่ได้ทำงานร่วมกันมาตั้งแต่ที่เราเริ่มเป็นพันธมิตรกันเมื่อเดือนกร กฎาคม 2563" และเพิ่มเติมว่า "เรามีแผนทดสอบยาอีลาเซสแทรนท์ทั้งในรูปแบบการรักษาชุดแรก ๆ การทดลองแบบผสม และในการรักษามะเร็งเต้านมที่แพร่กระจายไปถึงสมอง โดยเราหวังที่จะแจ้งรายละเอียดต่างๆ ให้ทราบตลอดครึ่งหลังของปี 2565 และครึ่งแรกของปี 2566"
 
 
สำหรับการยื่นขอขึ้นทะเบียนยาใหม่นี้ ข้อตกลงที่บริษัททั้งสองได้ตกลงกันไว้ระบุว่า เมนารินีจะรับหน้าที่ดูแลเรื่องการขึ้นทะเบียนและจัดจำหน่าย โดยเมนารินีมีแผนจัดจำหน่ายยาอีลาเซสแทรนท์หลังได้รับการอนุมัติจาก FDA แล้วผ่านบริษัทสเต็มไลน์ เทอราพิวติกส์ (Stemline Therapeutics) ซึ่งเป็นบริษัทสาขาสหรัฐในเครือของเมนารินีเอง
 
 
เกี่ยวกับยาอีลาเซสแทรนท์ (RAD1901) และโครงการศึกษาทดลอง EMERALD ระยะที่ 3
 
อีลาเซสแทรนท์คือยากลุ่ม Selective Estrogen Receptor Degrader (SERD) ซึ่งเมนารินี กรุ๊ป ได้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิ และกำลังอยู่ระหว่างการประเมินความเป็นไปได้สำหรับใช้เป็นยารับประทานวันละค รั้งในการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมระยะลุกลามชนิดที่มีผลบวกต่อตัวรับฮอร ์โมนและผลลบต่อตัวรับเฮอร์ทู (ER+/HER2-) โดยในปี 2561 อีลาเซสแทรนท์ได้รับสถานะ Fast Track จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (FDA) การศึกษาวิจัยก่อนโครงการ EMERALD ชี้ว่าสารประกอบดังกล่าวนี้มีศักยภาพในการรักษาโรคมะเร็งเต้านม โดยสามารถใช้เดี่ยวๆ หรือใช้ร่วมกับการรักษาอื่นๆ การทดลอง EMERALD ระยะที่ 3 เป็นการทดลองแบบสุ่ม ไม่ปกปิดข้อมูล และมีกลุ่มควบคุม เพื่อประเมินประสิทธิภาพของยาอีลาเซสแทรนท์ ในฐานะยาทางเลือกลำดับสองหรือสามในการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมระยะลุกลา มหรือระยะแพร่กระจายชนิด ER+/HER2- การทดลองนี้มีผู้ป่วยเข้าร่วม 477 คน โดยเป็นผู้ป่วยที่เคยได้รับการรักษาด้วยยาฮอร์โมนหนึ่งหรือสองตัว ซึ่งรวมถึงยากลุ่ม cyclin-dependent kinase (CDK) 4/6 inhibitor ผู้ป่วยที่เข้าร่วมการทดลองถูกสุ่มให้รับยาอีลาเซสแทรนท์ หรือยาฮอร์โมนตัวอื่นที่ผู้วิจัยเลือกไว้ ทั้งนี้ ผลลัพธ์หลักของการทดลองคืออัตราการรอดชีวิตโดยโรคสงบ (PFS) ในผู้ป่วยทั้งหมดและในผู้ป่วยที่มีการกลายพันธุ์ของยีน ESR1 ส่วนผลลัพธ์รองคืออัตราการรอดชีวิตโดยรวม (OS) อัตราการตอบสนองต่อการรักษา (ORR) และระยะเวลาการตอบสนอง (DOR)
 
 
เกี่ยวกับเมนารินี
 
 
เมนารินี กรุ๊ป (Menarini Group) คือบริษัทยาและการวินิจฉัยชั้นนำระดับโลกซึ่งมียอดขายกว่า 4 พันล้านดอลลาร์ และมีพนักงานกว่า 17,000 คน เมนารินีมุ่งเน้นด้านการรักษาโรคที่จำเป็นแต่ยังไม่ได้รับการตอบสนอง ด้วยชุดผลิตภัณฑ์สำหรับการรักษาโรคหัวใจ โรคมะเร็ง โรคปอด โรคระบบทางเดินอาหาร โรคติดเชื้อ โรคเบาหวาน การอักเสบ และยาแก้ปวด ด้วยฐานการผลิต 18 แห่งพร้อมศูนย์วิจัยและพัฒนาอีก 9 แห่ง ผลิตภัณฑ์ของเมนารินีจึงมีวางจำหน่ายใน 140 ประเทศทั่วโลก รับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที www.menarini.com
 
 
เกี่ยวกับเรเดียส
 
 
เรเดียส (Radius) เป็นบริษัทชีวเภสัชภัณฑ์ระดับโลกซึ่งมุ่งเน้นด้านการรักษาโรคที่จำเป็นแต่ยั งไม่ได้รับการตอบสนองในด้านสุขภาพกระดูก โรคหายาก และเนื้องอกวิทยา โดยมีผลิตภัณฑ์เด่นคือยาฉีด TYMLOS(R) (abaloparatide) ซึ่งได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยาสหรัฐ สำหรับใช้รักษาสตรีวัยหมดฮอร์โมนที่เป็นโรคกระดูกพรุนและมีความเสี่ยงสูงที่ จะเกิดภาวะกระดูกหัก นอกจากนี้ เรเดียสยังมีโครงการทดลองอีกมากมาย เช่น การทดลองยาฉีด Abaloparatide เพื่อรักษาผู้ป่วยโรคกระดูกพรุนเพศชาย การทดลองยาอีลาเซสแทรนท์ (RAD1901) สำหรับใช้รักษาโรคมะเร็งเต้านมที่พบตัวรับฮอร์โมนบนผิวเซลล์ ซึ่งให้สิทธิแก่เมนารินี กรุ๊ป และการทดลองยา RAD011 ซึ่งเป็นยาน้ำชนิดสารละลายที่สังเคราะห์จาก Cannabidiol เพื่อรักษาระบบประสาทและต่อมไร้ท่อ โรคพัฒนาการทางระบบประสาท หรืออาการทางจิตประสาทต่างๆ โดยจะมุ่งเป้าไปที่กลุ่มอาการพราเดอร์-วิลลี่ กลุ่มอาการแองเจิลแมน และอาการกระตุกแขนขาเป็นชุดๆ
 
 
ข้อความคาดการณ์อนาคตของเรเดียส
 
 
ข่าวประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยข้อความคาดการณ์อนาคตภายใต้กฎหมายปฏิรูปการฟ ้องร้องคดีหลักทรัพย์ส่วนบุคคลปี 2538 (Private Securities Litigation Reform Act of 1995) ข้อความทั้งหมดที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริงในอดีตถือเป็นข้อความคาดการณ์อนาคต ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ข้อความเกี่ยวกับศักยภาพของยาอีลาเซสแทรนท์ในการรักษาผู้ป่วยมะเร็งเต้านมชน ิด ER+/HER2- ระยะลุกลาม รวมถึงศักยภาพในการนำไปใช้เป็นมาตรฐานใหม่ในการรักษา ระยะเวลาในการเร่งประเมินและโอกาสที่ยาอีลาเซสแทรนท์จะได้รับการอนุมัติขึ้น ทะเบียนยาใหม่จาก FDA รวมถึงความคาดหวังในการยื่นขออนุมัติจากฝ่ายกำกับดูแลในสหภาพยุโรป และกิจกรรมการศึกษายาอีลาเซสแทรนท์ในทางคลินิก
 
 
ข้อความคาดการณ์อนาคตอ้างอิงจากความคาดหวังในปัจจุบันของผู้บริหารบริษัทเรเ ดียส ข้อความเหล่านี้ไม่ใช่คำสัญญาหรือการรับประกัน ทั้งยังมีความเสี่ยง ความไม่แน่นอน และปัจจัยอื่นๆ ทั้งที่ทราบและไม่ทราบ ซึ่งอาจทำให้ผลลัพธ์ ผลการดำเนินงาน หรือความสำเร็จที่แท้จริง มีความแตกต่างอย่างมากจากผลลัพธ์ ผลการดำเนินงาน หรือความสำเร็จในอนาคตที่กล่าวถึงหรือกล่าวเป็นนัยในข้อความคาดการณ์อนาคต ปัจจัยดังกล่าวมีอยู่มากมาย ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมถึงความล่าช้าในการประเมินและการอนุมัติจาก FDA และหน่วยงานกำกับดูแลแห่งอื่น ๆ ความล่าช้าในการจัดหายา ความเสี่ยงเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างเรเดียสกับเมนารินี ซึ่งรวมถึงความสามารถในการเพิ่มการขายและการจัดจำหน่ายหากยาอีลาเซสแทรนท์ได ้รับอนุญาตให้วางจำหน่ายได้ ความสามารถของเมนารินีในการกำหนดราคายาอีลาเซสแทรนท์และการจ่ายเงินคืนหากได ้รับอนุมัติ ความเสี่ยงที่ว่าตลาดที่หวังจะวางจำหน่ายยาอีลาเซสแทรนท์ไม่เป็นไปตามที่คาด หวังไว้ ความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียงอันไม่พึงประสงค์จากยาอีลาเซสแทรนท์ ความเสี่ยงเกี่ยวกับการผลิต จัดหา และจัดจำหน่ายยาอีลาเซสแทรนท์ ตลอดจนความเสี่ยงจากการถูกฟ้องร้องหรือความท้าทายอื่น ๆ เกี่ยวกับสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาของเรเดียส ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนที่สำคัญเหล่านี้และอื่น ๆ ที่กล่าวถึงในเอกสารที่เรเดียสยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และ ตลาดหลักทรัพย์ (SEC) รวมถึงภายใต้หัวข้อ "Risk Factors" ในรายงานประจำปีของเรเดียสในแบบฟอร์ม 10-K สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2564 และเอกสารที่ยื่นต่อ SEC ในภายหลัง อาจทำให้ผลลัพธ์ที่แท้จริงแตกต่างไปอย่างมากจากที่ระบุไว้ในแถลงการณ์ ซึ่งเป็นการคาดการณ์ล่วงหน้าในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ แถลงการณ์ซึ่งเป็นการคาดการณ์ล่วงหน้านั้นเป็นการประมาณการของฝ่ายบริหารของ เรเดียส ณ วันที่ระบุในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ แม้เรเดียสอาจเลือกที่จะปรับปรุงข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าในบางจุดในอนาคต เราขอปฏิเสธภาระผูกพันใด ๆ ในการดำเนินการ แม้เหตุการณ์ที่ตามมาจะทำให้มุมมองของเราเปลี่ยนไป แถลงการณ์ที่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้าเหล่านี้ไม่ควรยึดถือว่าเป็นการแสดงควา มเห็นของเรเดียส ณ วันที่ใดๆ ต่อจากวันที่ระบุในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้
 
 
โลโก้ - https://mma.prnewswire.com/media/652491/MENARINI_Group_Logo.jpg
ส่งโดย: IQ
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1807  
   
110.77.163.*


Page(s) : 1 




Reply this Topic reserved for registed member only. Register



  • ข้อความและรูปภาพที่ท่านเห็นส่วนใหญ่ ได้ถูกส่งมาจาก ทางบ้าน
    ทางเว็บไซต์ Thaiclinic.com ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของข้อความและรูปภาพที่ถูกส่งมา

  • ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชนและส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ
    เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง
    ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง

  • ถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมหรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล
    หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ webmaster@thaiclinic.com หรือ กดแจ้งที่ปุ่ม
    "แจ้งลบกระทู้"
    เพื่อให้ทีมงานทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ครับ

ThaiClinic.Com . All Rights Reserved. !--BEGIN WEB STAT CODE-->

Powered by