แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print

 หัวข้อ 39185: Novavax เผยข้อมูลปฏิกิริยาข้ามกันจากการศึกษาวัคซีนโควิด-19  (จำนวนคนอ่าน 236 ครั้ง)
« เมื่อ: 12/28/21 เวลา 11:47:04 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

    - วัคซีน NVX-CoV2373 แสดงให้เห็นการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันโดยออกฤทธิ์ข้ามกันกับไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน (B.1.1.529) และสายพันธุ์อื่น ๆ เมื่อฉีด 2 โดสตามระเบียบพื้นฐาน
     - การฉีดวัคซีนโดสที่สามปรากฏให้เห็นการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันมากขึ้น เทียบได้กับระดับการปกป้องที่พบในการทดลองทางคลินิกเฟส 3 หรือไม่ก็เกินระดับที่พบในการทดลอง โดยมี IgG เพิ่มขึ้น 9.3 เท่า และยับยั้ง ACE2 ได้มากขึ้น 19.9 เท่าหลังฉีดโดสกระตุ้น
     - ระดับการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันในวัยรุ่นสูงกว่าผู้ใหญ่ 2-4 เท่า ทั้งต่อสายพันธุ์ที่ควรให้ความสนใจและสายพันธุ์ที่น่ากังวล
     - อยู่ระหว่างการพัฒนาวัคซีนที่ออกฤทธิ์กับสายพันธุ์โอมิครอนโดยเฉพาะ โดยคาดว่าจะผลิตตามมาตรฐาน GMP ได้ในช่วงต้นเดือนมกราคม
     - บริษัทเตรียมจัดการประชุมอัปเดตข้อมูลกับนักลงทุนวันนี้ ตั้งแต่เวลา 16 :30-17:00 น. ตามเวลา ET
     Novavax, Inc. (Nasdaq: NVAX) บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพผู้พัฒนาและจำหน่ายวัคซีนรุ่นใหม่สำหรับโรคติดเชื้อรุ นแรง ประกาศข้อมูลเบื้องต้นจากการประเมินระดับการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันของวัคซีน โควิด-19 ที่บริษัทได้พัฒนาขึ้นอย่าง NVX-CoV2373 ต่อสายพันธุ์โอมิครอน เช่นเดียวกับข้อมูลเพิ่มเติมจากการศึกษาประสิทธิภาพวัคซีนเข็มกระตุ้นเฟส 2 ที่กำลังดำเนินอยู่ขณะนี้ ผลการค้นพบใหม่นี้แสดงให้เห็นการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันโดยออกฤทธิ์ข้ามกันได ้กับทั้งสายพันธุ์โอมิครอนและสายพันธุ์อื่น ๆ ที่กำลังแพร่ระบาดเมื่อฉีดครบ 2 โดสตามพื้นฐาน และมีระดับการตอบสนองเพิ่มขึ้นอีกเมื่อฉีดโดสที่สามหลังผ่านไป 6 เดือน
     ระดับการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันที่พบในการวิจัยมีดังนี้
     ค่าไตเตอร์ Anti-spike IgG หลังฉีดโดสสาม เพิ่มขึ้น 5.4 เท่า (ต้นแบบ) ถึง 9.3 เท่า (โอมิครอน) เมื่อเทียบกับระดับการตอบสนองสูงสุดจากการฉีด 2 โดสตามพื้นฐาน
     เท่ากับว่าเพิ่มขึ้น 61.1 เท่า (ต้นแบบ) และเพิ่มขึ้น 73.5 เท่า (โอมิครอน) เมื่อเทียบกับก่อนฉีดโดสสาม
     ค่าไตเตอร์ยับยั้ง ACE2 เพิ่มขึ้น 6 เท่า (ต้นแบบ) ถึง 19.9 เท่า (โอมิครอน) เมื่อเทียบกับระดับการตอบสนองสูงสุดจากการฉีด 2 โดสตามพื้นฐาน เท่ากับว่าเพิ่มขึ้น 54.4 เท่า (ต้นแบบ) เพิ่มขึ้น 24.4 เท่า (เดลตา) และเพิ่มขึ้น 36.3 เท่า (โอมิครอน) เมื่อเทียบกับก่อนฉีดเข็มกระตุ้น
     พบการตอบสนองที่ออกฤทธิ์ลบล้างหลังฉีดครบ 2 โดสสำหรับสายพันธุ์ต้นแบบ เดลตา และโอมิครอน และเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนหลังฉีดโดสกระตุ้น โดยค่าไตเตอร์สำหรับเดลตาและโอมิครอนเทียบได้กับระดับการปกป้องที่พบในการทด ลองเฟส 3 ที่สหรัฐและเม็กซิโก และที่สหราชอาณาจักร
     o หลังฉีดครบ 2 โดสไปแล้ว ฤทธิ์ลบล้างสายพันธุ์โอมิครอนน้อยกว่าสายพันธุ์ต้นแบบ 4 เท่า บ่งชี้ว่าควรต้องฉีดเข็มกระตุ้น และพัฒนาวัคซันเจาะจงสายพันธุ์โอมิครอนโดยเฉพาะ
     นอกจากนี้ ข้อมูลจากการเพิ่มจำนวนอาสาสมัครวัยรุ่นในการทดลอง PREVENT-19 เฟส 3 ของ Novavax ที่สหรัฐและเม็กซิโก ยังแสดงให้เห็นระดับการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันที่แข็งแกร่งในกลุ่มวัยรุ่น โดยมีค่าไตเตอร์เพิ่มขึ้นทั้งในแง่ของ IgG และการยับยั้งตัวรับต่อสายพันธุ์ต่างๆ รวมถึงสายพันธุ์โอมิครอนหลังฉีดไป 2 โดส ระดับการตอบสนองในกลุ่มวัยรุ่นนั้นสูงกว่าผู้ใหญ่ 2-4 เท่าเมื่อประเมินจากสายพันธุ์ทั้งหมดในการทดลอง
     "เมื่อโลกตกอยู่ท่ามกลางการแพร่ระบาดที่วิวัฒนาการไปเรื่อย ๆ NVX-CoV2373 ได้แสดงให้เห็นระดับการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันที่แข็งแกร่งต่อสายพันธุ์โอมิค รอนและสายพันธุ์อื่นๆ ที่กำลังแพร่ระบาด เรารู้สึกชื่นใจเมื่อทราบว่า ระดับการตอบสนองหลังฉีดเข็มกระตุ้นต่อสายพันธุ์ทั้งหมดนั้นเทียบได้กับระดับ การปกป้องที่พบในการทดลองทางคลินิกเฟส 3 ของเรา ซึ่งบ่งชี้ว่า NVX-CoV2373 อาจเข้ามามีบทบาทสำคัญในการต่อสู้กับสายพันธุ์ใหม่ๆ" Gregory M. Glenn ประธานฝ่ายวิจัยและพัฒนาของ Novavax กล่าว "การที่ไวรัสโคโรนามีการกลายพันธุ์ต่อเนื่องนั้น ทำให้จำเป็นต้องพัฒนาวัคซีนเจาะจงสายพันธุ์โอมิครอนโดยเฉพาะ โดย Novavax ได้โคลน พัฒนาให้มีการแสดงออก และกำหนดลักษณะวัคซีนโปรตีนหนามของสายพันธุ์โอมิครอน และใกล้ที่จะเริ่มผลิตตามมาตรฐาน GMP ได้ในเร็ววัน เราคาดว่าจะเริ่มการวิจัยทางคลินิกได้ในไตรมาสแรกของปี 2565"
     ในการวิจัยนี้ ผู้วิจัยได้ฉีดวัคซีนโดสกระตุ้น 1 เข็ม โดยเป็นวัคซีน SARS-CoV-2 rS ขนาด 5 ไมโครกรัม และมีตัวเร่ง Matrix-M(TM) อีก 50 ไมโครกรัม ให้อาสาสมัครวัยผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพแข็งแรง หลังฉีด 2 โดสแรกไปประมาณ 6 เดือน และใช้เกณฑ์ทดสอบหลายแบบเพื่อประเมินระดับการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันต่อไวรัส  SARS-CoV-2 หลังฉีดเข็มกระตุ้นไป 28 วัน
     การรายงานความปลอดภัยเกี่ยวกับผลไม่พึงประสงค์สามัญแต่คาดได้ของวัคซีนนั้น แสดงให้เห็นแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นในวัคซีน NVX-CoV2373 ทั้งสามโดส สะท้อนให้เห็นภูมิต้านทานที่เพิ่มขึ้นเมื่อฉีดโดสสาม โดยหลังฉีดกระตุ้นไปแล้ว ผู้วิจัยพบการตอบสนองเฉพาะจุดและทั่วร่างกายแต่ส่วนใหญ่เกิดขึ้นเพียงชั่วคร าว เฉลี่ยประมาณ 2 วัน โอกาสเกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ระดับ 3 หรือสูงกว่ายังคงพบได้ยาก ขณะที่เหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่ต้องได้รับการดูแลทางการแพทย์ (MAAE) ภาวะทางการแพทย์ที่คาดว่ามีสาเหตุจากภูมิคุ้มกัน (PIMMC) และเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ร้ายแรง (SAE) ก็เกิดขึ้นไม่บ่อยมากหลังฉีดเข็มกระตุ้น โดยอยู่ในระดับพอๆ กันระหว่างกลุ่มวัคซีนและกลุ่มยาหลอก
     โลโก้ - https://mma.prnewswire.com/media/1506866/Novavax_High_Res_Logo.jpg
ส่งโดย: IQ
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1807  
   
125.24.6.*


Page(s) : 1 




Reply this Topic reserved for registed member only. Register



  • ข้อความและรูปภาพที่ท่านเห็นส่วนใหญ่ ได้ถูกส่งมาจาก ทางบ้าน
    ทางเว็บไซต์ Thaiclinic.com ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของข้อความและรูปภาพที่ถูกส่งมา

  • ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชนและส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ
    เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง
    ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง

  • ถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมหรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล
    หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ webmaster@thaiclinic.com หรือ กดแจ้งที่ปุ่ม
    "แจ้งลบกระทู้"
    เพื่อให้ทีมงานทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ครับ

ThaiClinic.Com . All Rights Reserved. !--BEGIN WEB STAT CODE-->

Powered by