แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print

 หัวข้อ 39180: เทคโนโลยีเป็นหัวใจหลักของอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพทั่วโลก  (จำนวนคนอ่าน 215 ครั้ง)
« เมื่อ: 12/24/21 เวลา 11:05:20 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

เทคโนโลยีถือเป็นหัวใจหลักด้านความยั่งยืนและราคาย่อมเยาของอุตสาหกรรมการดู แลสุขภาพทั่วโลก
 
ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และแมชชีนเลิร์นนิ่งนำพามวลมนุษยชาติไปสู่ผลลัพธ์ด้านสุขภาพที่ดียิ่งขึ้นใน ราคาย่อมเยา
 
การใช้จ่ายด้านการดูแลสุขภาพลดลงอย่างมากในช่วงการระบาดของโควิด-19 สืบเนื่องมาจากการบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ มาตรการจำกัด และการเลื่อนการรักษาโรคทั่วไป อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่ากระแสดังกล่าวจะเกิดขึ้นเพียงในระยะสั้น ๆ เท่านั้น เพราะวัคซีนป้องกันโควิด-19 และการตรวจหาเชื้อเริ่มแพร่หลายในวงกว้าง รวมถึงการเข้ารับการดูแลด้านสุขภาพเริ่มกลับมากระเตื้องขึ้นอีกครั้ง
 
นีลส์ บาเรนเดรคท์ ซีอีโอบริษัท Agility Risk Solutions ซึ่งเป็นผู้คว้ารางวัลชนะเลิศ Singapore Technology Excellence Awards สาขา AI - การดูแลสุขภาพประจำปี 2564 เปิดเผยว่า "โดยปกติในเกือบจะทุกปีและแทบไม่มีข้อยกเว้น การใช้จ่ายด้านการดูแลสุขภาพจะเติบโตเร็วกว่าตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประ เทศทั่วโลก ตัวเลขเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าตลอด 2 ทศวรรษที่ผ่านมา การเติบโตโดยเฉลี่ยของการใช้จ่ายด้านสุขภาพอยู่เหนือระดับ 2% อย่างต่อเนื่อง[1] โดยปัจจัยขับเคลื่อนต้นทุนสำคัญยังคงเป็นเช่นเดิม นั่นคือการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ รวมถึงความต้องการด้านการดูแล การรักษาและเทคโนโลยีล้ำสมัยเพิ่มสูงขึ้น ตลอดจนการขยายตัวของระบบสาธารณสุข"
 
ลดความเสี่ยงด้านการรักษาเพื่อขยายทรัพยากรด้านสุขภาพ
 
เพื่อเป็นการรับประกันความยั่งยืนและราคาย่อมเยาในอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพ หลายฝ่ายจึงหันมาใช้โซลูชัน AI โดยหนึ่งในวิธีการใช้งาน AI ก็คือการตรวจหาโรคตั้งแต่เนิ่น ๆ ซึ่ง AI สามารถทำนายความเสี่ยงด้านสุขภาพของแต่ละบุคคล และความเป็นไปได้ที่จะเกิดปัญหาด้านสุขภาพรุนแรง เช่น หัวใจวายหรือโรคหลอดเลือดสมอง ด้วยการมีข้อมูลเปี่ยมคุณประโยชน์นี้เป็นขุมพลัง ก็สามารถใช้กลยุทธ์บริหารความเสี่ยงเพื่อดูแลสุขภาพของผู้ป่วยได้ และช่วยให้พวกเขาสามารถหลีกเลี่ยงการเกิดปัญหาด้านสุขภาพรุนแรงในอนาคตอันใก ล้
 
ตัวอย่างหนึ่งคือการวิเคราะห์ข้อมูลเฉพาะของผู้ป่วยด้วยเทคโนโลยีของ Agility Risk Solutions ที่สามารถส่งสัญญาณเตือนได้แบบทันทีทันใด นายแพทย์ฌัก สไนแมน ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ของบริษัท Agility Risk Solutions ระบุว่า "จากจุดนี้ เราสามารถใช้กลยุทธ์แบบกำหนดเป้าหมายในระดับสูง โดยมุ่งเน้นไปที่การบริหารความเสี่ยงแบบเฉพาะเจาะจง ยกตัวอย่างเช่น โปรแกรมที่ให้ความสำคัญกับผู้ป่วยเป็นหลักของเราช่วยให้ผู้ป่วยจัดการสุขภาพ ของพวกเขาเองได้อย่างมั่นใจ และผลลัพธ์โดยตรงก็คือการลดการเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลซ้ำได้อย่างชัด เจน สำหรับบริษัทสุขภาพในสิงคโปร์ งานวิจัยอิสระฉบับหนึ่งแสดงให้เห็นว่า การเข้ามาแทรกแซงในลักษณะนี้สามารถประหยัดต้นทุนการเคลมเงินประกันได้ประมาณ  20%"
 
การเข้ามาดูแลของ Agility นั้นช่วยลดการเข้ารับการรักษาอาการป่วยในโรงพยาบาลซ้ำได้มากถึง 50% เมื่อเทียบกับบริษัทประกันต่าง ๆ ที่ใช้ระบบและโปรแกรมดั้งเดิม ซึ่งเป็นการอธิบายว่าเทคโนโลยีสามารถมอบผลลัพธ์ด้านการรักษาที่ดีขึ้นได้อย่ างไร
 
นายแพทย์สไนแมนอธิบายว่า "ด้วยการบูรณาการซอฟต์แวร์ ผู้ป่วยของ Agility จะได้รับการดูแลจากเจ้าหน้าที่ Personal Healthcare Coordinator (PHC) เพียงหนึ่งเดียวซึ่งจะคอยแนะนำพวกเขาในทุกย่างก้าวของเส้นทางด้านการดูแลสุข ภาพ แทนที่จะปล่อยให้เอเย่นต์มากหน้าหลายตาเข้ามาแทรกแซงกระบวนการรักษา จากมุมมองของผู้ป่วยแล้ว นี่ถือได้ว่าเป็นการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดเหตุร้าย ด้านสุขภาพในอนาคตอันใกล้ ซึ่งเป็นข่าวดีสำหรับคุณภาพชีวิตของตัวผู้ป่วยเองและครอบครัวของพวกเขา ในขณะเดียวกันยังช่วยลดต้นทุนด้านสุขภาพโดยรวมจากการลดความเสี่ยงด้านการรัก ษาอีกด้วย"
 
รับประกันการใช้เงินทุนอย่างคุ้มค่า
 
ระบบดูแลสุขภาพทั่วโลกต่างประสบปัญหาการใช้เงินสิ้นเปลือง การตรวจสอบโดยมนุษย์เป็นขั้นตอนที่ต้องใช้แรงงานมาก ซึ่งทำให้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งยังนำมาซึ่งความผิดพลาดในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การฉ้อโกง, การเคลมประกันอย่างไม่ถูกต้อง และการมอบสิทธิประโยชน์ได้ไม่สม่ำเสมอ ในกลับกัน ระบบที่ใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะแบบเหนือชั้นจะสามารถตรวจพบและแจ้งเตือนเมื่อเก ิดกรณีผิดพลาดได้แบบเรียลไทม์ด้วยความแม่นยำ 100%
 
ยกตัวอย่างเช่น แพลตฟอร์มซอฟต์แวร์การจัดการความเสี่ยงแบบครบวงจรรุ่นล่าสุดของ Agility ที่มีความชาญฉลาดในตัว ซึ่งสามารถเปรียบเทียบกฎ อัลกอริทึม และโปรโตคอลกว่า 67,000 รายการ รวมถึงใช้กระบวนการเรียนรู้ด้วย AI ภายในไม่กี่มิลลิวินาทีในการรับรองการเคลมประกันทุกรายการได้แบบเรียลไทม์
 
"ระบบเริ่มจากการตรวจสอบรายการการรักษาและสุขภาพของคนไข้เพื่อดูว่ามีข้อห้า มหรือความเสี่ยงด้านสุขภาพใด ๆ หรือไม่ โดยใช้โปรโตคอลทางการแพทย์ที่ปรับตั้งค่าอย่างละเอียด ซึ่งจะช่วยป้องกันการรักษาที่ซ้อนทับกันอันอาจก่อให้เกิดอันตราย และในขณะเดียวกันก็มีการตรวจสอบตามระเบียบทางธุรกิจเพื่อจำกัดค่าใช้จ่ายที่ สิ้นเปลือง และให้สามารถมั่นใจได้ว่าจะมีการจ่ายเงินชดเชยให้กับกรณีการเคลมประกันที่ถู กต้องได้ในทันที เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้าและคนไข้" บาเรนเดรคท์อธิบาย
 
ด้วยเหตุนี้ ระบบดังกล่าวจึงสามารถช่วยลดภาระฝ่ายบริหาร ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ รวมถึงค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ เนื่องจากเป็นรับประกันว่ามีการใช้เงินทุนไปอย่างคุ้มค่าด้วยการจ่ายเงินชดเ ชยให้การเคลมประกันที่ถูกต้องตามหลักการทางการแพทย์ โดยการศึกษาของ Agility ระบุว่า ระบบช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการได้มากถึง 50% ทั้งนี้ การลดการแทรกแซงจากมนุษย์ในขั้นการอนุมัติล่วงหน้าและการรับรองการเคลมประกั นจะช่วยป้องกันความผิดพลาดจากมนุษย์ได้ เนื่องจากระบบมีความสม่ำเสมอ
 
ระบบที่เปี่ยมนวัตกรรมนี้ขับเคลื่อนด้วยบิ๊กดาต้า ทั้งยังมีการปรับปรุงด้วยแมชชีนเลิร์นนิงอยู่ตลอดเวลา โดยจะมีการตรวจจับรูปแบบและแนวโน้มใหม่ ๆ เพื่อปรับปรุงการบริหารความเสี่ยงทางการแพทย์อย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน ระบบสามารถตรวจพบกรณีเคลมประกันที่เป็นเท็จหรือสิ้นเปลืองได้ทันทีในขั้นแสด งรายการ หรือตั้งแต่ก่อนการอนุมัติการจ่ายเงินชดเชย
 
"มีความเป็นไปได้มากมายในการพัฒนานวัตกรรมสำหรับการดูแลสุขภาพ เนื่องจาก AI และแมชชีนเลิร์นนิ่งยังคงเป็นตัวกำหนดอนาคตของการดูแลสุขภาพ ตลอดจนเป็นเครื่องมือจัดการอุปสรรคที่ระบบสาธารณสุขทั่วโลกต้องเผชิญ รางวัล Singapore Technology Excellence Award ที่เราได้รับเป็นเครื่องยืนยันถึงเรื่องนี้ได้อย่างดี และแปลว่าการเปลี่ยนแปลงสู่ระบบดิจิทัลนั้นคือหัวใจสำคัญของการพัฒนาการดูแล สุขภาพที่มีคุณภาพและมีคนไข้เป็นศูนย์กลาง ในราคาที่ย่อมเยายิ่งขึ้นทั่วโลก" บาเรนเดรคท์กล่าวสรุป
 
[1] World Health Organization. (2020). Global spending on health: Weathering the storm. Geneva: World Health Organization.
ส่งโดย: IQ
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1807  
   
110.77.182.*


Page(s) : 1 




Reply this Topic reserved for registed member only. Register



  • ข้อความและรูปภาพที่ท่านเห็นส่วนใหญ่ ได้ถูกส่งมาจาก ทางบ้าน
    ทางเว็บไซต์ Thaiclinic.com ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของข้อความและรูปภาพที่ถูกส่งมา

  • ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชนและส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ
    เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง
    ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง

  • ถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมหรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล
    หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ webmaster@thaiclinic.com หรือ กดแจ้งที่ปุ่ม
    "แจ้งลบกระทู้"
    เพื่อให้ทีมงานทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ครับ

ThaiClinic.Com . All Rights Reserved. !--BEGIN WEB STAT CODE-->

Powered by