« เมื่อ: 08/06/21 เวลา 15:55:35 » |
|
ฉบับที่ 248 วันที่ 5 สิงหาคม 2564 เพื่อนแพทย์ที่รัก : Covid-19 คงจะเป็นปัญหาใหญ่ทั่วโลก และสำหรับประเทศไทยเราก็ดูท่าทีจะลำบากมาก ผมมีความเห็นส่วนตัวครับว่าการที่เรามุ่งเน้นตรวจคนที่มีเชื้อ Covid อยู่ในลำคอ และแยกออกมาเพื่อไม่ให้ไปติดต่อผู้อื่น อาจจะทำได้เพียงแค่ส่วนน้อย คือได้เพียงแค่แยกคนส่วนน้อยที่มีเชื้อโควิดในลำคอออกมา แต่ก็อาจจะยังเหลือคนส่วนที่มีเชื้อโควิดในลำคอที่ยังไม่รู้ตัวและยังปะปนใก ล้ชิดกับบุคคลอื่น ผมจึงมีความเห็นว่าเราต้อง บอกประชาชนว่ามีคนอื่น ๆ รอบตัวที่อาจจะมีเชื้อโควิดอยู่ในลำคอ จึงต้องให้มีการป้องกันตลอดเวลา ใส่หน้ากาก ล้างมือ และให้อยู่ห่าง ๆ กัน และให้เอากำลังคนและกำลังทรัพย์ทั้งหมดมาดูแล โดยบอกประชาชน ว่าให้มาตรวจว่ามีการอักเสบจากโควิด เพื่อรับการรักษาเมื่อมีอาการ มีไข้ หรือไอ หรือเจ็บคอ หรือมีเสมหะ หรือมีปวดเมื่อยตัว แล้วเอาคนพวกนี้ไปรับการตรวจ ถ้ามีเชื้อโควิด ก็จับอยู่โรงพยาบาล, Hospitel และให้การรักษาเลย วิธินี้แปลว่าไม่มีสีเขียว ที่ไม่มีอาการ ที่นอนอยู่ตาม Hospitel, โรงพยาบาล เพราะเราไม่ตรวจคนไม่มีอาการแล้วจะได้มีสถานที่ กำลังคน กำลังทรัพย์ มารักษาคนที่มีอาการจริง ๆ คือ สีเหลือง และ สีแดง นั่นเอง 1) ผมขอเล่าเรื่องจากเดือนที่แล้วที่ผมฉีด Sinovac + Sinovac + Sinopharm เป็นเข็มที่ 3 และผมได้เจาะดู antibody ผม test ด้วยเครื่อง Siemens จุดตัดผ่านว่ามี antibody คือ 1 ครับ ที่ดีมากคือ 4.8 ครับ Sinovac : ครบ 4 อาทิตย์ ขึ้น 4.25 / ครบ 5 อาทิตย์ ตกลงเหลือ 1.05 / ครบ 9 อาทิตย์ ตกลงเหลือ 1.02 SV+SV+Sinopharm : ครบ 3 อาทิตย์ ขึ้นเป็น 1.82 / ครบ 4 อาทิตย์ คงเหลือ 1.44 (28 กรกฎาคม) สำหรับผมคนเดียวนั้น เชื้อตาย antibody อยู่ได้ไม่นาน ผมเริ่มฉีดเมษายน รวมแล้ว 3 dose antibody เมื่อ 28 กรกฎาคม เหลือแค่ 1.44 เท่านั้น ผมเลยปรึกษาอาจารย์อมร ว่าจะฉีดอีกเมื่อไรดี อาจารย์อมรบอกว่า ต้องทิ้งระยะอีก 2-3 เดือน แล้วค่อยฉีด AstraZeneca หรือ Pfizer แล้วแต่ว่าจะมีอะไร แต่ปลายเดือนสิงหาคม เมื่อครบ 8 weeks หลังฉีด Sinopharm ผมจะเจาะเลือดดูว่า antibody ผมเหลืออยู่เท่าไร แล้วจะมาเล่าให้ฟังครับ 2) UCEP ฉุกเฉินวิกฤตในเดือนกรกฎาคม 2564 มีผู้ป่วยมา ER โรงพยาบาลเอกชน 64,642 ราย (มกราคม 34,663) ที่มากมา 2 เดือนแล้ว เนื่องจากโรงพยาบาลรัฐหลายแห่งไม่สามารถรับผู้ป่วย ER ได้ แต่ก็ยังมีเข้าเกณฑ์ที่ผู้ป่วย ไม่ต้องจ่าย 2,497 คน ที่ไม่ได้เพิ่มขึ้นไปตามผู้ป่วยที่มา ER ซึ่งกองทุนผู้จ่ายคงจะจ่ายไหวครับ 3) ตอนนี้ขออนุญาตแนะนำสำหรับเพื่อนแพทย์ที่สนใจในการลงทุน มีแฟนเพจใน FACEBOOK ชื่อ Doctorinvest ขอเชิญกดติดตาม และติดดาว ครับผม รัก & ห่วงใย นายแพทย์เอื้อชาติ กาญจนพิทักษ์ E-mail : aurchart@gmail.com, Fax : 02-3740804, มือถือ : 081-9118901 ปัญหาทุกเรื่องติดต่อได้ครับ : พญ. สมศรี 081-8214593, นพ. กีรติ 081-8188568 นพ. วิสูตร 086-0019228, นพ. ทวีศิลป์ 089-8139393 นพ. เอื้อชาติ 081-9118901, นพ. กัมมันต์ 089-8811673 นพ. รณชัย 089-6781295, นพ. อมร 081-8304283
|
|