แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print

 หัวข้อ 38632: ผลการสำรวจพบตัวเลขผู้ศัลยกรรมเสริมความงามยังคงเพิ่มขึ้นทั่วโลก  (จำนวนคนอ่าน 457 ครั้ง)
« เมื่อ: 12/15/20 เวลา 10:33:26 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

    ผลการสำรวจล่าสุดจาก ISAPS พบตัวเลขผู้ศัลยกรรมเสริมความงามยังคงเพิ่มขึ้นทั่วโลก
     ตัวเลขผู้ศัลยกรรมความงามโดยการผ่าตัดและไม่ผ่าตัดเพิ่มขึ้น 7.4% ในปี 2562
     สมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งเสริมสวยนานาชาติ (International Society of Aesthetic Plastic Surgery หรือ ISAPS) เปิดเผยผลการสำรวจประจำปีในด้านการเสริมความงามในยุคปัจจุบัน ซึ่งระบุว่า ตัวเลขของผู้เสริมความงามในปี 2562 เพิ่มขึ้นถึง 7.4%
     ไฮไลท์น่าสนใจ
     ตัวเลขการทำศัลยกรรมเพิ่มขึ้น 7.4% ซึ่งสูงกว่าเมื่อปี 2561 ซึ่งเพิ่มขึ้น 5.6% โดยในปี 2562 เพิ่มขึ้นทั้งแบบผ่าตัดและไม่ผ่าตัด (7.1% และ 7.6% ตามลำดับ) เมื่อเทียบกับปี 2561 ซึ่งมีการทำศัลยกรรมแบบไม่ผ่าตัดเพิ่มขึ้นอย่างเดียว
     แม้การทำศัลยกรรมแบบผ่าตัดจะลดลง 3.6% ในปีที่แล้ว แต่การเสริมหน้าอกยังคงเป็นการผ่าตัดเพื่อความงามที่พบบ่อยที่สุดซึ่งคิดเป็ น 15.8% ของการผ่าตัดทั้งหมด โดยการผ่าตัดที่ได้รับความนิยมสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ การเสริมหน้าอก การดูดไขมัน การผ่าตัดเปลือกตา การทำหน้าท้อง และการผ่าตัดเสริมจมูก ส่วนการศัลยกรรมแบบไม่ผ่าตัดยอดนิยม 5 อันดับแรกยังคงเหมือนเดิม นั่นคือ การฉีดโบท็อกซ์ กรดไฮยาลูโรนิก การกำจัดขน การลดไขมันโดยไม่ต้องผ่าตัด และเลเซอร์ฟื้นฟูสภาพผิว
     การศัลยกรรมเสริมหน้าอกลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับในรอบ 5 ปีที่ผ่านมาซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 20.6% ซึ่งอาจมีสาเหตุจากปัญหาเกี่ยวกับโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองที่มีความสัมพันธ์ก ับการเสริมหน้าอกด้วยเต้านมเทียม (BIA-ALCL) โดยการผ่าตัดเอาเต้านมเทียมออกนั้นเพิ่มขึ้น 10.7% ในปี 2562
     การทำศัลยกรรมบริเวณใบหน้าและศีรษะเพิ่มขึ้น 13.5% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านั้นซึ่งปรับตัวลง 14.7% โดยการศัลยกรรมเปลือกตาได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในหมู่ผู้ชาย
     การผ่าตัดสะโพกมีการเติบโตสูงสุดเมื่อเทียบกับการผ่าตัดทั้งหมด โดยการผ่าตัดเสริมสะโพกเพิ่มขึ้น 38.4% ในปี 2562 และ 65.9% นับตั้งแต่ปี 2558 ส่วนการผ่าตัดยกกระชับสะโพกเพิ่มขึ้น 25.5% ในปี 2562 และเพิ่มขึ้น 77.6% นับตั้งแต่ปี 2558 นอกจากนี้ การผ่าตัดตกแต่งแคมเล็กเพิ่มขึ้น 24.1% ในปี 2562 และเพิ่มขึ้น 73.3% นับตั้งแต่ปี 2558
     การใช้ยาฉีดโดยไม่ผ่าตัดเพิ่มขึ้น 8.6% โดยแม้โบท็อกซ์จะยังคงได้รับความนิยมมากที่สุด แต่แคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทท์มีส่วนเพิ่มมากที่สุด ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 64.9% ในปี 2562 นอกจากนี้ การใช้กรดไฮยาลูโรนิกยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเพิ่มขึ้น 15.7% นับตั้งแต่ปี 2561
     การฉีดฟิลเลอร์ด้วยสาร Poly-l-lactic และการกรอผิวได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเพิ่มขึ้น 24.1% และ 34.2% ตามลำดับ
     การผ่าตัดที่พบบ่อยที่สุดในผู้หญิงยังคงเป็นการเสริมหน้าอก การดูดไขมัน และการผ่าตัดเปลือกตา สำหรับในบรรดาผู้ชาย 3 อันดับแรก ได้แก่ การผ่าตัดลดขนาดเต้านม การผ่าตัดเปลือกตา และการดูดไขมัน
     การศัลยกรรมแบบไม่ผ่าตัดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับทั้งสองเพศคือการฉ ีดโบท็อกซ์ กรดไฮยาลูโรนิก และการกำจัดขน
     การผ่าตัดส่วนใหญ่เกิดขึ้นในผู้หญิงอายุ 35-50 ปี การเสริมหน้าอก (53.9%) และการเสริมจมูก (64.5%) ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในคนอายุ 19-34 ปี ในขณะที่การฉีดโบท็อกซ์ได้รับความนิยมมากที่สุดในผู้ที่มีอายุ 35-50 ปี (46.1% ของทั้งหมด) การผ่าตัดเสริมจมูกยังคงเป็นการศัลยกรรมเสริมความงามที่พบบ่อยที่สุดในผู้ป่ วยอายุไม่ถึง 18 ปี
     สถิติประเทศต่าง ๆ
     สหรัฐมีการผ่าตัดลดลง 8.7% แต่ก็ยังคงมีผู้ผ่าตัดมากที่สุดในโลก (15.9% เทียบกับทั้งหมด) และยังมีการศัลยกรรมแบบไม่ผ่าตัดคิดเป็นสัดส่วน 19.3% จากทั้งหมด และฉีดสารเป็นสัดส่วน 77.8% จากทั้งหมด ขณะที่บราซิลมีการผ่าตัดมากที่สุดในอันดับรองลงมา (13.1% ของทั้งหมด) โดยมีการศัลยกรรมแบบไม่ผ่าตัดเพิ่มขึ้น 28%
     ประเทศที่มีการศัลยกรรมความงามมากที่สุด 10 อันดับแรกของปี 2562 ได้แก่ สหรัฐอเมริกา บราซิล ญี่ปุ่น เม็กซิโก อิตาลี เยอรมนี ตุรกี ฝรั่งเศส อินเดีย และรัสเซีย
     สหรัฐอเมริกาและบราซิลคาดว่าจะมีศัลยแพทย์ตกแต่งมากที่สุด โดยมีมากกว่า 25% ของทั้งหมดทั่วโลก ตามมาด้วยประเทศในแถบเอเชีย โดยอันดับ 3 คือจีน อันดับ 4 คือญี่ปุ่น และอันดับ 5 คือเกาหลีใต้
     การผ่าตัดยังคงดำเนินการในโรงพยาบาลเป็นหลัก (47.9% ทั่วโลก) นอกเหนือจากสหรัฐอเมริกาที่มีการผ่าตัดในคลินิกเป็นสัดส่วนถึง 62.7%
     ส่วนประเทศที่มีสัดส่วนผู้ป่วยต่างชาติมากที่สุดยังคงใกล้เคียงกับปีที่แล้ว  ได้แก่ ไทย (33.2%) เม็กซิโก (22.5%) และตุรกี (19.2%)
     ระเบียบวิธีการสำรวจ
     ข้อมูลการสำรวจจากทั่วโลกได้รับการเรียบเรียงหลังจากที่ได้สอบถามศัลยแพทย์พ ลาสติกราว 25,000 คนในฐานข้อมูลของ ISAPS แบบสอบถามดังกล่าวได้เน้นไปที่จำนวนการทำศัลยกรรมทั้งแบบผ่าตัดและไม่ผ่าตัด ในปี 2562 รวมถึงคำถามที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ โดยผลลัพธ์ดังกล่าวได้รับการรวบรวม เรียบเรียง และวิเคราะห์โดย Industry Insights บริษัทวิจัยอิสระในเมืองโคลัมบัส รัฐโอไฮโอ ISAPS เป็นเพียงองค์กรเดียวที่รวบรวมข้อมูลด้านความงามดังกล่าวในระดับโลกเป็นประจ ำทุกปี สามารถรับชมสำเนาของผลการสำรวจฉบับเต็มได้ที่ https://www.isaps.org/medical-professionals/isaps-global-statistics/
     เกี่ยวกับ ISAPS - สมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งเสริมสวยนานาชาติ (ISAPS) เป็นสมาคมสากลชั้นนำของศัลยแพทย์ด้านความงามที่ได้รับใบรับรอง ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2513 โดย ISAPS ได้เปิดเวทีเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ด้านศัลยกรรมพลาสติกเพื่อความงามในระดับโ ลก นอกจากนี้ ทางสมาคมยังได้มอบการฝึกอบรมและการศึกษาต่อเนื่องที่ทันสมัยให้กับสมาชิก พร้อมสนับสนุนและให้การรับรองการประชุมทางวิทยาศาสตร์อย่างต่อเนื่องทั่วโลก  ในปัจจุบัน สมาชิกของ ISAPS ประกอบด้วยศัลยแพทย์เพื่อความงามและการรักษาความบกพร่องที่เป็นที่ยอมรับระด ับโลกใน 110 ประเทศ
     โลโก้ - https://mma.prnewswire.com/media/1038963/ISAPS_Logo.jpg
ส่งโดย: IQ
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1807  
   
96.30.79.*


Page(s) : 1 




Reply this Topic reserved for registed member only. Register



  • ข้อความและรูปภาพที่ท่านเห็นส่วนใหญ่ ได้ถูกส่งมาจาก ทางบ้าน
    ทางเว็บไซต์ Thaiclinic.com ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของข้อความและรูปภาพที่ถูกส่งมา

  • ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชนและส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ
    เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง
    ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง

  • ถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมหรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล
    หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ webmaster@thaiclinic.com หรือ กดแจ้งที่ปุ่ม
    "แจ้งลบกระทู้"
    เพื่อให้ทีมงานทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ครับ

ThaiClinic.Com . All Rights Reserved. !--BEGIN WEB STAT CODE-->

Powered by