แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print

 หัวข้อ 38074: ผลวิจัยเผยยาปฏิชีวนะชนิดใหม่ ๆ อาจช่วยรักษาชีวิตผู้ป่วยปีละ 230,000 คน  (จำนวนคนอ่าน 399 ครั้ง)
« เมื่อ: 02/04/20 เวลา 13:53:24 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ผลวิจัยทางคลินิกล่าสุดได้รับการนำเสนอในการประชุมระดับนานาชาติซึ่งจัดโดยม ูลนิธิ Fondazione Internazionale Menarini
 
     องค์การอนามัยโลก (WHO) เสนอแนะให้ลงทุนด้านการวิจัยมากขึ้นตั้งแต่ตอนนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดหายนะด้านสาธารณสุข
 
     ผลวิจัยเผยให้เห็นว่า ยาปฏิชีวนะชนิดใหม่ ๆ อาจช่วยลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากแบคทีเรียดื้อยาปฏิชีวนะ จาก 50-55% เหลือเพียง 10-15% และการใช้ยาปฏิชีวนะชนิดใหม่ ๆ จะช่วยรักษาชีวิตผู้ป่วยได้ถึงหนึ่งในสาม หรือปีละกว่า 230,000 คนทั่วโลก โดยราว 11,000 คนอยู่ในยุโรป
 
     ผลวิจัยทางคลินิกล่าสุดได้รับการนำเสนอในการประชุมระดับนานาชาติของมูลนิธิ Fondazione Internazionale Menarini ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองเจนัว ประเทศอิตาลี โดยบรรดาผู้เชี่ยวชาญแถวหน้าได้มารวมตัวกันเพื่ออัปเดตข้อมูลเกี่ยวกับการดื ้อยาปฏิชีวนะ ซึ่งสอดคล้องกับผลวิจัยข้างต้น
 
     การติดเชื้อเพราะแบคทีเรียดื้อยาปฏิชีวนะคร่าชีวิตผู้ป่วยปีละ 700,000 คนทั่วโลก โดย 33,000 คนจากทั้งหมดอยู่ในยุโรป และตัวเลขดังกล่าวมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล อย่างไรก็ดี "การใช้ยาปฏิชีวนะชนิดใหม่ ๆ อย่างเหมาะสมตั้งแต่เนิ่น ๆ ซึ่งบางชนิดวางตลาดแล้ว และบางชนิดเตรียมวางตลาดในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า อาจช่วยลดจำนวนผู้เสียชีวิตได้ถึงหนึ่งในสาม จากหลักฐานที่พบในการวิจัยทางคลินิกหลายครั้ง ซึ่งมีผู้ป่วยติดเชื้อ Klebsiella pneumonia เข้าร่วมการทดลองรวมกว่าหนึ่งพันคน" Matteo Bassetti ประธานสมาคม SITA (Italian Society of Anti-infective Therapy) กล่าว
 
     อย่างไรก็ตาม ยาปฏิชีวนะชนิดใหม่ ๆ กลับเข้าไม่ถึงผู้ป่วย ทั้งนี้ WHO เตือนว่า ปัจจุบันการดื้อยาปฏิชีวนะเป็นภัยคุกคามระดับโลกที่ต้องหาทางออกอย่างเร่งด่ วน ทว่าการลงทุนของภาคเอกชนที่ลดลงและการขาดแคลนนวัตกรรมในการพัฒนายาปฏิชีวนะช นิดใหม่ ๆ ได้บั่นทอนความพยายามในการรับมือกับการติดเชื้อเพราะแบคทีเรียดื้อยาปฏิชีวน ะ
 
     สถาบันต่าง ๆ ทุกระดับ และอุตสาหกรรมยาโดยรวม จำเป็นต้องร่วมมือกันยกระดับความพยายามและการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา ผ่านการลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อคิดค้นและพัฒนายารักษาใหม่ ๆ  
 
     "ยาปฏิชีวนะชนิดใหม่ ๆ จำนวนหนึ่งได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยาสหรัฐ และองค์การยาแห่งสหภาพยุโรปแล้ว ทว่ายังมีปัญหาเรื่องการนำไปใช้ทางเวชปฏิบัติแม้จะได้รับการยอมรับว่าช่วยรั กษาชีวิตเช่นเดียวกับยารักษาโรคมะเร็งชนิดใหม่ ๆ ก็ตาม ทั้งนี้ ยาปฏิชีวนะชนิดใหม่ ๆ ควรนำไปใช้อย่างเหมาะสมและเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อรักษาผู้ป่วยอาการหนักที่รอไม่ได้ เพราะการรักษาที่ล่าช้ามีผลต่ออัตราการเสียชีวิตและผลการรักษา" Marin Kollef ศาสตราจารย์ภาควิชาเวชศาสตร์ วิทยาลัยแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยวอชิงตัน กล่าว
 
     "ความก้าวหน้าของการแพทย์แผนปัจจุบันทั้งในด้านศัลยศาสตร์หัตถการ อายุรศาสตร์ พยาธิวิทยาภูมิคุ้มกัน การปลูกถ่าย และการรักษาโรคมะเร็ง ทำให้การรักษาผู้ป่วยมีประสิทธิภาพมากขึ้นและช่วยรักษาชีวิตผู้ป่วยจำนวนมหา ศาล แต่การขาดแคลนยาปฏิชีวนะชนิดใหม่ ๆ จะทำให้เกิดการติดเชื้อเพราะแบคทีเรียดื้อยาปฏิชีวนะหลายขนาน ซึ่งจะทำลายปาฏิหาริย์ทางการแพทย์ที่เกิดขึ้นตลอดครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา" Pierluigi Viale รองประธานสมาคม SITA (Italian Society of Anti-infective Therapy) กล่าวสรุป
 
     ด้วยเหตุนี้ บรรดาผู้เชี่ยวชาญจึงเห็นตรงกันว่า กฎระเบียบข้อบังคับและขั้นตอนการวางตลาดของยาปฏิชีวนะชนิดใหม่ ๆ ควรเป็นไปในทิศทางเดียวกับของยารักษาโรคมะเร็งชนิดใหม่ ๆ ซึ่งได้รับการอนุมัติอย่างรวดเร็วและไม่ยุ่งยาก
 
     โลโก้ - https://mma.prnewswire.com/media/1017025/Menarini_Logo.jpg
ส่งโดย: IQ
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1807  
   
58.11.80.*


Page(s) : 1 




Reply this Topic reserved for registed member only. Register



  • ข้อความและรูปภาพที่ท่านเห็นส่วนใหญ่ ได้ถูกส่งมาจาก ทางบ้าน
    ทางเว็บไซต์ Thaiclinic.com ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของข้อความและรูปภาพที่ถูกส่งมา

  • ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชนและส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ
    เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง
    ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง

  • ถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมหรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล
    หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ webmaster@thaiclinic.com หรือ กดแจ้งที่ปุ่ม
    "แจ้งลบกระทู้"
    เพื่อให้ทีมงานทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ครับ

ThaiClinic.Com . All Rights Reserved. !--BEGIN WEB STAT CODE-->

Powered by