« ความเห็นที่ #13 เมื่อ: 11/13/19 เวลา 22:30:31 » |
|
on 11/13/19 เวลา 21:57:47, Onc wrote: น่าจะคิดมากไปเองนะคะ เพราะตอนนั้นจบมาทำงานได้แค่ 1 เดือนกว่าไม่เคยมีปัญหาอะไรกับใคร เอกชนติดต่อมาตั้งแต่เป็น fellow แล้วค่ะแต่ปฏิเสธไปเพราะสงสารคนไข้ที่ต้องนั่งมอเตอร์ไซค์ไปศูนย์มะเร็งที่ไ กลออกไปอีก 130 กิโล ไปกลับก็ 260 กิโล ไหนจะค่ากิน ค่าน้ำมันรถ อ่อนเพลียหลังจากให้เคโม ส่วนนสพ.นี่น่าสงสารมาก ส่วนใหญ่อาจารย์ทำแต่เคสเปค ซึ่งบางทีมันก็ไม่ตรงไปตรงมาพอเด็กเห็นอาจารย์ทำก็จำไปเลยว่าต้องทำแบบนี้ๆ ซึ่งบางทีมันก็...ไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการบ้าง (ที่รู้เพราะตรวจรายงายนสพ.ค่ะ) แล้วเคสเปคอาจารย์บางท่านก็ไม่ให้นสพ.เข้าเคสเพราะรู้สึกว่าทำกับพยาบาลง่าย กว่า นสพ.ปีสี่บางคนยังไม่เคยเห็นมดลูก รังไข่ของจริงเลยค่ะ (ตอนนี้กำลังคุยกับศูนย์แพทย์เรื่องทำวิดีโอล้างมือ ใส่เสื้อ ถุงมือเข้า OR, เครื่องมือที่ใช้ในห้องผ่าตัดและวิธีการใช้, ขั้นตอนการตัดมดลูกและรังไข่, การสอนให้คำแนะนำผู้ป่วยก่อนผ่าตัดและหลังผ่าตัด อันนี้คือเท่าที่ทำได้ในปีนี้นะคะ ถ้าต้องอยู่ต่อจริงๆก็คงจะพัฒนาหลักสูตรไปอีก) นสพ.ตามรพศ.บางที่น่าสงสารจริงๆนะคะ ยิ่งตอนออกไปอยู่รพช.น้อง intern จะกลัวมาก ขอ refer บ่อยๆ ซึ่งเราก็รับทุกเคสนะคะ แล้วก็สอนทางโทรศัพท์ไปด้วยว่าจริงๆต้อง manage ยังไง ส่วนที่ว่าทำไม set 2 เคส เพราะเค้ามี OR ให้เราแค่ 1วัน/สัปดาห์ แล้วเคสที่ 2 ก็ไม่ใช่เคสยากค่ะ ประเมินแล้วว่าทำ 1 ชม.เสร็จ ซึ่งวันที่ได้ทำก็ใช้เวลาแค่ 1 ชม.จริงๆค่ะ ผ่าเสร็จก็ช่วยจ่ายค่าเดินทางคนไข้ที่ต้องเสียเวลา และโดนเตรียม bowel ถึง 2 ครั้งT_T ขอโทษนะคะที่พิมพ์ยาวไป มันอัดอั้นค่ะ ขออนุญาตระบาย |
| ขอโทษที่เข้าใจคุณหมอผิดไปนะครับ ถ้ามีปัญหาอย่างนี้ควรไปขอ ผอ. เพิ่มวัน set OR ดีกว่าครับ ถ้าเป็นหมอที่ต้องผ่าตัดไม่มีปัญหากับหมอดมยาจะดีที่สุดครับ สู้ๆนะครับ ค่อยๆปรับ ปรับคนอื่นไม่ได้ก็ปล่อยวางครับ
|
|