« ความเห็นที่ #11 เมื่อ: 05/24/19 เวลา 20:22:18 » |
|
on 05/22/19 เวลา 23:55:01, Sandoz wrote:Radiologist Pathologist งานเทือกเดียวกันครับ pattern recognition ที่ว่าต่างจากคน เป็นจุดชูโรงของมนุษย์ คือเรื่อง clinical correlation คิดกันว่า AI มัน correlate ไม่ได้หรอก เอ่อ จะไปยากอะไรสำหรับ AI ครับ จริงอยู่ว่าการวิเคราะห์รูปมันง่ายกว่าการ correlate แต่สักวันนึง ทำอัลกอริทึมดีๆ สุดท้ายก็ทำได้ อ้อ Pathologist อาจจะได้เปรียบหน่อย คือมีขั้นตอนของ specimen handling ซึ่งก็คือขั้นตอนที่เป็นเนื้อจาก OR มาตรวจ gross กับ sampling ตรงนี้คิดว่าถ้าจะมีอะไรมาแทนได้ก็น่าจะเป็นขั้นตอนที่ clinician เริ่มถูกแท่ที่ครับ ลำดับ disruption ที่ผมคาดไว้ ไล่จากเร็วไปช้า (นับจากเวลาปัจจุบันไปถึงจุดที่ FDA approve หลังจาก approve แล้วการแทนที่จะค่อยๆ เกิดขึ้น จนสุดท้ายหมอที่เป็นคนในสาขานั้น ก็จะตกงาน 100% ของอัตรา) ***เมืองไทยมีข้อดี!! คือเหมือนทุกๆ การเปลี่ยนแปลงในทุกวงการ จะเกิดกับฝรั่งก่อน และจะมีดีเลย์นานประมาณหนึ่งถึงจะลามมาไทย เยื่องจากประเทศเรายากจน ต้องรอให้ cost เทคโนโลยีมัน drop มาประมาณหนึ่ง เราถึงจะ apply ได้ หมอไทยเราได้เปรียบ ตกงานข้ากว่าหมอฝรั่งแน่นอน ฟันธง*** Image/tissue diagnosis (radiologist/pathologist) ~ 10 years for FDA approval Clinical correlation (radiologist/pathologist) ~ 15 years for FDA approval Non-invasive clinical experience ~ 20 years (internal medicine/pediatric) for FDA approval Non-surgical treatment machine ~ 20 years for FDA approval Surgical treatment machine ~ 30 years for FDA approval (total replacement of surgeons jobs หมายรวมถึงทุกสาขาที่จับมีด) สาขาที่ไม่น่าจะโดน disrupt หรือโดนช้าไปกว่านี้ คือสาขาที่ต้องมีหมอเป็นคน แบบมีอารมณ์ร่วม น่าจะเป็นจิตเวช กับเวชศาสตร์ฟื้นฟู สาขาอื่นให้ผมรักษากับหุ่นผมโอเค แต่ถ้าให้ไปปรึกษาปัญหาทางจิต หรือวางแผนฟื้นฟูหลัง stroke กับหุ่น อันนี้ไม่โอเคครับ 55 ส่วนสาขาอื่นๆ ไม่ต้องกังวล เพราะถึงตอนนั้น white collar อาชีพอื่นๆ ก็ไม่รอดเหมือนกัน มีเพื่อนตกงานเยอะแยะเลย 555 |
| โดยส่วนตัว ความคิดนี้ถูก ถ้าไม่มีมนุษย์เป็นคนคุมเกมส์ แต่ โลกปัจจุบัน ที่ยุ่งอยู่เพราะการเมือง ดังนั้น ต้องมองในมุมกลับ จะมีการปกป้องผลประโยชน์ โดยแพทยสมาคม แต่ละสาขาของประเทศนั้นๆ หมายถึงถ้า FDA approve แล้ว แต่ การที่จะเอาผลไปใช้นั้นต้องมีแพทย์ ในสาขานั้นๆ เป็นคนเซ้นรับรองความถูกต้องอีกครั้ง พูดง่ายๆ คือไ่มีใครตกงานเพิ่มแต่ ใช้robot เป็น เครื่องมือในการทำงาน และหมอจะมีเวลามากขึ้น สามารถอ่านฟิล์ม ได้ในปริมาณมาก พร้อมกับรายได้ ที่เพิ่มมากขึ้น เหมือนหมอ patho จะออกผลได้ ต้อง มีลายเซ็น รับรองโดยแพทย์ เพราะ ธุรกิจ robot ที่อ่านฟิลม์ คง ชอบเฉพาะรับ แต่ ชอบ คือเงิน แต่ถ้าผิดพลาด เขาก็ไม่อยากเจ๊ง เพราะ ถ้าอ่านผลพลาด บริษัท robot จะถูกฟ้อง หลายกรณีอาจล้มละลายได้ ดังนั้นแนวโน้มสูงที่ การรับผิดจะถูกแชร์ ให้ แพทย์สาขานั้นๆ เป็ฯคนกำกับ หากผิดพลาด แพทย์สาขานั้นก็จะถุกฟ้อง เนื่องจากมีความรับผิดชอบกำกับอยู่ ส่ิงที่หมดได้จะมาพร้อมกับผลตอบแทน
|
|