แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print

 หัวข้อ 37029: ช็อก ! สถิติคนไทยติด #เชื้อวัณโรค ติดท็อป 1 ใน 22 ประเทศที่มีผู้ป่วยวั  (จำนวนคนอ่าน 609 ครั้ง)
« เมื่อ: 08/02/18 เวลา 11:34:23 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ช็อก ! สถิติคนไทยติด #เชื้อวัณโรค ติดท็อป 1 ใน 22 ประเทศที่มีผู้ป่วยวัณโรคมากที่สุดของโลก เผยส่วนหนึ่งติดต่อจากสถานที่แออัด และ ผู้ป่วยเอชไอวี ติดเชื้อง่าย ทำให้วัณโรคระบาดมากขึ้น ระวัง ไอ จาม มีโอกาสได้รับเชื้อ
 
MED HUB NEWS - ประเทศไทยมีผู้ป่วยวัณโรคเพิ่มขึ้นจนติดอันดับ 1 ใน 22 ประเทศที่มีผู้ป่วยวัณโรคมากที่สุดของโลก และคาดว่าเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ .มีผู้ป่วยวัณโรครายใหม่ปีละกว่า 11,234 ราย
 
หากผู้ป่วยวัณโรคระยะแพร่เชื้อไม่ได้รับการรักษาสามารถแพร่เชื้อด้วยการไอ จามและด้วยลักษณะของแบคทีเรียที่ส่งผลให้เกิดโรคอยู่ในอากาศทำให้ทุกคนมีโอก าสได้รับเชื้อได้
 
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข ได้ทำการวิจัยพัฒนาชุดตรวจหาเชื้อวัณโรค ด้วยวิธี TB-LAMP โดยได้ประเมินประสิทธิภาพ จนสามารถผลิตชุดตรวจเชื้อวัณโรคด้วยวัสดุ สารเคมีที่มีในประเทศ ช่วยลดต้นทุนการผลิต มีหน่วยงานและโรงพยาบาลที่นำไปใช้แล้วสามารถทำการตรวจได้ และพึงพอใจกับชุดตรวจดังกล่าว
 
https://goo.gl/DWK6KM
ส่งโดย: kiatisak
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1168  
   
180.183.118.*


« ความเห็นที่ #1 เมื่อ: 08/02/18 เวลา 18:05:23 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ไม่รู้คนอื่นรู้สึกเหมือนเราหรือเปล่า  แนวทางการรักษาวัณโรคเปลี่ยนแปลงเร็วมาก แทบจะเปลี่ยนทุก หกเดือน และไม่ได้อธิบายเหตุผลในการเปลี่ยน อ้างแต่ว่า เป็นความคิดของผู้เชี่ยวชาญ ทำให้หมอที่ไม่ใช่หมอสาขาย่อยโรคปอด หรือโรคติดเชื้อไม่กล้ารักษา เพราะกลัวว่า รักษาแล้วไม่ได้มาตราฐาน  
ไม่รู้ว่า สิ่งนี้จะทำให้การแพร่กระจายของเชื้อวัณโรคเพิ่มมากขึ้นหรือเปล่า  เพราะแทนที่เราจะใช้หมอที่มีทั้งหมด กลายเป็น ใช้หมอแค่สองกลุ่มเท่านั้นเอง ที่มีจำนวนน้อย เมื่อเทียบกับโรคที่เป็นมากขึ้น
ส่งโดย: 6699
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1520  
   
223.205.246.*


« ความเห็นที่ #2 เมื่อ: 08/02/18 เวลา 18:10:47 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ในอดีต เคยมีเหตุการณ์ทำนองนี้ ถ้ารักษาวัณโรค ต้องใช้เวลารักษานานประมาณ  18 เดือน อัตราการหายของโรคเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ชีวิตจริง มีแค่ ร้อยละสิบของผู้ป่วยเท่านั้นที่มารักษาครบ 18 เดือน ที่เหลือ ไม่ได้มารับยา หมายถึงว่า มีแค่ร้อยละสิบเท่านั้นที่ผู้ป่วยหาย ทำให้ควบคุมไม่ได้ เลยพยายามหาทางลดการรักษามาเป็น 9 เดือนทำให้อัตราการรักษาดีขึ้น  
แต่ประเด็นที่ดีขึ้น คือ การให้อนามัย และรพ.ใกล้เคียงร่วมรักษาด้วย และผู้ป่วยมารับยาจนครบ ไม่ได้ดีขึ้นจากประสิทธิภาพของยาเท่านั้นเอง แทบจะกล่าวได้ว่า หายได้ เพราะความสัมพันธ์ระหว่างแพทย์กับผู้ป่วย และสังคม
ส่งโดย: 6699
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1520  
   
223.205.233.*


« ความเห็นที่ #3 เมื่อ: 08/02/18 เวลา 19:59:28 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

หาซื้อได้ที่ไหนครับ
ส่งโดย: philosophy
สถานะ: Senior Member ****
จำนวนความเห็น: 419  
   
134.196.77.*


« ความเห็นที่ #4 เมื่อ: 08/03/18 เวลา 09:17:13 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

1. คนไทยไปทำงานหรือเรียนยาวๆประเทศที่พัฒนาแล้วเขาจับตรวจละเอียดครับเรื่องนี ้ทั่วโลกเขารู้มานานแล้วแต่เราทำเฉยมานาน ในรพ.ก็เป็นกลุ่มเสี่ยงครับโดยเฉพาะจนท.x-ray
2.ตาม ม.41 พรบ.หลักประกันสุขภาพ ถ้าจนท.รัฐติดจากการทำงานจะได้ค่าตอบแทน8หมื่นบาทครับ ส่วนติดHIV น่าจะเป็นล้านHuh?
ส่งโดย: zinc male
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1432  
   
110.77.239.*


« ความเห็นที่ #5 เมื่อ: 08/03/18 เวลา 12:19:40 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

การรักษาแทบไม่เปลี่ยนนะครับ
2 IRZE 4 IR ใช้มา 40 ปีแล้ว
ถ้า extrapulmonary ก็เพิ่มเป็น 9-12 เดือน ตาม organ
 
ที่เปลี่ยนคือ การวินิจฉัยทาง molecular เพื่อ detect MDR-TB ได้เร็วขึ้น ก็แค่นั้น
สูตรใหม่ๆรักษา MDRก็เปิด guideline เอา  XDR  ก็ให้ ID รักษาเถอะ
ส่งโดย: brownie
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 661  
   
49.229.77.*


« ความเห็นที่ #6 เมื่อ: 08/10/18 เวลา 09:55:21 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

เป็นเพราะเอาต่างด้าวเข้ามาเยอะรึเปล่า  รับเชื้อกันถ้วนหน้า หมอรักษากันไม่ทัน
ส่งโดย: Sazuke
สถานะ: Full Member ***
จำนวนความเห็น: 234  
   
58.11.111.*


Page(s) : 1 


แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print



Reply this Topic reserved for registed member only. Register



  • ข้อความและรูปภาพที่ท่านเห็นส่วนใหญ่ ได้ถูกส่งมาจาก ทางบ้าน
    ทางเว็บไซต์ Thaiclinic.com ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของข้อความและรูปภาพที่ถูกส่งมา

  • ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชนและส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ
    เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง
    ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง

  • ถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมหรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล
    หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ webmaster@thaiclinic.com หรือ กดแจ้งที่ปุ่ม
    "แจ้งลบกระทู้"
    เพื่อให้ทีมงานทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ครับ

ThaiClinic.Com . All Rights Reserved. !--BEGIN WEB STAT CODE-->

Powered by