แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print

 หัวข้อ 36970: แต่งงานช่วงเรียนต่อ  (จำนวนคนอ่าน 2090 ครั้ง)
« เมื่อ: 07/06/18 เวลา 23:10:27 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

อยากได้ความคิดเห็นหน่อยค่ะ ไปมาก็หลายงาน บางคู่แต่งกันตั้งแต่สมัยอินเทิร์น (น้อยมากแต่มี) ช่วงนี้เห็นถี่มาก คือ แต่งก่อนมาเรียนต่อ อยากรู้แต่ไม่กล้าถามเจ้าตัวค่ะ ว่าเงินแต่งงานและค่าใช้จ่ายอื่นๆนี่พ่อแม่ออกให้หรือเปล่า และเป็นเรื่องปกติรึเปล่าคะที่พ่อแม่ออกให้สำหรับคนเป็นแพทย์”ที่แต่งงานกัน ช่วงเรียนต่อนี้” แต่ละงานช่างแต่งหน้าตัวท๊อป ห้องเสื้อดัง จัดโอเรนเต็น น่าจะหลายล้านอยู่  ถามสนองความอยากรู้ค่ะ ส่วนตัวก็ไม่ได้มีเงินถุงเงินถัง ต้องส่งเงินให้ที่บ้านด้วย แต่งงานตอนเรียนจบจะดีกว่าไหมคะ ในแง่การเงิน แต่ลึกๆรู้สึกตลอดเวลาว่าเราแก่ขึ้นทุกวัน แค่นี้ยิ้มทีก็ตีนกาขึ้นแล้วค่ะ ใส่ชุดเจ้าสาวตอน 32+ กลัวเห็นตัวเองแล้วใจเสีย
ส่งโดย: Beargf
สถานะ: Newbie *
จำนวนความเห็น: 6  
   
182.232.178.*


« ความเห็นที่ #1 เมื่อ: 07/06/18 เวลา 23:36:04 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ถามหน่อยว่าแต่งเพื่ออัลไล
จะได้ตอบถูก
เช่น ถ้าแต่งแล้วจะมีลูกเลย ก็ไม่ต้องเรียน แบบเราเป็นต้น
แต่ถ้าแต่งคือแบบกลัวมาเรียน ห่างกันจะเจอคนอื่น  เอาแค่สวมแหวน หรือจรดทะเบียนก่อนก็ได้  ค่อยจัดงาน
แต่ถ้าไม่รีบจริงๆ  เราว่าเรียนจบ เงินเดือนจะมากกว่าตอนเทรนเยอะ  เวลาจัดงานก็จะไม่ขัดสนค่ะ  เพราะงานแต่งมีได้ครั้งเดียว  ควรจัดให้ประทับใจที่สุด  ซึ่งbudgetเราว่าเป็นเรื่องใหญ่มากกกก
« แก้ไขครั้งสุดท้ายเมื่อ: 07/06/18 เวลา 23:36:37 by SantaNiCo »

The day you went away . . .
ส่งโดย: SantaNiCo female
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1378  
   
182.232.35.*


« ความเห็นที่ #2 เมื่อ: 07/07/18 เวลา 00:15:13 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

อันนี้ก็ต้องคุยกับแฟนและทางบ้านของแต่ละฝั่งด้วยครับว่าเค้าต้องการหน้าตาข นาดไหน
 
ของผมนี่แต่งตอนเป็นdent 2อายุ28ปี ตอนนั้นเอาแต่ตัวมาจริงๆ ทางบ้านจัดการเรื่องงานให้หมด แจกซองให้ด้วย  
จัดงานโรงแรมต่างจังหวัดค่าจัดแค่140000เองครับ+ค่าถ่ายรูปpre wedding25000
 
แต่เห็นเพื่อนที่แต่งในกรุงแค่งานคอกเทลนี่ก็หมดหลายล้านนะครับ  

ส่งโดย: น้ำเน่าในเงาจันทร์ male
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 6054   Email
   
183.89.33.*


« ความเห็นที่ #3 เมื่อ: 07/07/18 เวลา 05:54:33 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

เป็นลูกผู้หญิง ถ้าผู้ชายดีๆผ่านมา แต่งได้ ก็แต่งไปเลยดีไหม
ส่งโดย: 6699
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1520  
   
223.205.248.*


« ความเห็นที่ #4 เมื่อ: 07/07/18 เวลา 10:20:48 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

งานแต่งงานเป็นเสมือน "การตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ" ยิ่งจัดใหญ่โต ยิ่งสิ้นเปลืองเงินทองโดยใช่เหตุครับ
ควรจะจัดแค่งานเล็ก เฉพาะหมู่ญาติหรือเพื่อนสนิทของทั้งสองฝ่ายก็พอครับ ค่าสินสอดจะมาก- น้อย เท่าไหร่ก็ไม่เห็นจะต้องประกาศให้โลกรู้
ไม่งั้น แม้แต่เงินสินสอด+ เงินช่วยงาน+ เงินขวัญถุง+ เงินในบัญชี ของทั้งสองฝ่ายก็อาจจะไม่เหลือ หรือ หมดในคืนเดียว นะครับ
ส่งโดย: Dr._Panya male
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1916  
   
58.11.20.*


« ความเห็นที่ #5 เมื่อ: 07/07/18 เวลา 15:46:00 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

คนไทย โดยเฉพาะหมอ ฟุ่มเฟือยมากกับงานแต่งงานมาก
ถ้าที่บ้านทำธุรกิจ มีกระแสเงินหลายสิบหลายร้อยล้าน จะแต่งหลักล้านก็ไม่มีใครว่า
แต่ตอนนี้กลายเป็นว่า หมอครอบครัวคนชั้นกลาง ก็จัดงานหลักล้านกับเขาด้วย ไม่รู้เพราะกลัวเสียหน้า หรืออะไร แต่ใครๆ ก็แต่งโรงแรมสี่-ห้าดาวกันหมด
อย่าตกไปตามกระแสค่ะ จัดงานเล็ก ตามร้านอาหารดีๆ หรือที่บ้านตัวเอง ไม่ต้องไปเชิญแขกเยอะ ให้แค่คนรู้ว่าอยู่กินเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วก็พอ
ส่งโดย: 921684
สถานะ: Newbie *
จำนวนความเห็น: 41  
   
223.24.184.*


« ความเห็นที่ #6 เมื่อ: 07/07/18 เวลา 16:58:35 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 07/07/18 เวลา 15:46:00, 921684 wrote:
คนไทย โดยเฉพาะหมอ ฟุ่มเฟือยมากกับงานแต่งงานมาก
ถ้าที่บ้านทำธุรกิจ มีกระแสเงินหลายสิบหลายร้อยล้าน จะแต่งหลักล้านก็ไม่มีใครว่า
แต่ตอนนี้กลายเป็นว่า หมอครอบครัวคนชั้นกลาง ก็จัดงานหลักล้านกับเขาด้วย ไม่รู้เพราะกลัวเสียหน้า หรืออะไร แต่ใครๆ ก็แต่งโรงแรมสี่-ห้าดาวกันหมด
อย่าตกไปตามกระแสค่ะ จัดงานเล็ก ตามร้านอาหารดีๆ หรือที่บ้านตัวเอง ไม่ต้องไปเชิญแขกเยอะ ให้แค่คนรู้ว่าอยู่กินเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วก็พอ

 
รับรองโดนนินทาครับ ต้องหาคู่ชีวิตที่ไม่สนเสียงนินทาสังคมเหมือนกันถึงจะรอดได้
 
หลายคู่เลิกกันตอนจะแต่งงานเพราะเรื่องการจัดงานที่คนนึงหน้าใหญ่ อีกคนอยากประหยัดเนี่ยแหละครับ เรื่องแบบนี้ทำเลิกกันมาหลายคู่แล้ว
ส่งโดย: megacure
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 2283  
   
182.232.198.*


« ความเห็นที่ #7 เมื่อ: 07/07/18 เวลา 17:27:36 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 07/07/18 เวลา 16:58:35, megacure wrote:

 
รับรองโดนนินทาครับ ต้องหาคู่ชีวิตที่ไม่สนเสียงนินทาสังคมเหมือนกันถึงจะรอดได้
 
หลายคู่เลิกกันตอนจะแต่งงานเพราะเรื่องการจัดงานที่คนนึงหน้าใหญ่ อีกคนอยากประหยัดเนี่ยแหละครับ เรื่องแบบนี้ทำเลิกกันมาหลายคู่แล้ว

 
หลายบ้านคนชั้นกลางมีทรัพย์แค่หลักไม่กี่ล้าน หรืออาจแค่สิบล้านต้นๆ (แม้แต่บ้านที่พ่อแม่เป็นหมอ แต่เป็นหมอรัฐไม่รับจ๊อบมาก ก็มีแค่นี้) ก็บ้าจี้จัดงานแต่งหลักล้าน คิดดูก็ 10% ของทรัพย์สินทั้งครอบครัว จัดไปกับอีเวนท์เดียว คิดดูค่ะว่าบ้าจี้ขนาดไหน
ส่งโดย: 921684
สถานะ: Newbie *
จำนวนความเห็น: 41  
   
223.24.184.*


« ความเห็นที่ #8 เมื่อ: 07/07/18 เวลา 20:16:04 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ถ้าพร้อมก็แต่งเลย รอจบก่อนไข่ฝ่อหามหดพอดี
 
แล้วก็ไม่ควรสิ้นเปลืองเงินทองมาก งานเล็กๆก็พอ เก็บตังไว้ลงทุนดีกว่า

"You discover more by blazing a trail than by following a path"
ส่งโดย: Tennoji
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 932  
   
223.24.172.*


« ความเห็นที่ #9 เมื่อ: 07/07/18 เวลา 23:27:20 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

เดี๋ยวนะคะ ถึงหลักล้านเลยเหรอคะ
ส่งโดย: jengirl
สถานะ: Full Member ***
จำนวนความเห็น: 123  
   
68.46.255.*


« ความเห็นที่ #10 เมื่อ: 07/10/18 เวลา 15:05:10 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 07/06/18 เวลา 23:36:04, SantaNiCo wrote:
ถามหน่อยว่าแต่งเพื่ออัลไล
จะได้ตอบถูก
เช่น ถ้าแต่งแล้วจะมีลูกเลย ก็ไม่ต้องเรียน แบบเราเป็นต้น
แต่ถ้าแต่งคือแบบกลัวมาเรียน ห่างกันจะเจอคนอื่น  เอาแค่สวมแหวน หรือจรดทะเบียนก่อนก็ได้  ค่อยจัดงาน
แต่ถ้าไม่รีบจริงๆ  เราว่าเรียนจบ เงินเดือนจะมากกว่าตอนเทรนเยอะ  เวลาจัดงานก็จะไม่ขัดสนค่ะ  เพราะงานแต่งมีได้ครั้งเดียว  ควรจัดให้ประทับใจที่สุด  ซึ่งbudgetเราว่าเป็นเรื่องใหญ่มากกกก

 
 
5555555555555555555
ส่งโดย: Supernoid male
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 2102  
   
1.47.160.*


Page(s) : 1 


แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print



Reply this Topic reserved for registed member only. Register



  • ข้อความและรูปภาพที่ท่านเห็นส่วนใหญ่ ได้ถูกส่งมาจาก ทางบ้าน
    ทางเว็บไซต์ Thaiclinic.com ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของข้อความและรูปภาพที่ถูกส่งมา

  • ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชนและส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ
    เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง
    ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง

  • ถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมหรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล
    หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ webmaster@thaiclinic.com หรือ กดแจ้งที่ปุ่ม
    "แจ้งลบกระทู้"
    เพื่อให้ทีมงานทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ครับ

ThaiClinic.Com . All Rights Reserved. !--BEGIN WEB STAT CODE-->

Powered by