แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print

 หัวข้อ 36939: Whisk คว้ารางวัลชนะเลิศการประกวด Ascensia Diabetes Challenge  (จำนวนคนอ่าน 560 ครั้ง)
« เมื่อ: 06/26/18 เวลา 09:54:32 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

IQ-Whisks.1.jpg
วันนี้ที่การประชุม Scientific Sessions ครั้งที่ 78 ของสมาคมโรคเบาหวานแห่งอเมริกา (ADA) ในเมืองออร์แลนโด รัฐฟลอริดา Ascensia Diabetes Care ได้ประกาศให้ Whisk จากสหราชอาณาจักร เป็นผู้ชนะการประกวดนวัตกรรมระดับโลก Ascensia Diabetes Challenge ซึ่งจัดขึ้นเพื่อเฟ้นหาโซลูชั่นดิจิทัลสำหรับรับมือโรคเบาหวานชนิดที่ 2
 
     (โลโก้: https://mma.prnewswire.com/media/709497/Ascensia_Diabetes_Challenge_Logo .jpg )
     (รูปภาพ: https://mma.prnewswire.com/media/709496/Ascensia_Diabetes_Integration.jp g )
 
     นวัตกรรมของ Whisk ที่ชนะการประกวดครั้งนี้ได้แก่ Culinary Coach ซึ่งใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการให้คำแนะนำด้านอาหารอย่างเฉพาะเจาะจงเป็นรายบุคคล โดยประเมินจากรสชาติที่ชื่นชอบและอาหารที่เลี่ยงรับประทาน จากนั้นจะใช้ข้อมูลระดับน้ำตาลกลูโคสในกระแสเลือดสำหรับให้คำแนะนำแก่ผู้ป่ว ยโรคเบาหวานต่อไป โดยในวันนี้ Whisk เตรียมนำเสนอโซลูชั่นที่คว้ารางวัลชนะเลิศดังกล่าวต่อแวดวงโรคเบาหวานเป็นคร ั้งแรก ที่งาน 2018 DiabetesMine D-Data Exchange Event ในเมืองออร์แลนโด
 
     นวัตกรรมที่ Whisk ได้พัฒนาขึ้นนี้ เป็นแพลตฟอร์มโภชนาการที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี AI ซึ่งขณะนี้กำลังเปิดให้ผู้ใช้งานได้ค้นดูสูตรอาหารตามปัจจัยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นรสชาติที่ตนชื่นชอบ ข้อจำกัดด้านเวลา งบประมาณ ข้อจำกัดด้านสภาพอากาศและอาหาร ไปจนถึงอาการแพ้ เมื่อผู้ใช้งานเลือกเพิ่มสูตรอาหารลงในแผนการทำอาหารของตนเองแล้ว ระบบก็จะเพิ่มสูตรอาหารดังกล่าวลงในรถเข็นช็อปปิงออนไลน์โดยอัตโนมัติ ตามร้านค้าปลีกของชำชั้นแนวหน้าของโลก ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถซื้อวัตถุดิบทำอาหารต่อไปได้โดยไม่สะดุด
 
     ในฐานะผู้ชนะของการประกวดครั้งนี้ Whisk มีแผนที่จะมอบประสบการณ์ด้านอาหารที่เหมาะสมกับผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 โดยจะประเมินค่าวัดระดับน้ำตาลกลูโคสในกระแสเลือด เพื่อให้คำแนะนำด้านอาหารที่ตรงกับลักษณะโรคเบาหวานของผู้ป่วยแต่ละราย เทคโนโลยี AI ในแพลตฟอร์มดังกล่าวจะใช้ค่าวัดจากระบบวัดระดับน้ำตาลกลูโคสในกระแสเลือดของ  Ascensia เพื่อวิเคราะห์ว่าค่าวัดระดับน้ำตาลกลูโคสในกระแสเลือดของผู้ใช้งานนั้น ตอบสนองต่ออาหารและสูตรอาหารเฉพาะเจาะจงอย่างไรบ้าง ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถวางแผนการรับประทานอาหารเพื่อคุมระดับน้ำตาลให ้เหมาะสม โดย Culinary Coach ที่รองรับโรคเบาหวานนี้ จะเริ่มด้วยการให้คำแนะนำด้านอาหารที่ตรงกับผู้ใช้งานแต่ละราย และในอนาคตจะพัฒนาให้ครอบคลุมอาหารกึ่งสำเร็จรูปและตัวเลือกร้านอาหารด้วย
 
     ไมเคิล คลอส ซีอีโอและประธานของ Ascensia Diabetes Care กล่าวว่า "โภชนาการและการเลือกรับประทานอาหารเป็นองค์ประกอบสำคัญยิ่งในการรับมือกับโ รคเบาหวานชนิดที่ 2 โดยทางคณะกรรมการผู้ตัดสินและตัวผมเองนั้น รู้สึกประทับใจอย่างยิ่งกับเครื่องมือของ Whisk ตลอดจนแผนการพัฒนาให้ครอบคลุมผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ทั้งนี้ การช่วยให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 สามารถค้นหาคำแนะนำด้านอาหารที่ทั้งตรงใจและดีต่อสุขภาพของตนเอง โดยประเมินจากค่าวัดระดับน้ำตาลกลูโคสในกระแสเลือดและอาหารที่ชื่นชอบนั้น เปิดโอกาสให้เราสามารถนำเสนอทางเลือกให้กับผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 จำนวนหลายล้านคน เพื่อให้พวกเขามีตัวเลือกอาหารที่ทั้งดีต่อสุขภาพและมีรสชาติอร่อยถูกปาก"
 
     โซลูชั่นของ Whisk ได้รับการคัดเลือกจากผลงานที่ส่งเข้าประกวดทั้งสิ้น 116 ผลงาน จาก 25 ประเทศ โดย Whisk จะได้รับเงินรางวัล 100,000 ยูโร เพื่อนำไปสร้างและนำร่องบริการใหม่อันน่าตื่นเต้นนี้แก่ผู้ป่วยโรคเบาหวานชน ิดที่ 2 พร้อมร่วมงานอย่างใกล้ชิดกับ Ascensia Diabetes Care เพื่อนำเสนอโซลูชั่นนี้แก่ผู้ป่วย
 
     เทคโนโลยีหลักของ Whisk ใช้ออนโทโลยีอาหารที่มีความครอบคลุม ซึ่งรู้จักในชื่อ Food Genome(TM) โดยเป็นการรวบรวมและทำความเข้าใจข้อมูลโภชนาการในระดับจุลภาคและมหภาค ตลอดจนสารประกอบรสชาติ การเก็บรักษา ราคา และโปรโมชั่นต่าง ๆ ปัจจุบัน Whisk เปิดให้ใช้บริการในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และออสเตรเลีย ซึ่งมีผู้ใช้บริการจัดทำรายการสินค้าหรือช็อปปิงลิสต์ถึงห้าแสนรายการทุกเดื อน ตามห้างค้าปลีกอย่าง Walmart, Tesco และ Amazon Fresh
 
     นิค โฮลเซอร์ ผู้ก่อตั้งแต่ซีอีโอของ Whisk กล่าวว่า "เรารู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับเลือกให้เป็นผู้ชนะการประกวด Ascensia Diabetes Challenge โรคเบาหวานชนิดที่ 2 นั้นเพิ่มระดับของการระบาดอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และ Whisk ก็ตื่นเต้นที่ได้คิดค้นโซลูชั่นที่เราคิดว่าจะสามารถช่วยเหลือผู้ป่วยเหล่าน ี้ในการเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิต เราหวังว่าผลงานของเราร่วมกับ Ascensia Diabetes Care จะช่วยให้วิธีการจัดการอาการเปลี่ยนไป"
 
     นอกจากตำแหน่งชนะเลิศแล้ว ยังได้มีการมอบรางวัลให้แก่รองชนะเลิศจำนวนสองรางวัล ได้แก่ Qstream จากสหรัฐที่ได้รับรางวัลรองชนะเลิศจากแพลตฟอร์มเรียนรู้ทางมือถือ ซึ่งผสมผสานคอนเซปต์การเรียนรู้แบบ spaced education เข้ากับระบบเกมที่น่าสนใจ แพลตฟอร์มนี้ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอย่างสร้าง สรรค์ และได้รับการพิสูจน์แล้วในการทดลองแบบสุ่มเพื่อลด HbA1c ในผู้ป่วยเบาหวาน [1] อย่างยั่งยืน ขณะที่รองชนะเลิศอีกราย ได้แก่ xBird บริษัทซอฟต์แวร์ทางการแพทย์จากเยอรมนีที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการสร้างสรรค์เท คโนโลยี ซอฟต์แวร์ของบริษัทวิเคราะห์การเคลื่อนไหวระดับจุลภาคที่เก็บข้อมูลด้วยสมาร ์ทโฟนและอุปกรณ์สวมใส่ เพื่อนำมาใช้เปรียบเทียบกับประวัติข้อมูลระดับกลูโคสในเลือดของผ้ป่วย โดยมีเป้าหมายเพื่อทำนายและตรวจจับความผิดปกติของระดับน้ำตาลในเลือด ทั้งนี้ รองชนะเลิศทั้งสองรายจะได้รับเงินรางวัล 30,000 ยูโร เพื่อใช้ในการพัฒนาโซลูชั่นของตนเองต่อไป
 
     ขณะเดียวกัน Walk With Path ยังเป็นอีกหนึ่งผลงานที่ได้รับการยกย่อง จากนวัตกรรมแผ่นรองรองเท้าสำหรับผู้ป่วยโรคปลายประสาทอักเสบที่เกิดจากเบาหว าน นวัตกรรมนี้ทำงานด้วยการตรวจจับแรงสั่นสะเทือนระหว่างการเดินซึ่งจะถูกแสดงบ นแอพ และออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ป่วยทรงตัวได้ดีขึ้น ลดความเสี่ยงในการล้ม โดย Ascencia จะให้การสนับสนุน Walk With Path ในการศึกษาความเป็นไปได้กับผู้ป่วยโรคเบาหวาน
 
     ไมเคิลกล่าวเพิ่มเติมว่า "เราตื่นเต้นที่ได้ร่วมงานกับโซลูชั่นดิจิทัลคุณภาพสูงเหล่านี้ ที่จะมาช่วยปฏิวัติการจัดการโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ผลงานที่ชนะรางวัลต่างเน้นย้ำให้เห็นว่าเรากำลังเข้าสู่โลกแห่งสุขภาพดิจิทั ล ทั้งยังแสดงให้เห็นว่าความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและดิจิทัลสามารถเข้ามามีบทบ าทสำคัญในการรับมือกับความต้องการเร่งด่วนที่ยังไม่ได้รับการตอบสนอง"
 
     สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการประกวด Ascensia Diabetes Challenge รวมถึงคณะกรรมการ และเกณฑ์การตัดสิน กรุณาเข้าชมที่ https://ascensiadiabeteschallenge.com  
 
     สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:
     Joseph Delahunty, VP, Global Head of Communications
     Ascensia Diabetes Care
     อีเมล: joseph.delahunty@ascensia.com  
 
     อ้างอิง
     [1] Kerfoot BP et al. Diabetes Care (2017) 40:1218-1225
 
     ที่มา: Ascensia Diabetes Care
ส่งโดย: IQ
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1807  
   
171.97.28.*


Page(s) : 1 




Reply this Topic reserved for registed member only. Register



  • ข้อความและรูปภาพที่ท่านเห็นส่วนใหญ่ ได้ถูกส่งมาจาก ทางบ้าน
    ทางเว็บไซต์ Thaiclinic.com ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของข้อความและรูปภาพที่ถูกส่งมา

  • ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชนและส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ
    เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง
    ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง

  • ถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมหรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล
    หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ webmaster@thaiclinic.com หรือ กดแจ้งที่ปุ่ม
    "แจ้งลบกระทู้"
    เพื่อให้ทีมงานทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ครับ

ThaiClinic.Com . All Rights Reserved. !--BEGIN WEB STAT CODE-->

Powered by