แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print

 หัวข้อ 36865: ถูก ผอ รพ น้ำขุ่น และ สสจ อุบล กลั่นแกล้งไม่จ่ายเงิน ฉ11  (จำนวนคนอ่าน 9491 ครั้ง)
« ความเห็นที่ #80 เมื่อ: 06/02/18 เวลา 20:01:37 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 06/02/18 เวลา 19:48:22, 6699 wrote:

 
ดูภาพแล้วหนักใจแทนทุกฝ่ายเลย เพราะท่านผู้พิพากษา เกียรติชัย  พิษณุวงษ์ ตำแหน่ง  เลขาอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค3. จังหวัดสุรินทร์ งานนี้ น่าจะมีผลกระทบหมดกับแพทย์ทั้งประเทศ เมื่อมีคำวินิจฉัยออกมา ไม่ว่าฝ่ายไหนจะชนะ โจทย์หรือจำเลย ก็ตาม
 
ปัญหาที่ต้องตีความคือ แพทย์อยู่เวร จะสามารถเปิดคลินิกได้หรือไม่ เมื่อใน facebook ของร้านหมอแต่ละท่านเขียนชัดเจนว่า เปิดทุกวัน ตอนเช้า และตอนเย็น และมีเวลาทำงานชัดเจน  แต่ตารางการอยู่เวร มีเดือนละ 10 วัน เช้าเย็น แบบนี้จะผิดระเบียบ เบิกเงินค่าเวรได้หรือไม่  
 
งานนี้ ผู้อำนวยการรพ.ทั่วประเทศจะสามารถเบิกเงินค่าเวรให้แพทย์ได้หรือไม่ ทำแล้วผิดระเบียบหรือไม่  ถ้าให้ก็ผิดระเบียบหรือเปล่า ถ้าไม่ให้ ก็ผิดระเบียบหรือเปล่า
ผมตอบแทนให้เลยครับ จะเร็วกว่ารอท่านผู้พิพากษาเขียนคำพิพากษา  
1 มีระเบียบที่ ปลัดกระทรวงสั่งการแล้วว่า การอยู่เวร รพ ต้องอยู่ในอาคารตรวจผู้ป่วยเท่านั้น ที่สามารถให้การรักษาได้ทันท่วงที
2 การที่แพทย์เวร ไม่อยู่ในอาคารที่ตรวจ ทำให้รักษาผู้ป่วยไม่ทันท่วงที หรือการออกนอก รพ ถือเป็นการทุจริตเวลาราชการ และถือเป็นการทำเอกสารเบิกค่าเวรเป็นเท็จ

Good surgeons know how to operate.
Better ones know when to operate.
Best ones know when not to operate
ส่งโดย: anantom
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 10525   WWW
   
180.183.217.*


« ความเห็นที่ #81 เมื่อ: 06/02/18 เวลา 20:32:20 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 06/02/18 เวลา 19:48:22, 6699 wrote:

 
ดูภาพแล้วหนักใจแทนทุกฝ่ายเลย เพราะท่านผู้พิพากษา เกียรติชัย  พิษณุวงษ์ ตำแหน่ง  เลขาอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค3. จังหวัดสุรินทร์ งานนี้ น่าจะมีผลกระทบหมดกับแพทย์ทั้งประเทศ เมื่อมีคำวินิจฉัยออกมา ไม่ว่าฝ่ายไหนจะชนะ โจทย์หรือจำเลย ก็ตาม
 
ปัญหาที่ต้องตีความคือ แพทย์อยู่เวร จะสามารถเปิดคลินิกได้หรือไม่ เมื่อใน facebook ของร้านหมอแต่ละท่านเขียนชัดเจนว่า เปิดทุกวัน ตอนเช้า และตอนเย็น และมีเวลาทำงานชัดเจน  แต่ตารางการอยู่เวร มีเดือนละ 10 วัน เช้าเย็น แบบนี้จะผิดระเบียบ เบิกเงินค่าเวรได้หรือไม่  
 
งานนี้ ผู้อำนวยการรพ.ทั่วประเทศจะสามารถเบิกเงินค่าเวรให้แพทย์ได้หรือไม่ ทำแล้วผิดระเบียบหรือไม่  ถ้าให้ก็ผิดระเบียบหรือเปล่า ถ้าไม่ให้ ก็ผิดระเบียบหรือเปล่า

 
ร้อนฉ่า อันนี้สิผลกระทบร้อนๆของจริง
ส่งโดย: Ines_de_BK
สถานะ: Full Member ***
จำนวนความเห็น: 134  
   
223.24.62.*


« ความเห็นที่ #82 เมื่อ: 06/02/18 เวลา 20:37:24 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ผลตัดสินของศาลสามารถนำมาต่อยอดได้ทั่วประเทศ. อาจจะมาพร้อมๆกับการบังคับจำกัดเวลาการทำงานของแพทย์ลักษณะเดียวกับนักบิน  
  พวกเห็นตามสมควรตามสภาพงานจำนวนคนแล้วให้แพทย์ทำงานเกินมนุษย์. จะตกไปทันที เพราะมีคำตัดสินของศาลที่เกี่ยวเนื่องกับเวลางาน
 
โมเมนตัมนี้ช่างใหญ่ยิ่ง
ส่งโดย: Ines_de_BK
สถานะ: Full Member ***
จำนวนความเห็น: 134  
   
223.24.62.*


« ความเห็นที่ #83 เมื่อ: 06/02/18 เวลา 20:43:06 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 06/02/18 เวลา 20:37:24, Ines_de_BK wrote:
ผลตัดสินของศาลสามารถนำมาต่อยอดได้ทั่วประเทศ. อาจจะมาพร้อมๆกับการบังคับจำกัดเวลาการทำงานของแพทย์ลักษณะเดียวกับนักบิน  
  พวกเห็นตามสมควรตามสภาพงานจำนวนคนแล้วให้แพทย์ทำงานเกินมนุษย์. จะตกไปทันที เพราะมีคำตัดสินของศาลที่เกี่ยวเนื่องกับเวลางาน
 
โมเมนตัมนี้ช่างใหญ่ยิ่ง
 
 
ดีครับ เพราะคำสั่งการอยู่เวรของอดีตปลัดฯที่ต้องอยู่ในอาคารตรวจผู้ป่วยของ รพ เท่านั้น เวลาอยู่เวรเป็นดาบมารใช้ฟันหมอที่ไม่ยอมลงกับ ผอก และ นายแพทย์ สสจ  กับหมอที่ยอมลงด้วย ดาบมารนี้จะเก็บไว้ไม่ใช้ คราวนี้หมอทุกคนรวมทั้ง ผอก ที่รับค่าเวรจะได้เสมอภาคกันครับ

Good surgeons know how to operate.
Better ones know when to operate.
Best ones know when not to operate
ส่งโดย: anantom
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 10525   WWW
   
180.183.217.*


« ความเห็นที่ #84 เมื่อ: 06/02/18 เวลา 22:15:45 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

มรดก / เงิน ทำห้พี่น้อง ทะเลาะกันมาเยอะเเล้ว

"ท่านทั้งหลายจงมีธรรมเป็นที่พึ่งเถิด อย่ามีอย่างอื่นเป็นที่พึ่งตถาคตเองเป็นที่พึ่งแก่ท่านทั้งหลายไม่ได้ ตถาคตเป็นเพียงผู้ชี้บอกทางเท่านั้น ส่วนความเพียรพยายามเพื่อเผาบาปอกุศล ท่านทั้งหลายต้องทำเอง ทางมีอยู่ เราชี้แล้วบอกแล้ว ท่านทั้งหลายต้องเดินเอง
ส่งโดย: soon_soon
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 3169  
   
223.204.221.*


« ความเห็นที่ #85 เมื่อ: 06/03/18 เวลา 10:26:07 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

คิดว่า ทางผอ.รพ. และจนท.ธุรการ ของรพ. น่าจะแม่นเรื่องกฎ/ ระเบียบ ของทางราชการมากกว่า หมอธรรมดาๆอย่างพวกเรา(เยอะ) นะครับ
เพราะฉะนั้น การจะมา ต่อสู้กันด้วยประเด็นทางกฎเกณฑ์ของทางราชการแบบนี้ ฝ่ายโจทย์(แพทย์ จขกท.) น่าจะเป็นรองพอสมควรนะครับ
ส่งโดย: Dr._Panya male
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1916  
   
124.122.140.*


« ความเห็นที่ #86 เมื่อ: 06/03/18 เวลา 11:12:23 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

มีคนมาเตือนให้ระวังการสอดไส้หนังสือเซ็นไล่ออกจากราชการ ให้รองผู้ว่าคนที่อยู่ข้างฝ่ายจำเลยเซ็นครับ เราต้องสู้หรือป้องกันอย่างไรดีครับ รบกวนผู้รู้ช่วยแนะนำด้วยครับ กลัวช่วงนี้จะเกิดเรื่องก่อนการขึ้นศาลครับ เพราะผู้มีอำนาจในจังหวัดเป็น 10 ท่าน ร่วมมือกันทำอยู่ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้ายเมื่อ: 06/03/18 เวลา 11:13:04 by Cuties »
ส่งโดย: Cuties
สถานะ: Junior Member **
จำนวนความเห็น: 64   Email
   
122.155.38.*


« ความเห็นที่ #87 เมื่อ: 06/03/18 เวลา 12:05:37 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 06/02/18 เวลา 19:48:22, 6699 wrote:

 
ดูภาพแล้วหนักใจแทนทุกฝ่ายเลย เพราะท่านผู้พิพากษา เกียรติชัย  พิษณุวงษ์ ตำแหน่ง  เลขาอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค3. จังหวัดสุรินทร์ งานนี้ น่าจะมีผลกระทบหมดกับแพทย์ทั้งประเทศ เมื่อมีคำวินิจฉัยออกมา ไม่ว่าฝ่ายไหนจะชนะ โจทย์หรือจำเลย ก็ตาม
 
ปัญหาที่ต้องตีความคือ แพทย์อยู่เวร จะสามารถเปิดคลินิกได้หรือไม่ เมื่อใน facebook ของร้านหมอแต่ละท่านเขียนชัดเจนว่า เปิดทุกวัน ตอนเช้า และตอนเย็น และมีเวลาทำงานชัดเจน  แต่ตารางการอยู่เวร มีเดือนละ 10 วัน เช้าเย็น แบบนี้จะผิดระเบียบ เบิกเงินค่าเวรได้หรือไม่  
 
งานนี้ ผู้อำนวยการรพ.ทั่วประเทศจะสามารถเบิกเงินค่าเวรให้แพทย์ได้หรือไม่ ทำแล้วผิดระเบียบหรือไม่  ถ้าให้ก็ผิดระเบียบหรือเปล่า ถ้าไม่ให้ ก็ผิดระเบียบหรือเปล่า

 
ทำผิดมานานๆ + อ้างคนอื่นก็ทำแบบนี้ และเมื่อถึงเวลาจะปฏิรูป ยังทำได้ยากอีก เฮ้อออ
ส่วนตัวมองการทำผิดแบบนี้ (กินเวลาหลวงเพื่อประโยชน์ส่วนตัว) ว่าเป็นเหตุผลใหญ่พอควร ที่คนไข้ให้ความเลื่อมใสแพทย์ลดลงอย่างมากมาย ค่ะ
ส่งโดย: SeReE
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1404  
   
1.0.154.*


« ความเห็นที่ #88 เมื่อ: 06/03/18 เวลา 13:28:32 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

เวลาขึ้นศาลก็ว่ากันไปตามพยานหลักฐานของทั้งสองฝ่าย
ส่งโดย: AsylumSeeker
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1003  
   
118.173.244.*


« ความเห็นที่ #89 เมื่อ: 06/03/18 เวลา 16:51:45 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

  มาดูประเด็นวันที่ 5 เมษายน 60 อีกครั้งหนึ่ง ว่าจะนับเป็นวันทำงานได้หรือไม่ เมื่อดูจากเอกสารที่ โจทย์นำเสนอให้กระทู้ มีการตรวจคนป่วยที่ในตึก ในช่วงเช้า โดยการมีบันทึกว่ามีการมาเขียนจดหมายส่งตัวให้ทำการรักษาที่อื่นในเวลาประมา ณ 8.30 น.ตามที่โจทย์กล่าว น่าจะมีการทำงานจริงตามโจทย์ว่าตอนช่วงเช้าของวันที่ 5 เมษายน 2560  
  แต่ในวันนั้น โจทย์มีตารางทำงานจะต้องทำการตรวจผู้ป่วยนอก แต่โจทย์ไม่ได้มาตรวจผู้ป่วยนอก ในช่วงเช้า โจทย์อาจจะอ้างได้ว่า ใช้เวลาสำหรับการทำงานที่ตึกผู้ป่วยในดังกล่าว แต่การที่โจทย์ไม่ได้ออกตรวจผู้ป่วยนอกตลอดทั้งวัน  ทำให้ไม่มีการบริการผู้ป่วยผู้ป่วยนอก และผู้ป่วยใน เนื่องจากผู้ป่วยในจะรับตามสายการรับของผู้ป่วยนอกของแพทย์ที่ออกตรวจผู้ป่ว ยนอก มองได้ว่า โจทย์ไม่ได้ทำงานตามที่ได้รับมอบหมายทั้งเช้าและบ่าย แต่เวลาช่วงเช้า อาจจะมองได้ว่า โจทย์ต้องใช้เวลาสำหรับการดูผู้ป่วยใน และพร้อมที่จะรักษาผู้ป่วยนอก ดังนั้นมองได้ว่า โจทย์ไม่ได้ขาดราชการในช่วงเช้า  
  แต่เนื่องจากในช่วงบ่าย โจทย์ไม่ได้ทำการปฏิบัติราชการตามที่ได้รับมอบหมาย คือออกตรวจผู้ป่วยนอก ดังนั้น การทำงานในวันที่ 5 เมษายน 60 เท่ากับโจทย์ทำงานในครึ่งเช้า ส่วนครึ่งบ่าย โจทย์ไม่ได้ปฏิบัติราชการตามที่ได้รับมอบหมาย เท่ากับว่า ในวันที่ 5 เมษายน  60 โจทย์ทำงานเพียงครึ่งวัน  
  ดังนั้นในเดือน เมษายน 60 โจทย์จะมีวันทำงานตามเวลาราชการรวมแล้วเท่ากับ 14.5 วัน ไม่ถึง 15 วัน การที่ไม่ได้รับเงิน ช่วยเหลือ ฉ.11 น่าจะเป็นเหตุเป็นผลแล้ว  
 
   ถามจากนิติกร ที่รู้จักกัน เรื่องรายละเอียด นิติกร เขาตอบให้เราแบบนี้  ส่วนการลงความเห็น ว่าจะเป็นแบบนี้หรือไม่ แล้วแต่ผู้บังคับบัญชาตามลำดับขั้น ถ้าหากว่า เห็นแย้งให้ทำเรื่องขึ้นไปอีกหนึ่งขั้น เช่นถ้าผอ.มีความเห็นไม่ตรง ก็ให้ถาม สสจ. ถ้าความเห็นของสสจ.ว่าอย่างไร ก็ตามนั้น แต่ตามรายละเอียดในกระทู้ เรื่องถึงรองผู้ว่าฯ  น่าจะมีการตรวจสอบมากกว่าหนึ่งลำดับขั้นแล้ว  
   เป็นประเด็นในแง่การคิดเวลาทำงาน แต่ยังไม่ได้รวมถึงความผิด และการทำราชการไม่ครบ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการให้เงินช่วยพิเศษ ฉ. 11  
   ถ้าหากว่า ขึ้นศาล ทนาย หรืออัยการจำเลย อาจจะแถลงแก้ต่างในแนวนี้ ซึ่งเราดูแล้ว ก็เห็นว่า มีความจริงได้มากเลย ถ้าหากศาลรับฟัง โอกาสที่จะโจทย์จะแพ้คดีมีได้สูงมาก
ส่งโดย: 6699
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1520  
   
223.205.232.*


« ความเห็นที่ #90 เมื่อ: 06/03/18 เวลา 18:31:32 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 06/03/18 เวลา 16:51:45, 6699 wrote:
  มาดูประเด็นวันที่ 5 เมษายน 60 อีกครั้งหนึ่ง ว่าจะนับเป็นวันทำงานได้หรือไม่ เมื่อดูจากเอกสารที่ โจทย์นำเสนอให้กระทู้ มีการตรวจคนป่วยที่ในตึก ในช่วงเช้า โดยการมีบันทึกว่ามีการมาเขียนจดหมายส่งตัวให้ทำการรักษาที่อื่นในเวลาประมา ณ 8.30 น.ตามที่โจทย์กล่าว น่าจะมีการทำงานจริงตามโจทย์ว่าตอนช่วงเช้าของวันที่ 5 เมษายน 2560  
  แต่ในวันนั้น โจทย์มีตารางทำงานจะต้องทำการตรวจผู้ป่วยนอก แต่โจทย์ไม่ได้มาตรวจผู้ป่วยนอก ในช่วงเช้า โจทย์อาจจะอ้างได้ว่า ใช้เวลาสำหรับการทำงานที่ตึกผู้ป่วยในดังกล่าว แต่การที่โจทย์ไม่ได้ออกตรวจผู้ป่วยนอกตลอดทั้งวัน  ทำให้ไม่มีการบริการผู้ป่วยผู้ป่วยนอก และผู้ป่วยใน เนื่องจากผู้ป่วยในจะรับตามสายการรับของผู้ป่วยนอกของแพทย์ที่ออกตรวจผู้ป่ว ยนอก มองได้ว่า โจทย์ไม่ได้ทำงานตามที่ได้รับมอบหมายทั้งเช้าและบ่าย แต่เวลาช่วงเช้า อาจจะมองได้ว่า โจทย์ต้องใช้เวลาสำหรับการดูผู้ป่วยใน และพร้อมที่จะรักษาผู้ป่วยนอก ดังนั้นมองได้ว่า โจทย์ไม่ได้ขาดราชการในช่วงเช้า  
  แต่เนื่องจากในช่วงบ่าย โจทย์ไม่ได้ทำการปฏิบัติราชการตามที่ได้รับมอบหมาย คือออกตรวจผู้ป่วยนอก ดังนั้น การทำงานในวันที่ 5 เมษายน 60 เท่ากับโจทย์ทำงานในครึ่งเช้า ส่วนครึ่งบ่าย โจทย์ไม่ได้ปฏิบัติราชการตามที่ได้รับมอบหมาย เท่ากับว่า ในวันที่ 5 เมษายน  60 โจทย์ทำงานเพียงครึ่งวัน  
  ดังนั้นในเดือน เมษายน 60 โจทย์จะมีวันทำงานตามเวลาราชการรวมแล้วเท่ากับ 14.5 วัน ไม่ถึง 15 วัน การที่ไม่ได้รับเงิน ช่วยเหลือ ฉ.11 น่าจะเป็นเหตุเป็นผลแล้ว  
 
   ถามจากนิติกร ที่รู้จักกัน เรื่องรายละเอียด นิติกร เขาตอบให้เราแบบนี้  ส่วนการลงความเห็น ว่าจะเป็นแบบนี้หรือไม่ แล้วแต่ผู้บังคับบัญชาตามลำดับขั้น ถ้าหากว่า เห็นแย้งให้ทำเรื่องขึ้นไปอีกหนึ่งขั้น เช่นถ้าผอ.มีความเห็นไม่ตรง ก็ให้ถาม สสจ. ถ้าความเห็นของสสจ.ว่าอย่างไร ก็ตามนั้น แต่ตามรายละเอียดในกระทู้ เรื่องถึงรองผู้ว่าฯ  น่าจะมีการตรวจสอบมากกว่าหนึ่งลำดับขั้นแล้ว  
   เป็นประเด็นในแง่การคิดเวลาทำงาน แต่ยังไม่ได้รวมถึงความผิด และการทำราชการไม่ครบ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการให้เงินช่วยพิเศษ ฉ. 11  
   ถ้าหากว่า ขึ้นศาล ทนาย หรืออัยการจำเลย อาจจะแถลงแก้ต่างในแนวนี้ ซึ่งเราดูแล้ว ก็เห็นว่า มีความจริงได้มากเลย ถ้าหากศาลรับฟัง โอกาสที่จะโจทย์จะแพ้คดีมีได้สูงมาก

 
ขอบคุณมากคะ  เเละมีหนังสือจากจังหวัด  เเจ้งมาใน 3 เดือนก่อนหน้านั้นด้วยคะ  ว่า ไม่ครบ  8 ชม.  ไม่นับให้ 1 วัน ทำการ ตามหนังสือเเนบอะคะ และจะตามยึดเงินคืน ในเดือน  มกรา - มีนา 60  หากตีความเช่นนั้น  อาจจะต้องมีบรรทัดฐาน สำหรับการทำงานออกมาเเน่คะ  
ส่งโดย: Cuties
สถานะ: Junior Member **
จำนวนความเห็น: 64   Email
   
183.88.44.*


« ความเห็นที่ #91 เมื่อ: 06/03/18 เวลา 19:46:06 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ผมว่าน้องไม่น่าจะอยู่ในระบบห่วยนี้ได้แล้วครับ.  หาทางไปเรียนต่อและทำงานหน่วยอื่นๆไปแทน.
ส่งโดย: crv01
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1964  
   
182.232.110.*


« ความเห็นที่ #92 เมื่อ: 06/03/18 เวลา 19:57:15 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 06/03/18 เวลา 19:23:15, Cuties wrote:
แล้วหาก ผอ ทำงานในเดือนเมษา 5 วัน น้องอินเทินมา 13 วัน แต่ ผอ เซ็นเบิกให้ แบบนี้ผิด ม 157 ไหมครับเพราะเลือกปฏิบัติ

หมายถึงทั้ง ผอ เบิก 10000 และอินเทินเบิก 10000 หรือเปล่าครับ
 

Good surgeons know how to operate.
Better ones know when to operate.
Best ones know when not to operate
ส่งโดย: anantom
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 10525   WWW
   
180.183.217.*


« ความเห็นที่ #93 เมื่อ: 06/03/18 เวลา 20:39:41 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 06/03/18 เวลา 18:31:32, Cuties wrote:

 
ขอบคุณมากคะ  เเละมีหนังสือจากจังหวัด  เเจ้งมาใน 3 เดือนก่อนหน้านั้นด้วยคะ  ว่า ไม่ครบ  8 ชม.  ไม่นับให้ 1 วัน ทำการ ตามหนังสือเเนบอะคะ และจะตามยึดเงินคืน ในเดือน  มกรา - มีนา 60  หากตีความเช่นนั้น  อาจจะต้องมีบรรทัดฐาน สำหรับการทำงานออกมาเเน่คะ  

 
การนับวันว่าทำงาน ไม่ครบ 8 ชม เป็น 1 วันหรือไม่ ระเบียบเขียนไว้ไม่ชัดเจน แต่กฏหมายแรงงาน กำหนดว่า - ในวันที่มีการทำงานให้นายจ้างจัดให้ลูกจ้างมีเวลาพักติดต่อกันไม่น้อยกว่าวั นละ 1 ชั่วโมง ภายใน 5 ชั่วโมงแรกของการทำงาน หมายความว่า ในกฏหมายแรงงาน ไม่ยินยอมให้ทำงานเกินวันละ 8 ชั่วโมง และถ้าทำงานติดต่อกันเกิน 5 ชม ต้องมีการพัก 1 ชม และชม.ที่มีการพัก ถือเป็นชม.ทำงานที่จะต้องจ่ายค่าตอบแทนด้วย และถ้าทำงานมากกว่า 8 ชม ต้องจ่ายค่าล่วงเวลา  
 
ในทางปฏิบัติของราชการ เกี่ยวกับข้าราชการ และพนักงานของรัฐ และลูกจ้าง ต้องดูลักษณะการทำงาน และคำสั่งให้ปฏิบัติราชการว่า ตั้งแต่เวลาไหน ถึงเวลาไหน ถ้าทำตามคำสั่งปฏิบัติราชการ แม้แต่ให้ทำแค่ 8.00-12.00 น. และได้ปฏิบัติราชการจริงก็นับว่าเป็นหนึ่งวัน แต่ถ้าหากคำสั่ง ให้ทำ 8.00-16.00 น. แล้วทำจริงแค่ 8.00-12.00 น. แล้วไม่ได้ทำต่อ โดยไม่มีเหตุผลสมควร จะนับว่าเป็นการทำการครึ่งวัน  แต่ถ้าหากว่า มีปัญหาในการวินิจฉัย ก็ต้องสอบถามปัญหากับนิติกรในหน่วยงาน อาจจะเป็นหน่วยงานเดียวกัน หรือหน่วยงานที่อยู่สูงขึ้นไปหนึ่งลำดับขั้น ถ้าคิดว่า นิติกร ในหน่วยงาน ตอบได้ไม่ชัดเจน    
 
เรื่องจะยึดเงินคืน เนื่องจากทำงานไม่ครบ 8 ชม ไม่ครบ 1 วัน ไม่น่าจะทำได้ แต่ต้องดูคำสั่งราชการว่าให้ปฏิบัติราชการตั้งแต่เวลาไหน ถึงเวลาไหน ถ้าปฏิบัติครบตามสั่ง ต้องนับเป็นหนึ่งวัน เช่นเวลาราชการ จาก 8.00-16.00 ตอนเช้า ทำงาน 4 ชม ตอนบ่ายทำงาน 3 ชม รวมแล้วเป็น 7 ชม แต่เนื่องจากทำงานเกิน ห้าชม ดังนั้น ราชการต้องจัดเวลาพักให้ 1 ชม คือตอน 12.00 น. และคิดเป็นเวลาทำงานอีกด้วย ดังนั้น เวลาทำงานจริงก็คือ 7+1=8 ชม ดูแล้วก็ครบ 8 ชม ตามกฏหมายแรงงานฉบับล่าสุด
หน่วยราชการ จะต้องออกระเบียบให้พนักงานทำงานให้ครบ 8 ชม ต่อวัน เนื่องจากเป็นจำนวน ชั่วโมงที่สูงสุดที่กฏหมายยอมให้หน่วยงานทำได้ เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่หน่วยงานเต็มที่  แต่ถ้าหากว่า หน่วยงานจะออกระเบียบให้พนักงานทำไม่ครบ 8 ชม ต่อวัน ก็ต้องนับว่าเป็น 1 วันเช่นเดียวกัน แต่คนออกคำสั่งให้พนักงานทำไม่ครบ 8 ชม ต่อวัน ต้องมีเหตุผลที่จะไม่รักษาผลประโยชน์ให้แก่ราชการ  
 
แต่ประเด็นที่สำคัญคือ คำสั่งราชการ ให้ทำงานตั้งแต่กี่โมง แม้ว่า จะทำงานแค่ สี่ ชม เช่น จ้างพนักงานมาทำงานที่รพ. ตั้งแต่ 8.00-12.00 น. แม้ว่าจะทำงานแค่ 4 ชม แต่เมื่อทำงานจริงตามคำสั่งครบถ้วน ก็คิดเป็น 1 วัน ดังนั้น ทางหน่วยงานจึงเลี่ยงที่จะจ้างพนักงานทำงานโดยการจ้างเป็นรายเดือน แต่จะเลือกจ้าง และจ่ายค่าตอบแทนเป็นรายชั่วโมง ว่าทำงานกี่ชม.และทั้งเดือนทำงานกี่วัน จ่ายค่าตอบแทน เป็นรายชั่วโมง แต่พยายามเลี่ยงการคิดเป็นวัน เพราะจะมีปัญหาการตีความในกฏหมายแรงงาน
ส่งโดย: 6699
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1520  
   
223.205.250.*


« ความเห็นที่ #94 เมื่อ: 06/03/18 เวลา 21:45:21 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 06/03/18 เวลา 19:57:15, anantom wrote:

หมายถึงทั้ง ผอ เบิก 10000 และอินเทินเบิก 10000 หรือเปล่าครับ
 
เดือนเมษา ผอ เบิก 30,000 (มาทำงาน 5 วัน และมีบางวันตรวจคนไข้เพียง 1 คน จะนับว่าทำงานครบ 8 ชม ได้จริงหรือ ถ้าต้องพิสูจน์ถึงเรื่องเวลาทำการด้วย) น้องอินเทิร์นเบิก 10,000 (มาทำงาน 13 วัน) ครับ ตามระเบียบการเบิกจ่าย ฉ.11 (ตามอายุราชการ) และ ร.พ.น้ำขุ่น เป็นพื้นที่ปกติ 3 ตามการจัดระดับที่มีแจ้งในระเบียบ ฉ.11
 
ส่วนเรื่องเวลาทำการว่าต้องครบ 8 ชม หาอ่านไม่เจอในระเบียบ ฉ.11 ครับ (ซึ่งโจทก์ตีความว่า ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องพิสูจน์ในเรื่องนี้ เนื่องจากไม่มีในระเบียบการเบิกจ่าย ฉ.11 ครับ)
« แก้ไขครั้งสุดท้ายเมื่อ: 06/03/18 เวลา 21:53:47 by Cuties »
ส่งโดย: Cuties
สถานะ: Junior Member **
จำนวนความเห็น: 64   Email
   
122.155.46.*


« ความเห็นที่ #95 เมื่อ: 06/03/18 เวลา 22:15:56 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 06/03/18 เวลา 21:45:21, Cuties wrote:

 เดือนเมษา ผอ เบิก 30,000 (มาทำงาน 5 วัน และมีบางวันตรวจคนไข้เพียง 1 คน จะนับว่าทำงานครบ 8 ชม ได้จริงหรือ ถ้าต้องพิสูจน์ถึงเรื่องเวลาทำการด้วย) น้องอินเทิร์นเบิก 10,000 (มาทำงาน 13 วัน) ครับ ตามระเบียบการเบิกจ่าย ฉ.11 (ตามอายุราชการ) และ ร.พ.น้ำขุ่น เป็นพื้นที่ปกติ 3 ตามการจัดระดับที่มีแจ้งในระเบียบ ฉ.11
 
ส่วนเรื่องเวลาทำการว่าต้องครบ 8 ชม หาอ่านไม่เจอในระเบียบ ฉ.11 ครับ (ซึ่งโจทก์ตีความว่า ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องพิสูจน์ในเรื่องนี้ เนื่องจากไม่มีในระเบียบการเบิกจ่าย ฉ.11 ครับ)

 
ถ้าทำจริง คงต้องแก้ตัวกับข้อหาทางอาญาหลายข้อครับ
1  อาญา ม 157 ปฎิบัติหน้าที่มิชอบ
2 อาญา ม 147 ในฐานะ ผอก ไม่รักษาเงินทางราชการ
3 อาญา ม 264 267 268 ทำเอกสาร ปลอม เท็จ และใช้เอกสารที่ปลอม เท็จ เบิกเงิน
งานนี้ แจ้งความพนักงานสอบสวน, แจ้ง ปปช , และหาเหาให้ผู้ใหญ่ในกระทรวง โดยแจ้ง นายแพทย์สสจ ,ผู้ตรวจการเขต,สาธารณสุขนิเทศฯ์ ,ปลัดกระทรวง ใครไม่ดำเนินการทางอาญาและวินัย ฟ้องด้วย อาญามาตรา 157  
งานแบบนี้ นิติกร ทนาย อัยการ ปปช ปปท ชอบๆ
ปล หมอเราที่จบ นบ เนติ ได้ฟื้นความรู้ด้วย 5555 ถ้าหมอตั้นยังอยู่น่าจะได้ข้อคิดดีกว่านี้ครับ
 

Good surgeons know how to operate.
Better ones know when to operate.
Best ones know when not to operate
ส่งโดย: anantom
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 10525   WWW
   
180.183.217.*


« ความเห็นที่ #96 เมื่อ: 06/04/18 เวลา 07:30:28 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

http://dep.kpo.go.th/exec/person/FileDownload/Money-sp48/3all.pdf
 
ระเบียบเงิน พตส. ครับ  
ในรอบการจ่ายเงินตกเบิกของเดือน มค-มีค 60 ที่จำเลยได้ทำการเซ็นเบิกจ่ายให้เจ้าหน้าที่ รพ ในวันที่ 31 กค 60 แต่มิได้เบิกจ่ายให้กับโจทก์ มีส่วนของเงิน พตส. 1 เดือนด้วย คือจำนวน 10,000 บาท (ตำแหน่งแพทย์ ที่อยู่ รพ ชุมชน ตั้งแต่ปีที่ 4 ขึ้นไป ได้ในอัตราเดือนละ 1 หมื่นบาท) ระเบียบเงิน พตส. มิได้ระบุวันทำการว่าต้องไม่น้อยกว่า 15 วันทำการ และมิได้ระบุว่าต้องทำงานครบ 8 ชม จึงจะสามารถนับวันทำการได้ แต่จำเลยก็มิได้เบิกให้โจทก์ (มากลับลำเบิกให้ภายหลังจากที่โจทก์ได้แจ้งความดำเนินคดีที่ สภ น้ำขุ่น เมื่อวันที่ 2 สค และส่งเรื่องไปยัง ปปท แล้ว คือมาเบิกจ่ายให้ในภายหลังในวันที่ 15 สค 60) โดยจำเลยได้ให้รองผู้ว่า,นิติกรกระทรวงเซ็น แล้วส่งเอกสารมาให้โจทก์อ้างว่าวันทำการไม่ครบ และเวลาทำการไม่ครบ 8 ชม ในวันดังกล่าว (ซึ่งมิได้แจ้งว่าวันใดบ้าง เพราะมีทั้งเดือน มค กพ มีค รวมอยู่ด้วย) ทั้งที่มิได้มีในระเบียบแต่อย่างใด เช่นนี้แล้วการนำสืบจะไปเป็นในแนวทางใดครับ ขอบคุณครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้ายเมื่อ: 06/04/18 เวลา 07:32:41 by Cuties »
ส่งโดย: Cuties
สถานะ: Junior Member **
จำนวนความเห็น: 64   Email
   
122.155.35.*


« ความเห็นที่ #97 เมื่อ: 06/04/18 เวลา 08:11:38 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 06/04/18 เวลา 07:30:28, Cuties wrote:
http://dep.kpo.go.th/exec/person/FileDownload/Money-sp48/3all.pdf
 
ระเบียบเงิน พตส. ครับ  
ในรอบการจ่ายเงินตกเบิกของเดือน มค-มีค 60 ที่จำเลยได้ทำการเซ็นเบิกจ่ายให้เจ้าหน้าที่ รพ ในวันที่ 31 กค 60 แต่มิได้เบิกจ่ายให้กับโจทก์ มีส่วนของเงิน พตส. 1 เดือนด้วย คือจำนวน 10,000 บาท (ตำแหน่งแพทย์ ที่อยู่ รพ ชุมชน ตั้งแต่ปีที่ 4 ขึ้นไป ได้ในอัตราเดือนละ 1 หมื่นบาท) ระเบียบเงิน พตส. มิได้ระบุวันทำการว่าต้องไม่น้อยกว่า 15 วันทำการ และมิได้ระบุว่าต้องทำงานครบ 8 ชม จึงจะสามารถนับวันทำการได้ แต่จำเลยก็มิได้เบิกให้โจทก์ (มากลับลำเบิกให้ภายหลังจากที่โจทก์ได้แจ้งความดำเนินคดีที่ สภ น้ำขุ่น เมื่อวันที่ 2 สค และส่งเรื่องไปยัง ปปท แล้ว คือมาเบิกจ่ายให้ในภายหลังในวันที่ 15 สค 60) โดยจำเลยได้ให้รองผู้ว่า,นิติกรกระทรวงเซ็น แล้วส่งเอกสารมาให้โจทก์อ้างว่าวันทำการไม่ครบ และเวลาทำการไม่ครบ 8 ชม ในวันดังกล่าว (ซึ่งมิได้แจ้งว่าวันใดบ้าง เพราะมีทั้งเดือน มค กพ มีค รวมอยู่ด้วย) ทั้งที่มิได้มีในระเบียบแต่อย่างใด เช่นนี้แล้วการนำสืบจะไปเป็นในแนวทางใดครับ ขอบคุณครับ

 
link ที่ให้มาเป็นระเบียบปี 48 แนะนำให้ดูปี 59 ซึ่งน่าจะล่าสุดกว่า
http://bps.moph.go.th/new_bps/sites/default/files/compositiveGuuideline1 1-12_09012017_113449.pdf
ส่งโดย: 6699
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1520  
   
223.205.233.*


« ความเห็นที่ #98 เมื่อ: 06/04/18 เวลา 08:27:32 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 06/04/18 เวลา 08:11:38, 6699 wrote:

 
link ที่ให้มาเป็นระเบียบปี 48 แนะนำให้ดูปี 59 ซึ่งน่าจะล่าสุดกว่า
http://bps.moph.go.th/new_bps/sites/default/files/compositiveGuuideline1 1-12_09012017_113449.pdf

 
เป็นหลักเกณฑ์วิธีการ เงื่อนไขการจ่ายเงินค่าตอบแทน ของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานให้ในหน่วยบริการในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขที่กำ หนดไว้  เป็นกรอบใหญ่ เป็นแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับเรื่องค่าตอบแทนทั้งหมด ของหน่วยบริการสังกัดกระทรวงสาธารณสุข เงิน พตส.ก็เป็นหลักเกณฑ์ลูกของหลักเกณฑ์อันนี้ เพราะออกมาก่อนหลักเกณฑ์นี้  แต่ถ้ามีข้อสงสัยจริง อาจจะถามจะสอบถามไปที่กพ. ตามหนังสือราชการปี 48 ตาม link ที่แปะไว้  
 
คนเราทำงานวันละ เกิน 8 ชม ไม่ได้ เพราะขัดกับกฏหมายแรงงาน แต่ถ้าจะทำงานเกินจากนั้น ต้องมีการคิดค่าล่วงเวลา แต่การคิดเป็นวัน ต้องดูคำสั่งให้ปฏิบัติราชการ ถ้าทำครบคำสั่ง เช่นสั่งให้ทำวันละ 4 ชม ครบชม.ที่สั่งแล้ว ให้คิดเป็นหนึ่งวัน เพราะถือว่า ปฏิบัติราชการครบถ้วนแล้ว แต่ในแง่ปฏิบัติ หัวหน้าส่วนราชการ จะต้องรักษาผลประโยชน์ของราชการ ดังนั้นจะต้องหางานให้ทำให้ครบ 8 ชั่วโมง เพื่อประโยชน์ราชการ แต่จะให้ทำมากกว่านั้นไม่ได้ ยกเว้น มีการคิดค่าล่วงเวลา และมีเหตุผลที่จะต้องทำเช่นนั้น  
 
ส่งโดย: 6699
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1520  
   
223.205.233.*


« ความเห็นที่ #99 เมื่อ: 06/07/18 เวลา 13:37:02 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 06/02/18 เวลา 18:56:38, Cuties wrote:

 ที่นี่  ให้ 480บาทคะ/4ชม. นับ 8-12  คะ  ที่รพ. เราผอ. จะไปออกคนเดียว  ทุกกวันพุธ คะ  ส่วนบางครั้งจะให้น้องหมอไปแทน  เเต่น้องอินเทินไม่ได้รับเงินส่วนนี้คะ ปกติก็ได้ทุกที่นะเท่าที่เคยเห็น ลองตรวจสอบหรือสอบถามกับรพต้นสังกัดดูนะคะ

นำเรียนว่า มีระเบียบข้อนี้อยู่ครับ ออกให้บริการนอกหน่วยบริการ ชั่วโมงละ 120 บาท มีจริงครับ ไม่ถือว่าซ้ำซ้อน แต่ผมไม่เคยเห็นมีใครเบิก เพราะถือว่าเป็นเวลาราชการ เลยไม่หน้ามึนเบิก แต่ถ้าอีกคนเบิกอีกคนตรวจอันนี้คงผิด มีลายเซ็นชัดเจน
ส่งโดย: Echo male
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 4667  
   
202.80.227.*


« ความเห็นที่ #100 เมื่อ: 06/07/18 เวลา 14:39:07 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

Echo-ค่าตอบแทนต่างหน่วย.jpg (attachment deleted)

ผอ ของท่าน ออกตรวจ รพสต ได้ชั่วโมง 120 บาท อาศัยข้อนี้เบิกครับ ฉ5 ปี 52
ส่งโดย: Echo male
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 4667  
   
202.80.227.*


« ความเห็นที่ #101 เมื่อ: 06/07/18 เวลา 14:39:56 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

Echo-aass.jpg
.
ส่งโดย: Echo male
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 4667  
   
202.80.227.*


« ความเห็นที่ #102 เมื่อ: 06/07/18 เวลา 14:46:18 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 06/07/18 เวลา 13:37:02, Echo wrote:

นำเรียนว่า มีระเบียบข้อนี้อยู่ครับ ออกให้บริการนอกหน่วยบริการ ชั่วโมงละ 120 บาท มีจริงครับ ไม่ถือว่าซ้ำซ้อน แต่ผมไม่เคยเห็นมีใครเบิก เพราะถือว่าเป็นเวลาราชการ เลยไม่หน้ามึนเบิก แต่ถ้าอีกคนเบิกอีกคนตรวจอันนี้คงผิด มีลายเซ็นชัดเจน

ที่อุบล  รพช. ยังมีระเบียบใช้เบิกตัวนี้  120 / ชม.  
ส่งโดย: Cuties
สถานะ: Junior Member **
จำนวนความเห็น: 64   Email
   
182.232.76.*


« ความเห็นที่ #103 เมื่อ: 06/18/18 เวลา 23:55:55 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

น่าวิตกสภาพที่เป็นกันมากเลยแหละ
ส่งโดย: sen2011
สถานะ: Full Member ***
จำนวนความเห็น: 161  
   
203.150.115.*


Page(s) : 1 2 


แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print



Reply this Topic reserved for registed member only. Register



  • ข้อความและรูปภาพที่ท่านเห็นส่วนใหญ่ ได้ถูกส่งมาจาก ทางบ้าน
    ทางเว็บไซต์ Thaiclinic.com ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของข้อความและรูปภาพที่ถูกส่งมา

  • ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชนและส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ
    เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง
    ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง

  • ถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมหรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล
    หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ webmaster@thaiclinic.com หรือ กดแจ้งที่ปุ่ม
    "แจ้งลบกระทู้"
    เพื่อให้ทีมงานทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ครับ

ThaiClinic.Com . All Rights Reserved. !--BEGIN WEB STAT CODE-->

Powered by