แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print

 หัวข้อ 36865: ถูก ผอ รพ น้ำขุ่น และ สสจ อุบล กลั่นแกล้งไม่จ่ายเงิน ฉ11  (จำนวนคนอ่าน 9490 ครั้ง)
« เมื่อ: 06/01/18 เวลา 14:21:09 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ศาลนัดขึ้น 3 กค คดี ม 157 ครับ ผอ รพ น้ำขุ่น ไม่จ่ายเงิน ทั้งที่เรามาทำงานครบ มีหลักฐาน แต่ถูก ผอ ร่วมมือกับจังหวัด ใส่ร้ายว่าทำงานไม่ครบ 15 วัน พอเอาหลักฐานว่ามาทำงานครบ กลับถูกกล่าวหาอีกว่ามาไม่ครบ 8 ชม ไม่นับวันทำการ ซึ่งในระเบียบ ฉ11 ไม่มีเงื่อนไขนี้เลย จะเรียกเงินที่จ่ายไปแล้วคืน และของเดือน เมษา 60 ก็ยังไม่ยอมจ่ายจนถึงทุกวันนี้ครับ ตอนนี้ถูกจับผิดเหมือนเป็นนักโทษ ถูกเลือกปฏิบัติคือจ้องจับผิดอยู่คนเดียว จนแทบไม่มีกะใจทำงานแล้ว ส่วน ผอ แทบไม่เคยมาช่วยตรวจเลย เข้าจังหวัดไปฟ้องว่าพวกเราไม่ทำงานบ้าง ละทิ้งหน้าที่บ้าง  ซึ่งมันไม่จริงเลย ตรวจสอบได้เลยจาก HI ครับ มาตรวจมากกว่า ผอ ประมาณ 3-4 เท่า ก็ยังหาเรื่องให้ร้ายพวกเรา หากท่านผู้มีอำนาจในกระทรวงสักท่านมาเห็น ช่วยดูเรื่องนี้ให้พวกเราด้วยครับ หมอดีๆที่ทำงานตรวจคนไข้กำลังจะหมดกำลังใจแล้ว
ส่งโดย: Cuties
สถานะ: Junior Member **
จำนวนความเห็น: 64   Email
   
122.155.35.*


« ความเห็นที่ #1 เมื่อ: 06/01/18 เวลา 14:32:35 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

Cuties-IMG_9722.JPG
ตรวจคนไข้มากกว่าแพทย์ท่านอื่น แต่ถูกใส่ร้ายว่าละทิ้งหน้าที่ครับ ผมต้องทำยังไงจะช่วยแฟนได้
ส่งโดย: Cuties
สถานะ: Junior Member **
จำนวนความเห็น: 64   Email
   
122.155.35.*


« ความเห็นที่ #2 เมื่อ: 06/01/18 เวลา 16:20:09 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

หาทนายที่ไว้ใจได้ฟ้องอาญาเลยครับ

Good surgeons know how to operate.
Better ones know when to operate.
Best ones know when not to operate
ส่งโดย: anantom
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 10525   WWW
   
180.183.220.*


« ความเห็นที่ #3 เมื่อ: 06/01/18 เวลา 16:54:13 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

Undecided


ยามเมื่อมฤตยูรอท่าหน้าทวาร หมอเทียบเปรียบปานพระเจ้า
ยามเมื่อโรคสุมรุมเร้า หมอคือพระเจ้าจุติมา
ยามเมื่อโรคหายไข้เรื้อ หมอคือสามัญมนุสสา
ยามเมื่อคนไข้มรณา หมอคือผีห่าซาตาน..

ส่งโดย: know555 male
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 16543  
   
1.47.239.*


« ความเห็นที่ #4 เมื่อ: 06/01/18 เวลา 18:08:15 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

เรื่องจริงหรือ.   สมัยนี้เอาใจแพทย์มาก. กลัวลาออก.
ส่งโดย: crv01
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1964  
   
182.232.164.*


« ความเห็นที่ #5 เมื่อ: 06/01/18 เวลา 18:51:36 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

เรื่องจริงครับ เกิดขึ้นใน รพช เล็กๆที่มีแพทย์เพียง 3 คน (รวม ผอ) อ.น้ำขุ่น จ.อุบลราชธานี ในเดือนที่มีปัญหาคือ มกราคม - เมษายน 2560 ถูกผู้อำนวยการ รพ สั่งระงับเงินเฉพาะของ พญ ปรมาภรณ์ ทองนุ่ม เพียงคนเดียว โดยไม่มีการสอบวินัยก่อนลงโทษตัดเงินใดๆทั้งสิ้น กล่าวคือ ในวันที่ 31 กค 60 มีการเบิกจ่ายเงินตกเบิก ฉ11 3 เดือน และ พตส 1 เดือน ในส่วนของ พญ ปรมาภรณ์ ต้องได้รับเงินจำนวน 1 แสนบาท แต่ก็มิได้รับพร้อมกับเจ้าหน้าที่คนอื่นของ รพ จึงทำการโทรศัพท์สอบถาม และ ผอ อ้างว่ารองผู้ว่า และ นพสสจ สั่งไม่ให้จ่าย เนื่องจากทำงานไม่ครบวัน ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว แฟนมาทำงานครบทุกวัน (มีลาบางวัน แต่ทุกเดือนเกิน 15 วันทำการแน่นอน)  มีหลักฐานการตรวจคนไข้ในโปรแกรม HI ยืนยัน และตรวจคนไข้ปริมาณมากกว่าหมอท่านอื่น 2-3 เท่าด้วยซ้ำ เนื่องจากเป็นคนทำงานเร็ว จากนั้นเราได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ ผอ และบริหาร ที่ สภ น้ำขุ่น ในวันที่ 2 สค และเข้าจังหวัดไปร้องเรียน สสจ ในวันที่ 4 สค 60 จากนั้นเมื่อ ผอ จึงเบืกจ่ายเงินให้ในวันที่ 15 สค 60
« แก้ไขครั้งสุดท้ายเมื่อ: 06/02/18 เวลา 09:42:36 by Cuties »
ส่งโดย: Cuties
สถานะ: Junior Member **
จำนวนความเห็น: 64   Email
   
122.155.35.*


« ความเห็นที่ #6 เมื่อ: 06/01/18 เวลา 18:58:27 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

จากนั้น ในวันที่ 21 กันยา 2560 ทาง รพ น้ำขุ่น ก็มีการเบิกจ่ายเงินตกเบิก ฉ11 ของเดือน เมษา-มิย 60 ให้กับเจ้าหน้าที่ ในส่วนของแฟน ต้องได้รับเงินตกเบิก ฉ11 สามเดือน จำนวน 90,000 บาท แต่กลับได้รับเงินเบิกจ่ายเพียง 60,000 บาท จึฃได้สอบถามทาง ผอ รพ อีกครั้ง ได้รับคำชี้แจงมาว่า ในเดือนเมษา 60 ที่มีวันทำการ 16 วัน พญ ปรมาภรณ์ ลา 1 วัน คือ วันที่ 7 เมษา และขาดงาน 1 วันคือวันที่ 5 เมษา (ทำเอกสารแนบมาพร้อม) แต่ในความเป็นจริง วันที่ 5 เมษา พญ ปรมาภรณ์ มาทำงานตามปกติ มีหลักฐานการเขียนชาร์ทรีเฟอคนไข้ใน ward ส่งให้ ผอ พิจารณา แต่ก็ยังมิได้รับเงินแต่อย่างใด ต่อมาเดือนตุลา 60 ได้มีโอกาสเข้าพบ นพสสจ สอบถามเรื่องนี้ ได้ว่าจะจัดการให้ แต่จนปัจจุบันก็ยังมิได้รับเงิน 30,000 แต่อย่างใด
« แก้ไขครั้งสุดท้ายเมื่อ: 06/02/18 เวลา 09:41:18 by Cuties »
ส่งโดย: Cuties
สถานะ: Junior Member **
จำนวนความเห็น: 64   Email
   
122.155.35.*


« ความเห็นที่ #7 เมื่อ: 06/01/18 เวลา 19:07:51 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ล่วงเลยมาถึงเดือน มีนา 61 จึงตัดสินใจส่งฟ้องเป็นคดีอาญา ม 157 ศาลไต่สวนมูลฟ้องและรับฟ้องเป็นคดีอาญา เมื่อวันที่ 26 มีนา 61 และนัดขึ้นศาลครั้งแรกในวันที่ 3 กค 61 จำเลยคือ ผอ และบริหารของ รพ น้ำขุ่นอีก 2 คน รวมเป็น 3 คน ต่อมามีหนังสือตอบจากจังหวัด  มาว่า พญ ปรมาภรณ์ ไม่มีสิทธิ์ได้รับเงินจำนวนดังกล่าว พร้อมทั้งยุติเรื่องร้องเรียน ตามหนังสือที่เเนบให้
« แก้ไขครั้งสุดท้ายเมื่อ: 06/02/18 เวลา 09:46:01 by Cuties »
ส่งโดย: Cuties
สถานะ: Junior Member **
จำนวนความเห็น: 64   Email
   
122.155.35.*


« ความเห็นที่ #8 เมื่อ: 06/01/18 เวลา 19:14:20 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

จังหวัดได้แนบระเบียบตั้งแต่ 2502 สมัยจอมพลสฤษดิ์ บอกว่าเวลาราชการคือ 8.30-16.30 มีช่วงพักคือ 12.00-13.00 นับรวมได้ 8 ชม เอามาใส่ โดยการพิมพ์เอกสารส่งตอบหนังสือมาว่าทำงานไม่ครบ 8 ชั่วโมง จึงไม่นับวันทำการ  และไม่มีในระเบียบ ฉ11 ส่วนเงิน พตส กลับไม่พูดถึงว่าทำไมไม่จ่าย ทั้งที่ครั้งแรก ก็ไม่มีการเบิกจ่ายให้ และเงิน พตส ไม่มีเงื่อนไขเรื่องวันทำการด้วย แต่ก็ระงับการเบิกจ่าย  ก็คงรอกระบวนการทางศาลเพื่อสืบ ในขั้นตอนต่อไปครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้ายเมื่อ: 06/02/18 เวลา 09:48:08 by Cuties »
ส่งโดย: Cuties
สถานะ: Junior Member **
จำนวนความเห็น: 64   Email
   
122.155.35.*


« ความเห็นที่ #9 เมื่อ: 06/01/18 เวลา 19:49:01 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ฟ้องศาลปกครองครับ..  
หรือถ้าพร้อมจะชน ส่งเรื่องให้อีจ่า.. อย่าลืมทำเรื่องย้าย รพ.ก่อน
ส่งโดย: Hybrid VI
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 6180  
   
182.232.22.*


« ความเห็นที่ #10 เมื่อ: 06/01/18 เวลา 20:44:38 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 06/01/18 เวลา 19:49:01, Hybrid VI wrote:
ฟ้องศาลปกครองครับ..  
หรือถ้าพร้อมจะชน ส่งเรื่องให้อีจ่า.. อย่าลืมทำเรื่องย้าย รพ.ก่อน

 
ฟ้องศาลทุจริตสุรินทร์ไปครับ เพราะต้องการดำเนินคดีอาญาไม่ใช่แค่ทางปกครอง เอาผิดแก่จำเลยถึงที่สุด ศาลไต่สวนมูลฟ้องแล้วเห็นว่าคดีมีมูล จึงรับฟ้องไว้เมื่อ 26 มีค 61 และนัดขึ้นศาลครั้งแรกในวันที่ 3 กค เวลา 13.30 น ครับ
ส่งโดย: Cuties
สถานะ: Junior Member **
จำนวนความเห็น: 64   Email
   
122.155.35.*


« ความเห็นที่ #11 เมื่อ: 06/01/18 เวลา 20:45:19 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

จังหวัดได้แนบระเบียบตั้งแต่ 2502 สมัยจอมพลสฤษดิ์ บอกว่าเวลาราชการคือ 8.30-16.30 มีช่วงพักคือ 12.00-13.00 นับรวมได้ 8 ชม เอามาใส่  
 
ขอดู หนังสือ นี้หน่อยครับ  นานมากแล้วนะครับ  ระเบียบนี้  
น่าจะมีระเบียบที่ใหม่กว่านี้มาอ้างอิง

ประกันความรับผิดแพทย์

MEDICAL INDEMNITY INSURANCE : A STUDY ON VOLUNTARY INSURANCE
ส่งโดย: pat1
สถานะ: Full Member ***
จำนวนความเห็น: 155  
   
125.25.138.*


« ความเห็นที่ #12 เมื่อ: 06/01/18 เวลา 20:49:42 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

เรื่องย้าย รพ คงยังไม่ย้ายครับ เราไม่ได้ผิดจึงขออยู่ต่อสู้ และไม่หนีครับ ถ้าย้ายหนีหรือลาออก ก็อาจจะถูกครหาอยู่ดีว่าทำผิดจริงก็เลยต้องหนี แต่ผมและแฟนตัดสินใจอยู่ต่อ และขอชนกับอำนาจ สสจ อุบล และ ผอ รพ น้ำขุ่น จนถึงที่สุดแห่งคดีอาญาครับ อยากตีแผ่ให้เรื่องดังๆและมีผู้ใหญ่ส่วนกลางเข้ามาช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริง ผมกลัวเรื่องการสร้างพยานหลักฐานหรือเอกสารต่างๆขึ้นมาช่วยกัน เพราะที่ผมและแฟนต้องต่อสู้ ก็คือทั้งระดับระดับ สสจ อุบล เลยน่ะครับ T___T (ความถูกต้องผมไม่กลัว แต่เรื่องอำนาจผมไม่แน่ใจ เพราะผมและแฟนก็เป็นแค่แพทย์ประจำนั่งตรวจรักษาคนไข้ไปวันๆ ไม่ได้มีตำแหน่งบริหารหรืออำนาจอะไร)
ส่งโดย: Cuties
สถานะ: Junior Member **
จำนวนความเห็น: 64   Email
   
122.155.35.*


« ความเห็นที่ #13 เมื่อ: 06/01/18 เวลา 20:56:34 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 06/01/18 เวลา 20:45:19, pat1 wrote:
จังหวัดได้แนบระเบียบตั้งแต่ 2502 สมัยจอมพลสฤษดิ์ บอกว่าเวลาราชการคือ 8.30-16.30 มีช่วงพักคือ 12.00-13.00 นับรวมได้ 8 ชม เอามาใส่  
 
ขอดู หนังสือ นี้หน่อยครับ  นานมากแล้วนะครับ  ระเบียบนี้  
น่าจะมีระเบียบที่ใหม่กว่านี้มาอ้างอิง

 
รบกวนติดต่อทางไลน์ไอดี pupung0651237874 เพื่อส่งเอกสารตัวเต็มทางไลน์ เนื่องจากในกระทู้ลงไม่ได้ ขนาดไฟล์ใหญ่และมีจำนวนหลายหน้าครับ อยากสอบถามผู้รู้ในเรื่องนี้เพื่อปรึกษาครับ ขอบคุณครับ หรือให้ไลน์ไอดีมาก็ได้ครับถ้าสะดวก เดี๋ยวจะติดต่อไปครับ ขอบคุณมากๆครับ
ส่งโดย: Cuties
สถานะ: Junior Member **
จำนวนความเห็น: 64   Email
   
122.155.35.*


« ความเห็นที่ #14 เมื่อ: 06/01/18 เวลา 21:02:55 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 06/01/18 เวลา 18:58:27, Cuties wrote:
จากนั้น ในวันที่ 21 กันยา 2560 ทาง รพ น้ำขุ่น ก็มีการเบิกจ่ายเงินตกเบิก ฉ11 ของเดือน เมษา-มิย 60 ให้กับเจ้าหน้าที่ ในส่วนของแฟน ต้องได้รับเงินตกเบิก ฉ11 สามเดือน จำนวน 90,000 บาท แต่กลับได้รับเงินเบิกจ่ายเพียง 60,000 บาท จึฃได้สอบถามทาง ผอ รพ นพ จิรายุ สุวรรณศรี อีกครั้ง ได้รับคำชี้แจงมาว่า ในเดือนเมษา 60 ที่มีวันทำการ 16 วัน พญ ปรมาภรณ์ ลา 1 วัน คือ วันที่ 7 เมษา และขาดงาน 1 วันคือวันที่ 5 เมษา (ทำเอกสารแนบมาพร้อม) แต่ในความเป็นจริง วันที่ 5 เมษา พญ ปรมาภรณ์ มาทำงานตามปกติ มีหลักฐานการเขียนชาร์ทรีเฟอคนไข้ใน ward ส่งให้ ผอ พิจารณา แต่ก็ยังมิได้รับเงินแต่อย่างใด ต่อมาเดือนตุลา 60 ได้มีโอกาสเข้าพบ นพสสจ นพ จิณณพิภัทร ชูปัญญา สอบถามเรื่องนี้ ได้ว่าจะจัดการให้ แต่จนปัจจุบันก็ยังมิได้รับเงิน 30,000 แต่อย่างใด

 
นอกจากหลักฐานการเขียนชาร์ทรีเฟอคนไข้ใน ward  ตามที่กล่าว มีหลักฐานอื่นร่วมด้วยหรือไม่ เช่นการดูคนไข้ในตึก การรักษาคนไข้นอกในรพ.  เพราะวันที่ 5 เมษายน 60 เป็นวันพุธ วันราชการ ถ้าหากว่า มีการทำงานปกติ น่าจะมีบันทึกการรักษาในตึก หรือการตรวจผู้ป่วยนอกให้เห็น  เพราะประเด็นอยู่ที่ทำงานไม่น้อยกว่า 15 วัน ถึงจะเบิกเงินได้ แต่ถ้าไม่มีบันทึกการทำงานในวันนั้น ก็ต้องมีบันทึกว่า วันนั้นไม่มีผู้ป่วยเลยที่มารพ. ซึ่งจะเป็นประเด็นในการคิด
ส่งโดย: 6699
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1520  
   
223.205.248.*


« ความเห็นที่ #15 เมื่อ: 06/01/18 เวลา 21:07:37 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 06/01/18 เวลา 21:02:55, 6699 wrote:

 
นอกจากหลักฐานการเขียนชาร์ทรีเฟอคนไข้ใน ward  ตามที่กล่าว มีหลักฐานอื่นร่วมด้วยหรือไม่ เช่นการดูคนไข้ในตึก การรักษาคนไข้นอกในรพ.  เพราะวันที่ 5 เมษายน 60 เป็นวันพุธ วันราชการ ถ้าหากว่า มีการทำงานปกติ น่าจะมีบันทึกการรักษาในตึก หรือการตรวจผู้ป่วยนอกให้เห็น  เพราะประเด็นอยู่ที่ทำงานไม่น้อยกว่า 15 วัน ถึงจะเบิกเงินได้ แต่ถ้าไม่มีบันทึกการทำงานในวันนั้น ก็ต้องมีบันทึกว่า วันนั้นไม่มีผู้ป่วยเลยที่มารพ. ซึ่งจะเป็นประเด็นในการคิด

 
มีครับ หลักฐานเพิ่มเติม คือมีบันทึกชาร์ท (อยู่ที่ทนายแล้ว ส่งเอกสารให้กับทางศาล) การตรวจผู้ป่วยในตึกผู้ป่วยใน (round ward) ในวันที่ 5 เมษา 60 ครับ
ส่งโดย: Cuties
สถานะ: Junior Member **
จำนวนความเห็น: 64   Email
   
122.155.35.*


« ความเห็นที่ #16 เมื่อ: 06/01/18 เวลา 21:48:24 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 06/01/18 เวลา 21:07:37, Cuties wrote:

 
มีครับ หลักฐานเพิ่มเติม คือมีบันทึกชาร์ท (อยู่ที่ทนายแล้ว ส่งเอกสารให้กับทางศาล) การตรวจผู้ป่วยในตึกผู้ป่วยใน (round ward) ในวันที่ 5 เมษา 60 ครับ

 
เท่าที่ดูในคลิปโรงพยาบาล ตึกสร้างเปิดเมื่อ เดือนตุลาคม 60 เดือน วันที่ 5 เมษายน 60 ตึกน่าจะสร้างยังไม่เสร็จ น่าจะรับผู้ป่วยวันละ 6-9 คน และเป็นผู้ป่วยที่ไม่หนัก ถ้าหนักก็จะส่งต่อไปรักษาที่รพ.อุบล ปัญหาก็คือ วันที่ 5 เมษายน  60 นอกจากคุณหมอตรวจผู้ป่วยในตึก แล้วได้ตรวจผู้ป่วยนอกด้วยหรือไม่ หรือได้ปฏิบัติราชกาอย่างอื่นด้วยหรือไม่ เช่นประชุมรับหรือปฏิบัติตามนโยบายจังหวัด  ถ้าหากว่า ไม่ได้ตรวจ มีเหตุผลอย่างไร และวันนั้น ตัวอยู่รพ.หรือไม่ หรืออยู่รพ.แต่ไม่มีผู้ป่วยนอกมาให้ตรวจ เหล่านี้ เป็นเหตุผลในการจ่ายเงินดังกล่าว  และยังมีประเด็นอีกว่า ถ้าวันนั้น ฝากให้เพื่อนทำการตรวจแทน จะได้หรือไม่ จะทำการเบิกเงินจำนวนนี้ได้หรือไม่ เรื่องแบบนี้ เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องมีหลักฐานแน่นหนา เพราะเป็นคดีความกัน มาตรา 157 เป็นคดีอาญา  เรื่องการฝากกัน เคยมีความให้ สตง.พิจารณา อ่านความเห็นของ สตง. เราทึ่งไปเลย  
 
เราเดาว่า ที่รพ.มีแพทย์สามท่าน สองท่าน เป็นเพื่อนสนิทกันมาก อีกท่านเป็นผู้อำนวยการ ผู้อำนวยการ ต้องทำเรื่องการประชุม ไม่ค่อยได้ตรวจผู้ป่วย อาจจะทำให้เป็นประเด็นกันขึ้นมา และไม่รู้เราดูผิดหรือเปล่า แพทย์ทั้งสามท่าน น่าจะจบเมื่อปี 2555 เท่ากัน ไม่มีอาวุโสที่ต่างกัน ถ้าเป็นแบบนี้ ยิ่งบริหารลำบากมาก  
 
เราถามมากไปหน่อย แต่เห็นว่า ฟ้องร้องกันแล้ว เมื่อขึ้นศาล ทนายเขาก็ซักตามแนวทางนี้แหละ
ส่งโดย: 6699
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1520  
   
223.205.248.*


« ความเห็นที่ #17 เมื่อ: 06/01/18 เวลา 22:02:12 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

6699-1.JPG
มีสองประเด็นคือ วันทำการ ไม่น้อยกว่า 15 วันทำการในเดือนที่จะเบิกจ่าย และประเด็นที่สองคือ การเบิกจ่ายค่าตอบแทนสำหรับ "ต้องทุ่มเทการทำงานให้กับหน่วยงานอย่างเต็มที่ ถึงจะเบิกจ่ายได้"
ส่งโดย: 6699
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1520  
   
223.205.248.*


« ความเห็นที่ #18 เมื่อ: 06/01/18 เวลา 22:12:35 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ไหนๆจะรบแล้ว อย่าลืมเรื่องเปอร์เซ็นต์ยาด้วยนะครับ เป้นการทุจริตที่ สตง เคยวินิจฉัยแล้ว รวมทั้งการที่ ผอก เอารถหลวงไปใช้ส่วนตัว ปปช ได้วินิจฉัยแล้วว่าทุจริต
ผอก บางคนจะมีปัญหาเรื่องการใช้เงินเปอร์เซ็นต์ยา ลองตรวจสอบดูเรื่องราคายาที่สูงกว่า รพ อื่น
ผอก เวลาอยู่เวรออกนอก รพ ไปร้านไหมครับ ถ้าไปเอาอีกสักดอกเพราะมีปลัดกระทรวงสาธารณสุขได้มีหนังสือสั่งการว่าแพทย์เ วรต้องอยู่ที่รพ เท่านั้น ถ้าออกนอก รพ ถือว่าทุจริตเวลาหลวง
« แก้ไขครั้งสุดท้ายเมื่อ: 06/01/18 เวลา 22:14:40 by anantom »

Good surgeons know how to operate.
Better ones know when to operate.
Best ones know when not to operate
ส่งโดย: anantom
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 10525   WWW
   
180.183.220.*


« ความเห็นที่ #19 เมื่อ: 06/01/18 เวลา 22:23:14 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

core problem คืออะไร ก่อนจะถึงเรื่องไม่จ่ายเงินตกเบิก แถมขึ้นโรงขึ้นศาลด้วย. ไม่มีไกล่เกลี่ยกันด้วย  
ตอบคำถาม คงให้คำแนะนำไม่ได้เพราะนี่คือกรณีครั้งแรกของประวัติศาสตร์แพทย์ไทยเลยก็ว่ าได้. คาดว่าอีกฝ่ายก็ต้องมีท่าไม้ตายอยู่แล้วแน่ๆ
ส่งโดย: doreus
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 10681  
   
184.22.34.*


« ความเห็นที่ #20 เมื่อ: 06/01/18 เวลา 22:34:05 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 06/01/18 เวลา 22:23:14, doreus wrote:
core problem คืออะไร ก่อนจะถึงเรื่องไม่จ่ายเงินตกเบิก แถมขึ้นโรงขึ้นศาลด้วย. ไม่มีไกล่เกลี่ยกันด้วย  
ตอบคำถาม คงให้คำแนะนำไม่ได้เพราะนี่คือกรณีครั้งแรกของประวัติศาสตร์แพทย์ไทยเลยก็ว่ าได้. คาดว่าอีกฝ่ายก็ต้องมีท่าไม้ตายอยู่แล้วแน่ๆ

 
บางคนบทเลว เลวได้สุดๆ ระวังมีการปลอมแปลงหนังสือขอย้ายนะครับ  กว่าจะรู้ตัว ก็มีคำสั่งย้ายไปที่อื่นโดยอ้างว่าเราขอย้าย ถ้าเราอ้างหนังสือขอย้ายปลอม นักกฎหมายเลวบางคนจะบอกว่าเอกสารไม่ปลอม หากฟ้องศาล เขาจะอ้างว่าไม่สามารถส่งศาลได้เพราะหาไม่เจอ(ถ้าบอกหายจะมีความผิดทางอาญาค รับ) สุดท้ายจะหาคนช่วยยาก  
วิธีป้องกัน ทำบันทึกถึง สสจ และปลัดสธ พรัอมเก็บสำเนาไว้ว่าไม่ขอย้ายไปทำงานที่ใด
ปล อยู่มานาน ทำงานบริหารมานาน เลยรู้วิธีที่เขาใช้กำหลาบหมอ

Good surgeons know how to operate.
Better ones know when to operate.
Best ones know when not to operate
ส่งโดย: anantom
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 10525   WWW
   
180.183.217.*


« ความเห็นที่ #21 เมื่อ: 06/01/18 เวลา 22:47:55 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

เบิกจ่ายเงิน ฉ. 11 ถ้าเช็คหมอ  ก็ควรเช็คทุกท่าน  ส่วนผอ. เราเข้าครับว่า มีงานบริหารประชุม   เเล้วเเพทย์อีกท่าน คือหมออินเทินมาวน  3 เดือน ซึ่งในขณะนั้น  วันทำการไม่ครบ  15 วัน เเต่กลับได้นับกานเบิกจ่ายเงินไป
ส่งโดย: Cuties
สถานะ: Junior Member **
จำนวนความเห็น: 64   Email
   
182.232.9.*


« ความเห็นที่ #22 เมื่อ: 06/01/18 เวลา 22:50:06 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

อีกทั้ง  มีการไม่เบิกจ่ายเงิน พตส. ด้วย เงินฉ. 11 เข้าใจว่าตามระเบียบเชควันทำการ  ส่วนเงินพตส. เหมือนเงินประจำตำแหน่ง  ไม่ได้ใช้วันทำการ เเต่กลับhold ไว้ไม่ยอมจ่าย  จนเเจ้งความส่งเรื่อง ปปท. ถึงเบิกจ่ายตามาครับ
ส่งโดย: Cuties
สถานะ: Junior Member **
จำนวนความเห็น: 64   Email
   
182.232.9.*


« ความเห็นที่ #23 เมื่อ: 06/01/18 เวลา 22:56:16 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

https://www.picz.in.th/image/zGBQAf
https://www.picz.in.th/image/zGB5kq
https://www.picz.in.th/image/zGBEOz
https://www.picz.in.th/image/zGBOX8
https://www.picz.in.th/image/zGBjzR
https://www.picz.in.th/image/zGBo6u
https://www.picz.in.th/image/zGBAWZ
https://www.picz.in.th/image/zGBP1I
https://www.picz.in.th/image/zGBsAP
https://www.picz.in.th/image/zGB2et
https://www.picz.in.th/image/zGB6Ol
 
รูปเซตนี้ คือหนังสือที่รองผู้ว่า และ สสจ ตอบมาครับ อ้างเรื่องทำงานไม่ครบ 8 ชม และสั่งยุติเรื่องร้องเรียนของเรา ทั้งๆที่มิได้ตั้งกรรมการสอบเลยด้วยซ้ำ (แต่กลับสรุปเอาเองว่าเราทำงานไม่ครบ ไม่มีสิทธิ์ได้รับเงินค่าตอบแทน ฉ11)
« แก้ไขครั้งสุดท้ายเมื่อ: 06/01/18 เวลา 23:20:03 by Cuties »
ส่งโดย: Cuties
สถานะ: Junior Member **
จำนวนความเห็น: 64   Email
   
122.155.35.*


« ความเห็นที่ #24 เมื่อ: 06/01/18 เวลา 23:06:29 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

https://www.picz.in.th/image/zGfDN2
 
รูปนี้แสดงปริมาณคนไข้ผู้ป่วยนอกที่แพทย์ รพ น้ำขุ่น แต่ละท่านตรวจ ในช่วงเดือน มค-เมย 60 จะเห็นว่า พญ ปรมาภรณ์ ทำงานมากกว่าแพทย์ท่านอื่นเฉลี่ย 2-3 เท่า ในช่วงเวลาเดียวกันครับ
ส่งโดย: Cuties
สถานะ: Junior Member **
จำนวนความเห็น: 64   Email
   
122.155.35.*


« ความเห็นที่ #25 เมื่อ: 06/01/18 เวลา 23:53:12 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 06/01/18 เวลา 20:45:19, pat1 wrote:
จังหวัดได้แนบระเบียบตั้งแต่ 2502 สมัยจอมพลสฤษดิ์ บอกว่าเวลาราชการคือ 8.30-16.30 มีช่วงพักคือ 12.00-13.00 นับรวมได้ 8 ชม เอามาใส่  
 
ขอดู หนังสือ นี้หน่อยครับ  นานมากแล้วนะครับ  ระเบียบนี้  
น่าจะมีระเบียบที่ใหม่กว่านี้มาอ้างอิง

 
https://m.pantip.com/topic/37728716/
 
ลงรูปเอกสารต่างๆรวมถึงระเบียบปี 2502 ที่จังหวัดอ้างถึงครับ
ส่งโดย: Cuties
สถานะ: Junior Member **
จำนวนความเห็น: 64   Email
   
122.155.35.*


« ความเห็นที่ #26 เมื่อ: 06/02/18 เวลา 00:05:46 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

สงสัย เปนไปได้เหรอ ที่ยอดตรวจจะต่างกันขนาดนั้น

The day you went away . . .
ส่งโดย: SantaNiCo female
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1378  
   
49.229.141.*


« ความเห็นที่ #27 เมื่อ: 06/02/18 เวลา 00:09:37 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 06/01/18 เวลา 21:48:24, 6699 wrote:

 
เท่าที่ดูในคลิปโรงพยาบาล ตึกสร้างเปิดเมื่อ เดือนตุลาคม 60 เดือน วันที่ 5 เมษายน 60 ตึกน่าจะสร้างยังไม่เสร็จ น่าจะรับผู้ป่วยวันละ 6-9 คน และเป็นผู้ป่วยที่ไม่หนัก ถ้าหนักก็จะส่งต่อไปรักษาที่รพ.อุบล ปัญหาก็คือ วันที่ 5 เมษายน  60 นอกจากคุณหมอตรวจผู้ป่วยในตึก แล้วได้ตรวจผู้ป่วยนอกด้วยหรือไม่ หรือได้ปฏิบัติราชกาอย่างอื่นด้วยหรือไม่ เช่นประชุมรับหรือปฏิบัติตามนโยบายจังหวัด  ถ้าหากว่า ไม่ได้ตรวจ มีเหตุผลอย่างไร และวันนั้น ตัวอยู่รพ.หรือไม่ หรืออยู่รพ.แต่ไม่มีผู้ป่วยนอกมาให้ตรวจ เหล่านี้ เป็นเหตุผลในการจ่ายเงินดังกล่าว  และยังมีประเด็นอีกว่า ถ้าวันนั้น ฝากให้เพื่อนทำการตรวจแทน จะได้หรือไม่ จะทำการเบิกเงินจำนวนนี้ได้หรือไม่ เรื่องแบบนี้ เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องมีหลักฐานแน่นหนา เพราะเป็นคดีความกัน มาตรา 157 เป็นคดีอาญา  เรื่องการฝากกัน เคยมีความให้ สตง.พิจารณา อ่านความเห็นของ สตง. เราทึ่งไปเลย  
 
เราเดาว่า ที่รพ.มีแพทย์สามท่าน สองท่าน เป็นเพื่อนสนิทกันมาก อีกท่านเป็นผู้อำนวยการ ผู้อำนวยการ ต้องทำเรื่องการประชุม ไม่ค่อยได้ตรวจผู้ป่วย อาจจะทำให้เป็นประเด็นกันขึ้นมา และไม่รู้เราดูผิดหรือเปล่า แพทย์ทั้งสามท่าน น่าจะจบเมื่อปี 2555 เท่ากัน ไม่มีอาวุโสที่ต่างกัน ถ้าเป็นแบบนี้ ยิ่งบริหารลำบากมาก  
 
เราถามมากไปหน่อย แต่เห็นว่า ฟ้องร้องกันแล้ว เมื่อขึ้นศาล ทนายเขาก็ซักตามแนวทางนี้แหละ  

 
บริบทของ รพ น้ำขุ่น คือมีแพทย์ 3 ท่าน คือ ผอ , แฟนผม , น้องหมออินเทิร์นมาวน แต่มีห้องตรวจเพียง 2 ห้อง และแบ่งกันว่าใครอยู่เวรวันไหน  ในวันที่ 5 เมษา 60 ตารางเวรเป็นเวรของ ผอ วันนั้น ผอ มาตรวจห้องตรวจ opd ห้องประจำของแฟนครับ เมื่อเห็นดังนั้นแฟนจึงไปราวผู้ป่วยใน และรีเฟอคนไข้ในวอร์ด ในวันนั้นมีคนไข้ opd น้อย คือประมาณ 30 กว่าเคส เมื่อ ผอ ลงตรวจเองและดู er ควบไปแล้วด้วยตามงานที่ตกลงกันไว้ว่าเวรใครคนนั้นดู er  เมื่อไม่มีห้องตรวจเหลือ แฟนจึงไปดูผู้ป่วยในแทนครับ ทำให้ไม่มีในโปรแกรม HI ว่ามาตรวจ opd จึงถูกกล่าวหาเหมารวมว่าวันนั้นไม่มาทำงานครับ (เพราะเดือนนี้มีวันทำการเพียง  16 วันครับ)
« แก้ไขครั้งสุดท้ายเมื่อ: 06/02/18 เวลา 09:55:39 by Cuties »
ส่งโดย: Cuties
สถานะ: Junior Member **
จำนวนความเห็น: 64   Email
   
122.155.46.*


« ความเห็นที่ #28 เมื่อ: 06/02/18 เวลา 00:15:28 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 06/01/18 เวลา 22:12:35, anantom wrote:
ไหนๆจะรบแล้ว อย่าลืมเรื่องเปอร์เซ็นต์ยาด้วยนะครับ เป้นการทุจริตที่ สตง เคยวินิจฉัยแล้ว รวมทั้งการที่ ผอก เอารถหลวงไปใช้ส่วนตัว ปปช ได้วินิจฉัยแล้วว่าทุจริต
ผอก บางคนจะมีปัญหาเรื่องการใช้เงินเปอร์เซ็นต์ยา ลองตรวจสอบดูเรื่องราคายาที่สูงกว่า รพ อื่น
ผอก เวลาอยู่เวรออกนอก รพ ไปร้านไหมครับ ถ้าไปเอาอีกสักดอกเพราะมีปลัดกระทรวงสาธารณสุขได้มีหนังสือสั่งการว่าแพทย์เ วรต้องอยู่ที่รพ เท่านั้น ถ้าออกนอก รพ ถือว่าทุจริตเวลาหลวง

 
ครับ ถ้าได้เห็นหลักฐานการเงินของ รพ หลังขึ้นศาล แล้ว พบข้อพิรุธดังกล่าว และสงสัยว่ามีการทุจริตจริง ก็จะฟ้องอาญาเพิ่มแน่นอนครับ ผอ กับหัวหน้าเภสัช ดูค่อนข้างกลมเกลียวกัน ตอนประเมินเลื่อนขั้น ก็ได้ขั้น 3.5% ค่อนข้างบ่อย ก็ไม่รู้ว่ามีสาเหตุประการใด ต้องรอกระบวนการเปิดหลักฐานคือบัญชีการเงินต่างๆของ รพ ต่อไป ครับ
 
ส่วนเรื่องการอยู่เวรนอกเวลานั้น ผอ หารเวรเดือนละ 10 วัน (เท่าๆกับหมออีก 2 คน) แต่หลายๆครั้งก็ฝากให้น้องหมอช่วยดูคนไข้ในเวลาแทน ในวันที่ตัวเองเป็นเจ้าของเวร แล้วหายเข้าจังหวัดเป็นประจำ จะกลับมาก็คือหลัง 16.00 น มาเอาเวรที่ได้เงินครับ (ไม่ทำงานในเวลา ใช้น้องทำแทน ไม่ขายเวรด้วย แต่กลับมาเอาเวรนอกเวลาที่ได้เงิน ผมก็คิดว่าเอาเปรียบกันเกินไปหรือเปล่า ถ้าไม่ค่อยอยู่ทำงานตรวจคนไข้ในเวลา ก็ไม่ควรมาหารเวรเท่ากัน ควรหาแพทย์มาเพิ่มอีกสักคนแล้วตนเองงดอยู่เวรหรือลดเวรลงตามสัดส่วนการทำงาน ตรวจคนไข้ในเวลาครับ)
« แก้ไขครั้งสุดท้ายเมื่อ: 06/02/18 เวลา 00:20:41 by Cuties »
ส่งโดย: Cuties
สถานะ: Junior Member **
จำนวนความเห็น: 64   Email
   
122.155.46.*


« ความเห็นที่ #29 เมื่อ: 06/02/18 เวลา 00:24:36 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 06/02/18 เวลา 00:05:46, SantaNiCo wrote:
สงสัย เปนไปได้เหรอ ที่ยอดตรวจจะต่างกันขนาดนั้น

 
ครับ เป็นตามนั้นเลย เนื่องจากแฟนเป็นคนที่ทำงานเร็ว ส่วนน้องหมออินเทิร์นมาวน อาจจะยังเพิ่งจบมาใหม่ ทำให้ตรวจคนไข้ได้น้อยกว่าในเวลาที่เท่ากันครับ ส่วนของ ผอ ยอดตรวจน้อย เพราะไม่ค่อยอยู่ตรวจครับ
ส่งโดย: Cuties
สถานะ: Junior Member **
จำนวนความเห็น: 64   Email
   
122.155.46.*


« ความเห็นที่ #30 เมื่อ: 06/02/18 เวลา 00:33:39 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 06/01/18 เวลา 22:34:05, anantom wrote:

 
บางคนบทเลว เลวได้สุดๆ ระวังมีการปลอมแปลงหนังสือขอย้ายนะครับ  กว่าจะรู้ตัว ก็มีคำสั่งย้ายไปที่อื่นโดยอ้างว่าเราขอย้าย ถ้าเราอ้างหนังสือขอย้ายปลอม นักกฎหมายเลวบางคนจะบอกว่าเอกสารไม่ปลอม หากฟ้องศาล เขาจะอ้างว่าไม่สามารถส่งศาลได้เพราะหาไม่เจอ(ถ้าบอกหายจะมีความผิดทางอาญาค รับ) สุดท้ายจะหาคนช่วยยาก  
วิธีป้องกัน ทำบันทึกถึง สสจ และปลัดสธ พรัอมเก็บสำเนาไว้ว่าไม่ขอย้ายไปทำงานที่ใด
ปล อยู่มานาน ทำงานบริหารมานาน เลยรู้วิธีที่เขาใช้กำหลาบหมอ

 
ขอบคุณครับ ประเด็นนี้จะระมัดระวัง และจะทำหนังสือกันตัวเองไว้ก่อนครับ เรื่องแบบนี้เคยเกิดมาแล้วที่นี่เช่นกัน ก่อนหน้านี้ เมื่อ 11 สค 59 ก็มีพี่พยาบาลหัวหน้า er พี่สุเนตร วิลาวัลย์ ซึ่งเป็นแฟนกับพี่พยาบาลหัวหน้าฝ่ายการ พี่สุทัศน์ วิลาวัลย์ เคยถูก ผอ เข้าไปจังหวัด ร่วมมือกับกรรมการ สสจ  เดินเกมทำเรื่องชงผู้ว่าให้เซ็นสั่งย้ายพี่เนตรให้กลับไปอยู่น้ำยืน โดยให้เหตุผลแปลกๆประมาณว่าเป็นเหตุผลทางการบริหาร (คือกลัวคุมเขาไม่ได้นั่นเอง) พอพี่เขาถูกย้ายแบบไม่ได้ขอย่ายเอง ก็เข้าไปร้องเรียน สสจ และศูนย์ดำรงธรรม ว่าถูกย้ายไม่เป็นธรรม แต่สุดท้ายถูกกรรมการ สสจ หลอกว่าให้รอก่อน เดี๋ยวจะจัดการให้เอง จนเวลาล่วงเลยเกิน 30 วัน ไม่สามารถอุทธรณ์ได้แล้ว (ถูกกรรมการ สสจ หลอกประวิงเวลาให้รอจนเกินระยะเวลาที่จะอุทธรณ์คำสั่งผู้ว่าได้)
ส่งโดย: Cuties
สถานะ: Junior Member **
จำนวนความเห็น: 64   Email
   
122.155.46.*


« ความเห็นที่ #31 เมื่อ: 06/02/18 เวลา 00:39:07 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

สมัยที่แฟนถูกย้ายมาน้ำขุ่นใหม่ๆ ผอ ทำท่าทางรังเกียจไม่อยากรับตั้งแต่แรก อ้างว่าที่พักไม่พอ อ้างว่ากลัวมีปัญหา เคยมีการเรียกประชุม กกบ เพื่อขอมติขับไล่ไม่ให้แฟนย้ายมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่แรกแล้ว แต่พี่หัวหน้าฝ่ายการ พี่สุทัศน์ วิลาวัลย์ ไม่ยอมเซ็นให้ครับ คือถึงจะมีปัญหามาจากที่อื่นหรือไม่อย่างไร ก็ควรให้โอกาสเมื่อย้ายมาแล้วยังไม่ได้ถูกตัดสินว่าผิด ก็ไม่ควรไปกีดกั้นหรือว่าลงชื่อเซ็นขับไล่แบบนั้น ตั้งแต่นั้นมา ผอ และพี่หัวหน้าฝ่ายการ ก็มีปัญหากันมาตลอด ซึ่งนี่น่าจะเป็นสาเหตุหลักๆเลยครับ ตามมาด้วยเรื่องสั่งย้ายพี่หัวหน้าพยาบาล er  , เรื่องกล่าวหาว่าไม่ทำงาน และไม่จ่ายเงิน ฉ11 ตามมาครับ
ส่งโดย: Cuties
สถานะ: Junior Member **
จำนวนความเห็น: 64   Email
   
122.155.46.*


« ความเห็นที่ #32 เมื่อ: 06/02/18 เวลา 00:45:41 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

การเมืองที่นี่แรงมากๆครับ แบ่งฝักฝ่ายชัดเจน (ไม่อยู่เป็นพวกเขาก็จะโดนแกล้ง ใครสนิทกับเรากับหัวหน้าฝ่ายการ จะโดนแกล้งหมด) ตอนแรกผมไม่ได้รู้อะไร ก็คิดเพียงว่า รพ เปิดใหม่ๆมาไม่กี่ปี คนที่มาอยู่ก็ต้องเสียสละพอสมควรที่จะมาช่วยกันพัฒนา รพ จากที่ไม่มีอะไร ตึกผู้ป่วยก็ยังไม่มี รั้ว รพ ก็ยังไม่มี ยังต้องการพัฒนาอีกเยอะมาก จึงไม่คิดว่าจะมีเหตุการณ์แย่ๆเหล่านี้เกิดขึ้นได้ ไม่คิดเลย... จนกระทั่งเป็นฝ่ายที่ถูกใช้อำนาจมากระทำ มาบีบทุกวิถีทาง ต่างๆนานา แบบนี้  T_____T  (ไม่ถึงที่สุดก็คงไม่มีใครอยากขึ้นโรงขึ้นศาล แต่ครั้งนี้มันคงเกินจุดที่จะยอมความกันได้แล้วจริงๆ) พอเห็นว่าบีบเราทางอื่นเราทนได้ ก็เริ่มมาบีบเรื่องเงิน กะให้ทำงานฟรีๆไม่จ่ายเงิน ฉ11 นี่ล่ะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้ายเมื่อ: 06/02/18 เวลา 00:57:35 by Cuties »
ส่งโดย: Cuties
สถานะ: Junior Member **
จำนวนความเห็น: 64   Email
   
122.155.46.*


« ความเห็นที่ #33 เมื่อ: 06/02/18 เวลา 04:27:28 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 06/02/18 เวลา 00:09:37, Cuties wrote:

 
บริบทของ รพ น้ำขุ่น คือมีแพทย์ 3 ท่าน คือ ผอ , แฟนผม , น้องหมออินเทิร์นมาวน แต่มีห้องตรวจเพียง 2 ห้อง และแบ่งกันว่าใครอยู่เวรวันไหน วันนั้นดู ER ควบไปด้วยครับ ในวันที่ 5 เมษา 60 ตารางเวรเป็นเวรของ ผอ วันนั้น ผอ มาตรวจห้องตรวจ opd ห้องประจำของแฟนครับ เมื่อเห็นดังนั้นแฟนจึงไปราวผู้ป่วยใน และรีเฟอคนไข้แทน ในวันนั้นมีคนไข้ opd น้อย คือประมาณ 30 กว่าเคส เมื่อ ผอ ลงตรวจเองและดู er ควบไปแล้วด้วยตามงานที่ตกลงกันไว้ว่าเวรใครคนนั้นดู er  เมื่อไม่มีห้องตรวจเหลือ แฟนจึงไปดูผู้ป่วยในแทนครับ ทำให้ไม่มีในโปรแกรม HI ว่ามาตรวจ opd ผอ จึงกล่าวหาเหมารวมว่าวันนั้นไม่มาทำงานครับ (เพราะตั้งใจจะเล่นเดือนนี้อยู่แล้วเนื่องจากวันทำการปกติก็มีน้อย ลาได้แค่วันเดียว เห็นเป็นโอกาสที่จะกลั่นแกล้งได้ง่าย ก็เลยจงใจทำแบบนี้ครับ)

 
ในวันนั้น ดูผู้ป่วยในแทน และมีบันทึกในประวัติการรักษาหรือไม่ ถ้าไม่มีบันทึก จะบอกได้อย่างไรว่ามีการทำงานจริง  ต้องมีข้อมูลวันที่ 5 เมษายน 2560 ว่ามีผู้ป่วยกี่ราย และมีคำสั่งการรักษาอย่างไร แต่เท่าที่ฟังดูมีแต่การส่งต่อหนึ่งรายในวันนั้น ส่วนผู้ป่วยรายอื่นมีคำสั่งการรักษาหรือไม่ มีผู้ป่วยใหม่หรือไม่ ผู้ป่วยใหม่มีคำสั่งการรักษาหรือไม่ น่าจะเป็นประเด็นที่ใช้ในการพิสูจน์ว่า ว่ามีการทำงานในวันนั้นหรือไม่ และบันทึกของพยาบาลที่มีต่อของผู้ป่วยในวันนั้นเป็นอย่างไร ข้อมูลเหล่านี้ พอจะบอกได้หรือไม่ ถ้าไม่มีบันทึก คำสั่งการรักษาของแพทย์ในวันนั้น ส่วนใหญ่จะมองว่า เป็นการไม่ได้มารักษา แต่ก็ต้องดูบันทึกของพยาบาลร่วมด้วย
ส่งโดย: 6699
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1520  
   
223.205.249.*


« ความเห็นที่ #34 เมื่อ: 06/02/18 เวลา 05:30:57 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

6699-a.JPG
ในเวลาสี่เดือนคือเดือนมกราคม- เมษายน 60 จำนวน 4 เดือน คุณหมอตรวจคนป่วยนอกจำนวน 7714 ราย หรือประมาณ เดือนละ 7714/4=1928.5 ราย เมื่อคิดว่า เดือนหนึ่งออกตรวจคนป่วย ประมาณ 10 วัน แต่ละวันจะตรวจคนป่วยได้ 192 ราย  
  คำถามคือ มีข้อมูลที่ยืนยันตรงนี้ได้หรือไม่จากโปรแกรม HI ของรพ. เพราะตรวจคนไข้นอกวันละ 192 ราย เป็นเรื่องที่หนักหนามากและเร็วมาก  
 
อีกประการหนึ่งที่เป็นได้คือ วันที่ไม่ได้กำหนดให้ตรวจ OPD คุณหมอมาช่วยตรวจด้วย แต่ถ้าเป็นเช่นนั้น ก็เป็นไปได้ ที่ตัวเลขจะเพิ่มมากกว่าคนอื่น ไม่ทราบวันที่ไม่ได้อยู่ OPD คุณหมอได้มาช่วยตรวจหรือไม่
 
การแบ่งวันตรวจไปแล้ว แม้ว่าจะตรวจเร็วหรือช้า ก็ไม่ได้ทำให้ยอดคนไข้เพิ่มมากขึ้น ยกเว้นแต่เพิ่มจำนวนวันตรวจมากขึ้น การตรวจเร็วทำให้การตกค้างของผู้ป่วยที่ OPD ลดลง ไม่ได้ทำให้ยอดผู้ป่วยเพิ่มขึ้น เพราะจำนวนหมอไม่ได้มากมีแพทย์สามท่าน และแพทย์ใช้ทุนหมุนเวียนมา
 
ยอดผู้ป่วยในเดือน มกราคม-เมษายน 60 มีเท่าไหร่ พอจะบอกได้หรือไม่ เพื่อประกอบการตัดสินใจ โดยดูจากโปรแกรม HI ของโรงพยาบาล แจงแจงเป็นแต่ละเดือน  ประชากรที่รับผิดของของรพ.ประมาณ 40000 คน เทียบแล้วจำนวนการป่วยมารักษาที่รพ.ประมาณ 20000 ครั้งหรือในสี่เดือน คนสองคน ต้องมารพ.นี้หนึ่งครั้ง ตัวเลขนี้ ดูแปลกๆ ถ้ามีหลักฐานก็จะเข้าใจมากขึ้น
ส่งโดย: 6699
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1520  
   
223.205.234.*


« ความเห็นที่ #35 เมื่อ: 06/02/18 เวลา 05:39:39 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

กระทู้ดี ทำให้มองเห็นปัญหา ของกระทรวงสาธารณสุข มองเห็นว่า ตอนนี้อยู่กันแบบ  ฉันพี่น้อง พี่ฉันน้อง น้องฉันพี่ ขายเพื่อน ฆ่าพี่ ฆ่าน้อง ฟ้องนาย
ส่งโดย: 6699
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1520  
   
223.205.234.*


« ความเห็นที่ #36 เมื่อ: 06/02/18 เวลา 06:31:47 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 06/02/18 เวลา 05:39:39, 6699 wrote:
กระทู้ดี ทำให้มองเห็นปัญหา ของกระทรวงสาธารณสุข มองเห็นว่า ตอนนี้อยู่กันแบบ  ฉันพี่น้อง พี่ฉันน้อง น้องฉันพี่ ขายเพื่อน ฆ่าพี่ ฆ่าน้อง ฟ้องนาย

 
ที่รพช. เป็นรพ. ขนาด 10 เตียงในตอนนั้น  ทำงานตรวจopd ในทุกวันทำการ  ร่วมกับน้องอินเทินยกเว้นวันที่มีผอ. มาช่วยบ้างบางวัน  เช่น  วันที่  5 เมษา  60  ที่มาช่วยเเล้วเกิดปัญหา  ทั้งที่วันนั้นก็เป็นเวรของผอ.  เราเลยดูคนไข้  เเละมีบันทึกการรักษาในชาร์ตคนไข้  ที่ในวอร์ด  คือรพ. เรา  มีเเพทย์3 ท่าน อยู่เวรประมาณคนละ 10 เวร  รวมผอ. ก็อยู่เวรนอกเวลาด้วย  ที่ถามเคสตรวจประมาณ  3,000 คน (7,700 กว่า visit เมื่อแตกนับเป็นรายคนจะเหลือประมาณ 3,000 คน ใน 4 เดือน ส่วนของหมอท่านอื่นเมื่อแตกเป็นรายคน ก็ลดลง 2-3 เท่าตามส่วนเช่นกัน ระบบ HI มันบันทึกไว้เป็นแบบนี้ คนไข้คนเดียวกันมาทำหลายอย่าง นับแยกเป็นหลาย Visit) การทำงาน  เฉลี่ยวันทำการ  เช่นเดือน เมษา  ถ้านับวันทำการ  ของเราจะได้  15 วันทำการพอดี  เพราะวันที่ 7 เราลา  จำนวนคนไข้ที่เราตรวจเดือนนั้น  577 คน/15= เกือบ40 คนต่อวัน คะ  วันไหนอยู่เวรด้วยก็ไม่ได้ประจำที่อีอาคะ  เพราะต้องออยูทั้ง  opd และ er เนื่องจากหมอมีกันเเค่สองคนคะ  
« แก้ไขครั้งสุดท้ายเมื่อ: 06/02/18 เวลา 06:42:18 by Cuties »
ส่งโดย: Cuties
สถานะ: Junior Member **
จำนวนความเห็น: 64   Email
   
182.232.23.*


« ความเห็นที่ #37 เมื่อ: 06/02/18 เวลา 06:36:12 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

https://www.picz.in.th/image/zGQ6zN
https://www.picz.in.th/image/zGQnRV
https://www.picz.in.th/image/zGQr6Q
https://www.picz.in.th/image/zGQHWS
https://www.picz.in.th/image/zGQV1n
https://www.picz.in.th/image/zGQaeW
https://www.picz.in.th/image/zGQvk2
https://www.picz.in.th/image/zGQGO1
https://www.picz.in.th/image/zGQJXy
https://www.picz.in.th/image/zGQmx9
https://www.picz.in.th/image/zGQezD
 
ตัวอย่างเอกสารบางส่วน แสดงปริมาณการตรวจคนไข้ของแพทย์แต่ละคน เราถ่ายสำเนาเก็บไว้
« แก้ไขครั้งสุดท้ายเมื่อ: 06/02/18 เวลา 06:38:10 by Cuties »
ส่งโดย: Cuties
สถานะ: Junior Member **
จำนวนความเห็น: 64   Email
   
122.155.35.*


« ความเห็นที่ #38 เมื่อ: 06/02/18 เวลา 06:48:21 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 06/01/18 เวลา 22:23:14, doreus wrote:
core problem คืออะไร ก่อนจะถึงเรื่องไม่จ่ายเงินตกเบิก แถมขึ้นโรงขึ้นศาลด้วย. ไม่มีไกล่เกลี่ยกันด้วย  
ตอบคำถาม คงให้คำแนะนำไม่ได้เพราะนี่คือกรณีครั้งแรกของประวัติศาสตร์แพทย์ไทยเลยก็ว่ าได้. คาดว่าอีกฝ่ายก็ต้องมีท่าไม้ตายอยู่แล้วแน่ๆ

 
ครั้งนี้เป็นครั้งที่  2  แล้วคะ  ที่รพ. ทำแบบนี้  ครั้งเเรก  เงินตกเบิกฉ. 11 3เดือนเเละ เงินพตส. 1 เดือน  รวม  100000 บาท  ไปเเจ้งความและส่งเรื่องปปท. ถึงมาจ่ายย้อนหลังคะ  ส่วนครั้งที่สองตกเบิก ฉ. 11 เดือน เมษา60  คะ  (เบิกจ่ายจนท. 21/9/60)  ยังไม่ได้รับ  โดยอ้างว่า ไม่ครบวันทำการ  ตอนนี้รอขึ้นศาลทุจริต  คะ  เพราะไม่มีการสอบวินัยตามขั้นตอนระเบียบราชการก่อนที่จะตัดค่าตอบเเทนเลยคะ  
 
Core problem  จริงๆคือช่วงนั้นเจอเรื่องร้องเรียน แต่ไม่ใช่เนื่องทุจริตคะ  
เป็นเรื่อง  ลงชื่อปฏิบัติงาน  ละทิ้งหน้าที่  เปิดคลินิก คะ  สมัยเป็น ผอ. ที่รพ. แห่งหนึ่งใกล้เคียงเเห่งนี้  ห่าง ประมาณ15 กิโลคะ  โดยกลุ่ม  กกบ 9คน  ตอนนี้ทำเรื่องฟ้องร้องอยู่คะ   พอย้ายมาอยู่  ที่รพ. น้ำขุ่นนี้  1 ตค 58  ผอ. อ้างว่า กกบ. (ซึ่งสามีเป็นหน. ฝ่ายทันตะ  เป็นกกบ. ด้วยคะ)มีปัญหาไม่อยากรับเรามาทำงานที่นี่ ทั้งที่ตอนนั้นมีหมอเเค่ 2 คน คือผอ. และน้องอินเทิน  พอมาทราบทีหลัง  ผอ. ชักชวนให้กกบ. ลงชื่อไล่เราจากรพ. คะ  มีหน. พยาบาล เเละ เเฟน เป็นพยาน  คะ  ส่วนผอ. จริงๆก็จบรุ่นเดียวกะเราคะ จบม.ขอนเเก่น เเต่อายุแก่กว่า2 ปี  เราไม่เคยมีเรื่องอะไรที่โกรธเคืองกับท่านมาก่อนนะคะ   เรื่องราวมันก็เป็นมาเช่นนี้เเหละคะ    
ส่งโดย: Cuties
สถานะ: Junior Member **
จำนวนความเห็น: 64   Email
   
182.232.13.*


« ความเห็นที่ #39 เมื่อ: 06/02/18 เวลา 06:50:30 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 06/01/18 เวลา 19:49:01, Hybrid VI wrote:
ฟ้องศาลปกครองครับ..  
หรือถ้าพร้อมจะชน ส่งเรื่องให้อีจ่า.. อย่าลืมทำเรื่องย้าย รพ.ก่อน

เคยย้ายมาละคะ  โดนร้องเรียนที่ทุ่งศรี ตอนเป็นผอ. กลับไปหาหลักฐาน ยากมากคะ  เพราะจะเอาขึ้นศาล  เเต่ไม่เป็นไรคะ เก็บมาตั้งเเต่สมัยเป็นผอ. เเล้วคะ  อยู่นี่ถึงไม่อยากย้ายคะ  รอให้เรื่องเรียบร้อยค่อยคิดออีกทีคะ  เพราะสามีก็เป็้น  หมอฟันอยู่ที่นี่คะ
ส่งโดย: Cuties
สถานะ: Junior Member **
จำนวนความเห็น: 64   Email
   
182.232.13.*


« ความเห็นที่ #40 เมื่อ: 06/02/18 เวลา 06:51:04 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 06/01/18 เวลา 18:08:15, crv01 wrote:
เรื่องจริงหรือ.   สมัยนี้เอาใจแพทย์มาก. กลัวลาออก.  

อันนี้แพทย์ฆ่ากันเอง  โดยอาศัยมือผู้ใหญ่มาช่วยคะ
ส่งโดย: Cuties
สถานะ: Junior Member **
จำนวนความเห็น: 64   Email
   
182.232.13.*


« ความเห็นที่ #41 เมื่อ: 06/02/18 เวลา 06:52:44 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 06/02/18 เวลา 00:05:46, SantaNiCo wrote:
สงสัย เปนไปได้เหรอ ที่ยอดตรวจจะต่างกันขนาดนั้น

ยอด visit  ถ้าเฉลี่ย ก็คือ  หาร  2 คะ  เเต่จำนวนคนไข้  เดวจะแปะในลิ้งให้นะคะ  เเต่ทุกเดือนที่กล่าวมา  เราเป็นคนที่ตรวจคนไข้เยอะสุดคะ
ส่งโดย: Cuties
สถานะ: Junior Member **
จำนวนความเห็น: 64   Email
   
182.232.26.*


« ความเห็นที่ #42 เมื่อ: 06/02/18 เวลา 07:45:36 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ท้าวความถึงเรื่องร้องเรียนวินัยร้ายแรงของเรา สมัยดำรงตำแหน่งเป็น ผอ รพ ทุ่งศรีอุดม มีเจ้าหน้าที่ รพ 9 คน เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนเราในวันที่ 27 เมย 58 , ถูกสั่งย้าย 27 กค 58 ก่อนที่จะเริ่มกระบวนการสอบวินัยร้ายแรงในวันที่ 10 พย 58 (คือโดนย้ายและปลดตำแหน่งเราก่อนสอบวินัย) อ้างว่าเดี๋ยวจบเรื่องแล้วค่อยกลับขึ้นเป็น ผอ ใหม่เมื่อไหร่ก็ได้ แต่ในความเป็นจริงคือไม่ใช่ พวกเขาทำเรื่องต่อทุกวิถีทาง หาเรื่องอื่นๆ ข้อหาอื่นๆมาใส่ร้ายเราเพิ่มขึ้นเรื่อยๆให้เราต้องมาตามหาเอกสารเพื่อแก้เพื ่อชี้แจงข้อเท็จจริง เราต่อสู้มาตลอดระยะเวลากว่า 930 วัน หรือเกือบๆสามปีแล้ว (นับแต่ 10 พย 58 ที่เริ่มกระบวนการสอบวินัย) เราได้อ่านระเบียบในการสอบวินัย เรื่องเงื่อนเวลา ต้องสอบให้เสร็จภายใน 120 วัน ถ้าไม่เสร็จ สามารถขอต่อเวลากับผู้ว่าได้ตามจำเป็นคราวละไม่เกิน 60 วัน และหากเวลารวม เกิน 270 วัน ต้องรายงาน อกพ เพื่อเร่งรัดหาข้อสรุป แต่จนถึงทุกวันนี้ เรื่องร้องเรียนตั้งแต่ปี 58 ก็ยังไม่จบสิ้น เกินระยะเวลามายาวนานมาก ส่งผลกระทบต่อครอบครัว คุณพ่อต้องป่วยเป็นโรคซึมเศร้าต้องกินยา (คุณพ่อคุณแม่ก็ทำงานเป็นหัวหน้า รพสต ในจังหวัดอุบล (อ.โพธิ์ไทร) เช่นกัน ก็รับรู้ปัญหาที่เราโดนพวกนี้กลั่นแกล้งมาตลอด)
ส่งโดย: Cuties
สถานะ: Junior Member **
จำนวนความเห็น: 64   Email
   
122.155.35.*


« ความเห็นที่ #43 เมื่อ: 06/02/18 เวลา 08:47:38 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 06/02/18 เวลา 00:15:28, Cuties wrote:

 
 ส่วนเรื่องการอยู่เวรนอกเวลานั้น ผอ หารเวรเดือนละ 10 วัน (เท่าๆกับหมออีก 2 คน) แต่หลายๆครั้งก็ฝากให้น้องหมอช่วยดูคนไข้ในเวลาแทน ในวันที่ตัวเองเป็นเจ้าของเวร แล้วหายเข้าจังหวัดเป็นประจำ จะกลับมาก็คือหลัง 16.00 น มาเอาเวรที่ได้เงินครับ (ไม่ทำงานในเวลา ใช้น้องทำแทน ไม่ขายเวรด้วย แต่กลับมาเอาเวรนอกเวลาที่ได้เงิน ผมก็คิดว่าเอาเปรียบกันเกินไปหรือเปล่า ถ้าไม่ค่อยอยู่ทำงานตรวจคนไข้ในเวลา ก็ไม่ควรมาหารเวรเท่ากัน ควรหาแพทย์มาเพิ่มอีกสักคนแล้วตนเองงดอยู่เวรหรือลดเวรลงตามสัดส่วนการทำงาน ตรวจคนไข้ในเวลาครับ)

 
ตรวจสอบให้ดีว่าฝากน้องอยู่เวรวันไหน ถ้าฝากน้องอยู่เวรแล้วเบิกเงินเอง ปปช เคยวินิจฉัยแล้วว่าเป็นการทุจริตและทำเอกสารการเงินเท็จ เพราะไม่ได้อยู่เวรจริง   กรณีที่อยู่เวรแล้วให้น้องอยู่ถ้าไม่มีหนังสือขออนุญาติ นายแพทย์สสจ ปปชก็เคยวินิจฉัยว่าหนีราชการต้องรับโทษทางวินัยครับ

Good surgeons know how to operate.
Better ones know when to operate.
Best ones know when not to operate
ส่งโดย: anantom
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 10525   WWW
   
118.173.136.*


« ความเห็นที่ #44 เมื่อ: 06/02/18 เวลา 09:01:36 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

รพ สร้างใหม่มักมีปัญหาจากตัว ผอก เพราะการก่อสร้างผลประโยชน์มาก กรรมการตรวจรับจะเป็น ผอก รพ, หัวหน้าบริหารสสจ.,หมอในรพที่ก่อสร้าง,หัวหน้าฝ่ายบริหาร รพ. และจนทกองแบบจากกระทรวง
ปัญหาจากการตรวจรับอาคารไหมครับ ขัดเขาเรื่องตรวจรับ หรือ... ถ้ามีอย่าลืมส่งเ รื่องให้ สตง ด้วยนะครับ

Good surgeons know how to operate.
Better ones know when to operate.
Best ones know when not to operate
ส่งโดย: anantom
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 10525   WWW
   
118.173.136.*


« ความเห็นที่ #45 เมื่อ: 06/02/18 เวลา 09:19:28 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 06/02/18 เวลา 06:36:12, Cuties wrote:
https://www.picz.in.th/image/zGQ6zN
https://www.picz.in.th/image/zGQnRV
https://www.picz.in.th/image/zGQr6Q
https://www.picz.in.th/image/zGQHWS
https://www.picz.in.th/image/zGQV1n
https://www.picz.in.th/image/zGQaeW
https://www.picz.in.th/image/zGQvk2
https://www.picz.in.th/image/zGQGO1
https://www.picz.in.th/image/zGQJXy
https://www.picz.in.th/image/zGQmx9
https://www.picz.in.th/image/zGQezD
 
ตัวอย่างเอกสารบางส่วน แสดงปริมาณการตรวจคนไข้ของแพทย์แต่ละคน เราถ่ายสำเนาเก็บไว้

 
 
เมื่อเอาข้อมูลของ คุณหมอ.ปรมาภรณ์ มาประเมิน จำนวนที่แสดงสามเดือน คือ 812+650+879=2341 คนในสามเดือน เมื่อคิดว่า เดือนหนึ่งตรวจ OPD ได้ 22 วันทำการ จะทำการตรวจได้วันละ 2341/22x3=35 คนต่อวันทำการ  
 
ถ้าได้ข้อมูลที่เป็นเดือน มกราคม - เมษายน 60 ก็จะมีประโยชน์มาก แต่คิดว่า ข้อมูลที่แสดงไม่ได้เป็นเดือน มกราคม-เมษายน 60 เพราะไม่มีรายชื่อคุณหมอ ฆนากร แก้วกิติพงษ์ เพราะดูจากตารางเวร มีรายชื่ออยู่ ลักษณะการจัดตารางออกตรวจคือ ให้ทุกคนออกตรวจ OPD ทุกวัน แล้วเวรนอกราชการก็แบ่งกันไป  แต่การตรวจคนไข้ได้วันละ 35 คน ไม่น่าจะมาก น่าจะอยู่ปริมาณกลางๆ แต่คนอื่นอาจจะตรวจน้อยกว่าค่ากลางเท่านั้นเอง ที่รพ.เรา มีกติกาว่า แต่ละคนต้องตรวจได้ 50 คนถึงจะลุกจากโต๊ะทำอย่างอื่นได้ หรือพักได้  
 
ประเด็นที่เป็นปัญหาคือ วันที่ 5 เมษายน  60 มีรายงานบันทึกที่รพ.ว่า คุณหมอได้ปฏิบัติราชการหรือไม่ เพราะประเด็นอยู่ที่ว่า คณหมอได้ทำงาน หรือไม่ได้ทำงาน ในวันที่ 5 เมษายน 60 ที่จะตัดสินว่า ทำงานไม่น้อยกว่า 15 วันหรือเปล่า เพื่อรับเงินดังกล่าว และยังมีเรื่องว่า ทุ่มเทให้กับหน่วยบริการหรือรพ.หรือเปล่า ตามข้อกำหนด ในการให้เงินจำนวนนี้  อยากจะเห็นบันทึกที่ว่า วันที่ 5 เมษายน 60 มีการปฏิบัติงานจริง ในเวลาราชการ ส่วนนี้ น่าจะเป็นประเด็นที่มีน้ำหนักมาก
ส่วนตรวจมากหรือน้อยกว่าคนอื่น ก็พอมีน้ำหนัก แต่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญในการพิจารณาเรื่องนี้
ส่งโดย: 6699
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1520  
   
223.205.248.*


« ความเห็นที่ #46 เมื่อ: 06/02/18 เวลา 09:20:25 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ชื่อรพ.ตั้งได้ดีมาก เหมาะสมกับบรรยากาศมาก
ส่งโดย: 6699
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1520  
   
223.205.248.*


« ความเห็นที่ #47 เมื่อ: 06/02/18 เวลา 09:29:15 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

งานนี้ ประเด็นแพ้ชนะ น่าจะอยู่ที่คุณหมอ ฆนากร ตั้งกิติพงษ์ ที่เป็นพยานร่วม ถ้าอยู่ข้างใคร คนนั้น มีโอกาสชนะสูง เพราะตารางเวรตอนเช้า ในวันนั้น มีสามหมอ คือโจทย์ จำเลย และคุณหมอ ฆนากร ตั้งกิติพงษ์ แต่ถ้าคุณหมอ เวลาขึ้นศาลบอกว่า จำไม่ได้ เป็นโรคความจำเสื่อมฉับพลัน  โอกาสที่โจทย์จะแพ้สูงมาก เมื่อดูจากเอกสารที่แสดงมา ในสื่อ
และกระทู้นี้ คาบเกี่ยวกับคดีหมิ่นประมาทอย่างมาก และคาบเกี่ยวกับคดีความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เพราะมีชื่อบุคคลปรากฏชัดเจน เป็นกระทู้ที่สุ่มเสี่ยงมาก ถ้าลบชื่อออก น่าจะดีหรือเปล่า
ส่งโดย: 6699
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1520  
   
223.205.248.*


« ความเห็นที่ #48 เมื่อ: 06/02/18 เวลา 09:56:52 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 06/02/18 เวลา 09:19:28, 6699 wrote:

 
 
เมื่อเอาข้อมูลของ คุณหมอ.ปรมาภรณ์ มาประเมิน จำนวนที่แสดงสามเดือน คือ 812+650+879=2341 คนในสามเดือน เมื่อคิดว่า เดือนหนึ่งตรวจ OPD ได้ 22 วันทำการ จะทำการตรวจได้วันละ 2341/22x3=35 คนต่อวันทำการ  
 
ถ้าได้ข้อมูลที่เป็นเดือน มกราคม - เมษายน 60 ก็จะมีประโยชน์มาก แต่คิดว่า ข้อมูลที่แสดงไม่ได้เป็นเดือน มกราคม-เมษายน 60 เพราะไม่มีรายชื่อคุณหมอ ฆนากร แก้วกิติพงษ์ เพราะดูจากตารางเวร มีรายชื่ออยู่ ลักษณะการจัดตารางออกตรวจคือ ให้ทุกคนออกตรวจ OPD ทุกวัน แล้วเวรนอกราชการก็แบ่งกันไป  แต่การตรวจคนไข้ได้วันละ 35 คน ไม่น่าจะมาก น่าจะอยู่ปริมาณกลางๆ แต่คนอื่นอาจจะตรวจน้อยกว่าค่ากลางเท่านั้นเอง ที่รพ.เรา มีกติกาว่า แต่ละคนต้องตรวจได้ 50 คนถึงจะลุกจากโต๊ะทำอย่างอื่นได้ หรือพักได้  
 
ประเด็นที่เป็นปัญหาคือ วันที่ 5 เมษายน  60 มีรายงานบันทึกที่รพ.ว่า คุณหมอได้ปฏิบัติราชการหรือไม่ เพราะประเด็นอยู่ที่ว่า คณหมอได้ทำงาน หรือไม่ได้ทำงาน ในวันที่ 5 เมษายน 60 ที่จะตัดสินว่า ทำงานไม่น้อยกว่า 15 วันหรือเปล่า เพื่อรับเงินดังกล่าว และยังมีเรื่องว่า ทุ่มเทให้กับหน่วยบริการหรือรพ.หรือเปล่า ตามข้อกำหนด ในการให้เงินจำนวนนี้  อยากจะเห็นบันทึกที่ว่า วันที่ 5 เมษายน 60 มีการปฏิบัติงานจริง ในเวลาราชการ ส่วนนี้ น่าจะเป็นประเด็นที่มีน้ำหนักมาก
ส่วนตรวจมากหรือน้อยกว่าคนอื่น ก็พอมีน้ำหนัก แต่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญในการพิจารณาเรื่องนี้

 
https://www.picz.in.th/image/zGnWkR
https://www.picz.in.th/image/zG6IL8
https://www.picz.in.th/image/zGndO0
https://www.picz.in.th/image/zGn0Xu
 
หลักฐานการมาทำงานในวันที่ 5 เมย (ดึงข้อมูลจากโปรแกรม HI) ค่ะ
ส่งโดย: Cuties
สถานะ: Junior Member **
จำนวนความเห็น: 64   Email
   
223.205.242.*


« ความเห็นที่ #49 เมื่อ: 06/02/18 เวลา 10:03:16 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 06/02/18 เวลา 09:29:15, 6699 wrote:
งานนี้ ประเด็นแพ้ชนะ น่าจะอยู่ที่คุณหมอ ฆนากร ตั้งกิติพงษ์ ที่เป็นพยานร่วม ถ้าอยู่ข้างใคร คนนั้น มีโอกาสชนะสูง เพราะตารางเวรตอนเช้า ในวันนั้น มีสามหมอ คือโจทย์ จำเลย และคุณหมอ ฆนากร ตั้งกิติพงษ์ แต่ถ้าคุณหมอ เวลาขึ้นศาลบอกว่า จำไม่ได้ เป็นโรคความจำเสื่อมฉับพลัน  โอกาสที่โจทย์จะแพ้สูงมาก เมื่อดูจากเอกสารที่แสดงมา ในสื่อ
และกระทู้นี้ คาบเกี่ยวกับคดีหมิ่นประมาทอย่างมาก และคาบเกี่ยวกับคดีความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เพราะมีชื่อบุคคลปรากฏชัดเจน เป็นกระทู้ที่สุ่มเสี่ยงมาก ถ้าลบชื่อออก น่าจะดีหรือเปล่า

 
ขอบคุณมากคะ  เราลบชื่อออกเเล้วคะ  ส่วนคุณหมอ ฆนากร  มาอยู่ช่วงเดือน  มีนา  เมษา  เเละ  พค. คะ  มกรา เเละกุมภา  เป็น หมอปฐมพร  ซึ่ง เป็นน้องชายแท้ๆของเราเองคะ  พอดีมาวนช่วงนั้นคะ  
ส่งโดย: Cuties
สถานะ: Junior Member **
จำนวนความเห็น: 64   Email
   
182.232.17.*


« ความเห็นที่ #50 เมื่อ: 06/02/18 เวลา 10:18:11 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

สงสัยรับราชการไม่รุ่งแล้วครับ
 
หัวเดียวกระเทียมลีบ​สู้รอบทิศ กับผู้มีอำนาจ​ผู้ว่า​อาจมีคนใหญ่กว่านี้หนุนหลังด้วย
 
ชนะแล้วก็คงได้ไม่มาก​ แต่น่าจะปวดหัว​มาก​ปัณหาตามมาก็มากนะครับ



เป็นที่น่าเสียดายตายแล้วยังใช้เงินไม่หมด

เป็นเรื่องน่าสลดเงินหมดแล้วยังไม่ตาย
ส่งโดย: อาร์ตสุดติ่ง
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 2874   WWW
   
171.6.245.*


« ความเห็นที่ #51 เมื่อ: 06/02/18 เวลา 10:34:24 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 06/02/18 เวลา 09:56:52, Cuties wrote:

 
https://www.picz.in.th/image/zGnWkR
https://www.picz.in.th/image/zG6IL8
https://www.picz.in.th/image/zGndO0
https://www.picz.in.th/image/zGn0Xu
 
หลักฐานการมาทำงานในวันที่ 5 เมย (ดึงข้อมูลจากโปรแกรม HI) ค่ะ

 
ผู้ป่วยสี่ราย สามรายเป็นการ D/C อีกหนึ่งรายเป็นการส่งต่อรักษาต่อที่อื่น ปัญหาคือ วันนั้น มีผู้ป่วยรับใหม่หรือไม่ เมื่อมีผู้ป่วยรับใหม่ มีคำสั่งการรักษาด้วยหรือไม่ น่าจะดูรายงานจริงที่เขียนด้วยลายมือ และคำสั่งการ D/C ลงเวลา 12.00 น. คงจะต้องดูเวชระเบียนตัวจริงว่า เป็นอย่างไร ไม่ทราบมีให้ดูหรือไม่  เพราะประเด็นเหล่านี้จะต้องสืบกันต่อไป และยังต้องมีว่าการดูผู้ป่วยสี่รายนี้ ดูตอนไหน  เพราะคุณหมอที่เป็นโจทย์อยู่เวรคืนวันที่ 4 เมษายน 60 ตั้งแต่ 00.00-8.00 วันรุ่งขึ้น ตามภาพที่แนบมา ถ้ามาดูผู้ปวยตอน ก่อน 8.00 น. เป็นการอยู่เวรของคืนก่อนวันที่ 5 เมษายน 60 แต่วันที่ 5 เมษายน 60 ถือว่า ไม่ได้ปฏิบัติราชการ  งานนี้ต้องดูจากเวชระเบียนตัวจริง และบันทึกการพยาบาล ในเวชระเบียนที่สามารถแกะรอยจริงเท็จได้คะ จะผิดถูก เวชระเบียนของผู้ป่วยวันที่ 4-5 เมษายน 60 สามารถตัดสินความจริงได้  งานนี้ ใครทำผิดจริง อาจจะรอดยาก  
ส่งโดย: 6699
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1520  
   
223.205.250.*


« ความเห็นที่ #52 เมื่อ: 06/02/18 เวลา 10:43:04 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

งานนี้ โอกาสโจทย์ชนะแทบจะไม่มีเลย เมื่อดูจากเอกสารที่จขกท หรือโจทย์ นำเสนอมา  และยังเป็นการฟังความข้างเดียวอีกด้วย ฝ่ายจำเลยยังไม่ได้ออกมาแก้ตัว เรายังมองว่าไม่น่าจะชนะคดีได้  
 
แต่ขับรถฝ่าไฟเหลืองมาแล้ว มาเป็นไฟแดงกลางทาง ก็อาจจะต้องขับต่อไป แต่จริงๆ เคยเห็นกรณีแบบนี้ และกลับมาพลิกเป็นชนะได้ แต่มองว่าด้วยความรู้ ความสามารถของโจทย์ และทนายที่ไม่เคยทำคดีแบบนี้ ทำให้ไม่น่าจะพลิกสถานการณ์ได้เลย  การประนีประนอม อาจจะเป็นทางออกอย่างหนึ่ง
ส่งโดย: 6699
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1520  
   
223.205.250.*


« ความเห็นที่ #53 เมื่อ: 06/02/18 เวลา 11:24:23 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 06/02/18 เวลา 10:34:24, 6699 wrote:

 
ผู้ป่วยสี่ราย สามรายเป็นการ D/C อีกหนึ่งรายเป็นการส่งต่อรักษาต่อที่อื่น ปัญหาคือ วันนั้น มีผู้ป่วยรับใหม่หรือไม่ เมื่อมีผู้ป่วยรับใหม่ มีคำสั่งการรักษาด้วยหรือไม่ น่าจะดูรายงานจริงที่เขียนด้วยลายมือ และคำสั่งการ D/C ลงเวลา 12.00 น. คงจะต้องดูเวชระเบียนตัวจริงว่า เป็นอย่างไร ไม่ทราบมีให้ดูหรือไม่  เพราะประเด็นเหล่านี้จะต้องสืบกันต่อไป และยังต้องมีว่าการดูผู้ป่วยสี่รายนี้ ดูตอนไหน  เพราะคุณหมอที่เป็นโจทย์อยู่เวรคืนวันที่ 4 เมษายน 60 ตั้งแต่ 00.00-8.00 วันรุ่งขึ้น ตามภาพที่แนบมา ถ้ามาดูผู้ปวยตอน ก่อน 8.00 น. เป็นการอยู่เวรของคืนก่อนวันที่ 5 เมษายน 60 แต่วันที่ 5 เมษายน 60 ถือว่า ไม่ได้ปฏิบัติราชการ  งานนี้ต้องดูจากเวชระเบียนตัวจริง และบันทึกการพยาบาล ในเวชระเบียนที่สามารถแกะรอยจริงเท็จได้คะ จะผิดถูก เวชระเบียนของผู้ป่วยวันที่ 4-5 เมษายน 60 สามารถตัดสินความจริงได้  งานนี้ ใครทำผิดจริง อาจจะรอดยาก  

 
มาตรวจคนไข้  ในเวลาราชการราวน์ ประมาณ 8.30 คะ  ก็คือผู้ป่วยที่ แอดมิทไว้ในเวร  บันทึกเวชระเบียนผู้ป่วย มีคะ  เดวจะถ่ายออเดอให้ดูนะคะ จะได้ช่วยวิเคราะห์คะ
ส่งโดย: Cuties
สถานะ: Junior Member **
จำนวนความเห็น: 64   Email
   
223.205.242.*


« ความเห็นที่ #54 เมื่อ: 06/02/18 เวลา 11:29:21 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ดูแล้วcomplicateมากคิดว่าหลักฐานคอมพิวเตอร์ รพ. ไม่น่าใช้เป็นหลักฐานได้หนักแน่นพอนะครับ
1 รหัสที่ใช้เข้าคอมพิวเตอร์ secure ขนาดไหน
2 มีน้องชายเข้ามามีส่วนร่วมในการใช้รหัสอีก  
3 หัวหน้าฝ่ายการกกับหัวหน้าer มีรหัสด้วยหรือไม่เนื่องจากเป็นพยานฝ่ายเรา
ที่อยากทราบ มีข้อมูลจากอีกฝ่ายหรือไม่ที่เค้าเตรียมไว้สู้คดี หมายถึงเคยเจรจาหรือไม่
โรงพยาบาลมีกล้องวงจรปิดเพื่อยืนยันตัวตนหรือไม่
เอกสารเวชระเบียน เป็นเอกสารราชการ การเข้าไปถ่ายต้องขออนุญาตตามระเบียบ ขออนุญาต ตามระเบียบแล้วหรือไม่
ที่สำคัญที่สุดปกติท่านรองผู้ว่าจะไม่เข้ามายุ่งเรื่องในโรงพยาบาล มีปัญหากับท่านสสจที่ไม่ใช่เรื่องนี้ด้วยหรือไม่
ส่งโดย: doreus
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 10681  
   
184.22.35.*


« ความเห็นที่ #55 เมื่อ: 06/02/18 เวลา 11:42:05 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

"ปลัดกระทรวงสาธารณสุขได้มีหนังสือสั่งการว่าแพทย์เวรต้องอยู่ที่รพ เท่านั้น ถ้าออกนอก รพ ถือว่าทุจริตเวลาหลวง" from คห#18 จริงเหรอคะ
บทลงโทษคงไม่มี หรือไม่จริงจัง เพราะก็เห็นทำตัวแบบนั้นกันไม่มีลดลง
 
ส่งโดย: SeReE
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1404  
   
1.0.157.*


« ความเห็นที่ #56 เมื่อ: 06/02/18 เวลา 11:46:48 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

น้องเคยเป็นผอ มาก่อนไม่น่าพลาดนะ.   ระบบที่รพ ลงชื่อเข้าทำงานแบบเซ็นชื่อหรือตอกบัตรครับ. น้องเซ็นต์ชื่อหรือตอกบัตรหรือไม่ ห้ามมีลายมือปลอมหรือตอกบัตรปลอมนะครับปกติจะมีกล้องวงจรปิดเก็บหลักฐานจะโด นอาญาเอาได้. ถ้ามี จบ เพราะถูกระเบียบ ถ้าไม่มีนี่หนังคนละม้วนเลยนะครับ
ส่งโดย: doreus
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 10681  
   
184.22.35.*


« ความเห็นที่ #57 เมื่อ: 06/02/18 เวลา 11:48:55 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 06/02/18 เวลา 10:34:24, 6699 wrote:

 
ผู้ป่วยสี่ราย สามรายเป็นการ D/C อีกหนึ่งรายเป็นการส่งต่อรักษาต่อที่อื่น ปัญหาคือ วันนั้น มีผู้ป่วยรับใหม่หรือไม่ เมื่อมีผู้ป่วยรับใหม่ มีคำสั่งการรักษาด้วยหรือไม่ น่าจะดูรายงานจริงที่เขียนด้วยลายมือ และคำสั่งการ D/C ลงเวลา 12.00 น. คงจะต้องดูเวชระเบียนตัวจริงว่า เป็นอย่างไร ไม่ทราบมีให้ดูหรือไม่  เพราะประเด็นเหล่านี้จะต้องสืบกันต่อไป และยังต้องมีว่าการดูผู้ป่วยสี่รายนี้ ดูตอนไหน  เพราะคุณหมอที่เป็นโจทย์อยู่เวรคืนวันที่ 4 เมษายน 60 ตั้งแต่ 00.00-8.00 วันรุ่งขึ้น ตามภาพที่แนบมา ถ้ามาดูผู้ปวยตอน ก่อน 8.00 น. เป็นการอยู่เวรของคืนก่อนวันที่ 5 เมษายน 60 แต่วันที่ 5 เมษายน 60 ถือว่า ไม่ได้ปฏิบัติราชการ  งานนี้ต้องดูจากเวชระเบียนตัวจริง และบันทึกการพยาบาล ในเวชระเบียนที่สามารถแกะรอยจริงเท็จได้คะ จะผิดถูก เวชระเบียนของผู้ป่วยวันที่ 4-5 เมษายน 60 สามารถตัดสินความจริงได้  งานนี้ ใครทำผิดจริง อาจจะรอดยาก  

 
ในส่วนของ chart ของผู้ป่วยใน 4 ราย ตอนนี้อยู่ที่ทนายครับ เดี๋ยวจะหาเวลาไปคัดตัวจริงออกมาอีกที น่าจะได้วันจันทร์นี้ครับ เดี๋ยววันจันทร์ช่วงเช้าจะลองส่งให้ดูอีกที
ส่งโดย: Cuties
สถานะ: Junior Member **
จำนวนความเห็น: 64   Email
   
223.205.242.*


« ความเห็นที่ #58 เมื่อ: 06/02/18 เวลา 11:59:31 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 06/02/18 เวลา 11:42:05, SeReE wrote:
"ปลัดกระทรวงสาธารณสุขได้มีหนังสือสั่งการว่าแพทย์เวรต้องอยู่ที่ร พ เท่านั้น ถ้าออกนอก รพ ถือว่าทุจริตเวลาหลวง" from คห#18 จริงเหรอคะ
บทลงโทษคงไม่มี หรือไม่จริงจัง เพราะก็เห็นทำตัวแบบนั้นกันไม่มีลดลง
 

มีครับ ออกมาช่วงปี 2544 - 45 ครับ ไม่ได้เก็บไว้ น่าค้นได้ที่ สสจ ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้ายเมื่อ: 06/02/18 เวลา 12:00:54 by anantom »

Good surgeons know how to operate.
Better ones know when to operate.
Best ones know when not to operate
ส่งโดย: anantom
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 10525   WWW
   
118.173.136.*


« ความเห็นที่ #59 เมื่อ: 06/02/18 เวลา 12:00:44 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 06/02/18 เวลา 11:29:21, doreus wrote:
ดูแล้วcomplicateมากคิดว่าหลักฐานคอมพิวเตอร์ รพ. ไม่น่าใช้เป็นหลักฐานได้หนักแน่นพอนะครับ
1 รหัสที่ใช้เข้าคอมพิวเตอร์ secure ขนาดไหน
2 มีน้องชายเข้ามามีส่วนร่วมในการใช้รหัสอีก  
3 หัวหน้าฝ่ายการกกับหัวหน้าer มีรหัสด้วยหรือไม่เนื่องจากเป็นพยานฝ่ายเรา
ที่อยากทราบ มีข้อมูลจากอีกฝ่ายหรือไม่ที่เค้าเตรียมไว้สู้คดี หมายถึงเคยเจรจาหรือไม่
โรงพยาบาลมีกล้องวงจรปิดเพื่อยืนยันตัวตนหรือไม่
เอกสารเวชระเบียน เป็นเอกสารราชการ การเข้าไปถ่ายต้องขออนุญาตตามระเบียบ ขออนุญาต ตามระเบียบแล้วหรือไม่
ที่สำคัญที่สุดปกติท่านรองผู้ว่าจะไม่เข้ามายุ่งเรื่องในโรงพยาบาล มีปัญหากับท่านสสจที่ไม่ใช่เรื่องนี้ด้วยหรือไม่

 
1. เป็นรหัสของใครของมัน พาสเวิดตั้งกันเอง ส่วนไอดี ไอทีจะเป็นตั้งให้ใช้คนละรหัสกันครับ
2. น้องชายไม่ได้อยู่แล้วในตอนนั้น (อยู่แค่เดือน มค , กพ 60 ครับ)
3. ไม่มีครับ
ตอนนี้ยังไม่ได้เจรจากับจำเลยครับ เอกสารมีเพียงหนังสือที่จำเลยส่งมา (ที่ลงแปะไว้ในเวปฝากรูปครับ)  
กล้องวงจรปิดมีครับ ถ้าข้อมูลของวันที่5 เมษา 60 ยังอยู่ก็จะลองขอดูเพื่อประกอบครับ
เวชระเบียน ได้เซ็นขออนุญาตแล้วครับ
ท่านสสจไม่เคยมีปัญหาใดๆกันเป็นการส่วนตัวเลยครับ และท่านก็เพิ่งมารับตำแหน่งแทนเมื่อประมาณช่วงปลายปี 59 ครับ
ส่งโดย: Cuties
สถานะ: Junior Member **
จำนวนความเห็น: 64   Email
   
223.205.242.*


« ความเห็นที่ #60 เมื่อ: 06/02/18 เวลา 12:05:12 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 06/02/18 เวลา 11:46:48, doreus wrote:
น้องเคยเป็นผอ มาก่อนไม่น่าพลาดนะ.   ระบบที่รพ ลงชื่อเข้าทำงานแบบเซ็นชื่อหรือตอกบัตรครับ. น้องเซ็นต์ชื่อหรือตอกบัตรหรือไม่ ห้ามมีลายมือปลอมหรือตอกบัตรปลอมนะครับปกติจะมีกล้องวงจรปิดเก็บหลักฐานจะโด นอาญาเอาได้. ถ้ามี จบ เพราะถูกระเบียบ ถ้าไม่มีนี่หนังคนละม้วนเลยนะครับ

 
ลงเวลาทำงานโดยการสแกนลายนิ้วมือครับ แต่ช่วงนั้นแพทย์ทั้งสามท่านไม่มีใครสแกนครับ  เพิ่งให้ลงระบบทำงานโดยการสเเกน เมื่อเดือน  มิ.ย. 60 นี้ครับ
ส่งโดย: Cuties
สถานะ: Junior Member **
จำนวนความเห็น: 64   Email
   
223.205.242.*


« ความเห็นที่ #61 เมื่อ: 06/02/18 เวลา 12:22:25 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

จบ Grin Grin Grin
ส่งโดย: doreus
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 10681  
   
1.46.199.*


« ความเห็นที่ #62 เมื่อ: 06/02/18 เวลา 12:39:04 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 06/02/18 เวลา 11:59:31, anantom wrote:

มีครับ ออกมาช่วงปี 2544 - 45 ครับ ไม่ได้เก็บไว้ น่าค้นได้ที่ สสจ ครับ

 
ขอบคุณค่ะ
ส่งโดย: SeReE
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1404  
   
1.0.157.*


« ความเห็นที่ #63 เมื่อ: 06/02/18 เวลา 12:50:28 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

เอางี้ คดีนี้โจทย์ฟ้องเรื่องอะไรครับ ปรึกษาทนายด่วนครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้ายเมื่อ: 06/02/18 เวลา 13:16:31 by doreus »
ส่งโดย: doreus
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 10681  
   
1.46.199.*


« ความเห็นที่ #64 เมื่อ: 06/02/18 เวลา 13:32:03 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 06/02/18 เวลา 13:18:03, Cuties wrote:

 
ตามลิ้งค์นี้เลยครับ (เป็นเอกสารจากทางศาลในวันที่ 26 มีค 61 ไต่สวนมูลฟ้องแล้วรับฟ้องไว้) มี 3 หน้า ฟ้อง ม 157 เป็นเจ้าพนักงาน ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ (ไม่จ่ายเงิน ฉ11) น่ะครับ  
 
จำเลยคาดว่าจะสู้ด้วยแนวทางประมาณว่ามีหนังสือจากจังหวัดสั่งไม่ให้จ่าย อ้างเรื่องเวลาทำงานไม่ครบ 8 ชม ไม่นับวันทำการในวันนั้นให้ (แต่ของเดือนมค-มีค ก็ได้หนังสือมาจากรองผู้ว่าว่าไม่มีสิทธิ์ได้รับเงินเช่นกัน) ประมาณนี้ครับ
 
https://www.picz.in.th/image/zJwjs1
https://www.picz.in.th/image/zJwlmy
https://www.picz.in.th/image/zJwD9D

ส่งโดย: Cuties
สถานะ: Junior Member **
จำนวนความเห็น: 64   Email
   
223.205.242.*


« ความเห็นที่ #65 เมื่อ: 06/02/18 เวลา 14:13:06 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ตอนนี้มีทนาย เรียบร้อยคะ  รอขึ้นศาลทุจริต วันที่ 3 กค. ที่จะถึงนี้คะ  โดยได้ส่งเอกสารให้กับทางศาลในส่วนที่เกี่ยวข้อง  ไปแล้วคะ ต้องรอดูว่าจะเป็นอย่างไรต่อไปคะ
ส่งโดย: Cuties
สถานะ: Junior Member **
จำนวนความเห็น: 64   Email
   
223.205.242.*


« ความเห็นที่ #66 เมื่อ: 06/02/18 เวลา 14:32:20 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

โชคดี ครับ ผลข้างเคียงของคดีจะกระทบทั้งประเทศถ้าเกิดคุณแพ้คดี ถ้ากำหนดว่าทำงานไม่ถึง 8 ชม ต่อวันไม่นับเป็นวันทำงาน(ทั้งๆที่มาทำงานจริง แต่มาสาย) เป็นสิ่งที่ถูกต้องตามกฎหมายทำให้ทำงานไม่ถึง 15 วันทำให้เบิกเงินไม่ได้ ทั้งๆที่มาทำงานแต่มาสายเพราะเปิดร้าน ออกไปกินข้าวนอก รพ คุณหมอและผอก ทั้งประเทศเตรียมรับมือเวลาพยาบาลหรือคนไข้ฟ้องได้เลยครับ

Good surgeons know how to operate.
Better ones know when to operate.
Best ones know when not to operate
ส่งโดย: anantom
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 10525   WWW
   
118.173.136.*


« ความเห็นที่ #67 เมื่อ: 06/02/18 เวลา 15:13:41 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ ลบข้อความนี้

big impact!!
ส่งโดย: candy girl Email     171.98.38.*


« ความเห็นที่ #68 เมื่อ: 06/02/18 เวลา 15:14:09 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ ลบข้อความนี้

งานหนัก เงินน้อย สมชือ
ส่งโดย: candy girl Email     171.98.38.*


« ความเห็นที่ #69 เมื่อ: 06/02/18 เวลา 18:09:55 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 06/02/18 เวลา 15:14:09, candy girl wrote:
งานหนัก เงินน้อย สมชือ

 
จริงๆการทำงานที่รพช. เราหนีจากความวุ่นวายในเมือง  มาเพื่ออยู่ในที่ที่ระบุเป็นพื้นที่ชายเเดน  เเต่ไม่ได้มีเบื้ยกันดาร  กะมาอยู่ชิลๆทำงาน  ช่วยเหลือกันเเละกัน  เราก็คิดว่า เราไม่ได้ทำงานในหน้าที่ของเเพทย์ไปน้อยกว่าคนอื่น... พอเรามาเจอเรื่องเเบบนี้ม เราคิดว่า  เราควรจะมีคนกลางเป็นคนตัดสิน  เราอยากให้มีคดีตัวอย่าง ที่ศาลช่วยวินิจฉัย ว่าเป็นอย่างไร... ถ้า  เราเเพ้คดี  ถือ rip ระบบราชการเเละวงการเเพทย์ไทย  ออกมาทำส่วนตัวคะ  เพราะคิดว่า คงมีคนที่ไม่ถูกกับแพทย์ในรพ.  สักคนที่อ้างคดีตัวอย่างนี้มา เเละทำงานไปเถอะ ไม่ถึง  8 ชม. ไม่จ่ายเงินฉ. คะ  
เราออกมาอยู่รพช. ก็เพราะมีส่วนนี้จูงใจปะวะถึงออกมา  และจะมีหมอที่ไปเรียนต่อ  เยอะขึ้น  staff มากขึ้น  หมอ รพช. ลดลงไปอีกนะ .... 5555+++
ส่งโดย: Cuties
สถานะ: Junior Member **
จำนวนความเห็น: 64   Email
   
49.229.81.*


« ความเห็นที่ #70 เมื่อ: 06/02/18 เวลา 18:11:48 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 06/02/18 เวลา 08:47:38, anantom wrote:

 
ตรวจสอบให้ดีว่าฝากน้องอยู่เวรวันไหน ถ้าฝากน้องอยู่เวรแล้วเบิกเงินเอง ปปช เคยวินิจฉัยแล้วว่าเป็นการทุจริตและทำเอกสารการเงินเท็จ เพราะไม่ได้อยู่เวรจริง   กรณีที่อยู่เวรแล้วให้น้องอยู่ถ้าไม่มีหนังสือขออนุญาติ นายแพทย์สสจ ปปชก็เคยวินิจฉัยว่าหนีราชการต้องรับโทษทางวินัยครับ

 
แล้วกรณีออกหน่วย  ที่ให้น้องอินเทินออกไปรพสต. ตรวจผู้ป่วยเรื้อรังเเทน  ส่วนตนเองเป็นคนลงชื่อรับเงิน  480 บาท /วัน  มีความผิดหรือไม่คะ  เรียนสอบถามคะ
ส่งโดย: Cuties
สถานะ: Junior Member **
จำนวนความเห็น: 64   Email
   
49.229.81.*


« ความเห็นที่ #71 เมื่อ: 06/02/18 เวลา 18:25:46 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 06/02/18 เวลา 18:11:48, Cuties wrote:

 
แล้วกรณีออกหน่วย  ที่ให้น้องอินเทินออกไปรพสต. ตรวจผู้ป่วยเรื้อรังเเทน  ส่วนตนเองเป็นคนลงชื่อรับเงิน  480 บาท /วัน  มีความผิดหรือไม่คะ  เรียนสอบถามคะ
ผิด 100 เปอร์เซนต์ ข้อหา 1 ทุจริตในหน้าที่ 2 ทำเอกสารเท็จ 3 ถ้าเป็น ผอก เบิกจ่ายเงินเท็จ จะผิดอาญา ม 151 อีกกระทงครับ  
หาพยานบุคคลน้องที่ออกหน่วย พอสต เป็นพยาน แจ้งความที่ สถานีตำรวจ และเข้าจังหวัดแจ้ง ปปช ดำเนินการ  
ปล รีบ ลางานไป รพสต ขอถ่ายใบสั่งยา  order ที่น้องเขาออกหน่วยแทน ป้องกันการแก้เอกสาร เวลาสืบ สืบจากใบสั่งยาน้อง และเอกสารสั่งการของ ผอก ที่ รพ
 
« แก้ไขครั้งสุดท้ายเมื่อ: 06/02/18 เวลา 18:34:44 by anantom »

Good surgeons know how to operate.
Better ones know when to operate.
Best ones know when not to operate
ส่งโดย: anantom
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 10525   WWW
   
180.183.217.*


« ความเห็นที่ #72 เมื่อ: 06/02/18 เวลา 18:50:03 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

แปบนะ ออกรพ.สต.นี่ได้เงินกันด้วยเหรอครับ ทำไมผมไม่เห็นจะเคยได้เลยซักบาท นึกว่าทำการกุศล
ส่งโดย: simath
สถานะ: Senior Member ****
จำนวนความเห็น: 328  
   
1.46.77.*


« ความเห็นที่ #73 เมื่อ: 06/02/18 เวลา 18:56:38 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 06/02/18 เวลา 18:50:03, simath wrote:
แปบนะ ออกรพ.สต.นี่ได้เงินกันด้วยเหรอครับ ทำไมผมไม่เห็นจะเคยได้เลยซักบาท นึกว่าทำการกุศล

 ที่นี่  ให้ 480บาทคะ/4ชม. นับ 8-12  คะ  ที่รพ. เราผอ. จะไปออกคนเดียว  ทุกกวันพุธ คะ  ส่วนบางครั้งจะให้น้องหมอไปแทน  เเต่น้องอินเทินไม่ได้รับเงินส่วนนี้คะ ปกติก็ได้ทุกที่นะเท่าที่เคยเห็น ลองตรวจสอบหรือสอบถามกับรพต้นสังกัดดูนะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้ายเมื่อ: 06/02/18 เวลา 21:08:53 by Cuties »
ส่งโดย: Cuties
สถานะ: Junior Member **
จำนวนความเห็น: 64   Email
   
49.229.91.*


« ความเห็นที่ #74 เมื่อ: 06/02/18 เวลา 19:00:49 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 06/02/18 เวลา 18:25:46, anantom wrote:

ผิด 100 เปอร์เซนต์ ข้อหา 1 ทุจริตในหน้าที่ 2 ทำเอกสารเท็จ 3 ถ้าเป็น ผอก เบิกจ่ายเงินเท็จ จะผิดอาญา ม 151 อีกกระทงครับ  
หาพยานบุคคลน้องที่ออกหน่วย พอสต เป็นพยาน แจ้งความที่ สถานีตำรวจ และเข้าจังหวัดแจ้ง ปปช ดำเนินการ  
ปล รีบ ลางานไป รพสต ขอถ่ายใบสั่งยา  order ที่น้องเขาออกหน่วยแทน ป้องกันการแก้เอกสาร เวลาสืบ สืบจากใบสั่งยาน้อง และเอกสารสั่งการของ ผอก ที่ รพ
 

 
 
แล้ววันที่ออกหน่วย  อยู่ทับซ้อนในกับเวรเวลาราชการ  8-16 โดยมีการเบิกเงินออกหน่วย  เเละตัวไม่ได้อยู่ในรพ.  เเบบนี้จะถือว่าผิดไหมคะ  
ส่งโดย: Cuties
สถานะ: Junior Member **
จำนวนความเห็น: 64   Email
   
49.229.80.*


« ความเห็นที่ #75 เมื่อ: 06/02/18 เวลา 19:26:01 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 06/02/18 เวลา 11:24:23, Cuties wrote:

 
มาตรวจคนไข้  ในเวลาราชการราวน์ ประมาณ 8.30 คะ  ก็คือผู้ป่วยที่ แอดมิทไว้ในเวร  บันทึกเวชระเบียนผู้ป่วย มีคะ  เดวจะถ่ายออเดอให้ดูนะคะ จะได้ช่วยวิเคราะห์คะ

 
การดูผู้ป่วยที่รับไว้นอนรพ.แบ่งกันดูอย่างไร พอจะบอกได้หรือเปล่า และในวันนั้น มีผู้ป่วยรับใหม่หรือไม่ และได้รับการรักษาอย่างไรบ้าง
ส่งโดย: 6699
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1520  
   
223.205.235.*


« ความเห็นที่ #76 เมื่อ: 06/02/18 เวลา 19:28:43 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 06/02/18 เวลา 19:00:49, Cuties wrote:

 
 
แล้ววันที่ออกหน่วย  อยู่ทับซ้อนในกับเวรเวลาราชการ  8-16 โดยมีการเบิกเงินออกหน่วย  เเละตัวไม่ได้อยู่ในรพ.  เเบบนี้จะถือว่าผิดไหมคะ  

ผิดครับ จะเบิกเงินค่าตอบแทน 2 แห่งในเวลาเดียวกันไม่ได้ครับ เป็นการทุจริตครับ

Good surgeons know how to operate.
Better ones know when to operate.
Best ones know when not to operate
ส่งโดย: anantom
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 10525   WWW
   
180.183.217.*


« ความเห็นที่ #77 เมื่อ: 06/02/18 เวลา 19:48:22 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 06/02/18 เวลา 13:32:03, Cuties wrote:


 
ดูภาพแล้วหนักใจแทนทุกฝ่ายเลย เพราะท่านผู้พิพากษา เกียรติชัย  พิษณุวงษ์ ตำแหน่ง  เลขาอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค3. จังหวัดสุรินทร์ งานนี้ น่าจะมีผลกระทบหมดกับแพทย์ทั้งประเทศ เมื่อมีคำวินิจฉัยออกมา ไม่ว่าฝ่ายไหนจะชนะ โจทย์หรือจำเลย ก็ตาม
 
ปัญหาที่ต้องตีความคือ แพทย์อยู่เวร จะสามารถเปิดคลินิกได้หรือไม่ เมื่อใน facebook ของร้านหมอแต่ละท่านเขียนชัดเจนว่า เปิดทุกวัน ตอนเช้า และตอนเย็น และมีเวลาทำงานชัดเจน  แต่ตารางการอยู่เวร มีเดือนละ 10 วัน เช้าเย็น แบบนี้จะผิดระเบียบ เบิกเงินค่าเวรได้หรือไม่  
 
งานนี้ ผู้อำนวยการรพ.ทั่วประเทศจะสามารถเบิกเงินค่าเวรให้แพทย์ได้หรือไม่ ทำแล้วผิดระเบียบหรือไม่  ถ้าให้ก็ผิดระเบียบหรือเปล่า ถ้าไม่ให้ ก็ผิดระเบียบหรือเปล่า
ส่งโดย: 6699
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1520  
   
223.205.235.*


« ความเห็นที่ #78 เมื่อ: 06/02/18 เวลา 19:49:30 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

[quote author=6699 link=board=doctorroom;num=1527837669;start=0#75 date=06/02/18 เวลา 19:26:01]
 
การดูผู้ป่วยที่รับไว้นอนรพ.แบ่งกันดูอย่างไร พอจะบอกได้หรือเปล่า และในวันนั้น มีผู้ป่วยรับใหม่หรือไม่ และได้รับการรักษาอย่างไรบ้าง [/quote
 
แบ่งเป็นคนไข้ในสาย  ของใครของมันคะ  ตอนที่ดูผู้ป่วยใน  3 ราย  มี  คนป่วย  ที่แอดมิท ไว้จากในเวรเมื่อวันที่  4 เมษาที่เราอยู่เวร   คนเเรก  contusion  of thorax admit for observe คะ  เคสที่  2 เป็น  esrd  คะ volume overload เคสนี้คะอาการเปลี่ยนเเปลงตอนเช้าจึงได้รีเฟอ ไปรพ. เดชอุดม  ช่วง ประมาน 10-11 น. คะ    เเละอีกเคส pulmonary edema with copd คนนี้อาการดีขึ้น  จึงd/c f/u  และให้medicationคะ
ส่งโดย: Cuties
สถานะ: Junior Member **
จำนวนความเห็น: 64   Email
   
49.229.80.*


« ความเห็นที่ #79 เมื่อ: 06/02/18 เวลา 19:51:15 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 06/02/18 เวลา 08:47:38, anantom wrote:

 
ตรวจสอบให้ดีว่าฝากน้องอยู่เวรวันไหน ถ้าฝากน้องอยู่เวรแล้วเบิกเงินเอง ปปช เคยวินิจฉัยแล้วว่าเป็นการทุจริตและทำเอกสารการเงินเท็จ เพราะไม่ได้อยู่เวรจริง   กรณีที่อยู่เวรแล้วให้น้องอยู่ถ้าไม่มีหนังสือขออนุญาติ นายแพทย์สสจ ปปชก็เคยวินิจฉัยว่าหนีราชการต้องรับโทษทางวินัยครับ

 
ถ้ากรณีช่วง  8-16  ถือว่าผิดไหมคะ  ฝากดูเช้า  หลัง 16.00 จึงกลับมาดูเองคะ
ส่งโดย: Cuties
สถานะ: Junior Member **
จำนวนความเห็น: 64   Email
   
49.229.80.*


Page(s) : 1 2 


แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print



Reply this Topic reserved for registed member only. Register



  • ข้อความและรูปภาพที่ท่านเห็นส่วนใหญ่ ได้ถูกส่งมาจาก ทางบ้าน
    ทางเว็บไซต์ Thaiclinic.com ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของข้อความและรูปภาพที่ถูกส่งมา

  • ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชนและส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ
    เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง
    ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง

  • ถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมหรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล
    หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ webmaster@thaiclinic.com หรือ กดแจ้งที่ปุ่ม
    "แจ้งลบกระทู้"
    เพื่อให้ทีมงานทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ครับ

ThaiClinic.Com . All Rights Reserved. !--BEGIN WEB STAT CODE-->

Powered by