« ความเห็นที่ #13 เมื่อ: 05/29/18 เวลา 22:33:43 » |
|
on 05/27/18 เวลา 10:42:49, ม้าคะนอง wrote:สวัสดีครับ ตอบในฐานะศัลยแพทย์ ปัจจุบันออกมาอยู่ฟูลทามเอกชนหลายปีนะครับ ตัดสินใจออกจากราชการเนื่องด้วยสาขาศัลยกรรมเรา ยิ่งแก่ยิ่งลำบากไม่เหมือนสาขาอื่นที่ยิ่งแก่ยิ่งสบาย สังเกตสตาฟ med ped รุ่นเดียวกัน ช่วงกลางคืน มาราวน์ 1 รอบ ดูเฉพาะเคสมีปัญหาที่น้องๆรับมือไม่ได้ ส่วนเรา ก็ผ่าทั้งคืน ไม่มาไม่ได้ ทำให้เวลาให้ครอบครัวน้อยลงมาก ไม่ได้นอนกับลูกๆครับ ส่วนเรื่องรายได้ก็เป็นปัจจัยหนึ่งครับ อยู่รัฐรวมเอกชน พอๆกับน้องเลย แต่มันไม่ได้เข้ามาเป็นก้อน มีตกเบิกซะเยอะ ถ้าอยากทำรายได้ให้เท่าเอกชนเลยคงต้องรับเวรนอกทุกคืน ก็พอดีชีวิตครอบครัวคงพังก่อน การเปิดคลินิกของ gen sx เองค่อนข้างยากในการสร้างชื่อ เพราะถ้าต้องการผ่าที่คลินิกด้วยต้องลงทุนสูง ไม่เหมือน Ent , Ped, Med , Sx Uro , Sx plastic พวกนี้เปิดคลินิกรุ่ง ข้อเสียเอกชนสำหรับผม อยู่แล้วเหมือนตัวเองด้อยค่าลงทุกวัน เคสผ่าใหญ่ๆน้อยมาก (จะได้ผ่าเยอะแน่นอนต้องมีชื่อเสียงระดับอาจารย์) ฝีมือเราจะรู้สึกว่าทำอะไรติดๆขัดๆ ช้าลง แต่พวกเคสทั่วๆไป แบบไส้เลื่อน ไส้ติ่ง ริดสีดวง นั่นก็ไม่มีปัญหาอะไรนะครับ แต่การจะไปลุย whipple , APR พวกนี้คงไม่ได้ทำอีกนาน เวลามองดูเพื่อนๆที่คุยกันพวก staff รร แพทย์ เราจะรู้สึกด้อยกว่าทันที (แต่ก็มีเงินมากกว่าเขาเยอะ) อ้อแล้วก็อย่างที่หลายๆกระทู้เขาตั้งไปแล้วคืออยู่เอกชนก็ต้องหัดวางแผนการ เงินให้ดี เก็บออมยามเกษียนให้ได้เนื่องจากไม่มีบำนาญแล้ว ข้อดี ได้ชีวิตที่ตื่นเข้างานเลิกงานตามปกติเหมือนคนอื่น นานๆครั้งมีผ่านอกเวลาซักที ได้ออกกำลังกายมากขึ้น ได้มีเวลาให้ครอบครัว ไปรับไปส่งลูกโรงเรียน นอนช่วงกลางคืนได้เต็มอิ่มขึ้น ผ่อนบ้านหมดเร็วขึ้น ม ไม่ต้องทำงาน HA , ไม่ต้องรู้สึกผิดเวลาขายเวร ER ให้น้อง เพราะน้องบางคนก้ไม่อยากรับ ไม่ต้องมีเวรชันสูตร ไม่ต้องมีงานองค์กรแพทย์ที่ไม่จำเป็น สำหรับผม ผมคิดว่าคิดไม่ผิดที่ออกมาเอกชนก่อน รอให้ภาครัฐปรับค่าตอบแทนแพทย์ให้เป็นธรรม บรรจุพยาบาลให้ครบ แก้ระบบต่างๆให้ดีซะก่อน จะกลับไปทำงานอีกครั้งก็ไม่สาย |
| มองต่างนะครับ ผมมาอยู่เอกชน กลับมีเคสให้ทำเยอะมากกว่าอยู่รัฐบาล เพราะเครื่องไม้เครื่องมือพร้อมมากกว่า ทำเคสได้หลากหลายมากกว่า ถ้าอยู่รัฐบาล คงมีหลายๆหัตถการที่ทำไม่ได้หรือไม่มีโอกาสทำ
|
|