แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print

 หัวข้อ 36806: แพทย์ กับการวางแผนทางการเงิน  (จำนวนคนอ่าน 2363 ครั้ง)
« เมื่อ: 05/14/18 เวลา 08:13:07 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

แพทย์ มีรายได้โดยเฉลี่ยค่อนข้างสูงกว่าอาชีพอื่นๆ
 
แต่ ขณะเดียวกันรายจ่าย ก็มักจะมีการ Upgrade ไปด้วย แปรผันตามระดับของรายได้ที่สูงขึ้น
 
หลายท่านอยู่รัฐบาล ทำส่วนตัวไปด้วยพอมีเงินเก็บและมีบำนาญ(แต่ก็ไม่ได้มาก)
 
อีกหลายท่านอยู่เอกชน รายได้มากกว่ารัฐ แต่ก็ต้องสร้างบำนาญด้วยตัวเอง
 
ซึ่งเรารู้อยู่แล้วว่าค่าใช้จ่ายวัยหลังเกษียณ ไม่ใช่น้อยๆ (ค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่มักหมดไปกับค่ารักษาพยาบาล)
 
 
 
#เพื่อนๆ มีวิธีจัดการ หรือมีวิธีวางแผนทางการเงินกันอย่างไรบ้างครับ
 

"Whether you think you can,
or you think you can't--you're right."

-- Henry Ford--
ส่งโดย: <<GOOD LIFE>>
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 952  
   
182.53.172.*


« ความเห็นที่ #1 เมื่อ: 05/14/18 เวลา 09:45:11 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ปัจจุบันนำเงินไปลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ครับ  ซื้อ/ขาย/นายหน้า/พัฒนา  
 
พยายามเรียนรู้ และ ทำไปเรื่อยๆครับ  
 
อดีต เคยไปด้านลงทุนในตลาดทุนหลายๆรูปแบบแล้ว  ผลคือไม่รอดซักแบบ พินาศย่อยยับเลยครับ  
 Embarassed
ส่งโดย: positive male
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1020  
   
125.27.133.*


« ความเห็นที่ #2 เมื่อ: 05/14/18 เวลา 10:28:37 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ลงทุนซื้อที่ดินและทองครับ มีเงินสดไว้เล็กน้อยที่พอใช้สัดปีพอ เพราะค่าเงินเฟือทุกปี แต่ที่ดินราคาขึ้นทุกปี ทองมีไว้ขายเมื่อจำเป็นต้องใช้เงินด่วนครับ

Good surgeons know how to operate.
Better ones know when to operate.
Best ones know when not to operate
ส่งโดย: anantom
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 10525   WWW
   
118.173.38.*


« ความเห็นที่ #3 เมื่อ: 05/14/18 เวลา 10:53:25 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

เป็นคนชอบเก็บที่ดิน ซื้อที่นา 4000 ไร่  ไร่ละห้าพันบาท จ่ายไป 20 ล้านบาท ขายต่อคนที่อยู่ข้างเคียงไร่ละ สามหมื่น-ห้าหมื่นบาทได้เงินต้นคืนมาครบหมด เพราะต้องการลดความกดดัน ที่ซื้อทีดินว่างเปล่า  และเหลืออีก 2000 ไร่ ให้บริษัทน้ำตาล เช่าเดือนละ 1500 บาท รับจริงได้ประมาณ ไร่ละ 1000 บาท  
 
ชอบเก็บตึกแถว ซื้อตึกแถวมาเก็บไว้สิบห้อง ให้เขาเช่าห้องละ 6000 บาท ตอนนั้นซื้อมาห้องละ 500000-1000000 บาท  
 
คิดว่า ตัวเองใช้เงินวันละ สองพันบาท เดือนละ หกหมื่น ปีละ 7.2 แสน เอาเงินฝากสหกรณ์ ประมาณ 14 ล้าน หวังผลตอบแทนประมาณ ร้อยละห้า แต่ละปี น่าจะได้เงิน 7 แสนบาท เพื่อให้สหกรณ์เลี้ยงดูเราตลอดกาล  ไม่คิดจะฝากเพิ่ม แต่ก็ไม่คิดว่า จะถอน เพราะสหกรณ์ในปัจจุบันมองว่า เริ่มมีปัญหา เพราะมีบางสหกรณ์ทุรจริต และอาจจะลามติดต่อกันเป็นลูกโซ่ได้  
 
เรื่องหุ้นไม่ได้ซื้อเลย เพราะครั้งแรก ธนาคารเขาแนะนำให้โยกเงินเข้าไปซื้อหุ้นธนาคารแทน บอกว่า  เหมือนกับฝากธนาคาร  แต่ผลตอบแทนดีกว่า ซื้อแบบคนไม่รู้เรื่องอะไร เชื่อใจผู้จัดการธนาคารอย่างเดียว ตอนนั้นซื้อหุ้นไทยพานิชย์ พาร์ 100 ซื้อไป 400 ซื้อแล้วเกิดนอนไม่หลับ  และหุ้นไทยพานิชย์เขาแตกพาร์เป็น 10 บาท จำได้ว่า ตกใจแทบแย่ กลับไปถามผู้จัดการ เขาบอกว่า ไม่เป็นไร พอราคาหุ้นวิ่งเป็น 160 บาท เงินลงไป สี่ล้าน ได้มา 16 ล้าน รีบขายหมด และสาปส่งเลย เพราะคนไม่รู้เรื่องทำเงินได้ ถ้าหากว่า เรารู้เรื่องหุ้นไม่มีทางได้เงิน มองว่าเกมนี้ ไม่ใช่เกมของเรา  
 
ตอนไปเรียนที่ กทม. แอบไปซื้อคอนโดหลายแห่ง เพราะไปเยี่ยมเพื่อนๆ แต่ละคนอยู่คอนโด ไปกระซิบแม่บ้านที่ดูแลคอนโดว่ามีห้องไหนจะขาย หรือโดนบังคับขายในศาล ให้มาแจ้งเรา ไปซื้อกับอาจารย์สนิทกันได้มาหลายคอนโด เขาขายกันประมาณ ห้าแสน ถึงแปดแสน กลับมาที่รพ. คุณหมอที่รพ.บอกว่า เขาโชคดีมาก ซื้อคอนโดที่แห่งเดียวกันได้ในราคา สามล้าน ห้าล้าน เรานี่อึ้งเลย  
 
สรุปว่า เราไม่มีการวางแผนการเงินอย่างไร อาศัยโชคอย่างเดียว ถ้าเราโชคไม่ดี เราก็คงจะเดี้ยงไปแล้ว
ส่งโดย: 6699
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1520  
   
223.205.232.*


« ความเห็นที่ #4 เมื่อ: 05/14/18 เวลา 10:56:47 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ลงทุนหุ้นเป็นหลักครับ
การรักษาสิทธิ ปกส รร แพทย์ส่งมาตรา 39 ตลอดชีวิตไม่เอาบำนาญ
ส่งโดย: bridge
สถานะ: Senior Member ****
จำนวนความเห็น: 356  
   
182.232.33.*


« ความเห็นที่ #5 เมื่อ: 05/15/18 เวลา 10:28:01 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ค่ารักษาพยาบาล ผมทำ ประกันสุขภาพ Bupa กันทั้งครอบครัว สี่คน จ่ายเบี้ยรวม แบบทิ้งประมาณ 1.3 แสนต่อปี  
 
ถ้าของสองคนกับภรรยา ก็รวมกัน สำหรับคนอายุ 55-60 นี่จ่ายราวๆ 9 หมื่น ตกเดือนล่ะ 8000 บาท ก็ถือว่ารับได้ เป็นประกันทิ้ง  
 
ความคุ้มครอง ต่อ การรักษาแต่ล่ะโรค ในหนึ่งปี คือ 2 ล้านบาท ค่าห้องประมาณ สองหมื่นบาทต่อคืน น่าจะคุมห้องระดับกลางๆ ถึงดี พอใช้ ของทุกโรงพยาลของไทยได้  
 
ก็ถือเป็นหลักประกัน อันนึง
 
ส่วนที่เหลือ ก็ใช้กินใช้เที่ยว เหลือ เท่าไร คอยทิ้งไว้ให้ลูกๆตอนเราจากไป
ส่งโดย: -=Jfk=- male
สถานะ: Moderator, ThaiClinic Staff *****
จำนวนความเห็น: 3671   WWW Email
   
1.2.202.*


« ความเห็นที่ #6 เมื่อ: 05/15/18 เวลา 12:16:02 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

  แผนการเงิน ? - " เที่ยวให้สนุก  กินให้เต็มคราบ  และถ่ายเต็ม(โถ)ส้วม "...
ส่งโดย: หมอเมืองสยาม
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 11432  
   
171.96.190.*


« ความเห็นที่ #7 เมื่อ: 05/17/18 เวลา 11:03:50 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

       แผนการเงิน - กินเพื่ออยู่  นุ่งเพื่ออุ่น และนอนเพื่อหลับ...
ส่งโดย: หมอเมืองสยาม
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 11432  
   
171.96.190.*


« ความเห็นที่ #8 เมื่อ: 05/19/18 เวลา 12:04:58 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

  แผนการเงินดีๆ ? -  เวลาร่ำรวยแล้วให้ใช้หลักผ้าขี้ริ้วห่อทอง ครับ   อย่าอวดรวย....
ส่งโดย: หมอเมืองสยาม
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 11432  
   
171.96.189.*


« ความเห็นที่ #9 เมื่อ: 05/19/18 เวลา 17:04:24 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ตอนนี้ 95% เป็ฯอสังหาแบบเช่าผลตอบแทน มากกว่า 7 % ครับเพราะใช้เงินกู้ ส่วนใหญ่ รายได้ก็ประมาณ รายได้  subboard 1 คน รพเอกชนพออยู่ได้  รายได้มาก็ทะยอยโปะหนี้ จนเกือบหมดแล้ว
 
 
มี plan เกษียณเร็วๆนี้  ข้อเสียอสังหาแบบเช่าคือต้องดูแล ต้องซ่อมแซม
 
ตอนนี้ว่าจะทะยอยขาย ออกบางส่วน  เพื่อเข้าตราสาร  ทั้งตราสารหนี้
 
และหุ้นปันผลบางส่วน  รวมถึงกองทุนอสังหา
 
 
หมอ  ที่ทุนน้อยโดยเฉพาะรัฐบาล  ผมแนะนำต้องรู้จักใช้เงินกู้ให้เป็นประโยชน์นะครับเพราะ เป็นสิ่งที่หมอได้เปรียบเหนืออาชีพอื่น  ดอกเบี้ยถูกด้วย แต่ต้อวตามมาด้วยรวินัยทางการเงินอย่างเคร่งครัด
 
การปล่อยเช่าควรปล่อยแบบยาวๆไม่ต่ำกว่า 6เดือน เพราะหากเป็นรายวัน ไม่คุ้มเสียเวลา และยังผิดกฎหมายด้วย
 
 
 
« แก้ไขครั้งสุดท้ายเมื่อ: 05/19/18 เวลา 17:07:10 by philosophy »
ส่งโดย: philosophy
สถานะ: Senior Member ****
จำนวนความเห็น: 419  
   
114.109.246.*


« ความเห็นที่ #10 เมื่อ: 05/21/18 เวลา 17:09:14 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ขอบคุณ ทุกๆ คำตอบมากนะครับ

"Whether you think you can,
or you think you can't--you're right."

-- Henry Ford--
ส่งโดย: <<GOOD LIFE>>
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 952  
   
182.53.167.*


« ความเห็นที่ #11 เมื่อ: 05/21/18 เวลา 17:31:44 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

เท่าที่พูดคุย กับน้องๆ หมอหลายๆคน ความรู้ความเข้าใจเรื่องวางแผนการเงินยังมีไม่มาก (อาจเป็นด้วยภาระงาน เลยทำให้ไม่มีเวลาศึกษา) และกลัวเรื่องความเสี่ยง  
 
ส่วนตัว แบ่งport เป็น 3 ส่วนใหญ่ๆ  
 
1) เงินฝาก สหกรณ์ ปันผลราวๆ 6+% (ข้อได้เปรียบเล็กๆของคนที่รับราชการ) ไม่เสียภาษีปันผล  
    มีถึงจุดหนึ่งที่สามารถ cover ค่าใช้จ่ายรายเดือน(เอาแบบอยู่ไม่ลำบาก)  
    เกินกว่านี้ คงไม่แล้ว(ลดความเสี่ยง) ข้อนี้คนที่ไม่มีสหกรณ์สามารถลงทุนในกองทุนอสังหามีหลายตัวให้เลือก ปันผลราว 5-8% (ต้องศึกษาข้อมูลบ้าง แต่ไม่หนักเท่าหุ้น)    
 
2) ลงทุนในหุ้น เน้นมองยาวๆ บริษัทที่แข็งแกร่ง มีการเติบโต และไม่แพงจนเกินไป (อันนี้ต้องหาความรู้มากหน่อย) แพทย์เรามีฐานรายได้ค่อนข้างสูง ถ้าใช้ไม่ฟุ้งเฟ้อมากเกินไป ขยันเก็บหน่อยเราจะได้เงินต้นในการลงทุนก้อนใหญ่กว่าชาวบ้าน หุ้นที่ผมลงเป็นตัวค่อนข้างแน่นอน (หลักๆกลุ่ม รพ ยา อาหาร  
 ภัตตาคาร พลังงาน ตกแต่งบ้าน และกองทุนอสังหาบางส่วน) เน้นรับปันผล ส่วน capital gainถือเป็นwealthครับ ไม่ไปแตะต้องหรือไม่เอาออกมาใช้ ส่งต่อลูกหลานในภายภาคหน้า  
 
3) ที่ดิน ในทำเลแหล่งท่องเที่ยว ที่มี supply จำกัด เน้นเก็บไม่เน้นขาย(แต่ถ้ามีใครอยากซื้อจริงๆและได้ราคาดีก็อาจขายบ้าง) เป็นความสุขทางใจ  
 
สรุป แต่ละส่วนเน้น ไม่เป็นภาระต้องดูแลมาก (ซึ่งเป็นรูปแบบที่ตรงกับนิสัยส่วนตัว) ด้วยสัดส่วนเงินลงทุนพอๆกัน ถึงวันนี้หุ้นให้ผลตอบแทนมากที่สุด ส่วนที่ดินก็โตขึ้นจากมูลค่าที่ดินที่เพิ่มขึ้น (จากการที่เราเข้าไปซื้อตั้งแต่ยังไม่บูมมาก ด้วยความชอบล้วนๆ)  ทุกวันนี้ด้วยปันผลสามารถอยู่ได้อย่างไม่อัตคัต การใช้ชีวิตที่เหลือเฉพาะในสิ่งที่ชอบล้วนๆ      
 
การทำงานที่เรารักต่อไปนั้นเป็นสิ่งที่ดี เพียงแต่ถ้าเราเพิ่มความรู้ในเรื่องการวางแผนทางการเงินเป็นภูมิต้านทานเอาไ ว้บ้าง  จะช่วยให้เราใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพขึ้นไปอีก จะช่วยทำให้เราทำสิ่งที่มีความสุขได้ดียิ่งขึ้นไปอีก โดยไม่ต้องห่วงเรื่องเงินๆทองๆ

"Whether you think you can,
or you think you can't--you're right."

-- Henry Ford--
ส่งโดย: <<GOOD LIFE>>
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 952  
   
182.53.167.*


« ความเห็นที่ #12 เมื่อ: 05/26/18 เวลา 20:59:48 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ขอสอบถาม อ.6699 และท่านๆ  เป็นประสบการณ์ ครับว่า อย่างที่มี อสังหา  หลายๆแห่ง เช่น ที่ดิน เข่น ตึกเช่า  มีคอนโด
 ดูแล บำรุง หรือตามเก็บค่าเช่า อย่างไรครับ เพราะส่วนตัว มีตึกแถวให้เช่า2 แห่ง ตามเก็บค่าเช่า ตามหาช่างซ่อมบำรุง  เพลียเลยครับ (ทำกับแฟน2คน)
  ขอบคุณสำหรับทุกคำตอบฮะ&#128591;&#127995;
ส่งโดย: doc19
สถานะ: Full Member ***
จำนวนความเห็น: 248  
   
223.204.235.*


Page(s) : 1 


แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print



Reply this Topic reserved for registed member only. Register



  • ข้อความและรูปภาพที่ท่านเห็นส่วนใหญ่ ได้ถูกส่งมาจาก ทางบ้าน
    ทางเว็บไซต์ Thaiclinic.com ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของข้อความและรูปภาพที่ถูกส่งมา

  • ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชนและส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ
    เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง
    ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง

  • ถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมหรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล
    หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ webmaster@thaiclinic.com หรือ กดแจ้งที่ปุ่ม
    "แจ้งลบกระทู้"
    เพื่อให้ทีมงานทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ครับ

ThaiClinic.Com . All Rights Reserved. !--BEGIN WEB STAT CODE-->

Powered by