« ความเห็นที่ #11 เมื่อ: 05/21/18 เวลา 17:31:44 » |
|
เท่าที่พูดคุย กับน้องๆ หมอหลายๆคน ความรู้ความเข้าใจเรื่องวางแผนการเงินยังมีไม่มาก (อาจเป็นด้วยภาระงาน เลยทำให้ไม่มีเวลาศึกษา) และกลัวเรื่องความเสี่ยง ส่วนตัว แบ่งport เป็น 3 ส่วนใหญ่ๆ 1) เงินฝาก สหกรณ์ ปันผลราวๆ 6+% (ข้อได้เปรียบเล็กๆของคนที่รับราชการ) ไม่เสียภาษีปันผล มีถึงจุดหนึ่งที่สามารถ cover ค่าใช้จ่ายรายเดือน(เอาแบบอยู่ไม่ลำบาก) เกินกว่านี้ คงไม่แล้ว(ลดความเสี่ยง) ข้อนี้คนที่ไม่มีสหกรณ์สามารถลงทุนในกองทุนอสังหามีหลายตัวให้เลือก ปันผลราว 5-8% (ต้องศึกษาข้อมูลบ้าง แต่ไม่หนักเท่าหุ้น) 2) ลงทุนในหุ้น เน้นมองยาวๆ บริษัทที่แข็งแกร่ง มีการเติบโต และไม่แพงจนเกินไป (อันนี้ต้องหาความรู้มากหน่อย) แพทย์เรามีฐานรายได้ค่อนข้างสูง ถ้าใช้ไม่ฟุ้งเฟ้อมากเกินไป ขยันเก็บหน่อยเราจะได้เงินต้นในการลงทุนก้อนใหญ่กว่าชาวบ้าน หุ้นที่ผมลงเป็นตัวค่อนข้างแน่นอน (หลักๆกลุ่ม รพ ยา อาหาร ภัตตาคาร พลังงาน ตกแต่งบ้าน และกองทุนอสังหาบางส่วน) เน้นรับปันผล ส่วน capital gainถือเป็นwealthครับ ไม่ไปแตะต้องหรือไม่เอาออกมาใช้ ส่งต่อลูกหลานในภายภาคหน้า 3) ที่ดิน ในทำเลแหล่งท่องเที่ยว ที่มี supply จำกัด เน้นเก็บไม่เน้นขาย(แต่ถ้ามีใครอยากซื้อจริงๆและได้ราคาดีก็อาจขายบ้าง) เป็นความสุขทางใจ สรุป แต่ละส่วนเน้น ไม่เป็นภาระต้องดูแลมาก (ซึ่งเป็นรูปแบบที่ตรงกับนิสัยส่วนตัว) ด้วยสัดส่วนเงินลงทุนพอๆกัน ถึงวันนี้หุ้นให้ผลตอบแทนมากที่สุด ส่วนที่ดินก็โตขึ้นจากมูลค่าที่ดินที่เพิ่มขึ้น (จากการที่เราเข้าไปซื้อตั้งแต่ยังไม่บูมมาก ด้วยความชอบล้วนๆ) ทุกวันนี้ด้วยปันผลสามารถอยู่ได้อย่างไม่อัตคัต การใช้ชีวิตที่เหลือเฉพาะในสิ่งที่ชอบล้วนๆ การทำงานที่เรารักต่อไปนั้นเป็นสิ่งที่ดี เพียงแต่ถ้าเราเพิ่มความรู้ในเรื่องการวางแผนทางการเงินเป็นภูมิต้านทานเอาไ ว้บ้าง จะช่วยให้เราใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพขึ้นไปอีก จะช่วยทำให้เราทำสิ่งที่มีความสุขได้ดียิ่งขึ้นไปอีก โดยไม่ต้องห่วงเรื่องเงินๆทองๆ
|
|
"Whether you think you can, or you think you can't--you're right."
-- Henry Ford--
|
ส่งโดย: <<GOOD LIFE>>
สถานะ: Executive Member
    
จำนวนความเห็น: 963
| 
|
182.53.167.* |
|
|
|