แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print

 หัวข้อ 36571: 🔊🔊 วิกฤติประเทศไทย ฝุนละอองพิษ  (จำนวนคนอ่าน 538 ครั้ง)
« เมื่อ: 02/06/18 เวลา 08:15:55 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

🔊🔊 วิกฤติประเทศไทย ฝุนละอองพิษ
มีค่า pm2.5 เกินมาตรฐานโลก
ทำลายการทำงานของปอดถาวร ตายผ่อนส่ง
 
🏥🚫☠  กทม.ค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน
 
ปริมาณฝุ่นละออง PM2.5 ตรวจวัดได้ระหว่าง 61 - 78 มคก./ลบ.ม. เกินเกณฑ์มาตรฐาน (50 มคก./ลบ.ม.) 4 สถานี ได้แก่ บริเวณแขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง ริมถนนอินทรพิทักษ์ ริมถนนพระราม 4 และ ริมถนนลาดพร้าว โดยปริมาณฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกพื้นที่
 
https://mgronline.com/qol/detail/9610000011753
ส่งโดย: kiatisak
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1168  
   
211.130.174.*


« ความเห็นที่ #1 เมื่อ: 02/06/18 เวลา 08:16:29 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

PM2.5 คืออะไร และทำไมจึงสามารถก่อมะเร็ง
.
ฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน คือ มลพิษฝุ่นที่มีขนาดเล็กกว่า 1 ใน 25 ส่วนของเส้นผ่าศูนย์กลางของเส้นผมมนุษย์ กล่าวคือ เล็กจนสามารถเล็ดลอดขนจมูกเข้าสู่ร่างกายได้ และมีขนาดเพียงครึ่งหนึ่งของขนาดเม็ดเลือด (5 ไมครอน) ดังนั้นฝุ่นพิษจึงสามารถเข้าสู่เส้นเลือดฝอยและกระจายไปตามอวัยวะได้ ฝุ่นมีลักษณะที่ขรุขระคล้ายสำลี ฝุ่นเป็นพาหะนำสารอื่นเข้ามาด้วย เช่น แคดเมียม ปรอท โลหะหนัก ไฮโดรคาร์บอน และสารก่อมะเร็งจำนวนมาก
 
ฝุ่นขนาดใหญ่จะตกลงสู่พื้นตามแรงดึงดูดของโลก แต่ฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน10ไมครอน (PM10) และฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน2.5ไมครอน (PM2.5) จะสามารถลอยอยู่ในชั้นบรรยากาศได้นานและปะปนกับมลพิษอื่นในอากาศ หากปะทะเข้าจมูกหรือปาก ฝุ่นละอองขนาดใหญ่กว่านี้บางส่วนถูกขับออกมาเป็นเสมหะและสามารถแพร่กระจายเข ้าสู่ระบบทางเดินหายใจ ถุงลมในปอด และผ่านเข้าสู่กระแสเลือดไปยังอวัยวะต่าง ๆ เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเรื้อรังและมะเร็งหากสะสมอยู่ในอวัยวะใดนาน ๆ จากการศึกษาโดย Institute for Health and Evaluation มหาวิทยาลัยวอชิงตัน พบว่ามลพิษทางอากาศเป็นปัจจัยร่วมที่เป็นสาเหตุของโรคต่างๆ เนื่องจากมีส่วนประกอบของสารเคมีหลายชนิด ทั้งที่เป็นสารระคายเคืองไปจนถึงสารก่อมะเร็ง จึงเป็นสาเหตุก่อให้เกิดโรค ได้แก่ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคหลอดเลือดในสมอง โรคหัวใจขาดเลือด โรคมะเร็งปอด และโรคติดเชื้อเฉียบพลันระบบหายใจส่วนล่าง ก่อให้เกิดการตายก่อนวัยอันควรในประเทศไทย ประมาณ 50,000 รายต่อปี
 
http://www.greenpeace.org/seasia/th/news/blog1/pm25/blog/57660/
ส่งโดย: kiatisak
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1168  
   
211.130.174.*


« ความเห็นที่ #2 เมื่อ: 02/07/18 เวลา 09:28:26 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ยังพบมลพิษฝุ่นละอองใน กทม. อย่างต่อเนื่อง ... ทำลายสภาพการทำงานของปอดอย่างถาวร ตายผ่อนส่ง
6 กุมภาพันธ์ 2561 พบ 4 จุด กทม. Pm2.5 ค่าฝุ่นสูงเกินมาตรฐาน
 
กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รายงานสถานการณ์ปริมาณฝุ่งละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน ( P.M.2.5) ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร สูงเกินค่ามาตรฐานที่ 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศ์กเมตร โดยพบว่ายังมี 4 จุดที่ค่าฝุ่นละอองเกิดค่ามาตรฐาน ประกอบด้วย ริมถนนอินทรพิทักษ์ เขตธนบุรีเพิ่มขึ้น สูงสุด 83 ไมโครกรัมต่อลูกบาศ์กเมตร(มคก./ลบ.ม.) / เขตวังทองหลาง 68 มคก./ลบ.ม. /ริมุนนพระราม 4 เขตปทุมวัน 64 มคก./ลบ.ม. / ริมถนนลาดพร้าว เขตวังทองหลาง 63 มคก./ลบ.ทั้งนี้ค่าฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐาน ปากประชาชนสัมผัสอยู่อยู่ในพื้นที่เป็นเวลานานจะมีผลกระทบต่อร่างกาย หลายๆคนจึงอาจมีอาการระคายคอ หายใจไม่สะดวก
 
http://www.onep.go.th/?p=43002
ส่งโดย: kiatisak
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1168  
   
211.130.174.*


Page(s) : 1 


แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print



Reply this Topic reserved for registed member only. Register



  • ข้อความและรูปภาพที่ท่านเห็นส่วนใหญ่ ได้ถูกส่งมาจาก ทางบ้าน
    ทางเว็บไซต์ Thaiclinic.com ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของข้อความและรูปภาพที่ถูกส่งมา

  • ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชนและส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ
    เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง
    ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง

  • ถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมหรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล
    หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ webmaster@thaiclinic.com หรือ กดแจ้งที่ปุ่ม
    "แจ้งลบกระทู้"
    เพื่อให้ทีมงานทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ครับ

ThaiClinic.Com . All Rights Reserved. !--BEGIN WEB STAT CODE-->

Powered by