« ความเห็นที่ #2 เมื่อ: 01/27/18 เวลา 08:59:46 » |
|
จะได้ American board anti-aging ต้อง 1. Written exam ให้ผ่าน 2. Oral exam ให้ผ่าน 3. เก็บ case 6 case เป็นภาษาอังกฤษส่ง และตั้งโจทย์multiple choice ส่งไปด้วย และต้องเข้าประชุม A4M 2 ครั้ง และเอกสารอื่นๆรวมทั้งหมด 6-7 อย่าง ค่าสอบ Written และ Oral เกือบ 200,000 บาท ก็ไม่ได้มาง่ายๆนะ เพียงแต่เมืองไทย หมอหลายๆคนสอบแค่ข้อเขียนผ่าน แล้วมามั่วว่าตัวเองเป็น American board anti-aning. ถ้ามีเงิน มีเวลา และสนใจด้านนี้จริงๆ ก็เรียนให้จบเถอะ อย่างน้อยก็มี core competency มากกว่าพวกที่ไม่จบ (แต่ชอบมาบอกว่าไม่ได้รับการรับรอง) รพ.เอกชนที่มี anti-aging เขา prefer A4M มากกว่า แต่ถ้าจะให้ดีกว่านั้นควรมี Thai board ด้วย จะดูแลคนไข้ได้ดีกว่า และมีฐานคนไข้เยอะกว่า ทำ anti-aging อย่างเดียวใน รพ. เอกชน รายได้ไม่เยอะหรอก คนไข้น้อย ยกเว้นจะพัฒนาไปเป็นวิทยากรให้บริษัทอาหารเสริมหรือสเต็มเซลล์ด้วย
|
|