« ความเห็นที่ #15 เมื่อ: 12/05/17 เวลา 17:02:49 » |
|
อัพเดทรายได้แพทย์ 2017 ... ที่มา กรธัช หัวใจ (รายได้หมอ รพ.รัฐเยอะขึ้น ที่ผมเคยอยู่ แต่ยังน้อย ?) https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=17-01-2017& ;group=1 5&gblog=77 FB กรธัช หัวใจ https://www.facebook.com/banphot.huajai/posts/608350866037994 อัพเดทรายได้แพทย์ 2017!!!! 1. แพทย์ทั่วไป(ไม่ได้จบเฉพาะทาง) - โรงพยาบาลรัฐเฉพาะเงินเดือนและเงินเพิ่ม 40,000-60,000฿ (ได้จริง 20,000-30,000฿ ที่เหลือตกเบิกทุก 3-6เดือน) ทำงานจันทร์ถึงศุกร์ 40 ชั่วโมง/สัปดาห์ ค่าเวรโอที (บังคับอยู่เวรเพราะโรงพยาบาลต้องเปิด 24 ชั่วโมงทุกวัน) 300-1,200฿/8 ชั่วโมงหรือ 38-150฿/ชั่วโมง (ไม่ต้องขยี้ตา) - โรงพยาบาลเอกชน การันตี เดือนละ 80,000-140,000฿ ทำงาน 48 ชั่วโมง/สัปดาห์ ค่าเวรโอที (ไม่บังคับ) 400-800฿/ชั่วโมง - คลินิกตรวจบัตรทอง 400-550฿/ชั่วโมง - คลินิกความงาม (ไม่มีประสบการณ์ สอนให้ได้) ทำงาน 12.00-20.00 น. 6 วันต่อสัปดาห์การันตี 100,000-140,000฿/เดือน ค่าคอมต่างหาก เวรโอทีสำหรับคนมีประสบการณ์ 600-900฿/ชั่วโมง หรือเหมาจ่ายสำหรับฟรีแลนซ์ 5000-6,000฿/ 8ชั่วโมง 2. แพทย์เฉพาะทาง(ตามแต่สาขา) 2.1 อายุรกรรมทั่วไป(หมอผู้ใหญ่) หรือหมอเด็กทั่วไป - โรงพยาบาลรัฐหรือโรงเรียนแพทย์ 40,000-60,000฿ อาจมีบังคับเวรโอทีน้อยนิด ส่วนมากจะเป็นโอฟรี (ทำเพื่อการกุศล) - โรงพยาบาลเอกชนการันตี 160,000-250,000฿/เดือนทำงาน 48 ชั่วโมง/สัปดาห์ โอที 650-1,000฿/ชั่วโมง - ตอนนี้มีหมอรับจ้างประจำด้วย คือไม่ได้บรรจุข้าราชการ แต่ทำงานในโรงพยาบาลรัฐหรือโรงเรียนแพทย์จะได้เงินเดือน 40,000-80,000฿ หมอบางคนไม่ชอบโรงพยาบาลเอกชนแต่ถ้าบรรจุราชการแล้วรับเงินเดือนอย่างข้าราช การก็จะไม่พอสำหรับเลี้ยงชีพครอบครัว(อย่าลืมว่ากว่าหมอจะเรียนจบเฉพาะทางใช ้เวลารวมใช้ทุน 11-13 ปี พ่อแม่แก่พอดี ในขณะที่เพื่อนๆ เรียนอาชีพอื่น แค่ 4 ปี จบทำงานเลยไม่ต้องขอตังพ่อแม่) 2.2 อายุรกรรมเฉพาะทางหรือหมอเด็กเฉพาะทาง - โรงพยาบาลรัฐหรือโรงเรียนแพทย์ ได้เงินเดือนตามฐานเงินเดือน รายได้ไม่ต่างกันในแต่ละสาขาและไม่ได้ปรับสูงกว่าอายุรกรรมทั่วไปหรือหมอเด็ กทั่วไปที่ได้มากกว่าก็เพราะอายุงานมากกว่าและค่าตำแหน่งบริการและฝ่ายวิชาก ารเพิ่มขึ้นมาอีกนิดหน่อย - โรงพยาบาลเอกชน รายได้แตกต่างกันตามสาขา สาขาที่เป็นโรคยากๆหัตถการเยอะ เช่น หัวใจ หรือทางเดินอาหาร การันตีที่ 250,000-350,000฿/เดือน ทำงาน 45 ชั่วโมง/สัปดาห์ สาขาระบบประสาท ไต และ ปอด การันตีที่ 200,000-250,000฿/เดือน 45 ชั่วโมง/สัปดาห์หมอไตจะมีค่าดูแลคนไข้ฟอกไตด้วย สาขาอื่นๆ 180,000-250,000฿/เดือน 45 ชั่วโมง/สัปดาห์ หรือจะทำงานเป็นฟรีแลนซ์รายชั่วโมงก็ได้ 800-1,000฿/ชั่วโมง - คลินิกความงาม เฉพาะจบสาขาผิวหนัง (ต้องเรียนต่างหากอีก 4-7ปี ไม่รวมเรียนหมอ 6 ปี) การันตีที่ 250,000-300,000฿/เดือน 48 ชั่วโมง/สัปดาห์ - โอที ส่วนมาก 650-1,200฿/ชั่วโมง ตามแต่สาขา - เวรดึก 4,000-8,000/10-12 ชั่วโมง 3. ศัลยกรรมทั่วไป(หมอผ่าตัด)และสูตินรีเวช(ทำคลอด) การันตี 220,000-350,000฿ ต่อเดือนในเอกชนซึ่งบางท่านที่ผ่าตัดเยอะๆ อาจจะมีรายได้สูงถึง 1,000,000฿/เดือน แต่สำหรับโรงพยาบาลรัฐหรือโรงเรียนแพทย์ รายได้เหมือนหมอข้อ 2.เอาง่ายๆ ไม่ถึงแสนบาท เว้นแต่ออกไปเปิดคลินิกเองหรือรับจ็อบโรงพยาบาลเอกชนนอกเวลาทำงานราชการ - ค่าเวรโอทีการันตีที่ 650-1,000฿/ชั่วโมง - ค่าเวรดึก 4,000-8,000฿/10-12 ชั่วโมง ส่วนมากจะเกินการันตี 4. หมอกระดูกและหมอผ่าสมอง รายได้ในโรงพยาบาลรัฐพอๆ กับข้อ 2 และ 3 แต่รายได้ในโรงพยาบาลเอกชนส่วนมากเกินการรันตี มากกว่า 300,000฿/เดือน เพราะคนไทยเกิดอุบัติเหตุบ่อย มีค่ารักษาจาก พรบ.ที่เต็มที่ 30,000-80,000฿ (ยิ่งอุบัติเหตุมากเท่าไร ยิ่งได้กำไรมากเท่านั้น(ต้องไม่ตายคาที่นะ) ทั้งโรงพยาบาลรัฐและเอกชน) 5. หมอตาและหูคอจมูก มักทำงานในเวลาเนื่องจากภาวะฉุกเฉินนอกเวลางานจะเป็นหมอศัลยกรรมหรืออายุรกร รมดูแลก่อนเบื้องต้น รายได้ตามชั่วโมงทำงาน ตกชั่วโมงละ. 650-1,000฿ /ชั่วโมง มีค่าหัตถการและผ่าตัดที่เพิ่มเติม สำหรับหมอสาขาอื่นๆที่ไม่ได้ตรวจคนไข้โดยตรง เช่น รังสีแพทย์ พยาธิแพทย์ รายได้ตามชั่วโมงทำงานเหมือนข้อ 5. อย่างไรก็ดี.... แพทย์ 1 คนกว่าจะทำงานได้ต้องเรียนมากกว่าคนอื่น นานกว่าอาชีพอื่นๆ และแพทย์บางสาขาก็ทำงานได้จำกัดอายุ ยิ่งอายุมากขึ้น ข้อจำกัดในการทำงานก็มากขึ้น หรือแม้แต่หมอผู้หญิง ก็จะเริ่มมีครอบครัวตอนจบเฉพาะทางแล้วเริ่มมีลูก ต้องดูแลลูกและงานบ้าน ก็ต้องเลือกทำงานที่มีเวลาให้ครอบครัว ไม่รับงานดึกไม่รับงานที่ทำทุกวัน และมีหมออีกไม่น้อยที่รู้สึกได้ว่า มีหลายอาชีพที่ทำเงินได้มากกว่าการเป็นหมอ หมอ ได้เงินเยอะเพราะมีเวลา 24 ชั่วโมงให้ทำเท่าที่ทำไหวจึงได้รายได้เยอะ ถ้าไม่ทำ หรือทำน้อย ก็ได้รายได้น้อยหรือไม่ได้เลยแม้แต่บาทเดียว มีหลายอาชีพ เช่น หุ้นนักลงทุนทั้งอสังหาริมทรัพย์และสังหาริมทรัพย์ เจ้าของธุรกิจ หรือแม้แต่นายหน้าก็ทำเงินได้มากเหมือนกัน อย่างเพื่อนหมอเอาเศษผ้าโรงงานนี้ขนไปขายอีกโรงงานนึงทำเดือนละครั้งได้หลาย หมื่นบาท พี่ที่รู้จักเอาของจากที่นึงไปกระจายขายทั่วภาคใต้ มีรายได้ปีละ 20ล้านบาท วันๆ ไปทำบุญตรงนั้นตรงนี้ สิ่งที่ต้องเห็นใจหมอโรงพยาบาลรัฐ ทำไมเขาถึงลาออกมาทำงานฟรีแลนซ์หรืออยู่ประจำโรงพยาบาลเอกชน ก็เพราะรายได้ที่แตกต่างกันมากๆ หนึ่ง อีกสาเหตุคือ เวรบังคับ ทำให้ขาดอิสระในการเลือกใช้ชีวิต ยิ่งยุคหลังๆ หมอจบใหม่เป็นคนเจนเนอเรชั่นวายที่ไม่ยึดติดตำแหน่งหรือความก้าวหน้าในอนาคต แต่ขอให้มีความสุขในการใช้ชีวิตและการทำงานในปัจจุบัน ยิ่งเห็นคนไข้เห็นแก่ได้หรือเห็นแก่ตัว ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องทนทำงานเพื่ออุดมการณ์ที่ปลูกฝังกันมายาวนาน แต่ที่ทำกันได้ถึงทุกวันนี้ ก็เพราะมีหมอรุ่นพี่รุ่นน้องและมีคนไข้ซื่อๆ ให้รักษาสร้างบรรยากาศการทำงานที่ไม่อยากหนีไปไหน หมออาชีพที่ได้เงินด้วยและได้บุญด้วย แม้ว่าผมอาจจะได้ไปรวยจากอาชีพอื่น ผมก็ยังจะทำงานหมอต่อไป หมอเอ้ ป.ล.1 หมอที่คุมงบบัตรทอง ได้เงินเดือน200,000฿ ค่าเบี้ยประชุมครั้งละ 12,000฿ น่าเป็นที่สุดครับตอนนี้ ป.ล. 2 เวลาแพทย์ถูกคนไข้ฟ้องร้อง ก็เริ่มต้น 2 ล้านบาท มีพี่ของเพื่อนต้องขายคอนโดและรถยนต์ เงินเก็บหมดเครียดกันทั้งบ้าน เพราะตอนที่ศาลตัดสินกำลังเรียนเฉพาะทาง รายได้แค่ 2 หมื่นบาทต่อเดือน (7 ปี ก่อน) ข้อมูลอ้างอิงบางส่วนจากประกาศรับสมัครแพทย์ในเวปไซต์และสุ่มโทรสอบถามในจัง หวัดใหญ่ๆเรตที่สูงมักมาจากความต้องการแพทย์เร่งด่วน
|
|
ยืนยันว่าจะทำหน้าที่แพทย์ให้ดีที่สุด ( เท่าที่จะทำได้ ) DO NO HARM [ PATIENT AND MYSELF ] ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ก็เป็นหมอที่ดี ได้เสมอ www.bloggang.com/mainblog.php?id=cmu2807
|
ส่งโดย: หมอหมู
สถานะ: Moderator, ThaiClinic Staff
จำนวนความเห็น: 35073
|
|
1.10.191.* |
|
|
|