Topic Summary
|
จากคุณ: หมอหนิง |
โพสเมื่อวันที่: 01/27/13 เวลา 11:51:30 |
1. ถ้าฟันแข็งแรงแล้ว จัดฟันได้ แต่ต้องระวังว่าระหว่างจัดฟัน อาการของโรคปริทันต์อาจรุนแรงขึ้นได้ เพราะแรงในการจัดฟัน จะทำให้กระดูกละลายในบางจุดเพื่อเคลื่อนฟัน อีกทั้งระหว่างจัดฟัน เครื่้องมือจัดฟันจะกีดขวางการทำความสะอาดฟัน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการหายของโรคปริทันต์ค่ะ 2. ทำให้เกิดปัญหาขึ้นได้ ดังที่กล่าวในข้อ 1 3. ใช่ค่ะ ดังที่กล่าวในข้อ 1 4. การรักษาโรคเหงือก ต้องทำอย่างสม่ำเสมออยู่แล้ว ถ้าโรคหายแล้ว (ควบคุมได้แล้ว) จะทำเป็นระยะๆ 3 เดือน 6 เดือน 1 ปี อะไรแบบนี้ค่ะ
|
จากคุณ: หมอหนิง |
โพสเมื่อวันที่: 01/27/13 เวลา 14:28:16 |
คนเป็นโรคปริทันต์อักเสบ ไม่เหมาะที่จะจัดฟัน ควรให้หายก่อนและหมั่นดูแลรักษาความสะอาดช่องปากให้ดี แม้คนปกติไปจัดฟัน ฟันยังโยกได้เลยจากแรงของเครื่องมือจัดฟัน คนที่เป็นโรคปริทันต์จะยิ่งเสี่ยงมากขึ้นค่ะ คนที่เป็นโรคนี้แล้วอยากจัดฟัน ควรปรึกษาคุณหมอจัดฟันและคุณหมอโรคเหงือกที่รักษาว่าสภาพเหงือกของตนพร้อมจะ รักษาหรือไม่ค่ะ
|
จากคุณ: ... a.m. en allemagne ... |
โพสเมื่อวันที่: 01/27/13 เวลา 16:57:21 |
ทางเลือกเสริม ถ้าจัดฟันไม่ได้ หรือจัดได้ แต่อาจทำให้โรคปริทันต์ (โรคเหงือก) กำเริบรุนแรง "และ" ฟันยื่นเฉพาะฟันบน (โดยฟันกราม หรือฟันหลัง กัดสบกันได้ดี) "อาจ" ตัดกราม เฉพาะส่วน โดยถอนฟันกรามน้อย (ติดฟันเขี้ยว) ทั้งสองข้าง แล้วถอยฟันหน้าบน ทั้งแถบ เพื่อลดฟันหน้าที่ยื่น ดูรูป หรือสบฟันแบบเปิด ร่วมด้วย (คือ ฟันหน้าบน-ล่าง กัดกันไม่ได้ แม้ฟันหลังจะกัดสนิทแล้ว) อาจจัดฟันแบบเร็วๆ (ประมาณ 6 เดือน) แล้วตัดกราม เฉพาะส่วนฟันหน้าบน และล่าง หลังผ่าตัด จัดฟันต่ออีกไม่นาน แล้วรีบถอดเครื่องมือ ดูรูป
|