แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print

 หัวข้อ 2408: ปัญหาฝ้าที่ลิ้น(ต่อ)  (จำนวนคนอ่าน 819 ครั้ง)
« เมื่อ: 01/17/16 เวลา 21:32:35 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

1.คุณหมอค่ะ แล้วอาการติดเชื้อรานิเราจะรู็ได้ไงว่าเราติดเชื้อรา  
2.แล้วเราจะรู้ได้ไงค่ะว่าเราน้ำลายไหลน้อย อะไรแบบนี้แล้ววิธีแก้คือยังเหรอค่ะ  
3.หนูเคยคุยกับคนที่เป็นแบบนี้อ่ะค่ะเค้าก็มีกลิ่นที่ลิ้นเหมือนกัน แค่เค้าบอกว่าฟันเค้าก็ไม่ผุ แต่ทำไมยังเหม็นอ่ะค่ะ  
4.แล้วไออาการแบบนี้เราต้องทำความสะอาดลิ้นหลังทานอาหารทุกมื้อได้ไหมอ่ะค่ะ   เพราะถ้าแปรงแต่ตอนเช้ามันก็จะกลับมาเหม็นอีก  
5.ทำไมเพื่อนหนูไม่มีใครเป็นเลยอาการแบบนี้
ส่งโดย: popo
สถานะ: Junior Member **
จำนวนความเห็น: 52  
   
58.8.18.*


« ความเห็นที่ #1 เมื่อ: 01/18/16 เวลา 12:29:43 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

1. ไปให้คุณหมอตรวจค่ะ ถ้าคุณหมอท่านนั้นไม่เชี่ยวชาญพอ ลองปรึกษาที่ภาควิชาเวชศาสตร์ช่องปาก คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬา หรือมหิดล ดูนะคะ
2. ไปให้คุณหมอที่ภาควิชาเวชศาสตร์ช่องปาก คณะทันตแพทย์ จุฬา หรือมหิดล ช่วยวัดค่ะ เบื้องต้น ให้รับประทานน้ำมากๆ จิบน้ำบ่อยๆ ถ้าเป็นคนที่ต้องพูดเยอะ เช่น อาชีพไกด์ หรือพิธีกร ต้องจิบน้ำบ่อยๆ เพราะมีโอกาสน้ำลายแห้งได้ง่ายค่ะ
3. กลิ่นปากมีหลายสาเหตุ ต้องค่อยๆ แก้ปัญหาไปทีละเรื่องค่ะ  
4. แล้วแต่สะดวกค่ะ อย่าให้มากเกินไป (มากไปเจ็บลิ้น ลิ้นเป็นแผล) อย่าให้น้อยเกินไป (น้อยไป คราบจุลินทรีย์สร้างใหม่)
5. เรื่องสุขภาพร่างกาย แต่ละคนไม่เหมือนกันค่ะ
ส่งโดย: หมอหนิง
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 9097  
   
49.49.245.*


« ความเห็นที่ #2 เมื่อ: 01/18/16 เวลา 17:48:46 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

1.คุณหมอค่ะถ้าเราจะออกกำลังกายอ่ะค่ะ มันสามารถช่วยเรื่องนี้ได้ไหมค่ะ เช่น การวิ่ง หรือการกระโดดเชิอกอ่ะค่ะ
2.ส่วนเรื่องที่ต้องไปหาหมออ่ะค่ะ หนูไปหาที่คลินิกก่อนได้ไหมอ่ะค่ะ บ้่านหนูอยู่ต่งจังหวัดอ่ะค่ะ ไม่มีอยู่ กทม
« แก้ไขครั้งสุดท้ายเมื่อ: 01/18/16 เวลา 17:51:43 by popo »
ส่งโดย: popo
สถานะ: Junior Member **
จำนวนความเห็น: 52  
   
58.8.18.*


« ความเห็นที่ #3 เมื่อ: 01/19/16 เวลา 08:31:54 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

1. ไม่เกี่ยวค่ะ
2. สอบถามคุณหมอใกล้บ้าน เป็นเบื้องต้นได้ค่ะ
ส่งโดย: หมอหนิง
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 9097  
   
49.49.247.*


« ความเห็นที่ #4 เมื่อ: 01/19/16 เวลา 18:03:58 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

1.แล้วคุณหมอมีวิธีดูแลลิ้นของคุณหมอยังไงเหรอค่ะ
2.เพื่อนหนูบางคนเค้าก็มีคราบขาวที่ลิ้นเหมือนกันแต่ของเค้าทำไมไม่มีกลิ่นอ ่ะค่ะ
ส่งโดย: popo
สถานะ: Junior Member **
จำนวนความเห็น: 52  
   
58.8.18.*


« ความเห็นที่ #5 เมื่อ: 01/20/16 เวลา 08:37:38 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

1. แปรงลิ้นทุกครั้งหลังแปรงฟัน
2.
ปัจจัยที่ทำให้เกิดกลิ่นปาก แบ่งเป็น  
1. ปัจจัยจากในปากเอง ซึ่งประเด็นใหญ่ๆ คือ เชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดกลิ่น ถ้าเราทำความสะอาดฟันไม่ดี ย่อมเกิดขึ้น การทำความสะอาดที่เหมาะสม คือการแปรงฟัน และใช้ไหมขัดฟัน บางคนแค่แปรงฟัน แต่คราบจุลินทรีย์อีกส่วนหนึ่งยังแทรกอยู่ตามซอกฟัน ซึ่งต้องทำความสะอาดด้วยการใช้ไหมขัดฟัน และการทำความสะอาดลิ้น ก็เป็นส่วนสำคัญ  
   
นอกจากการทำความสะอาดแล้ว หากมีปัญหาฟันผุ เหงือกอักเสบ รำมะนาด ก็ทำให้เกิดกลิ่นปากได้ ฉะนั้นจึงควรไปหาหมอเพื่อตรวจดูให้ละเอียด รักษาให้เรียบร้อยจนแน่ใจว่า สภาพฟันและเหงือกดีแล้ว    
   
2. ปัจจัยภายนอกช่องปาก ที่ส่งผลให้เกิดกลิ่นปาก เช่น กลิ่นจากกระเพาะอาหาร ไซนัส โพรงจมูก ระบบหายใจ ลำคอ กลิ่นจากโรคประจำตัวบางชนิด  
   
นอกจากนี้ ก็ยังมีกลิ่นปากจากสาเหตุอื่นๆ เช่น กลิ่นปากเมื่อตื่นนอน (เพราะขณะนอน น้ำลายไหลน้อย เชื้อโรคจะเจริญดี) กลิ่นปากก่อนมื้ออาหาร (เพราะน้ำย่อยในกระเพาะหลั่งออกมามาก) เมื่อปากแห้ง กินน้ำน้อย ไม่ได้กินอาหาร ไม่ค่อยได้พูด (เมื่อน้ำลายไหลน้อย ปากไม่ชุ่มชื่น เชื้อโรคจะเจริญเติบโตได้ดี) หรือคนที่ฉายรังสี ได้รับเคมีบำบัด คนสูงอายุ ทำให้ต่อมน้ำลายทำงานไม่ดี ก็ทำให้เกิดกลิ่นปากได้เช่นกัน  
   
ฉะนั้น หากตรวจดูปัจจัยของคุณแล้ว คุณควรเริ่มต้นด้วยการ  
1. ไปหาหมอตรวจดูว่า ในปากมีปัญหาสุขภาพฟันและเหงือกอะไรบ้าง และรักษาไปตามนั้น  
2. ปรับการดูแลทำความสะอาดฟัน ทั้งแปรงฟัน ใช้ไหมขัดฟัน แปรงลิ้น ถ้าทำไม่เป็น แนะนำว่าให้คุณหมอช่วยสอน  
3. ดื่มน้ำมากๆ จิบน้ำตามสมควรให้ปากชุ่มชื่น  
4. หาหมอหูคอจมูก รักษาโรคภูมิแพ้และหวัด เพราะอาจมีกลิ่นจากระบบทางเดินหายใจ  
5. สุดท้าย การใช้น้ำยา ลูกอม หมากฝรั่ง ก็ช่วยดับกลิ่นปากได้เป็นครั้งคราว น้ำยาบ้วนปาก ช่วยทำให้ปากสดชื่น แต่ไม่จำเป็นก็ไม่ควรใช้บ่อย การใช้น้ำยาบ้วนปากติดต่อกันนานๆ ทำให้เชื้อโรคที่ดีๆ ตายไปด้วย อาจทำให้ช่องปากติดเชื้อซ้ำซ้อนได้ ลูกอมและหมากฝรั่ง ชนิดปราศจากน้ำลาย ช่วยกระตุ้นน้ำลายให้หลั่ง กลิ่นและรสชาติทำให้กลิ่นปากสดชื่นได้
ส่งโดย: หมอหนิง
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 9097  
   
49.49.247.*


« ความเห็นที่ #6 เมื่อ: 01/20/16 เวลา 18:17:29 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

หนูขอถาอีกนิดน่ะค่ะคุณหมอ
1.อาการของหนูมันเหมือนกับว่าหลังจากกินข้าวอ่ะค่ะมันจะชอบมีคราบมาติดแล้ว แต่ถ้าไม่กินมันก็ไม่ค่อยมีคราบอ่ะค่ะ แต่ถ้าจะให้ไม่กินข้าวเลยก็คงทำไม่ได้อ่ะค่ะ เหมือนกลิ่นที่ลิ้นมันมาจากเศษอาหารอ่ะค่ะ แต่ที่ไม่รู้ก็คือจะทำไงไม่ให้มันติดลิ้นอ่ะค่ะ
ส่งโดย: popo
สถานะ: Junior Member **
จำนวนความเห็น: 52  
   
58.8.18.*


« ความเห็นที่ #7 เมื่อ: 01/21/16 เวลา 12:48:45 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

คราบอาหารและคราบจุลินทรีย์ เป็นเรื่องพื้นฐานที่ทำให้เกิดกลิ่นปาก
ต้องหมั่นทำความสะอาดช่องปาก ด้วยการแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันค่ะ รายละเอียดอย่างอื่น ลองอ่านที่คุณหมอเขียนไว้ให้ข้างต้น ค่อนข้างละเอียดแล้วค่ะ และ หนูก็ควรไปหาคุณหมอเพื่อตรวจสภาพช่องปากให้ชัดเจนด้วยค่ะ
ส่งโดย: หมอหนิง
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 9097  
   
49.49.245.*


« ความเห็นที่ #8 เมื่อ: 01/22/16 เวลา 17:24:49 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

คุณหมอค่ะ วันนี้หนูได้ไปหาหมอมาแล้วค่ะ หนูอุดฟันที่ผุไปหมดแล้ว แล้วหมอก็บอกว่าลิ้นหนูปกติค่ะ
แต่ทำไมหลังกินข้าวถึงยังมีกลิ่นเหมือนเดิมอ่ะมีฝ้าเหมือนเดิมด้วยค่ะแต่ไอก ลิ่นที่ว่านั้นมาจากลิ้นน่ะค่ะ
 
« แก้ไขครั้งสุดท้ายเมื่อ: 01/22/16 เวลา 17:25:51 by popo »
ส่งโดย: popo
สถานะ: Junior Member **
จำนวนความเห็น: 52  
   
58.8.18.*


« ความเห็นที่ #9 เมื่อ: 01/25/16 เวลา 08:31:54 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

กลิ่นของอาหารพบได้บ่อยๆ ลองหลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้เกิดกลิ่น
กลิ่นที่เกิดคราบจุลินทรีย์ เกิดขึ้นได้บ่อยเช่นกัน เพราะคราบจุลินทรีย์ เกิดขึ้นทันทีตั้งแต่หลังแปรงฟัน 1 นาที หากสภาพช่องปากของหนูปกติแล้ว อาจหาตัวช่วยอื่นๆ เช่น น้ำยาบ้วนปาก ลูกอม หรือหมากฝรั่ง เพื่อช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของน้ำลาย และดับกลิ่นปาก
 
กลิ่นปากอาจเกิดจากภาวะภูมิแพ้ กลิ่นปากจากในคอ หรืออวัยวะอื่นใกล้เคียง ลองอ่านความเห็นยาวๆ ที่คุณหมอเคยเขียนไว้ และปรึกษาคุณหมอตัวเป็นๆ ให้เขาตรวจดูจะได้ข้อมูลที่ชัดแจ้งกว่าการตอบคำถามทางอินเตอร์เน็ตนะคะ เพราะหมอสามารถให้ข้อมูลได้เพียงกว้างๆ เท่านั้นค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้ายเมื่อ: 01/25/16 เวลา 08:32:29 by หมอหนิง »
ส่งโดย: หมอหนิง
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 9097  
   
49.49.245.*


Page(s) : 1 


แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print



Reply this Topic reserved for registed member only. Register



  • ข้อความและรูปภาพที่ท่านเห็นส่วนใหญ่ ได้ถูกส่งมาจาก ทางบ้าน
    ทางเว็บไซต์ Thaiclinic.com ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของข้อความและรูปภาพที่ถูกส่งมา

  • ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชนและส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ
    เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง
    ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง

  • ถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมหรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล
    หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ webmaster@thaiclinic.com หรือ กดแจ้งที่ปุ่ม
    "แจ้งลบกระทู้"
    เพื่อให้ทีมงานทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ครับ

ThaiClinic.Com . All Rights Reserved. !--BEGIN WEB STAT CODE-->

Powered by