ThaiClinic.Com - อุดฟันทีเดียว 5 ซี่...เสียวจี๊ดๆ หลังอุดไม่หายเลยค่ะ

หัวข้อ 161: อุดฟันทีเดียว 5 ซี่...เสียวจี๊ดๆ หลังอุดไม่หายเลยค่ะ (จำนวนคนอ่าน 29611 ครั้ง)

« เมื่อ: 09/18/09 เวลา 10:44:35 »

สวัสดีค่ะ คุณหมอ

เข้ามาอ่านกระทู้หลายวันแล้วค่ะ อยากสอบถามคุณหมอค่ะ
คือไปตรวจสุขภาพฟันประจำปี (ทิ้งนานไปถึง 10 เดือนค่ะ)
วันแรกมีการขูดหินปูนปกติ
อีก 3 วัน หมอนัดไปอุดฟัน 5 ซี่....ขอต่รองทีละ 2 ซี่ก็ไม่สำเร็จค่ะ

#2 ซี่กรามบดเคี้ยว...อุดแบบอะมัลกัม
ก่อนอุดไม่ปวดไม่เสียว งดใช้งาน 1 วัน...ผ่านมา 7 วันไม่พบว่าปวดหรือเสียว

# 2 ซี่กรามน้อย ซ้าย-ขวา คอฟันสึก
ทำการเปิดเหงือกแล้วอุดสารสีเดียวกับฟัน ทำการยิงแสง
ก่อนอุดเสียวเวลาดื่มน้ำเย็นบางครั้ง หลังอุดเสียวแค่ไม่เกิน20%

# อีก 1 ซี่...ซี่ตัวปัญหาค่ะ ฟันหน้าข้างเคียงฟันกระต่าย
ผุเป็นรูดำด้านในที่ติดเพดานปากน่ะค่ะ
เพิ่งมีการเสียวตอนดื่มน้ำเย็น 2-3 วันก็รีบวิ่งไปหาหมอเลยค่ะ
(ก่อนหน้านี้ 10 เดือนไปตรวจสุขภาพฟัน ซี่นี้ยังไม่พบว่าผุ)
หมอทำการอุดสารสีเหมือนฟัน ยิงแสง ก่อนอุดเสียวเวลาดื่มน้ำเย็นเล็กน้อย
แต่ปัญหาคือหลังอุดมาผ่าน 2 วันจะเสียวเพิ่มขึ้น
หลังจาก 2-3 วันแล้วก็ยังเสียวอยู่ แถมเสียวมากขึ้นกว่าเดิมด้วย
เสียวแม้กระทั้งดื่มน้ำปกติที่ไม่แช่เย็น สูดลมเข้าปากยังเสียวเลยค่ะ
ทำให้รู้สึกเครียดเหมือนกันค่ะ
ก็เลยไม่แน่ใจว่าเป็นอาการปกติของการอุดด้วยสารสีเหมือนฟันหรือเปล่า

คำถามค่ะ
1. ซี่ฟันหน้าที่อุดสารสีเหมือนฟัน เสียวไม่หายหลังจาก 7 วัน ควรทำอย่างไรค่ะ
แถมเสียวมากขึ้นด้วย ควรกลับไปx-ray รื้อทำใหม่หรือไม่คะ
เป็นไปได้หรือไม่ว่าผุถึงรากฟันแล้ว
รู้สึกเสียใจจังเลยค่ะ ที่ไม่มีการ x-ray ให้คนไข้ก่อนการอุด

2. การอุดฟันพร้อมกัน ครั้งละถึง 5 ซี่ มันมากเกินไปไหมคะ
คือคุณหมอบอกว่าไม่อยากให้เดินทางมาคลินิคบ่อย
เพราะรอยแผลอุดไม่มาก (กลับไปบ้าน นอนปากระบบมทั้งคืนเลยค่ะ)
3. การอุดฟัน ขั้นตอนที่ถูกต้องควรทำการ x-ray ก่อนหรือไม่คะ
ว่าการผุถึงขั้นไหน ส่วนตัวแล้วกลัวหมอฟันตั้งแต่เด็กค่ะ เพราะเคยจัดฟันแล้วต้องผ่าตัดฟันมีปัญหาก่อนหลายจุด
เพิ่งจะมารู้สึกอบอุ่นใจขึ้นตอนทำงานแล้วน่ะค่ะ
4. หลังจากอุดฟันทีเดียว 5 ซี่ ใช้เวลาเกือบๆ 90 นาที...อ้าปากนานจนปวดกรามมากเลยค่ะ กลับมาบ้านมีอาการเจ็บขากรรไกร
แล้วเจ็บจี๊ดๆ ที่ขากรรไกรเวลาหาว หรืออ้าปากกว้างๆ
ต้องทำอย่างไรบ้างคะ เป็นอันตรายหรือไม่
ก่อนหน้านี้ไม่เคยเจ็บขากรรไกรเวลาอ้าปากหาวค่ะ
ตอนจัดฟันมีการสบฟันที่ดีค่ะ

ขอบคุณ คุณหมอมากนะคะ ถามยาวไปหน่อย เพราะกังวลใจ
เพราะลึกๆ ยังหวาดกลัวรอยแผลจากการทำฟันในตอนเรียนน่ะค่ะ

Analysis

ส่งโดย: Analysis

61.19.153.*

« ความเห็นที่ #1 เมื่อ: 09/18/09 เวลา 11:06:42 »

1. อาจจะสังเกตอาการไปก่อนค่ะ อย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้ การอุดฟัน โดยเฉพาะวัสดุอุดฟันสีเหมือนฟัน อาจมีอาการเสียวฟันนานกว่า เพราะด้วยคุณสมบัติของมัน ถ้านานๆ ไปอาการไม่ดีขึ้นเลย อาจกลับไปหาคุณหมอให้เขาตรวจดูว่ามีความผิดปกติอะไร หมอไม่ทราบว่าฟันที่อุดนั้นรูใหญ่หรือเล็ก ลึกหรือไม่ลึก ถ้าฟันผุลึกก็ต้องดูว่าใกล้โพรงประสาทฟันหรือไม่
1.1 อาการเสียวฟันจากน้ำ จากลม ไม่ชัดเจนว่ามีอาการของรากฟัน ต้องอาศัยการตรวจประเภทประกอบ เช่นการเคาะ การถ่ายเอ็กซเรย์ เป็นต้น แต่การเอ็กซเรย์ฟันบางทีก็ไม่จำเป็น ไม่ใช่ว่าคนไข้ทุกคนที่มาอุดฟันจะต้องถ่ายเอ็กซเรย์ก่อน
1.2 ถ้าสมมติว่าฟันผุทะลุประสาทฟันขึ้นมาจริงๆ ขอให้มองเป็นธรรมชาติ มันเป็นเช่นนั้นเอง ฟันผุมันก็ผุของมันอยู่แล้ว เราไม่สามารถไปเปลี่ยนแปลงอะไรได้ เราสามารถแต่มองไปข้างหน้า จะรักษามันอย่างไร ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะมานั่งทุกข์กับอดีตที่ผ่านไปแล้วนะคะ
2. ไม่มากหรอก เรื่องแบบนี้มันแล้วแต่คนน่ะค่ะ แล้วแต่กรณีและความจำเป็น อยู่ที่การตกลงของหมอกับคนไข้มากกว่า บางคนอุดทีเดียวทั้งปาก ยังมี เพราะเขาต้องไปเมืองนอก ค่ารักษาฟันที่เมืองนอกแพงมาก เป็นต้น หรือคนไข้ในต่างจังหวัด การคมนาคมลำบาก มาหาหมอฟันแต่ละทีก็อยากทำให้หมดทั้งปาก การอุดฟันยังเป็นเรื่องจิ๊บๆ บางคนต้องถอนฟันเป็นแถบๆ ก่อนไปฉายรังสีรักษามะเร็ง อย่างนี้ก็มี เป็นต้น
3. ไม่ใช่ทุกคนที่มาอุดฟันจะต้องได้รับการถ่ายเอ็กซเรย์ ดังที่กล่าวไว้แล้ว อยู่ดีๆ ไปรับรังสีทำไมล่ะคะ ถึงแม้ปริมารณรังสีที่ใช้ทางทันตกรรมจะมีปริมาณน้อย แต่ก็ไม่ควรรับถ้าไม่จำเป็น การถ่ายเอ็กซเรย์ มักทำในรายที่ผลตรวจฟันไม่ชัดเจน ก้ำกึ่ง การถ่ายเอ็กซเรย์จะช่วยคอนเฟิร์มการตรวจทางคลินิกได้ ยกตัวอย่างเช่น ฟันผุที่รูใหญ่ๆ รูลึก หรือผุตรงซอกฟัน หมออาจจะถ่ายเอ็กซเรย์เพื่อช่วยประกอบการตัดสินใจรักษา เป็นต้น หรือบางคนมีโรคในกระดูกขากรรไกร มีหนองใต้รากฟัน แบบนี้การถ่ายเอ็กซเรย์ก็จะช่วยให้หมอมองเห็นได้ เป็นต้น
4. ขากรรไกรก็เหมือนข้อต่อกล้ามเนื้อต่างๆ ทั่วร่างกาย เหมือนข้อเข่า ข้อแขน ใช้งานบ่อยๆ นานๆ ก็มีเมื่อยมีล้า มีตึง มีปวดได้ ถ้าได้พักผ่อน อาการก็ดีขึ้นได้ ฉะนั้นก็ควรขยับขากรรไกรแต่พองาม ไม่อ้าปากกว้างจนเกินไป พูดคุยแต่น้อย อ้าปากรับประทานอาหารแต่น้อย ก็จะช่วยได้
4.1 การประคบตรงแก้ม หน้าหูด้วยผ้าอุ่นๆ ก็จะช่วยผ่อนคลายได้ หากมีอาการมาก อาจหายาแก้ปวดมารับประทาน
4.2 การอ้าปากหาว อ้าปากกว้างๆ กินข้าวคำโต ปกติก็ไม่ควรกระทำ เพราะเป็นการใช้งานขากรรไกรมากเกินไป เวลาที่รู้สึกว่าจะหาวให้พยายามเกร็งเอาลิ้นแตะเพดานปาก จะช่วยจำกัดระยะการอ้าปากได้พอเหมาะ ลองดูนะคะ
4.3 อาการที่หนูเป็นอาจเป็นแค่ชั่วคราว แต่เห็นว่าเคยจัดฟันและผ่าตัดด้วย ซึ่งจะส่งเสริมให้มีอาการได้มาก สาเหตุอื่นๆ ก็ได้แก่การใช้งานขากรรไกรมากไป การอ้าปากกว้าง การอ้าปากหาว การคุยโทรศัพท์ข้างเดียว แนบหูนานๆ การนั่งเท้าคาง เป็นต้น พฤติกรรมเหล่านี้ล้วนส่งเสริมอาการของข้อต่อขากรรไกรได้ รวมทั้ง ความเครียด ความวิตกกังวล ก็พบว่าส่งผลต่ออาการเช่นกัน การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมมีส่วนสำคัญในการช่วยทุเลาอาการของข้อต่อขากรรไกรได้
4.4 อาการของข้อต่อขากรรไกรนั้นซับซ้อนและเรื้อรัง บางครั้งอาจกลายเป็นโรคของข้อต่อขากรรไกรซึ่งต้องใช้เครื่องมือบางอย่างรักษ า ต้องไปปรึกษาหมอ (หากเป็นในอนาคต)

ขอให้หายไวๆ นะคะ

ส่งโดย: หมอหนิง
สถานะ: Executive Member

จำนวนความเห็น: 9097

58.10.15.*

« ความเห็นที่ #2 เมื่อ: 09/18/09 เวลา 11:39:19 »

สวัสดีค่ะ หมอหนิง

คุณหมอหนิงตอบเร็วเกินคาดมากเลยค่ะ
ดีใจมากเลยค่ะที่คุณหมอมาไข้ข้อสงสัย แถมตอบยาวละเอียดชัดเจนดีด้วยค่ะ

# ถ้ายังทรงหรือทรุดกับอาการเสียวฟัน จะไปพบคุณหมอท่านเดิม
ซึ่งท่านก็เป็นหมอฟันผู้หญิงที่อ่อนโยนมากเลยค่ะ ก็เลยรู้สึกอบอุ่นค่ะ
จริงๆ แล้ว ควรใช้ระยะเวลาดูอาการก่อนกลับไปหาคุณหมอ
เมื่ออาการเสียวยังไม่ดีขึ้น รอดูอาการเองนานเท่าไหร่ดีคะ

# ถ้าหากมีการผุถึงรากฟันในซี่ดังกล่าว
ระยะเวลาในการรักษา และราคาในคลินิกประมาณเท่าไหร่คะ
เพราะเคยได้รับคำแนะนำว่า หากจะแก้ปัญหาซี่เดิม
ให้เริ่มต้นกลับไปหาคุณหมอท่านเดิมก่อน เพื่อง่ายต่อประวัติคนไข้

- เนื่องจากเคยจัดฟันเมื่อ 10 ปีก่อน
จึงเป็นคนที่แปรงฟันหลังอาหารทุกมื้อเป็นประจำ
และใช้ไหมขัดฟันวันละ 1 ครั้งมื้อเย็น
การแปรงฟันหลังอาการทุกมื้อ จะเป้นการทำลายสภาพฟันหรือไม่คะ

- ช่วงที่รอการฟื้นฟูความเสียวฟันด้วยตัวมันเอง
ควรหลีกเลี่ยง หรือช่วยเหลือตนเองอย่างไรบ้างคะ

ต้องขอบพระคุณ คุณหมอหนิงมากเลยค่ะ
ขอให้คุณหมอมีสุขภาพแข็งแรงนะคะ
จะได้มีกำลังมาช่วยไขข้อกังวลให้คนไข้ทุกๆ คนต่อไป

Analysis

ส่งโดย: Analysis

203.113.119.*

« ความเห็นที่ #3 เมื่อ: 09/18/09 เวลา 12:36:17 »

- ระยะเวลาดูอาการ อันนี้แล้วแต่ความอดทนของแต่ละคนนะคะ ส่วนใหญ่จะพบว่า อาการจะค่อยๆ ลดลง ทิ้งห่างไป อะไรแบบนี้ ถ้าอาการแย่ลงก็จะรู้สึกตัวเองว่า เอ๊ะ น่าจะมีอะไรผิดปกติ ลองดูซัก 1 เดือนก่อนก็ได้ค่ะ แต่เชื่อว่า ถ้าฟันนั้นไม่ได้ผิดปกติ อาการจะลดลงค่ะ
- การรักษารากฟัน ในฟันหน้า ไปหาหมออย่างน้อย 2 ครั้ง แล้วแต่เทคนิคของคุณหมอและความยากง่ายของฟัน ครั้งหนึ่งก็ประมาณ 30-60 นาที ราคาประมาณ 2-3 พันบาท การไปรักษากับคุณหมอท่านเก่าเป็นเรื่องที่ดี ถูกแล้วค่ะ
- การแปรงฟัน ถ้าแปรงอย่างถูกวิธี ก็ไม่เป็นไร (หากสงสัยว่าตนเองแปรงถูกวิธีหรือไม่แนะนำว่าไปให้คุณหมอสอนค่ะ) แต่ถ้าแปรงผิดวิธี จะเป็นการทำลายฟัน ทำให้คอฟันสึก อาการเสียวฟันก็เป็นอาการแสดงอย่างหนึ่งของปัญหานี้ค่ะ โดยส่วนตัวก็แปรงฟันตอนเช้า ตอนกลางวัน และก่อนนอน ไม่พยายามรับประทานอาหารหวาน (ทั้งๆ ที่ชอบมาก Grin

) ถ้าทานก็จะแปรงฟันตามเสมอค่ะ
- ลดอาการเสียวฟัน ให้หลีกเลี่ยงของหวาน ของเย็น ของเปรี้ยว ที่จะไปกระตุ้นอาการ แปรงฟันตามปกติ อาจหายาสีฟันที่มีส่วนผสมลดอาการเสียวฟันมาใช้ หรือน้ำยาบ้วนปาก หากต้องการ ตนเองจะทราบเองว่าอะไรไปกระตุ้นอาการ ก็ให้หลีกเลี่ยง บางทีทำใจออกห่าง ไม่สนใจมัน อาการก็ไม่มี พอเอาใจไปหมกมุ่น ก็รู้สึกขัดเคืองอยู่ตลอด ลองดูนะคะ

« แก้ไขครั้งสุดท้ายเมื่อ: 09/18/09 เวลา 12:37:00 by หมอหนิง »

ส่งโดย: หมอหนิง
สถานะ: Executive Member

จำนวนความเห็น: 9097

58.10.15.*

« ความเห็นที่ #4 เมื่อ: 10/06/09 เวลา 16:51:35 »

เรียนคุณAnalysis

อาการเสียวฟันอาจเป็นปัญหาของกล้ามเนื้อไม่ใช่ตัวฟัน เช่นเดียวกับอาการเจ็บขากรรไกรเวลาหาว ต้องแก้ด้วยการนวดกดจุดเจ็บในกล้ามเนื้อจึงจะหาย

ส่งโดย: Supong Massage

124.120.221.*

Page(s) : 1

Reply this Topic reserved for registed member only. Register

Thai Medical Trading ขายเครื่องมือแพทย์มือสอง /และของใหม่ /ประกัน1ปี

ข้อความและรูปภาพที่ท่านเห็นส่วนใหญ่ ได้ถูกส่งมาจาก ทางบ้าน
ทางเว็บไซต์ Thaiclinic.com ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของข้อความและรูปภาพที่ถูกส่งมา
ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชนและส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ
เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง
ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง
ถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมหรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล
หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ webmaster@thaiclinic.com หรือ กดแจ้งที่ปุ่ม "แจ้งลบกระทู้"
เพื่อให้ทีมงานทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ครับ