แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print

 หัวข้อ 153: เครียด เรื่องแผล ในปาก  (จำนวนคนอ่าน 10450 ครั้ง)
« เมื่อ: 09/14/09 เวลา 21:32:40 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ ลบข้อความนี้

เป็น หนองในปาก มาประมาณ 1 เดือน แล้ว ค่ะ  ต้องไปพบคุณหมอทุกอาทิตย์เพื่อทำการล้างแผ ล (ผ่าฟันคุด) ช่วง 2อาทิตย์แรก กินยาตลอด  แต่ช่วงอาทิตย์  หลังคุณหมอไม่ให้ทานยาแล้ว เนื่อกจากทานมาก
 
ต่อมา คุณหมอได้ทำการ x- rey เพื่อดู ที่บริเวณแผล แต่ปรากฎ ว่าภาพในฟิมล์ ไม่มีปัญหาใดๆทั้งสิ้น ไม่มีโพรงหนอง  กระดูกที่ผ่าฟันยึดติดกันดีมากซึ่งความเป็นจริงแล้ว ยังมีหนองอยู่ แต่ไม่มากนัก
 
อยากทราบว่า หนองที่ยังค้างอยู่ จะมีอันตรายมากไหม กลัวมากค่ะ เพราะสงสัยว่า ขนาดในฟิมล์ ไม่มีปัญหาใดๆๆ แล้วนองเกิดได้อย่าง ไร  
 
แล้ว ถ้าไม่กินยา (คุณหมอไม่ให้กินค่ะ)แผลมีโอกาสที่จะหายเองได้ไหม
 
ค่ะ กลัว หนองไม่หาย แล้ว จะกลายเป็นโรค อื่น ตอนนี้เครียดมา ก เพราะจัดฟันด้วย  
 
 
 
ขอบคุณสำหรับคำตอบ นะค่ะ  อย่างน้อย คำตอบที่ได้ ก็ช่วยให้หายเครียดลงในระดับนึง ค่ะ
ส่งโดย: m     118.172.208.*


« ความเห็นที่ #1 เมื่อ: 09/14/09 เวลา 22:06:15 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

หมอไม่สามารถตอบได้ว่าจะเป็นอันตรายหรือไม่ เพราะไม่ได้เป็นผู้รักษา หมอตรวจช่องปากหนูก็ไม่ได้ เป็นแค่หมออินเตอร์เน็ตมีข้อจำกัดในการตอบคำถาม คนที่จะตอบปัญหาว่าใช่หรือไม่ แก้ไขอย่างไรแบบเฉพาะเจาะจง คือคุณหมอที่รักษาหนู หมอสามารถให้ข้อมูลได้เพียงคร่าวๆ เท่านั้น  
 
- ปกติการมีหนองหากเกิดจากการติดเชื้อของแผล มักพบได้ในช่วงแรกๆ หลังจากผ่า 2-3 วัน การมีหนองในช่วงหลังแบบว่าผ่านไปนานเป็นเดือนแบบหนูมักเกิดจากการทำความสะอา ดแผลไม่ดี คราบจุลินทรีย์ไปหมักหมมในรูแผล ทำให้แผลหายช้า เกิดการอักเสบและเป็นหนองขึ้น ยิ่งถ้าใส่เครื่องมือจัดฟันอยู่ การทำความสะอาดฟันยากขึ้น ทำให้พบปัญหาแบบนี้ได้บ่อย การรักษาต้องเน้นที่การรักษาความสะอาดช่องปากให้ดี รูแผลถอนฟันคุด จะใช้เวลาเป็นเดือนๆ กว่ารูจะตื้นขึ้น
- ยา หากไม่จำเป็นก็ไม่ต้องรับประทาน ถ้าหนูไม่มีอาการอื่นๆ เช่น เป็นไข้ หรือมีข้อบ่งชี้ว่าการติดเชื้อเข้าสู่ระบบร่างกาย ก็ไม่จำเป็นต้องกินยา แนะนำให้สังเกตอาการไปก่อน บางคนรูแผลผ่าฟันคุดตั้ง 6 เดือนยังไม่ตื้นสนิทเลยค่ะ
- หวังจะไม่เครียดดูแลรักษาความสะอาดช่องปากให้ดี เชื่อว่าแผลจะหายในที่สุด พระพุทธเจ้าสอนว่า อย่ากลัวในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง อย่าเอาความทุกข์ที่อยู่ข้างนอกตัวมาใส่ตนที่ไม่มีทุกข์ ปฏิบัติตนให้ดีที่สุด ดูแลความสะอาดแผลให้ดีที่สุด ผลแห่งการกระทำย่อมดีแน่นอนค่ะ
ส่งโดย: หมอหนิง
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 9097  
   
58.64.77.*


« ความเห็นที่ #2 เมื่อ: 09/15/09 เวลา 13:23:04 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ ลบข้อความนี้

ตอนนี้ ดู และตลอดเลย ค่ะ    ทั้งบ้วนปาก หรือแปรงฟันทุกครั้งที่ทานอาหาร   แต่ ระยะ เวลาที่มีหนอง มันนาน เกิน ค่ะ  เคยอ่าน กระทู้ต่างๆๆ ซึ่งคุณหมอบอกว่า ส่วนใหญ่หนองจะหาย 3-5 วัน แต่นี่ มีหนองประมาณ 1 เดือนค่ะ
 
แล้ว มีวิธี อื่นอีกไหม ค่ะ ที่ จะช่วยให้แผล หายเร็ว ขี้น หรือ หนองหาย ควร กินอาหาร อะไรบ้าง    นอกจากบ้วนปากด้วยน้ำเกลือแล้ว สามารถใช้น้ำยาบ้วนปากอื่นๆ ได้หรือไม่     คือปาก เริ่มมีกลินมากขึ้น
 
 
 
 
หนู กลัว หนอง ในปาก มัน จะกลายเป็นโรค อื่นได้  และสามารถคิดเชื้อได้หรือไม่
ส่งโดย: m     119.42.76.*


« ความเห็นที่ #3 เมื่อ: 09/15/09 เวลา 14:25:30 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ก็อย่างที่บอกว่า หนองที่เกิดจากการติดเชื้อของแผลมักเกิดภายใน 3-5 วันแรกหลังการผ่าฟันคุดค่ะ หากเกิดช้ากว่านั้นมักเกิดจากการดูแลแผลไม่ดี ส่วนหนึ่งเกิดจากคราบจุลินทรีย์ที่ลงไปในรูแผลนั้น จากที่หนูเล่ามาว่าจากฟิล์มเอ็กซเรย์และการตรวจช่องปากของหมอ ไม่พบความผิดปกติอะไรสำคัญ ยิ่งสนับสนุนว่า แผลน่าจะค่อยๆ หายตามปกติ ปัญหาเกิดจากการดูแลแผลไม่ดี ยิ่งใส่เหล็กดัดฟัน การทำความสะอาดฟันจะยากขึ้น ตรงฟันกรามบางซี่จะใส่แหวนรอบฟันอีก การทำความสะอาดฟันก็ยิ่งคูณสองไปอีกค่ะ ทำให้คราบจุลินทรีย์ไปหมักหมมตกลงในแผล น่ะค่ะ (ก็ต้องให้คุณหมอตัวเป็นๆ เขาคอนเฟิร์มนะคะ หมอเป็นแค่หมออินเตอร์เน็ต ตอบอะไรแบบฟันธงไม่ได้หรอกค่ะ)
 
ขอให้หนูพยายามดูแลความสะอาดแผลไปเรื่อยๆ เชื่อว่าแผลจะต้องหายในที่สุด เรื่องของร่างกาย ก็ต้องรอให้ร่างกายเป็นตัวรักษาตนเอง ไม่มีอะไรปุบปับหายไว กินยาเม็ดเดียว แข็งแรงเลย ชีวิตจริงไม่ใช่เกมส์  
 
เรื่องอาหาร สามารถรับประทานอาหารตามปกติ ให้ครบ 5 หมู่ หลีกเลี่ยงน้ำตาล
 
เรื่องน้ำเกลือ จะใช้น้ำยาบ้วนปาก ก็ได้ แต่มันจะสิ้นเปลืองเปล่าๆ
 
หนองตรงนั้น เชื่อว่าไม่น่าจะลุกลามเป็นโรคอื่นได้ การติดเชื้อรุนแรงไม่น่ามี หนูไปหาคุณหมอเรื่อยๆ น่าจะถามคุณหมอของหนู เขารักษาหนู เขาเห็นหน้าเห็นฟันหนู เขาจะตอบปัญหาเหล่านี้ให้ดีที่สุด คำตอบของหมอที่พิมพ์ให้อ่านนี้ ขอให้เป็นข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้นนะคะ คำตอบแบบที่ควรจะเป็นมากที่สุด คุณหมอของหนูเขาจะตอบได้ดีที่สุดค่ะ หมอเชื่อเช่นนั้น ขอให้โชคดีค่ะ
ส่งโดย: หมอหนิง
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 9097  
   
58.10.15.*


« ความเห็นที่ #4 เมื่อ: 09/15/09 เวลา 20:13:44 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ ลบข้อความนี้

ขอบ คุณ คุณหมอ หนิงมากค่ะ ที่ให้ คำแนะนำดีๆๆ
ส่งโดย: m     118.172.215.*


Page(s) : 1 


แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print



Reply this Topic reserved for registed member only. Register



  • ข้อความและรูปภาพที่ท่านเห็นส่วนใหญ่ ได้ถูกส่งมาจาก ทางบ้าน
    ทางเว็บไซต์ Thaiclinic.com ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของข้อความและรูปภาพที่ถูกส่งมา

  • ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชนและส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ
    เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง
    ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง

  • ถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมหรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล
    หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ webmaster@thaiclinic.com หรือ กดแจ้งที่ปุ่ม
    "แจ้งลบกระทู้"
    เพื่อให้ทีมงานทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ครับ

ThaiClinic.Com . All Rights Reserved. !--BEGIN WEB STAT CODE-->

Powered by