ThaiClinic.Com - ++++ อุดฟันมา แล้วเกิดอาการเสียวฟัน เคี้ยวแล้วเจ็บ ทำยังไงดีครับ ++++

หัวข้อ 147: ++++ อุดฟันมา แล้วเกิดอาการเสียวฟัน เคี้ยวแล้วเจ็บ ทำยังไงดีครับ ++++ (จำนวนคนอ่าน 149293 ครั้ง)

« เมื่อ: 09/11/09 เวลา 21:57:16 »

คือว่า ได้ไปอุดฟันมา ทั้งหมด 3 ซี่ครับ
ซึ่ง 1 ใน 3 ซี่นั้น คือฟันกรามด้านซ้ายซี่รองจากด้านในสุด

ต้องอุดทั้งหมด 4 ด้าน และเป็นซี่ที่ฟันผุค่อนข้างลึกกว่าซี่อื่น
และยังอุดในด้านของด้านบดเคี้ยว ซึ่งตอนแรกหมอแนะนำให้ผมอุดด้วย
อมัลกัม แต่ผม อยากอุดด้วยสีฟัน หมอก็โอเค

หลังจากที่อุดเสร็จวันแรก ไม่มีอาการอะไรเลย
พอวันที่ 2 ตอนกินข้าวเกิดอาการเจ็บปวดจี๊ด ลงไป

แต่ก็ไม่บ่อยมากนัก โอกาสที่จะเจ็บเวลาเคี้ยว ซัก 10% เท่านั้น
แต่หลังจากนั้นอาทิตย์นึง เริ่มมีอาการเสียวฟันรุนแรงมาก หลังจากดื่มน้ำเย็น

เลยตัดสินใจกลับไปพบหมออีกครั้ง หมอได้อุดเพิ่มให้เติมให้
แต่ผลที่ได้คือ กลับปวดหนักกว่าเดิม ทุกครั้งที่เคี้ยวอาหาร ไม่ว่าจะเป็นก้านผัก
ก็ยังเคี้ยวไม่ได้ แต่อาการเสียวฟันน้อยลงเวลากินน้ำเย็น

วันนี้เลยกลับไปพบหมออีกครั้ง หมอเลยรื้อทีอ่ดให้ใหม่
แต่ยังไม่อุดวัสดุอุดให้ แต่เป็นยาอะไรซักอย่าง อุดแทน
แล้วหมอก็สั่งว่าห้ามเคี้ยวข้างนี้เด็ดขาด อีก 4-5 วันให้กลับมาดูอีกครั้ง

ถ้าเกิดอาการไม่ดีขึ้นแย่ลง คงต้องรักษารากฟัน
แต่ถ้าดีขึ้น หรือทรงตัว อาจจะลองอุดให้ใหม่ แต่คราวนี้คงจะต้องใช้
อมัลกัม แทน วัสดุสีเหมือนฟัน

* ตอนที่ฟันผุก่อนที่จะมาอุด ไม่รู้สึกเจ็บหรือ เสียวฟันอะไรเลย ทุกอย่างเกิดหลังจากการอุด

* เวลาสบฟันกัน กัดฟันธรรมดา ไม่รู้สึกเจ็บเลย ฟันไม่สูงไม่ต่ำไป ปกติดีครับ

++ คำถาม ++

1. สาเหตุที่ทำให้เคี้ยวแล้วเจ็บ หรือเสียวฟัน จากที่ผมเล่า คุณหมอคิดว่าเกิดจากอะไรครับ

2. และผมจำเป็นถึงขั้นต้องรักษารากฟันเลยเหรอครับ แล้วค่าใช้จ่ายแพงมากไหมครับ

3. ถ้าผม จะขอหมอเขาอุดแบบสีฟันเหมือนเดิมได้ไหม ถึงแม้ว่า คุณหมอแนะนำว่า อมัลกัมน่าจะดีกว่า (ผมไม่ชอบ อมัลกัม จริงๆครับ)

4. มีเพื่อนหลายๆคนเคยบอกว่า ทิ้งไว้นานๆอาการเหล่านี้จะหายไปเอง จากที่เพื่อนๆเคยเป็นกัน จริงไหมครับ

5. ถ้าเกิดหมอบอกว่า ผมต้องรักษารากฟัน แล้วผมให้หมออุดไปก่อน แล้วลองปรึกษาคลีนิกอื่นดูก่อน จะดีไหมครับ

6. รบกวนช่วยเพิ่มเติมหรือ ข้อเสนอแนะทีครับ

กราบขอบพระคุณล่วงหน้า ครับผม

Grin

ส่งโดย: bright

118.173.68.*

« ความเห็นที่ #1 เมื่อ: 09/11/09 เวลา 22:18:14 »

1. โดยธรรมชาติ การอุดฟันด้วยวัสดุสีเหมือนฟันจะอาการเสียวฟันได้มากกว่าการอุดฟันด้วยอะมัล กัม (ด้วยคุณสมบัติ)
1.1 อาจเกิดจากฟันผุลึก ก็เหมือนเราเป็นแผล ถ้าเราไม่ไปถูกแผลก็ไม่เจ็บ แต่นี่เราไปขูดแผล เปรียบเหมือนไปอุดฟัน กรอเนื้อฟัน จึงต้องใช้เวลาให้ร่างกายเยียวยาตนเอง ยิ่งฟันผุใหญ่และลึก (ตั้ง 4 ด้าน) อาการจะมีมากกว่ารูเล็กๆ
1.2 นอกจากนี้ฟันที่ผุลึก อาจมีโอกาสที่เชื้อโรคจะเล็ดรอดเข้าไปสู่ประสาทฟัน ซึ่งนานๆ ไปอาการจะรุนแรงขึ้น ทำให้ต้องรักษารากฟัน
2. การรักษาที่คุณเล่ามา สิ่งต่างๆ ที่คุณหมอของคุณกระทำให้คุณ เป็นหมอ หมอก็จะกระทำอย่างนั้นเช่นกัน เหมาะสมดีแล้ว หากสุดท้าย อาการไม่หายหลังจากดูอาการ ก็ต้องรักษารากฟัน ค่าใช้จ่าย ค่ารักษารากฟัน ฟันกรามประมาณ 5-6 พันบาทขึ้นไป
3. ส่วนตัวหมอไม่ชอบให้คนไข้อุดฟันด้วยวัสดุสีเหมือนฟันโดยไม่จำเป็น โดยเฉพาะในฟันกราม ซึ่งใช้บดเคี้ยวอาหาร วัสดุสีเหมือนฟันไม่ทนทานเท่าอะมัลกัม แต่ก็นานาจิตตัง คนไข้บางรายแคร์เรื่องความสวยงาม ก็ว่ากันไป แต่ถ้าคนไข้มีอาการเสียวฟันจากการอุดฟันด้วยวัสดุสีเหมือนฟัน การอุดฟันด้วยอะมัลกัมก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่ใช้ทดแทน
3.1 ถ้าการสูญเสียเนื้อฟันมีมาก หมออาจแนะนำให้ทำครอบฟัน ซึ่งคงต้องให้คุณหมอที่รักษาเขาพิจารณาอีกที
4. ใช่ค่ะ อย่างที่ตอบไว้ในข้อ 1
5. ก็ได้อีกเช่นกัน อะไรที่ยังไม่มั่นใจ การพบหมอหลายๆ คนช่วยคอนเฟิร์ม อาจทำให้คนไข้มั่นใจได้มากขึ้น แนะนำว่าก็อย่าเพิ่งอุดถาวรเลย เพราะการอุดฟันบ่อยๆ การกรอฟันซ้ำๆ รื้อออกบ่อยๆ นั้นไม่ดีต่อฟัน เหมือนโดนกระตุ้นตลอดเวลา จากที่ไม่เป็นอะไร จะเป็นของจริง และทุกครั้งที่มีการรื้ออุดใหม่ จะมีการสูญเสียเนื้อฟันเพิ่มขึ้นไม่มากก็น้อย
6. คุณหมอของคุณ ก็รักษาตามทำนองที่ควรจะเป็นแล้ว สิ่งต่างๆ ก็ได้เขียนเล่าไว้พอสมควร สิ่งที่เล่าไปนั้น เป็นข้อมูลคร่าวๆ เพราะหมอไม่เคยตรวจช่องปากคุณหมอก่อน หมออินเตอร์เน็ตแบบดิฉันมีข้อจำกัดในการตรวจรักษาคนไข้ ซึ่งคุณหมอตัวเป็นๆ ย่อมตอบได้ดีกว่า โดยเฉพาะคุณหมอที่รักษาคุณอยู่ เขาจะมีประวัติ เขาน่าจะตอบคำถามของคุณได้ดีที่สุดนะคะ ขอให้โชคดีค่ะ

ส่งโดย: หมอหนิง
สถานะ: Executive Member

จำนวนความเห็น: 9097

58.64.77.*

« ความเห็นที่ #2 เมื่อ: 09/11/09 เวลา 22:23:46 »

รบกวนถามคุณหมอหนิงอีกนิดนึงครับ

ว่า จากการอุดครั้งแรกเลย ที่หลังจากอุดเสร็จ ไม่มีอาการอะไรเลย

แต่อีกวัน 2 วัน ไปเรื่อน จนเป็นอาทิตย์ อาการเหล่านี้ กลับมีมาให้เห็น

และเพิ่มมากขึ้น แสดงว่า ตอนแรกก่อนที่จะอุดนั้น มันไม่มีปัญหาเหรอครับ

แล้วทำไมหลังจากการอุดแล้วถึงมีอาการได้

และถ้าผมไม่มาอุด ปล่อยฟันผุนั้นทิ้งไว้ มันก็ไม่เป็นผลดีใช่ไหมครับ

ถึงแม้มันจะไม่มีอาการอะไรเลย

* และส่วนตัวคุณหมอหนิง คิดว่าผมควรอุดด้วย อมัลกัม จะดีกว่าใช่ไหมครับ

ส่งโดย: bright

118.173.68.*

« ความเห็นที่ #3 เมื่อ: 09/12/09 เวลา 06:20:34 »

- อาการที่เล่ามา โดยปกติ ถ้าไม่มีอาการมาก่อน จากนั้นก็เริ่มมีและเป็นมากขึ้นๆ อาจหมายถึงฟันผุทะลุประสาทฟันก็ได้ ซึ่งยังไม่สามารถตัดสินใจได้ 100% ว่ามีสาเหตุจากอะไรต้องอาศัยการตรวจทางคลินิก และอาจต้องดูฟิล์มเอ็กซเรย์ร่วมด้วย
- เนื่องจากประสาทฟันค่อยๆ อักเสบ อาการจึงมีในภายหลัง เมื่อภูมิต้านทานของเราแพ้ต่อเชื้อแบคทีเรีย
- ลองสังเกตุว่า ทานน้ำร้อนแล้วปวดฟันหรือไม่ ซึ่งอาการนี้มักจะพบในรายที่ฟันผุทะลุประสาทฟัน แต่ถ้าไม่ใช่ อาการก็ยังคลุมเครืออยู่ว่ามีสาเหตุอะไร ต้องดูหลายๆอย่างประกอบดังว่าไว้ข้างต้น
- การปล่อยฟันทิ้งไว้ ไม่รักษาจนสุดทางนั้นไม่ดี ควรเลือกสักอย่าง การไม่ทำอะไรอาจทำให้อาการของโรคลุกลามได้ เช่นปวดมากขึ้น เป็นหนอง วัสดุอุดฟันชั่วคราว รั่วซึมได้ง่าย อายุไม่นาน
- ถ้ายังอุดได้ การอุดฟันด้วยอะมัลกัมในฟันกรามจะแข็งแรงกว่า แต่ถ้ารูใหญ่มากๆ ก็อาจอุดไม่อยู่ อาจต้องทำครอบฟันแทนซึ่งต้องปรึกษาคุณหมอที่รักษาอีกทีว่าวิธีไหนเหมาะ

ส่งโดย: หมอหนิง
สถานะ: Executive Member

จำนวนความเห็น: 9097

58.64.77.*

« ความเห็นที่ #4 เมื่อ: 09/13/09 เวลา 15:09:22 »

ตอนนี้ ผมอาการดีขึ้นแล้ว เสียวฟันน้อยลง

ถ้าวันอังคารที่หมอนัดให้ไปพบ ได้อุดฟันใหม่อีกครั้ง

แล้วถ้าเกิดว่า หลังจากการอุด ยังมีอาการ เคี้ยวแล้วเจ็บอยู่

ถ้ารอดูไปซักระยะนึง มีโอกาสที่มันจะหายเจ็บเวลาเคี้ยวไหมครับ

เหมือนกับอย่างกรณีที่ ฟันซี่นึงของผม เคยเสียวมาก ก็ปล่อยทิ้งไว้ซักระยะนึง

มันก็หายเสียวไปเอง เป็นไปได้ไหมครับ

ส่งโดย: bright

125.24.38.*

« ความเห็นที่ #5 เมื่อ: 09/13/09 เวลา 20:22:44 »

อาการเคี้ยวเจ็บ มักเกิดจาก การสบฟันไม่ปกติ หรือสบสูง สบค้ำ ค่ะ แต่อีกอย่างก็คือ การอุดฟันด้วยวัสดุสีเหมือนฟันนั้น มันรองรับแรงได้ไม่เท่ากับวัสดุอะมัลกัม ฉะนั้น แรงบดเคี้ยวอาจกระจายลงไปมาก ทำให้รู้สึกเจ็บน่ะ

อาคารเคี้ยวเจ็บ ต้องหาจุดแก้ไข ไม่น่าหายได้เอง อาการเสียวฟันจากกรณีอื่นเช่น ทานน้ำเย็น แบบนี้จะหายได้เมื่อฟันมีการเยียวยารักษาตนเอง ดังที่หมอเคยกล่าวไว้ในความเห็นก่อน

ยังไงก็ลองดูนะคะ ขอให้โชคดีค่ะ

ส่งโดย: หมอหนิง
สถานะ: Executive Member

จำนวนความเห็น: 9097

58.64.95.*

« ความเห็นที่ #6 เมื่อ: 09/15/09 เวลา 14:02:56 »

อ๋อ อย่างนี้นี่เอง งั้นก็เท่ากับว่า คุณหมอแนะนำให้ผม อุดแบบอมัลกัม ดีกว่าใช่ไหมครับ

ขอบคุณมากครับ

แล้วถ้าสมมติว่า อุดแบบ อมัลกัมไปแล้ว

วันนึงถ้าอยากอุดแบบสีฟัน สามารถทำได้ไหมครับ

ส่งโดย: bright

125.24.95.*

« ความเห็นที่ #7 เมื่อ: 09/15/09 เวลา 14:28:06 »

ความเห็นส่วนตัว ควรอุดแบบอะมัลกัม (ถ้ามันพอจะอุดได้ บางทีมันอุดไม่ได้เพราะรูใหญ่ ไม่มีที่ยึดอยู่)

ในอนาคต สามารถเปลี่ยนวัสดุอุดได้ แต่มีความเห็นส่วนตัวว่า ถ้าฟันสามารถใช้งานได้ปกติ ไม่ควรไปกรอฟัน อุดฟันใหม่ (แค่เพื่อความสวยงาม) เพราะทุกครั้งที่มีการกรอฟัน เนื้อฟันแท้ๆ จะเสียไปด้วยจากการกรอฟันไม่มากก็น้อย อาการเสียวฟันอาจกลับมาอีก หรือเชื้อโรคอาจแทรกทะลุเข้าไปในโพรงประสาทฟันได้ (เห็นว่ารูเก่าก็ใหญ่อยู่ด้วยใช่ไหมคะ?) ฉะนั้นถ้ายังใช้งานได้ ก็ให้ใช้งานไปก่อน จนของเก่า บิ่นแตก ฯลฯ ก็ค่อยไปปรึกษาคุณหมอเขาอีกทีน่ะค่ะ

ขอให้โชคดีค่ะ

ส่งโดย: หมอหนิง
สถานะ: Executive Member

จำนวนความเห็น: 9097

58.10.15.*

« ความเห็นที่ #8 เมื่อ: 09/15/09 เวลา 16:22:15 »

ขอบคุณ คุณหมอ หนิงมากนะครับ

กำลังจะออกไปหาหมอแล้วครับ

ส่งโดย: bright

125.24.95.*

« ความเห็นที่ #9 เมื่อ: 09/15/09 เวลา 17:39:16 »

กลับมาแล้วครับ คุณหมอ

สรุปว่า หมอเขาก็ยังไม่อุดให้ครับ ถามว่าอาการดีขึ้นไหม

ก็รู้สึกเสียวฟันน้อยลง แต่เคี้ยวแล้วเจ็บรึเปล่า ผมก็ยังไม่แน่ใจ

เพราะยังไม่ได้ลองเคี้ยวเลยอะครับ กลัวยาที่ใส่ไว้หลุด

แต่เอาเจ็บไปจิกๆดู ก็ยังเจ็บอยู่นิดๆ (ก่อนไปหาหมอ)

ไปถึงหมอเขาก็เอาเครื่องมือขูดๆ ยาที่อุดออก ระหว่างนั้นก็มีเสียวๆบ้าง

แล้วแต่จุดที่หมอขูด เสร็จแล้ว หมอก็ใส่ยาเหมือนเดิมให้ผมอีก

แล้วก็ห้ามเคี้ยวข้างนั้น 1 วัน แล้วอีก 10 วันหมอเขาก็นัดมาดูอาการใหม่ครับ

ส่งโดย: bright

125.24.95.*

« ความเห็นที่ #10 เมื่อ: 09/15/09 เวลา 18:28:47 »

ค่ะ ก็ดูอาการต่อไปนะคะ บางที คุณหมออาจจะรอให้ร่างกายได้เยียวยารักษาตัวเองน่ะค่ะ พอดีขึ้นจนระดับที่หมอเขามั่นใจ หมอเขาจึงจะอุดถาวรให้น่ะค่ะ ขอให้โชคดีค่ะ

ส่งโดย: หมอหนิง
สถานะ: Executive Member

จำนวนความเห็น: 9097

58.10.15.*

« ความเห็นที่ #11 เมื่อ: 09/15/09 เวลา 19:47:45 »

เป็นไปได้ไหมครับ ว่าตอนแรกที่ฟันผุ ยังไมได่อุด ที่ไม่รู้สึกเจ็บอะไรเลย

เพราะมันยังไม่ถึงรากฟัน

แต่หลังจากการอุด คือตอนอุด ต้องกรอฟันตรงส่วนนั้นออก

แล้วพอกรอ เลยทำให้ไปใกล้หรือไปถูกรากฟันเข้า เลยมีอาการแบบนี้

หลังจากการรักษา ทั้งๆที่ก่อนอุดไม่เป็น

เป็นไปได้ไหมครับ

ส่งโดย: bright

125.24.95.*

« ความเห็นที่ #12 เมื่อ: 09/15/09 เวลา 21:40:22 »

อะไรๆ ทางการแพทย์ก็เป็นไปได้ทั้งนั้น แต่จะเป็นเช่นนั้นหรือเปล่า หมอก็ตอบไม่ได้ค่ะ เพราะไม่ใช่คนรักษา อาจจะเป็นอาการปกติ หรืออาจจะผิดปกติก็ได้

- อาจจะเป็นอยู่แล้ว พอไปเปิดทางก็ประจวบเหมาะมีอาการ เหมือนเปิดจุกขวด ก็พรั่งพรู
- อาจจะเป็นเพราะการกรอฟันไปโดน หรือใกล้ๆ ประสาทฟัน
- อาจจะเพราะประสาทฟันถูกกระตุ้น เหมือนผิวใหม่ไม่เคยถูกเปิดเผยมานาน โดนแดดหน่อยก็ดำง่าย ดั่งเนื้อฟันไม่เคยถูกเปิดเผยมานาน โดนกรอผิว ถูกความเย็น ถูกแรงเสียดสี ก็มีอาการได้

ฯลฯ ยกให้ 3 ตัวอย่าง จะเห็นว่า อะไรๆ ก็เป็นไปได้ค่ะ

ส่งโดย: หมอหนิง
สถานะ: Executive Member

จำนวนความเห็น: 9097

58.64.95.*

« ความเห็นที่ #13 เมื่อ: 10/05/09 เวลา 11:30:35 »

เรียนคุณbright

ทันตแพทย์เป็นการแพทย์แขนงหนึ่งในการแพทย์แผนปัจจุบัน ซึ่งเป็นหลักการแพทย์ที่เข้าใจชีวิตของเราแบบเครื่องจักรธรรมดา ปัญหาอาการเสียวฟัน ปวดฟัน จึงเป็นเรื่องของการที่ฟันมีรู ทำให้มีอะไรเข้าไปในรูทะลวงไปถึงเส้นประสาทที่รากฟันจึงเกิดอาการเสียวหรือป วดฟัน

แต่ความจริง ชีวิตร่างกายของเรามีระบบโปรแกรมควบคุมการทำงาน ปัญหาอาการเสียวฟัน ปวดฟัน เป็นอาการทาง "สัญญาณเตือนภัย" ในการอุดฟันจะมีแรงมากระทำต่อฟันเหมือนกับกล้ามเนื้อทำงาน คุณอาจจะเคยยกของหนักในท่าที่ไม่เหมาะสมนักแต่มันก็ไม่ได้เกิดอาการปวดหลังใ นทันที ผ่านไปวันรุ่งขึ้นหรืออีกหลายวันจึงจะรู้สึกปวดหลัง เช่นกัน อาการปวดฟัน เสียวฟัน เป็น "สัญญาณเตือนภัย" มันอาจเป็นๆหายๆ หรือเป็นเรื้อรังได้

เมื่ออาการเสียวฟัน ปวดฟัน เป็นปัญหาของ "สัญญาณเตือนภัย" มันก็จะมี "สวิทช์" สำหรับปิดสัญญาณเตือนภัย คงต้องไปปรึกษา "การแพทย์ของการรักษาทางโปรแกรม"

ส่งโดย: Supong Massage

124.122.164.*

« ความเห็นที่ #14 เมื่อ: 11/15/09 เวลา 21:22:20 »

ขอถามคุณหมอ

ผมไปรักษารากฟันครบทุกครั้งแล้ว จนวันนี้หมอได้ใส่ที่ครอบฟัน แต่พอผมเคี้ยวอาหารกลับยังรู้สึกเจ็บๆอยู่ ทั้งๆที่น่าจะไม่มีอาการปวดอีกแล้วครับมันเกิดจากอะไรหรือครับช่วยตอบหน่อยน ่ะครับ

ส่งโดย: หมู

124.120.203.*

« ความเห็นที่ #15 เมื่อ: 11/23/09 เวลา 19:41:04 »

คุณหมอค่ะช่วงนี้ฟันหนูหลุดป๊บ....มันก็ขึ้นนะค่ะ[โดยปกติ]แต่ช่วงนี้ฟันหนูขึ้นช้ามากเพราะอะไรค่ะ

ส่งโดย: nior

125.24.110.*

« ความเห็นที่ #16 เมื่อ: 11/23/09 เวลา 20:26:31 »

on 11/15/09 เวลา 21:22:20, หมู wrote:

อาจมีการสบฟันสูง หรือซอกฟันอาจไม่พอดีหรือสิ่งไปติดขัด ควรกลับไปให้คุณหมอตรวจดูเพื่อกรอแก้ไขค่ะ

on 11/23/09 เวลา 19:41:04, nior wrote:

ไม่ต้องตกใจ ใจเย็นๆ เดี๋ยวมันก็คงขึ้นตามลำดับค่ะ ช้าบ้างเร็วบ้างไม่มีกฎเกณฑ์แน่นอน

ส่งโดย: หมอหนิง
สถานะ: Executive Member

จำนวนความเห็น: 9097

58.64.77.*

« ความเห็นที่ #17 เมื่อ: 03/23/10 เวลา 10:53:44 »

คุณหมอค๊ะฟันที่เคยปวด ไปอุดจะมีอันตรายไหมค๊ะ

ส่งโดย: kk

202.149.25.*

« ความเห็นที่ #18 เมื่อ: 03/23/10 เวลา 11:19:41 »

ฟันที่เคยปวดแล้ว ต้องดูที่ขนาดและความลึกค่ะ ต้องสอบถามจากอาการปวดที่เคยมีด้วย ถ้าปวดตอนกินข้าว เศษอาหารไปติดแล้วปวด แบบนี้ยังพอมีทางรอด แต่ถ้าปวดแบบอยู่ดีๆ ก็ปวด ปวดตอนกลางคืน นิ่งๆ ก็ปวด ทำอะไรก็ปวด แบบนี้ ส่วนใหญ่จะไม่รอด

ไม่รอด หมายถึง คงไม่สามารถอุดฟันได้ หากเราทู่ซี้อุดไป ก็อาจจะปวดฟันมากขึ้น หรือเป็นหนอง หรือแก้มบวมได้ ทางรักษาที่ถูกต้องจะต้องรักษารากฟันค่ะ

อย่างไรก็ดี จะต้องดูเป็นรายๆ ไป หากฟันมีปัญหา ควรไปหาคุณหมอฟันเพื่อตรวจสภาพช่องปากดูก่อนนะคะ

ส่งโดย: หมอหนิง
สถานะ: Executive Member

จำนวนความเห็น: 9097

110.164.119.*

« ความเห็นที่ #19 เมื่อ: 03/23/10 เวลา 11:53:26 »

ขอบคุณมากค่ะ

ส่งโดย: kk

202.149.25.*

« ความเห็นที่ #20 เมื่อ: 04/27/10 เวลา 19:11:49 »

ขอชื่นชมหมอหนิง ตั้งใจตอบคำถามมาก ๆ เลยครับ ผมอ่านยังมีรู้สึกขี้เกียจเลย แต่คุณหมอยังขยันตอบคำถาม ขอชื่นชมครับ ขอให้เจริญ ๆ เถอะแม่คุ้น 555

ส่งโดย: ผ่านมาอ่าน

125.25.224.*

Page(s) : 1

Reply this Topic reserved for registed member only. Register

Thai Medical Trading ขายเครื่องมือแพทย์มือสอง /และของใหม่ /ประกัน1ปี

ข้อความและรูปภาพที่ท่านเห็นส่วนใหญ่ ได้ถูกส่งมาจาก ทางบ้าน
ทางเว็บไซต์ Thaiclinic.com ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของข้อความและรูปภาพที่ถูกส่งมา
ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชนและส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ
เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง
ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง
ถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมหรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล
หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ webmaster@thaiclinic.com หรือ กดแจ้งที่ปุ่ม "แจ้งลบกระทู้"
เพื่อให้ทีมงานทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ครับ