แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print

 หัวข้อ 124: มีฝ้าที่ลิ้น มีตุ่ม เล็กๆแดง รู้สึกแสบด้วย..  (จำนวนคนอ่าน 191312 ครั้ง)
« เมื่อ: 08/27/09 เวลา 14:21:56 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ ลบข้อความนี้

คือตอนแรกเป็น ฝ้าคับ ผมก้ใช้วิธี อมน้ำเกลือบ้าง แปลงที่ลิ้นบ้าง อบน้ำยาบ้วนปากบ้าง
มันก้เริ่มหาย..สักพัก เป็นต่อ..เริ่มรู้สึกแสบๆ ที่ลิ้น ตอนแรกก้ไม่ทันสังเกตุคับ มาดูดีๆ มีตุ่มที่ลิ้น เล็กๆ แดงๆ แสบๆ (อักเสธรึป่าว?ก้ไม่รุ)
ตอนนี้เริ่มกล้ว และ เครียด แล้วคับ ว่าจะไปตัวเลือด รอครบ 3 เดือน..
 
ช่วยแนะนำทีคับ
ตอนนี้ผมควรทำอย่างไงดี..
ไปอ่านในเนต ข้อมูลก้สับสน บ้างก้บอกว่าให้แปรงที่ลิ้น บ้างก้บอกว่าไม่แนะนำให้ใช้แปรง ที่ลิ้น เพราะลิ้นไม่ใช้ฟัน ไม่ได้แข็งแรงเหมือนฟัน.. และให้ดื่มน้ำเยอะ..
ยิ่งอ่านยิ่งเครียดดด..
ส่งโดย: คริส Email     125.24.228.*


« ความเห็นที่ #1 เมื่อ: 08/27/09 เวลา 14:38:14 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

คราบฝ้าสีขาวที่ลิ้นที่พบบ่อยที่สุดจะเป็นคราบจุลินทรีย์ จำพวกเดียวกับขี้ฟัน วิธีทำความสะอาดสามารถใช้แปรงสีฟัน ถูได้ตามปกติเลยค่ะ จะได้อุปกรณ์ที่โฆษณาขายโดยทั่วไปก็ได้ แต่ใช้แปรงสีฟันปกติก็ได้ แปรงลิ้นให้สะอาดทุกครั้งหลังการแปรงฟัน
 
คราบฝ้าสีขาวอีกชนิดคล้ายกับคราบจุลินทรีย์แต่จะหนาตัวจับเกาะแน่นกับผิวลิ้ น เวลาขูดลอกออกจะแสบ เห็นเนื้อเยื่อแดงๆ คราบฝ้าสีขาวแบบนี้ อาจเกิดจากการติดเชื้อรา ซึ่งการรักษานอกจากการทำความสะอาดปกติ ก็ต้องรับประทานยา หรือบ้วนปาก ด้วยยาฆ่าเชื้อราด้วย คราบสีขาวที่เกิดจากการติดเชื้อรา อาจเป็นข้อบ่งชี้ของคนที่เป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องชนิดต่างๆ รวมทั้งโรค hiv เพราะโดยปกติ เมื่อร่างกายแข็งแรง ไม่ควรจะติดเชื้อราในช่องปาก นั่นเอง
 
นอกจากนี้คราบฝ้าสีขาว อาจเป็นการหนาตัวของเนื้อเยื่อในช่องปากมากกว่าปกติ ซึ่งมีแนวโน้มจะเป็นอันตรายได้ (แต่พบไม่บ่อย)
 
ส่วนตุ่มเล็กๆ แดงๆ บนลิ้น น่าจะเป็นตุ่มรับรส คือโดยปกติ ลิ้นเราถ้ามองใกล้จะเป็นตุ่มๆ มากมาย บ้างเป็นตุ่มเล็ก บ้างเป็นตุ่มใหญ่ บ้างมีสีซีด บ้างมีสีแดง แต่ละตุ่มก็มีหน้าที่แตกต่างกัน
 
ลิ้นเรา หากโดนของร้อน แปรงไปถูกแรงๆ ก็สามารถเจ็บ อักเสบ เป็นแผล เป็นร้อนใน ได้ ซึ่งโดนปกติ แผลในช่องปากสามารถหายได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์ค่ะ  
 
คุณลองไปหาคุณหมอฟันให้เขาตรวจดูให้ หากมีอาการในช่องปากที่ผิดปกติ คุณหมอน่าจะพอช่วยวินิจฉัย อธิบายและให้การรักษาให้ได้ค่ะ
ส่งโดย: หมอหนิง
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 9097  
   
58.10.15.*


« ความเห็นที่ #2 เมื่อ: 08/27/09 เวลา 20:29:39 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ ลบข้อความนี้

ขอบคุงมากคับ คุณ พี่หมอหนิง..
ผมเหลือเวลาอีก 2 สัปดาห์ ก้ครบ 3 เดือน
ส่งโดย: คลิส     125.24.204.*


« ความเห็นที่ #3 เมื่อ: 09/02/09 เวลา 21:49:39 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ ลบข้อความนี้

คือผมอยากทราบเวลา ในการหายของฝ้าขาวที่ลิ้นธรรมดาอ่ะคับ
ปกติจะใช้เวลาในการหาย กี่วันหรอคับ
ส่งโดย: คริส     125.24.250.*


« ความเห็นที่ #4 เมื่อ: 09/05/09 เวลา 21:45:07 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ ลบข้อความนี้

เป็นตุ่มที่ลิ้นเหมือนกาน แต่ตุ่มจะใหญ่เป็นเม็ดแดงๆๆ สีกล่ำๆๆหลายเม็ดเป็นมาตั้งแต่อายุ 9 ขวบ เคยไปหาหมอที่เชียงใหม่ ตอนอายุ 11 ขวบ เค้าใช้แสงยิงตอนนั้นไม่แน่ใจว่าได้ผ่าหรือเปล่า แต่นอนโรงบาลเกือนเดือน  และก้อหายสักพัก  แต่ก้อยังรู้สึกเจ็บมาเรื่อยๆๆ
ตอนนี้อายุ 23  ปีแล้วค่ะ เม็ดตุ่มก้อยังอยู่และรู้สึกเจ็บขึ้นมากๆๆ ไปหาหมอก้อไม่ทราบสาเหตุเค้าบอกว่าถ้าผ่าอีกที จะพูดไม่ได้ หมอบอกว่า หนึ่งในร้อยที่จะเจอกรณีแบบนี้  เลยไม่กล้าทำไร และไม่ได้ไปหาหมออีกเลย  
เลยอยากจะขอคำแนะนำจากคุณหมอค่ะ
ส่งโดย: การ์ตูน Email     118.172.145.*


« ความเห็นที่ #5 เมื่อ: 04/05/10 เวลา 21:37:43 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ ลบข้อความนี้

สังเกตุตัวเองว่ามีกลิ่นปาก คือลมหายใจไม่สะอาดมันเหมือนปากเราแห้งๆไม่ได้ทานน้ำ ทั้งๆที่เพิ่งแปรงฟันมาประเดี๋ยวนี่เอง กลิ่นเหมือนออกมาจากน้ำลาย ไม่ใช่ในลำคอค่ะ และเวลาทานอาหารบางประเภทจะจับเป้นฝ้าขาวหนาง่าย กลุ้มใจมากค่ะจะคุยกับใครก็ไม่กล้า กลัวเค้าเหม็น ทำงานลำบากมากค่ะ และหนูได้ตัดทอลซิลทิ้งไปประมาณ8ปีก่อน ลิ้นเป็นขาวๆไม่นุ่มเลย ขูดลิ้นเป็นประจำค่ะ ขัดฟนบ่อย ทำไงดีคะ
ส่งโดย: แอน Email     222.123.125.*


« ความเห็นที่ #6 เมื่อ: 05/25/10 เวลา 11:20:58 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 09/02/09 เวลา 21:49:39, คริส wrote:
คือผมอยากทราบเวลา ในการหายของฝ้าขาวที่ลิ้นธรรมดาอ่ะคับ
ปกติจะใช้เวลาในการหาย กี่วันหรอคับ

ไม่มีกำหนดเวลาแน่นอน อยู่ที่การทำความสะอาดเป็นหลัก หากทำความสะอาดดี คราบก็จะลดลง แต่หากคราบเกิดจากการติดเชื้อรา จะรักษายากหน่อ อาจใช้เวลานาน ต้องอาศัยยาช่วยค่ะ
 
on 09/05/09 เวลา 21:45:07, การ์ตูน wrote:
เป็นตุ่มที่ลิ้นเหมือนกาน แต่ตุ่มจะใหญ่เป็นเม็ดแดงๆๆ สีกล่ำๆๆหลายเม็ดเป็นมาตั้งแต่อายุ 9 ขวบ เคยไปหาหมอที่เชียงใหม่ ตอนอายุ 11 ขวบ เค้าใช้แสงยิงตอนนั้นไม่แน่ใจว่าได้ผ่าหรือเปล่า แต่นอนโรงบาลเกือนเดือน  และก้อหายสักพัก  แต่ก้อยังรู้สึกเจ็บมาเรื่อยๆๆ
ตอนนี้อายุ 23  ปีแล้วค่ะ เม็ดตุ่มก้อยังอยู่และรู้สึกเจ็บขึ้นมากๆๆ ไปหาหมอก้อไม่ทราบสาเหตุเค้าบอกว่าถ้าผ่าอีกที จะพูดไม่ได้ หมอบอกว่า หนึ่งในร้อยที่จะเจอกรณีแบบนี้  เลยไม่กล้าทำไร และไม่ได้ไปหาหมออีกเลย  
เลยอยากจะขอคำแนะนำจากคุณหมอค่ะ

หมอไม่แน่ใจว่าคือก้อนอะไร แนะนำว่าไปหาคุณหมอตัวเป็นๆ ให้ท่านตรวจดูดีกว่า บางทีอาจต้องอาศัยกรรมวิธีในการวินิจฉัยหลายๆ อย่าง บางทีอาจต้องผ่าชิ้นเนื้อบางส่วนไปตรวจดู คือมันเป็นไปได้หลายอย่างมาก หมอเป็นแค่หมออินเตอร์เน็ต หน้าตาหรือช่องปากคนไข้ หมอก็ไม่สามารถมองเห็นหรือตรวจได้ จึงไม่สามารถตรวจโรคได้ทางที ไม่แน่ใจว่าตอนนี้พักอยู่ที่ไหน ถ้าอยู่เชียงใหม่ ลองไปหาคุณหมอที่คณะทันตแพทย์ มช. หรือ ถ้าเป็นโรคเกี่ยวกับคอ ก็ควรพบหมอหูคอจมูก (ENT) ให้เขาตรวจดู จะได้ทราบว่าเป็นอะไรแน่ และมีแนวทางในการรักษาอย่างไร อ่ะนะคะ
 
on 04/05/10 เวลา 21:37:43, แอน wrote:
สังเกตุตัวเองว่ามีกลิ่นปาก คือลมหายใจไม่สะอาดมันเหมือนปากเราแห้งๆไม่ได้ทานน้ำ ทั้งๆที่เพิ่งแปรงฟันมาประเดี๋ยวนี่เอง กลิ่นเหมือนออกมาจากน้ำลาย ไม่ใช่ในลำคอค่ะ และเวลาทานอาหารบางประเภทจะจับเป้นฝ้าขาวหนาง่าย กลุ้มใจมากค่ะจะคุยกับใครก็ไม่กล้า กลัวเค้าเหม็น ทำงานลำบากมากค่ะ และหนูได้ตัดทอลซิลทิ้งไปประมาณ8ปีก่อน ลิ้นเป็นขาวๆไม่นุ่มเลย ขูดลิ้นเป็นประจำค่ะ ขัดฟนบ่อย ทำไงดีคะ

เรื่องฝ้าขาวที่ลิ้น ส่วนใหญ่เป็นคราบจุลินทรีย์ ควรเน้นที่การทำความสะอาด แปรงลิ้นเป็นประจำ เรื่องปากแห้ง ให้รับประทานน้ำให้มากๆ วันละ 2 ลิตร จะช่วยได้ ถ้ารู้สึกปากไม่สดชื่น อาจหายาอม หรือหมากฝรั่งเคี้ยว จะช่วยกระตุ้นการหลั่งของน้ำลายได้
 
หรือหากไม่แน่ใจว่าตนเองมีปัญหาสุขภาพช่องปากอะไรบ้าง แนะนำว่าลองไปหาคุณหมอฟันให้ตรวจสุขภาพช่องปากของเราดู จะได้แก้ปัญหาได้ตรงจุดดีนะคะ
ส่งโดย: หมอหนิง
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 9097  
   
183.89.78.*


Page(s) : 1 


แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print



Reply this Topic reserved for registed member only. Register



  • ข้อความและรูปภาพที่ท่านเห็นส่วนใหญ่ ได้ถูกส่งมาจาก ทางบ้าน
    ทางเว็บไซต์ Thaiclinic.com ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของข้อความและรูปภาพที่ถูกส่งมา

  • ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชนและส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ
    เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง
    ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง

  • ถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมหรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล
    หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ webmaster@thaiclinic.com หรือ กดแจ้งที่ปุ่ม
    "แจ้งลบกระทู้"
    เพื่อให้ทีมงานทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ครับ

ThaiClinic.Com . All Rights Reserved. !--BEGIN WEB STAT CODE-->

Powered by