แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print

 หัวข้อ 116: สาเหตุจากโรคเหงือกอักเสบ มีความเชื่อมโยงกับโรคภายในรากฟันหรือป่าวคะ  (จำนวนคนอ่าน 2198 ครั้ง)
« เมื่อ: 08/24/09 เวลา 13:22:11 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ ลบข้อความนี้

สวัสดีค่ะคุณหมอหนิง ..
 อายุ 42 ปี  ..ค่ะ
- ฟันซี่หน้ามีรอยร้าว ได้ หลายปีแล้ว ก่อนที่จะมาทำการรักษาโรคเหงือกอักเสบ  ประมาณ 2 ปี ปัจจุบันยังคงรักษาอยู่ค่ะ .. คุณหมอได้เกลารักษารากฟันซี่หน้านี้ มาแล้ว 2 ครั้ง ก่อนหน้านี้ เดือน มิถุนายน 52 รู้สึกเจ็บเหงือก และตัวฟัน คุณหมอได้ ตรวจ + X-rAy  ก็บอกว่า รากฟันปกติดี ที่เคยเกลารากฟันไว้ได้ผลดีขึ้น อาจเนื่องมาจากว่า ฟันหน้าอีกซี่ไม่มีค่ะ ใส่ฟันปลอม ( คุณหมอเลยสันนิษฐานว่าอาจเกิดจากเวลาเราทานอาหาร แล้วไม่ใส่ฟันหรือป่าว )) .. แล้ว ก็ให้ยาลดบวม  
ยาเคนาลอค มาทา ค่ะ .....
 
วันเสาร์ที่ผ่านมา ก็เริ่มเป็นอีก เหมือนเดิม รู้สึกว่าเหงือกแดง เจ็บฟันเวลาที่ลิ้นไปดุนใส่ .. คุณหมอที่รักษาประจำไม่อยู่  ก็มี คุณหมอคนใหม่มาดูแทน แล้วก็มาเคาะ ๆ ที่ตัวฟัน  แล้วก็บอกว่า ต้องรักษารากฟัน แล้วก็จัดยาแก้อักเสบ ลดบวม และยาแก้ปวด   ..แล้วนัดวันรักษาในวันที่ 15 กันยายน 2552
 
อยากเรียนถามคุณหมอหนิง  คือสงสัยค่ะว่า เป็นอะไรกันแน่ .. ..แล้วถ้ากินยาครบจนหมดแล้ว ระยะห่างในการรักษาฟัน  ควรจะเป็นซักกี่วันดีคะ
ส่งโดย: ศศิธร Email     58.137.129.220 fwd for 10.145.18.120, 10.144.253.*


« ความเห็นที่ #1 เมื่อ: 08/24/09 เวลา 16:05:20 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

หมอเองก็คงตอบไม่ได้เพราะไม่ใช่ผู้รักษา และไม่เคยได้ตรวจช่องปากคุณมาก่อน ได้แค่อ่านจากคำบอกเล่าของคุณ ข้อมูลไม่เพียงพอที่จะวินิจฉันว่าเป็นอะไร นี่ก็เป็นข้อจำกัดของหมออินเตอร์เน็ตแบบหมอ คุณควรจะไปปรึกษาคุณหมอตัวเป็นๆ ให้เขาตรวจดู การเอ็กซเรย์จะช่วยประกอบการวินิจฉัยได้  
 
เท่าที่อ่านดูมันก็เป็นได้ทั้งนั้น เพราะข้อมูลน้อย
 
แต่ตอบคำถามจากหัวข้อกระทู้ว่า โรคเหงือกอักเสบ มีความเชื่อมโยงกับโรคภายในรากฟันหรือไม่ คำตอบคือ ได้ ค่ะ เช่น โรคเหงือกที่เป็นเยอะๆ สามารถลุกลามไปถึงปลายรากฟัน และย้อนขึ้นทำให้ภายในรากฟันมีโรคได้ ในทางกลับกัน โรคภายในรากฟัน (จากฟันผุ ฟันแตก ฟันร้าวจนทะลุประสาทฟัน) ออกจากรากฟัน สามารถกระจายออกสู่กระดูกข้างใต้และทะลุย้อนออกมาทางเหงือกได้เช่นกัน
 
หากเป็นถึงในระดับนี้ ก็จำเป็นต้องรักษาทั้ง 2 โรค จึงจะหาย (ซึ่งโอกาสก็จะน้อยลง เพราะโรคนั้นซับซ้อนมากขึ้น)
 
สรุปกว้างๆ ฟันซี่นั้นของคุณ อาจเป็นแค่โรคเดียว (โรคเหงือก / โรคภายในรากฟัน) หรือเป็นทั้ง 2 โรคเลยก็ได้ ต้องได้รับการตรวจเพิ่มเติม
 
ส่วนเรื่องระยะห่างระหว่างการกินยาและการรักษาฟัน จริงๆ แล้วยาปฏีชีวนะจะให้ฤทธิ์เต็มที่หลังจากเริ่มรับประทานประมาณ 3-5 วัน ค่ะ แต่ความจำเป็นนั้นก็อีกเรื่องหนึ่ง การรักษาฟัน เป็นงานหัตถการ หมายถึง ต้องลงมือรักษา การใช้ยาช่วยเป็นแค่ตัวเสริมเท่านั้น เช่น ฟันผุ กินยาก็คงไม่หาย ต้องไปอุดฟัน เป็นโรคเหงือกก็ต้องเกลารากฟัน ขูดหินปูน เป็นต้น ไม่สามารถกินยาให้หายได้  
 
ขอให้โชคดีค่ะ  
 
 
 Smiley
ส่งโดย: หมอหนิง
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 9097  
   
58.10.15.*


« ความเห็นที่ #2 เมื่อ: 10/15/09 เวลา 07:15:02 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ ลบข้อความนี้

อยากรุ้ขั้นตอนการเกลารากฟัน
ส่งโดย: boonsri Email     118.174.30.*


« ความเห็นที่ #3 เมื่อ: 10/15/09 เวลา 07:32:10 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ไม่ยุ่งยากอะไร คุณหมอจะใช้เครื่องมือคล้ายช้อนเล็กๆ ขูดไปตามผิวฟันแทรกลงไปในร่องเหงือก จนรอบซี่ฟันแต่ละซี่ที่มีปัญหา คล้ายการขูดหินปูน แต่ทีนี้จะทำด้วยมือ ไม่ใช้ไฟฟ้า
 
บางร่องเหงือกที่ลึก คุณหมออาจฉีดยาชาให้ค่ะ
 
ส่งโดย: หมอหนิง
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 9097  
   
58.64.77.*


Page(s) : 1 


แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print



Reply this Topic reserved for registed member only. Register



  • ข้อความและรูปภาพที่ท่านเห็นส่วนใหญ่ ได้ถูกส่งมาจาก ทางบ้าน
    ทางเว็บไซต์ Thaiclinic.com ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของข้อความและรูปภาพที่ถูกส่งมา

  • ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชนและส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ
    เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง
    ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง

  • ถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมหรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล
    หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ webmaster@thaiclinic.com หรือ กดแจ้งที่ปุ่ม
    "แจ้งลบกระทู้"
    เพื่อให้ทีมงานทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ครับ

ThaiClinic.Com . All Rights Reserved. !--BEGIN WEB STAT CODE-->

Powered by