ThaiClinic.Com - รากฟันอักเสบ

หัวข้อ 230: รากฟันอักเสบ (จำนวนคนอ่าน 28313 ครั้ง)

« เมื่อ: 05/28/09 เวลา 14:54:34 »

รบกวนด้วยค่ะ
ตอนนี้อยู่ต่างประเทศมีอาการรากฟันอักเสบจนแก้มบวมเหมือนอมลูกมะนาวไปหาหมอม าแล้วขั้นแรกให้ยาแก้อักเสบ amoxcillin กับ Metronidazole แล้วก็ Codeine/Paracet ลดอาการบวด กินยามา 2 วันอาการบวดดีขึ้นแต้ว่าอาการบวมไม่ดีขึ้นเลย แล้วก็มีอาการคลื่นไส้เล็กน้อย ตอนนี้แทบจะอ้าปากไม่ได้ ถามหมอบอกว่า ยาแก้อับเสบใช้เวลา 48 ชั่วโมงถึงจะออกฤทธิ์ รวบกวนให้คำแนะนำแล้วก็วิธีรักษาด้วยค่ะเพราะว่าอยู่ที่นี่ค่อนข้างลำบากพูด คนละภาษาโดยเฉพาะศัพท์ทางการแพทย์เข้าใจยาก

ส่งโดย: mok

203.171.192.*

« ความเห็นที่ #1 เมื่อ: 05/28/09 เวลา 15:02:21 »

ยาที่ให้ ก็เป็นยาปกติ ที่ให้กันค่ะ แม้ในประเทศไทย ก็ใช้ยานั้น การรับประทานยาควรทานอย่างน้อย 3-5 วัน ยาไม่ออกฤทธิ์ปุบปับ ต้องใจเย็นๆ

เรื่องการรักษา ถ้าบวมออกมานอกช่องปาก (เช่นที่แก้ม คาง คอ) ก็อาจจำเป็นต้องถอนฟันซี่นั้นทิ้ง เพื่อเป็นการกำจัดแหล่งกำเนิดเชื้อหลัก การรับประทานยาจะช่วยได้แค่บรรเทา แต่จะไม่หายขาด

บางกรณี การระบายหนองจากทางตัวฟัน หรือการรักษารากฟัน อาจช่วยให้ไม่ต้องถอนฟันก็ได้ แต่ก็เฉพาะบางกรณีที่การติดเชื้อไม่ลุกลามนัก แต่แบบคุณนั้นลุกลามพอสมควร ถ้าเป็นหมอ หมอคงแนะนำให้ถอนออกมากกว่า

ไม่ทราบว่าอยู่ประเทศอะไร ถ้าภาษาอังกฤษ ศัพท์ทั่วไป ของคำว่า

ถอนฟัน = to pull out
รักษารากฟัน = root canal treatment

ถ้าเป็นภาษาอื่น ลองใช้ google translate ช่วยนะคะ

ส่งโดย: หมอหนิง
สถานะ: Executive Member

จำนวนความเห็น: 9097

58.10.15.*

« ความเห็นที่ #2 เมื่อ: 05/28/09 เวลา 15:12:26 »

ถามอีกนิดนึงค่ะแล้วจำเป็นมั๊ยคะที่จะต้องรักษาอาการบวมและติดเชื้อก่อนที่จ ะถอนฟันออกได้หรือว่าทำได้เลยทั้งที่ยังบวมอยู่

ส่งโดย: mok

203.171.192.*

« ความเห็นที่ #3 เมื่อ: 05/28/09 เวลา 16:42:13 »

รับประทานยาแก้อักเสบที่ได้รับมาให้หมดก่อนค่ะ การรับประทานยาครบจะช่วยให้ระดับของยาในกระแสเลือดนั้นอยู่สูงพอที่จะควบคุม เชื้อโรค หากรีบเกินไปอาจทำให้ร่างกายอ่อนแอ เชื้ออาจลุกลามได้ค่ะ

ส่งโดย: หมอหนิง
สถานะ: Executive Member

จำนวนความเห็น: 9097

58.10.15.*

« ความเห็นที่ #4 เมื่อ: 12/20/09 เวลา 15:27:01 »

ทำไงดีคะมาเที่ยวต่างประเทศหน้านี้บวมเป็นลูกมะตูมเลยไปหาหมอฟันบอกว่าเป็นร ากฟันอักเสบเลยให้ยา amoxcillin กับ Paracet มาทานนี้ทานได้สองวันแล้วหน้ายังไม่ยุบเลยคะ เห็นคุณหมอบอกว่าคงต้องถอนฟันซี่นั้นทิ้งเป็นไปได้ไหมคะว่าการรักษารากฟันจะ ไม่ต้องถอนนะคะ

ส่งโดย: ออย

88.109.201.*

« ความเห็นที่ #5 เมื่อ: 12/20/09 เวลา 23:04:20 »

ถ้ามีอาการบวมขนาดนั้น แสดงว่าโรคลุกลามไปมาก การถอนฟันจะช่วยแก้ปัญหาได้ดีกว่า การรักษารากฟันจะเสี่ยงว่าจะไม่หายค่ะ

คือหากอยากรักษารากฟัน ก็เป็นไปได้ แต่โอกาสหายน้อย ตอนนี้สิ่งที่ต้องกังวลคือกำจัดสาเหตุให้ตรงจุดและเร็วที่สุด ซึ่งวิธีก็คือการถอนฟันออกน่ะค่ะ

ส่งโดย: หมอหนิง
สถานะ: Executive Member

จำนวนความเห็น: 9097

58.9.185.*

« ความเห็นที่ #6 เมื่อ: 03/09/10 เวลา 20:54:17 »

ดิฉันปวดฟันมากจนหน้าบวมไปข้างหนึ่งไปหาหมอหมอบอกว่าเป็นรากฟันอักเสบต้องรั กษารากฟันแต่ดิฉันกลัวเจ็บเลยไม่ไปรักษาจนเวลาผ่านไปสี่ปีก็กลับมาเจ็บอีก
ได้ยินมาว่าถ้าเป็นมากวิธีการรักษารากฟันช่วยไม่ได้ต้องถอนอย่างเดียวแต่ฟัน ที่ดิ
ฉันเจ็บเป็นฟันซี่หน้าสุดเลยจะถอนก็ไม่ได้จะทำอย่างไรดีคะแล้วตอนนี้ดิฉัน
ก็กำลังท้องอยู่ด้วยถ้าไปรักษารากฟันตอนนี้จะเป็นอันตรายต่อลูกในท้องมั้ยคะ
ช่วยตอบที

ส่งโดย: สุภาพร

111.84.121.*

« ความเห็นที่ #7 เมื่อ: 03/09/10 เวลา 21:37:45 »

ถือว่าเป็นบทเรียนสอนใจ นะคะ ว่าปัญหาสุขภาพ ไม่ควรปล่อยไว้นาน นานไปจะสายเกินไป

- คุณเข้าใจถูกแล้วว่า ถ้าฟันผุมากๆ จะต้องรักษารากฟัน ถ้าสมมติไม่สามารถรักษาได้แล้ว เช่น เป็นโรคมากเกิน หรือไม่สามารถทำได้ด้วยกรณีอื่นๆ เช่น งบประมาณ หรือ ไม่มีคุณหมอที่เชี่ยวชาญสามารถรักษาได้ ก็จำเป็นต้องถอนฟันซี่นั้นออก
- ฟันหน้า ก็ถูกถอนได้ ถ้าจำเป็น ค่ะ
- ท้องอยู่ ถ้าอายุครรภ์ 4-6 เดือน สามารถทำฟันได้ไม่มีปัญหา แต่กรณีการรักษารากฟัน อาจต้องมีการถ่ายเอ็กซเรย์ ซึ่งควรหลีกเลี่ยงกรณีตั้งครรภ์ ฉะนั้น หากวางแผนจะรักษารากฟัน ก็คงจะบำบัดแบบฉุกเฉินไปก่อน โดยหมอจะเจาะประสาทฟันระบายหนองออก และใส่ยาคาไว้จนกว่าจะคลอดบุตรก็ค่อยมารักษาต่อจนเสร็จสิ้น
- แต่หากจำเป็นต้องถอนฟัน สามารถทำได้เลย ไม่มีข้อกังวลค่ะ

ส่งโดย: หมอหนิง
สถานะ: Executive Member

จำนวนความเห็น: 9097

58.9.218.*

Page(s) : 1

Reply this Topic reserved for registed member only. Register

Thai Medical Trading ขายเครื่องมือแพทย์มือสอง /และของใหม่ /ประกัน1ปี

ข้อความและรูปภาพที่ท่านเห็นส่วนใหญ่ ได้ถูกส่งมาจาก ทางบ้าน
ทางเว็บไซต์ Thaiclinic.com ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของข้อความและรูปภาพที่ถูกส่งมา
ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชนและส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ
เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง
ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง
ถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมหรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล
หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ webmaster@thaiclinic.com หรือ กดแจ้งที่ปุ่ม "แจ้งลบกระทู้"
เพื่อให้ทีมงานทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ครับ