แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print

 หัวข้อ 225: รากฟันเทียมและรากฟันร้าว  (จำนวนคนอ่าน 8561 ครั้ง)
« เมื่อ: 05/26/09 เวลา 18:02:14 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ ลบข้อความนี้

ประมาณปี 2532 ผมใส่ฟันปลอมแบบมีเดือยที่ฟันหน้า 2 ซี่ ที่คลินิกทำฟันเขตอุตสาหกรรมนวนคร  และเมื่อ 2 ปีที่แล้ว (18 ปีหลังจากใส่ฟันปลอม) มีปัญหาที่ซี่ด้านขวามือของผม มีการโยกและมีตุ่มหนองที่เหงือกหน้าด้านบน ไปพบทันตแพทย์ เป็นคลินิกใหญ่ อยู่ใกล้ๆกับวัดบางบอน ติดถนนใหญ่เอกชัย-บางบอน หมอให้เอ็กซเรย์ทั้งฟิล์มเล็กฟิล์มใหญ่แล้วก็แจ้งว่ารากฟันแตกร้าวแล้วต้องถ อนแล้วใส่ฟันปลอมใหม่แบบไม่มีราก จะใส่แบบเดิมไม่ได้ ผมประสงค์จะใส่แบบติดแน่น จึงตกลงทำแบบใส่รากฟันเทียม ตอนก่อนทำแจ้งว่ารวมเบ็ดเสร็จประมาณ 50,000 บาท ในวันที่ถอนออกรากหรือเดือยแน่นมาก ฟันแตกก่อน จึงใช้คีมคีบที่เดือยโดยต้องออกแรกโยกมากจึงจะสำเร็จ หลังจากเทียวไปเทียวมารักษาตามขั้นตอน ประมาณ 3-4 เดือน ก็ขั้นตอนสุดท้าย คือครอบฟัน ผลปรากฏว่า. ฟันที่โผล่พ้นจากเหงือกน่าเกลียดมากครับเมื่อเทียบกับซี่ซ้าย คือซี่ที่ครอบใหม่นี้จะมีลักษณะเหมือนเหงือกร่นขึ้นไปมาก ทำให้เห็นสีขาวของฟันซี่นั้นสูงเลยจากขอบเหงือกปกติขึ้นไปประมาณ 5-6 ม.ม. แล้วใช้ค่าจ่ายจริงๆ แล้วตกที่ 60,000 กว่าบาท แต่เรื่องเงินไม่มีปัญหาครับ ปัญหาอยู่ที่ฟันหน้า 2 ซี่นี่สิเป็นเป็นฟันโชว์ คุณหมอก็คงจะทราบ แล้วก็มาบอกผมภายหลังว่า น่าจะปลูกถ่ายกระดูกอะไรทำนองเนี้ยก่อน โธ่..พระเจ้าแล้วมาบอกอะไรตอนนี้ครับ คุณหมอฟัน บอกว่าแล้วจะนัดมาดูใหม่ แต่หลังจากนั้นประมาณ 1 สัปดาห์ ผมก็ต้องไปพบหมอเพราะรู้สึกว่าฟันที่เป็นรากเทียมซี่ที่หมอใส่ให้ใหม่มันเบี ยดกับซี่ซ้ายที่เป็นฟันปลอมชนิดใส่เดือย ผ่านมาแล้ว 1 สัปดาห์ยังรู้สึกแน่นปากจนผิดปกติ หมอบอกว่าไม่เป็นไร แล้วเก็บเงินค่าใช้จ่ายอีกนิดหน่อยเป็นค่าน้ำเกลือ ถุงมือ  แล้วก็ไม่ลืมที่จะบอกว่า หมอจะนัดมาอีกเพื่อตรวจตามระยะ แต่ก็ไม่เคยเรียกเลยครับ คงทนเห็นไม่ได้ถ้าจะต้องเห็นฟันหน้าที่เป็นฝีมือของตัวเองได้อีก  
 แต่แล้วเหมือนสวรรค์จะมีตา เอ๊ะ..ไม่ใช่สิ ต้องเป็นสวรรค์กลั่นแกล้ง 2 เดือนที่ผ่านมานี้เอง ผมพบปัญหาอีกแล้ว คือ ฟันหน้าซี่ซ้ายได้หลุดออกมาจากเดือยที่ครอบไว้ (คนละซี่กับที่เป็นรากเทียมนะครับ) ซึ่งไม่มีซีเมนต์เหลือติดเลย เข้าใจว่าเวลาตั้ง 20 ปี ซีเมนต์ก็คงจะละลายหลุดหมดแล้ว จึงไปพบทันตแพทย์ที่ ร.พ. แถว พระราม 2  หมอจับเดือยโยกแล้วบอกว่า รากฟันยังแข็งแรงอยู่ จึงทำความสะอาดแล้วใส่ซีเมนต์ยึดกลับเข้าไปใหม่ และเมื่อ 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมานี้  มีตุ่มหนองเกิดที่เหงือกด้านบนของฟันเจ้าปัญหานี้ แต่ไม่เจ็บร้าวไปถึงรากฟัน ถ้าเอาช้อน (ไม่ใช่ค้อนนะครับ) เคาะแล้วก็ไม่รู้สึกเสียวและเจ็บ แต่จะรู้สึกเจ็บเวลาเอามือไปกดที่เหงือก แต่ก็ไม่มากนะครับ เพียงนิดหน่อย ไม่อยากไปที่ ร.พ. แถวพระราม 2 อีก ก็เลยตัดสินใจไปวัดดวงที่คลินิกที่เคยใส่รากฟันเทียมที่อยู่ถนนเอกชัย-บางบอ น โดยเจาะจงเป็นหมอฟันคนเดิม (รู้สึกว่าจะเป็นเจ้าของ) ให้ถ่ายเอ็กซเรย์ฟิล์มใหญ่  จ่ายซะ 520 บาท แล้วก็บอกว่ามองอะไรไม่เห็น ต้องรื้อออกมาเท่านั้น แต่ก็บอกว่าให้ทำใจไว้ได้เลยว่ารากฟันคงแตกร้าวแล้ว มีแนวโน้มสูงมาก ต้องใส่รากเทียมอีก แถมยังคะยั้นคะยอที่จะให้ใส่รากเทียมซี่อื่นๆ อีก สงสัยจะตาถึงมองเห็นผมเป็นคนมีกะตังค์  ฮิ...ฮิ แต่สมองเราสิหมุนติ้วเลย ทำไงดีครับท่าน ประเด็นอยู่ที่ว่า รากแตกร้าวจริงหรือเปล่า ถ้ามันยังดีอยู่ เป็นเพียงโรคเหงือก เช่น เป็นหนองที่อยู่ปลายรากฟัน แต่ถ้าพี่แกงัดจนแตกร้าว (ก็ตอนทำผมถูกปิดตาอยู่นี่ครับ แล้วก็ไม่มีญาติพี่น้องนั่งอยู่ ข้างๆ ด้วย) แล้วก็บอกว่านี่ไง เห็นมั้ย มันแตกแล้วจริงๆ ผมก็ต้องเชื่อละครับท่าน  และถ้าพี่แกใส่ครอบฟันแล้วเป็นเหมือนซี่ขวา มันจะเป็นยังไงครับเนี่ย เมื่อคิดได้เช่นนั้นแล้วไซร้ จึงขอกลับไปตั้งหลักก่อนครับท่าน
 ที่เล่าซะยืดยาวนี้ไม่ใช่เป็นการต่อว่าต่อขาน หรือ complain อะไรนะครับ เพียงแต่เพื่อเป็นข้อมูลในการอ้างอิงให้ท่านช่วยแนะนำผมใจหน่อยว่า  
1. ควรจะกลับไปที่คลินิกเดิมที่อยู่ถนนเอกชัย-บางบอน แถวๆ วัดบางบอน ให้พี่แกรื้อดีมั้ยครับ ?  
2. หรือท่านจะให้คำแนะนำหรือวิธีการที่ดีกว่านี้หรือไม่ครับ ?
 กรุณาเถอะครับท่าน ตอนนี้ผมสับสน และกังวลใจอย่างมาก ติดสินใจไม่ถูกเลยครับ
ป.ล. ขออภัย พยายามจะ Attach รูปมาให้ดูแต่ทำไม่ได้ครับ
ส่งโดย: วิทยา  เสนานันท์สกุล Email     203.146.112.254 fwd for 192.168.1.*


« ความเห็นที่ #1 เมื่อ: 05/26/09 เวลา 18:30:33 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

1. หมอไม่สามารถตัดสินใจอะไรให้ได้ การเลือกจะรับบริการทางสาธารณสุขกับใคร ที่ไหน เป็นสิทธิของคนไข้ หมอไม่อยากผิดจรรยาบรรณค่ะ ขอประทานโทษด้วยนะคะ
 
2. แต่ที่อยากแนะนำคือ ฟันซี่นั้น (หมายถึงซี่ล่าสุด) จากที่เล่าให้ฟังมา คงมีปัญหาที่รากฟันจริงค่ะ ไม่ใช่โรคเหงือก (อย่างไรก็ตา มหมอพูดแบบที่ไม่เคยตรวจคุณมาก่อน อาจไม่ถูกต้องก็ได้นะ การตรวจเพิ่มเติมจะบอกได้ ไม่ว่าจะเป็นใช้เครื่องมือตรวจ และการเอ็กซเรย์)  
 
ดูอยากระยะเวลา ฟันซี่นั้นคงถึงกาลเวลาของมันแล้ว คนเรามักเข้าใจผิดว่า การรักษารากฟันเป็นการรักษาฟันให้มีอายุอยู่ยืนยาว ทั้งที่ถ้าพูดให้ถูกต้องการรักษารากฟันเป็นเพียงการรักษาให้ฟันซี่นั้นยังคง อยู่ในช่องปากได้นานขึ้นแทนที่จะต้องถูกถอนออกไป เพราะถ้าพูดถึงความมีชีวิตของฟันหลังการรักษารากฟัน ฟันนั้นได้ตายไปแล้ว หมอเคยอ่านงานวิจัยแบบ retrospective (เก็บข้อมูลย้อนหลัง) ในต่างประเทศ ให้อายุการใช้งานฟันหลังจากรักษารากฟันไปแล้วไว้ไม่เกิน 10 ปี โดยฟันกรามจะมีโอกาสสูญเสียมากกว่า
 
หากพูดแบบให้เข้าใจง่ายๆ หน่อยนึง ฟันที่ผ่านการรักษารากฟันมาแล้ว และล้มเหลว หากสภาพไม่สามารถทำการรักษารากฟันซ้ำได้ อาจด้วยโรคเป็นอยู่มากหรือสภาพของฟันไม่เหมาะสม ก็จำเป็นต้องถอนออก และทดแทนด้วยการใส่ฟันปลอม ซึ่งรากเทียมก็เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับฟันปลอมในปัจจุบัน
 
คนไข้ลองหาข้อมูลให้มากขึ้น การตอบปัญหาทางอินเตอร์เน็ตไม่สามารถตอบคำถามแบบเฉพาะเจาะจงได้ เพราะมีข้อจำกัดหลายอย่าง หมอสามารถให้ข้อมูลแบบคร่าวๆ ได้เท่านั้น สิ่งที่หมออยากจะแนะนำคือ คนไข้ควรไปหาคุณหมอหลายๆ ที่ หาก 2 คนไม่พอ ก็หา 3 คน 4 คน 5 คน (ไม่ได้ล้อเล่น) หาจนกว่าที่คนไข้จะได้ข้อมูล จนสามารถตัดสินใจรักษาใดๆ ได้ แล้วค่อยลงมือรักษา ลองคิดดูสิคะ ถ้าคุณหมอ 10 คนพูดตรงกัน หรือเสียงเอกฉันท์พูดตรงกัน ก็พอน่าจะมีน้ำหนักอะไรบ้าง จริงไหมคะ?
 
ขอให้โชคดีค่ะ
ส่งโดย: หมอหนิง
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 9097  
   
58.10.15.*


« ความเห็นที่ #2 เมื่อ: 05/27/09 เวลา 09:26:24 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ ลบข้อความนี้

ขอบคุณหมอหนิงมากครับ ผมคงต้องทำตามที่คุณหมอแนะนำ โดยการไปพบทันตแพทย์หลายๆ ท่าน เพื่อให้ได้ข้อมูลมากที่สุด ก่อนที่จะสินใจทำ
ขอบคุณมากครับ
ส่งโดย: วิทยา  เสนานันท์สกุล Email     203.146.112.254 fwd for 192.168.1.*


« ความเห็นที่ #3 เมื่อ: 06/09/09 เวลา 09:55:37 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ ลบข้อความนี้

เรียนปรึกษาคุณหมอ
 
ดิฉันทำรากเทียมมาหลายปีแล้ว ทำพร้อมกันทั้งสามซี ฝั่งขวาสองซีฝั่งซ้ายหนึ่งซี่ ฝั่งซ้ายไม่มีปัญหา มีปัญหาด้านขวาซีก่อนสุดท้ายคุณหมอทำแล้วมันโยกคะ ทำมใช้ได้อยู่สักเกือบสองปี ระหว่างนีั้นก็มีปัญหามาตลอด จนสุดท้ายมันโยก คุณหมอนัดเอ็กซ์เรย์ แล้วบอกว่าต้องเอามันออก ดิฉันกลัวมากเลยค่ะ กลัวคุณหมอเพราะแกมือหนักและไม่ค่อยปราณีตอีกอย่างคุณหมอปล่อยเวลาให้นานกว่ าจะกลับมาดูแล แกจะต้องให้ดิฉันโทรมาถามว่าตกลงต้องทำอย่างไรแล้วแกค่อยนัดค่ะ  ตอนนี้ตัวครอบฟันเอาออกมาเกือบปีแล้ว ไม่ทราบว่าคุณหมอเค้ารออะไร ไม่เข้าใจค่ะ รบกวนปรึกษาคุณหมอว่าดิฉันควรทำอย่างไร อยากเปลี่ยนหมอมากแต่กลัวว่าหมอคนอื่นไม่กล้าทำต่อไห้ค่ะ ไม่ทราบจะทำอย่างไรดี และกลัวอันตรายด้วยค่ะ เพราะว่าฝังไปเกือบสามปีแล้วจะเอามันขึ้นมาไม่มีปัญหาเหรอค่ะ และด้านขวาปากดิฉันก็ชามาตั้งแต่ฝังแล้วคะ
ส่งโดย: เพ็ญศรี Email     58.9.172.*


« ความเห็นที่ #4 เมื่อ: 06/09/09 เวลา 09:58:12 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ ลบข้อความนี้

เรียนคุณหมอ
[color=Green][/color]อยากรบกวนปรึกษาคุณหมอเรื่องรากฟันเทียมค่ะ
ส่งโดย: เพ็ญศรี Email     58.9.172.*


« ความเห็นที่ #5 เมื่อ: 06/09/09 เวลา 10:08:00 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ ลบข้อความนี้

คุณหมอคะ อยากปรึกษาคุณหมอเรื่องรากฟันเทียมที่เคยทำไว้เมื่อสามปีก่อนค่ะ คือทำทั้งสามซีพร้อมๆกันค่ะ ด้านซ้ายหนึ่งซีด้านขวาสองซี อยู่ในสุดและก่อนสุดท้ายหนึ่งซึ่ ด้านขวาปากดิฉันชาจนถึงทุกวันนี้เลยค่ะ ใช้ได้ได้สักระยะด้านขวาจะมีปัญหาตลอดกลับไปแก้กับคุณหมอหลายครั้ง แต่ด้านซ้ายไม่มีปัญหาค่ะ คุณหมอมือหนักมากทำให้แต่ละครั้งจะกลัวคุณหมอมากๆ เลยค่ะ แก่ไม่ค่อยปราณีตและพีถีพีถัด ดิฉันมีประสบการณ์ที่ไม่ดีกับคุณหมอคนดีคะ แก่ไม่ใส่ใจคนใข้เลย จนสุดท้ายฟันด้านขวาก่อนซีในสุดโยกดิฉันบอกแกตั้งหลายครั้งว่าทานอาหารไม่ได ้ จนได้ไปพบแกแล้วคุณหมอก็เอาตัวครอบออกแล้วบอกดิฉันว่าจะเอาตัวรากด้านในออกเ นื่องจากมันโยกจนป่านนี้กว่าหกเดือนแล้วคุณหมอไม่ยังได้ทำอะไรเลย นัดให้ดิฉันไปเอ็กซ์เรย์ฟันแล้วก็เงียบ โทรไปแกบอกว่าไม่ว่าง ดิฉันกลัวว่านานไปมันจะมีปัญหา แต่ก็กลัวมากเลยค่ะเรื่องคุณหมอจะเอาออก เคยไปปรึกษาคุณหมอท่านอื่นตอนที่ทำครั้งแรกกลับมาแล้วปากชา คุณหมอบอกว่าฝังไปนานแล้วถอนขึ้นมายากมาก ทำให้ดิฉันฟังตั้งแต่ตอนนั้นแล้วกล้วมากค่ะ กลัวจนจะเป็นโรคจิตคือทุกครั้งที่ไปหาคุณหมอจะเกร็งมากเวลาแกทำอะไรในฟันเพร าะแต่ละครั้งที่แกทำจะเจ็บมากเลยค่ะ  รบกวนถามคุณหมอว่าดิฉันควรเปลี่ยนหมอไม๊ค่ะ และรากฟันเที่ยมซี่นี้ควรจะเอาออกแล้วต่อไปจะทำอย่างไรดีดิฉันไม่อยากใส่ราก ฟันเทียมแล้วกลับไปใส่ฟันปลอมหรือครอบฟันได้หรือเปล่าค่ะ รบกวนคุณหมอตอบผ่านอีเมลให้ด้ยค่ะ จักเป็นพระคุณยิ่ง
ส่งโดย: เพ็ญศรี Email     58.9.172.*


« ความเห็นที่ #6 เมื่อ: 06/09/09 เวลา 11:36:25 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

- ดิฉันคงตอบไม่ได้ว่าควรเปลี่ยนหมอหรือไม่ คนไข้คงต้องเป็นคนตัดสินใจเอง แต่การสอบถามความเห็นจากคุณหมอหลายๆ ท่าน คนไข้ควรกระทำ จากนั้นก็ค่อยมาตัดสินใจต่อเองน่ะค่ะ Smiley
- รากฟันเทียมควรเอาออกหรือไม่ ก็คงตอบไม่ได้เช่นกัน เพราะไม่ได้เห็นคนไข้มาก่อน อาจเอาจากตัวอักษรทางอินเตอร์เน็ต จึงตอบอะไรไม่ได้มาก แต่โดยหลักการ ถ้ามันโยกมาก ซึ่งอาจเกิดจากเป็นเหงือกอักเสบรอบๆ รากเทียม หรือกระดูกที่รองรับรากเทียมบางมาก อายุของรากเทียมนั้นก็อาจจะน้อย ทางที่ดี ควรไปหาหมอตรวจดูก่อน อีกหลายๆ หมอ ช่วยคอนเฟิร์มค่ะ
- ถ้าเป็นฟันซี่ท้าย บางทีอาจไม่ต้องใส่ฟันปลอม หากจะใส่ฟันปลอม ก็คงต้องตรวจเพิ่มเติม ฟันปลอมมีหลายประเภท หลายการออกแบบ หลายเทคนิคในการทำ ซึ่งถ้าเป็นฟันปลอมแบบถอดได้ จากทำง่ายหน่อย ไม่ยุ่งยาก แต่ถ้าทำเป็นสะพานฟัน (หรือเรียกว่า ฟันปลอมแบบติดแน่น) จะยุ่งยากมาก ฟันที่ใช้เป็นตัวยึดข้างหน้า (ซึ่งตอนนี้เป็นรากเทียมเช่นกันนั้น) จะต้องแข็งแรงพอที่จะรองรับแรงบดเคี้ยว ฉะนั้น คุณหมอเขาจะต้องตรวจเพิ่มเติมอีกหลายอย่างค่ะ ต้องประเมินสภาพขากรรไกร กระดูก ฟัน เหงือก ว่าเป็นอย่างไร ฯลฯ  
 
ขอให้โชคดี ลองไปหาคุณหมอตรวจดูอีกหลายๆ คน หาข้อมูลมากๆ คนไข้จะได้เพิ่มความมั่นใจ จากนั้นค่อยนำข้อมูลต่างๆ มาประมวลและคิดและค่อยตัดสินใจทางเลือกในการรักษาดูนะคะ Smiley
 
ปล. ขอประทานโทษ ที่หมอขออนุญาตตอบตรงนี้ ไม่ตอบผ่านอีเมล์นะคะ
ส่งโดย: หมอหนิง
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 9097  
   
58.10.15.*


« ความเห็นที่ #7 เมื่อ: 12/15/09 เวลา 09:20:36 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ ลบข้อความนี้

เรียนคุณหมอ  
ขอบคุณที่สละเวลาตอบปัญหาให้กับผู้มีปัญหา ในเบื้องต้นนะคะ
ดิฉันได้ทำการใส่รากเทียม เมื่อเดือนมีนาคมปีนี้ค่ะ ก่อนหน้านั้นมักมีอาการปวดๆที่ฟันกรามซี่ในสุดซึ่งเป็นฟันที่เคยรักษารากแล้ ว รากเทียมเป็นซี่ที่อยู่ติดกัน หลังจากใส่ ก็พบว่ามีอาการปวดตรงขากรรไกร เจ็บที่ฟันทั้งสองซี่นี้ สุดท้ายจึงตัดสินใจถอนฟันซี่ที่เคยรักษาราก คือกรามซี่ในสุด ทีนี้อาการหนักกว่าเก่า คือปวดกรามมาก ไปพบแพทย์หลายครั้งมากทั้งหมอฟัน ทั้งหู คอ จมูก สุดท้ายก็พบปัญหาด้วยตนเอง จึงไปพบหมอหู คอ จมูก อีกครั้ง หมอแจ้งว่าต้องผ่าตัด เพราะเป็นโรคกระดูกงอก (ภาษาอังกฤษจำไม่ได้ค่ะ)
เมื่อผ่าตัดแล้ว อาการปวดกรามกลับมากขึ้นหนักกว่าเก่า หมออายุรกรรมเคยให้เหตุผลว่า เป็นการต่อต้านของร่างกายเนื่องมาจากรากเทียม ดิฉันไม่ทราบจะไปพบหมออะไร หรือที่ไหนแล้วค่ะ ตอนนี้ อาการปวดมีมากขึ้นจนไม่ทราบจะทำอย่างไร ทานยาบลูเฟน400 mg เช้า-เย็น ช่วงที่ยาออกฤทธิ์ก็ดีอยู่ค่ะ แต่หลังจากนั้นก็เหมือนเดิม แต่เพิ่งทานยาได้ประมาณ4วันค่ะ  
คุณหมอคิดว่า ดิฉันควรทำอย่างไรดีคะ ขอบคุณ คุณหมอมากค่ะที่กรุณา
ส่งโดย: นวลสิริ Email     125.27.115.*


« ความเห็นที่ #8 เมื่อ: 12/15/09 เวลา 10:19:07 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

หากตัดประเด็นเรื่องอาการฟันผุ (ซี่ในสุด) รากเทียม (ถ้าปกติดี ควรไปให้คุณหมอที่รักษาเขาตรวจดูว่าปกติดีจริงหรือเปล่า) อาการอีกโรคหนึ่งที่น่าสงสัยคือ ก็เป็นโรคเกี่ยวกับความผิดปกติของข้อต่อขากรรไกรและอาการเจ็บปวดของใบหน้า ที่เรียกว่า TMD (temporomandibular disorder) และ orofacial pain ค่ะ  
 
อาการ TMD เกิดจากเอ็นที่รองข้อต่อขากรรไกรหย่อน แล้วไปขวางการเคลื่อนที่ของข้อต่อขากรรไกร ข้อต่อขากรรไกรเลยเสียดสีกับกระดูกข้างใต้ เกิดเสียงดังก๊อกๆ  
 
ส่วนสาเหตุของเอ็นหย่อน มีหลายอย่าง เช่น การใช้งานหนัก การใช้งานผิดประเภท เช่น จากการเคี้ยวอาหารข้างเดียวเป็นเวลานานๆ การคุยโทรศัพท์หนีบหูกับไหล่ การสีไวโอเลิน การหาวกว้าง การอ้าปากกว้าง ฯลฯ อะไรก็ตามที่มีการใช้ขากรรไกรมากเกิน และสาเหตุที่สำคัญ คือ ความเครียด ฉะนั้น โรคนี้จึงมักพบในวัยรุ่น วัยทำงาน การอ้าปากกว้างขณะนอนผ่าฟันคุดอาจกระตุ้นอาการได้ นอกจากนี้การจัดฟันก็อาจกระตุ้นอาการดังกล่าวได้เช่นกัน
 
อาการเจ็บปวดของกล้ามเนื้อใบหน้า ก็เชื่อมโยงกับอาการ TMD ได้เช่นกัน สาเหตุก็ยังไม่แน่ชัด ถ้าไปให้คุณหมอที่เชี่ยวชาญทางด้านนี้ เขาจะมีวิธีการตรวจกดจุดกล้ามเนื้อเพื่อตรวจดูว่ากล้ามเนื้อมัดไหนที่มีความ ผิดปกติ
 
การรักษาทำด้วยการใส่เครื่องมือที่เรียกว่า เฝือกสบฟัน หรือ occlusal splint ซึ่งเป็นเครื่องมือคล้ายๆ กับฟันยางนักมวย แต่แข็งกว่า เครื่องมือนี้จะช่วยหย่อนขากรรไกร เมื่อขากรรไกรหย่อนก็ทำให้ขากรรไกรได้พัก ต้องรักษานานนะคะ กว่าจะดีขึ้น แต่บางคนที่หายเร็วค่ะ ต้องมีการปรับพฤติกรรมในการใช้ชิวิตใหม่ ด้วยนะคะ
 
นอกจากนี้ก็ยังรักษาด้วยการผ่าตัด การใช้ยา การประคบร้อน/เย็น ร่วมด้วยค่ะ
 
อันนี้หมอเล่าให้ฟังคร่าวๆ นะคะ ในประเทศไทยเรามีคุณหมอที่เชี่ยวชาญโรคนี้อยู่น้อย ลองไปหาหมอที่คณะทันตแพทย์ จุฬา แถวสยามสแควร์ หรือ มหิดล แถวอนุสาวรีย์ นะคะ คุณหมอที่เชี่ยวชาญด้านนี้ เรียกว่าคุณหมอทันตกรรมบดเคี้ยว หรือ occlusion ค่ะ    
 
ขอให้โชคดีนะคะ  Smiley
ส่งโดย: หมอหนิง
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 9097  
   
58.9.80.*


« ความเห็นที่ #9 เมื่อ: 12/21/09 เวลา 16:59:58 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ ลบข้อความนี้

ขอบพระคุณค่ะ คุณหมอ
จะลองไปปรีกษาตามที่คุณหมอแนะนำนะคะ เคยจัดฟันด้วยค่ะเมื่อปีที่แล้ว
ตอนนี้ใส่รีเทนเนอร์อยู่(กลางคืน) และเป็นผู้ชอบเคี้ยวอาหารแข็งกรอบค่ะ
แต่ตอนนี้เลิกแล้วเพราะฟันสึกมากเลยค่ะ  และเคี้ยวไม่ได้แล้วค่ะ
ปวดมาก ขอบพระคุณค่ะ
ส่งโดย: นวลสิริ Email     125.27.118.*


Page(s) : 1 


แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print



Reply this Topic reserved for registed member only. Register



  • ข้อความและรูปภาพที่ท่านเห็นส่วนใหญ่ ได้ถูกส่งมาจาก ทางบ้าน
    ทางเว็บไซต์ Thaiclinic.com ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของข้อความและรูปภาพที่ถูกส่งมา

  • ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชนและส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ
    เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง
    ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง

  • ถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมหรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล
    หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ webmaster@thaiclinic.com หรือ กดแจ้งที่ปุ่ม
    "แจ้งลบกระทู้"
    เพื่อให้ทีมงานทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ครับ

ThaiClinic.Com . All Rights Reserved. !--BEGIN WEB STAT CODE-->

Powered by