แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print

 หัวข้อ 221: ถอนฟันแล้วนานแค่ไหน จึงจะใส่ฟันใหม่ได้  (จำนวนคนอ่าน 34742 ครั้ง)
« เมื่อ: 05/24/09 เวลา 20:19:13 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ ลบข้อความนี้

ถอนฟันแล้วนานแค่ไหน จึงจะใส่ฟันใหม่ได้ ผมเป็นเบาหวาน และความดันสูง ทานยาคุมอยู่
 
แบบถอดได้ หรือติดแน่นจะดีกว่ากัน  
 
ผมมีกลิ่นปาก อาจเกิดจากสาเหตุใดได้บ้าง นอกเหนือจากฟันผุ
ขอบคุณครับ
ส่งโดย: ชาวสวน Email     125.24.76.*


« ความเห็นที่ #1 เมื่อ: 05/24/09 เวลา 20:43:22 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ถอนฟันแล้ว ควรรอประมาณ 1 เดือน จึงจะใส่ฟันได้
 
ฟันปลอมแบบถอดได้ ราคาถูกกว่า ทำความสะอาดง่ายกว่า แต่ประสิทธิภาพในการเคี้ยวอาหารก็น้อยกว่า
 
ฟันปลอมแบบติดแน่น ราคาแพงกว่า ต้องมีการกรอฟันข้างเคียงถือเป็นข้อเสีย ดูแลทำความสะอาดยากนิดนึง แต่ประสิทธิภาพในการเคี้ยวอาหารก็ดีกว่า ราคาสูงหน่อย
 
ฟันปลอมแต่ละชนิดมีข้อดีข้อเสียของมัน การจะเลือกฟันปลอมแบบไหน ต้องไปให้คุณหมอตรวจสภาพช่องปากให้ดีเสียก่อน เพราะฟันปลอมแต่ละประเภทมีข้อจำกัดของมัน ฟันปลอมแบบติดแน่นจะมีข้อกำหนดมากกว่า ต้องดูหลายๆ อย่างประกอบ
 
ก่อนการใส่ฟัน คนไข้จะต้องรักษาฟันทั้งปากให้ดีเสียก่อน ฟันที่ต้องอุด เหงือกอักเสบ ฟันที่ต้องถอน ต้องรักษาให้หมดเสียก่อน บางคนมีปุ่มกระดูกแหลมคม ก็ต้องทำการศัลยกรรมออกก่อน จากนั้นเมื่อสุขภาพช่องปากดีแล้ว จึงค่อยใส่ฟันปลอมได้
 
คนที่มีโรคประจำตัว ไม่มีปัญหากับการทำฟันปลอม ยกเว้น หากควบคุมโรคไม่อยู่ เช่น คนที่เป็นเบาหวานคุมน้ำตาลไม่ได้ มักมีปัญหาเหงือกไม่แข็งแรง การทำฟันปลอม ควรใช้ชนิดที่ทำความสะอาดได้สะดวก น่าจะดี  
 
กลิ่นปาก มีหลายสาเหตุ กลิ่นปากมักมีสาเหตุจากภายในช่องปากเป็นหลัก กลิ่นเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ฉะนั้น ให้เน้นที่การทำความสะอาดช่องปาก ทั้งแปรงฟัน ใช้ไหมขัดฟัน อย่าลืมแปรงลิ้นเพราะลิ้นก็มีคราบจุลินทรีย์มาเกาะมากเช่นกัน หากมีโรคเช่นฟันผุ เหงือกอักเสบ ก็ต้องรักษาให้เสร็จสิ้น อย่างนี้กลิ่นปากก็ลดลงได้
 
กลิ่นปากที่เกิดจากนอกช่องปาก เช่น จากระบบทางเดินหายใจ ไซนัส โพรงจมูก ระบบทางเดินอาหาร หรือโรคประจำตัวบางชนิดก็ทำให้เกิดกลิ่นได้ หรือคนที่กินยาบางอย่าง
 
นอกจากนี้กลิ่นปากแบบอื่นๆ เช่น กลิ่นปากตอนเช้า กลิ่นปากก่อนมื้ออาหาร กลิ่นปากเพราะอดอาหาร กลิ่นปากเพราะกินน้ำน้อย ปากแห้ง เป็นต้น
 
หากอยากแก้ปัญหากลิ่นปาก ลองเริ่มต้นจากการไปหาหมอ รักษาสุขภาพช่องปากให้ดี จากนั้นก็เน้นที่การดูแลทำความสะอาดช่องปาก แก้ไปทีละข้อๆ หมอเชื่อว่าอะไรๆ น่าจะดีขึ้นได้ค่ะ
ส่งโดย: หมอหนิง
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 9097  
   
58.64.94.*


« ความเห็นที่ #2 เมื่อ: 09/24/09 เวลา 08:31:06 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ ลบข้อความนี้

แฟนผมเค้าไปจัดฟันมาได้4-5เดือนแล้วเมื่อวันที่21ก.ยที่ผ่านมาหมอฟันนัดไปผั งนอ๊ตผลปรากฏว่านอ๊ตที่ถูกฝังด้านซ้ายหมอฝังไปโดนไซนัสทำให้ตอนนี้หน้าบวมมา กนี้ก็วันที่4แล้วแฟนผมก็มีนำมูกไหลด้วยแล้วเค้าก็ชอบสั่งนำมูกด้วยแต่เค้าจ ะสั่งเบาๆนะครับ ผมอยากถามว่าแฟนผมจะเป็นอะไรไหมครับแล้วจะมีผลข้างเคียงอะไรหรือเปล่า Huh หรือปกติของการฝังน๊อตหน้าจะต้องปวมแบบนั้นอยู่แล้ว Smiley
ส่งโดย: jaranrak Email     222.123.138.*


« ความเห็นที่ #3 เมื่อ: 09/24/09 เวลา 15:27:52 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

อาจจะเป็นผลข้างเคียงของการรักษาน่ะค่ะ แนะนำว่าควรกลับไปหาคุณหมอจัดฟันท่านนั้น เพื่อรับการแก้ไข นะคะ ยิ่งหากมีปัญหาเกี่ยวกับไซนัส อาการอาจจะเรื้อรังนานวันได้ค่ะ
 
การสั่งน้ำมูก ไม่ควรกระทำนะคะ บางครั้งอาจต้องรับประทานยาช่วย แต่ถ้ามีอาการอักเสบในไซนัสด้วย อาจต้องรับประทานยาปฏิชีวนะ ด้วยค่ะ  
 
อย่างไรก็ตาม แนะนำว่าควรไปปรึกษาคุณหมอจัดฟันก่อน จากนั้นหากต้องส่งต่อไปพบคุณหมออะไร ท่านใดต่อ เดี๋ยวคิดว่าคุณหมอเขาคงจะแจ้งให้ทราบอีกทีน่ะค่ะ
 
ขอให้โชคดีนะคะ
ส่งโดย: หมอหนิง
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 9097  
   
58.10.15.*


« ความเห็นที่ #4 เมื่อ: 09/25/09 เวลา 19:09:32 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ ลบข้อความนี้

วันนี้แฟนผมไปหาหมอฟันมาแล้วนะครับหมอฟันบอกว่าแฟนผมเป็นไซนัสครับแต่รอสังเ กตอาการ1อาทิตย์ว่าเป็นแบบเฉียบพลันหรือเรื้อรังครับ หมอไม่ให้ยาอะไรมาทานเลยครับหมอหนิงช่วยแนะนำยาทานให้ทีนะครับ (อ้อลืมบอกไปว่าหมอฟันที่จัดฟันให้แฟนผมเค้ายังเป็นนักศึกษาแพทย์ ป.โทอยู่เลย)
ส่งโดย: jaranrak Email     222.123.182.*


« ความเห็นที่ #5 เมื่อ: 09/25/09 เวลา 19:57:53 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ถ้าตอนนี้มีอาการอยู่ หรือเป็นตั้งแต่แรกเริ่ม เรียกว่า เฉียบพลัน
ถ้าเป็นมานานแล้ว เป็นๆหายๆ เรียกว่าเรื้อรัง
 
แต่อาการเรื้อรังและเฉียบพลันอาจกลับไปกลับมาได้ เช่น ตอนนี้เฉียบพลันอยู่ พอปล่อยไปนานๆ กลับหาย พอนานๆ ไปอีกก็กลับมาเป็น อะไรทำนองนี้น่ะค่ะ
 
หมอแนะนำว่าไปพบคุณหมอจะดีกว่า ถ้ากลับไปหาคุณหมอท่านเก่าก็จะดี หรือไม่ก็ลองไปหาคุณหมอโรคทั่วไปนะคะ (หาคุณหมอฟันท่านอื่นเขาจะไม่ค่อยชำนาญโรคนี้เท่าไหร่ หรือยาที่ใช้รักษาก็อาจไม่ค่อยมีไว้ในคลินิกทำฟันค่ะ)
 
เรื่องยา ไม่กล้าแนะนำ ควรไปหาคุณหมอจะดีกว่า ยาส่วนใหญ่ที่ให้จะเป็นพวกยาลดน้ำมูก (ยาแก้แพ้) ยาปฏิชีวนะ ยาแก้ปวด ประมาณนี้ค่ะ
 
หรือถ้าไม่พร้อมไปหาหมอก็ลองไปร้านขายยาที่มี้เภสัชกรคอยให้คำปรึกษาดูก่อนก ็ได้
 
ขอให้โชคดีค่ะ
ส่งโดย: หมอหนิง
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 9097  
   
58.64.77.*


« ความเห็นที่ #6 เมื่อ: 11/03/09 เวลา 20:58:02 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ ลบข้อความนี้

สวัสดีครับหมอหนิงมีเรื่องปรึกษาอีกแล้วครับที่ผมเคยถามเรื่องฟันแฟนผมจำได้ ไหมครับตอนนี้นอ็ตที่หมอฟันผังด้านซ้ายเกิดอักเสบเป็นหนองครับจะทำอย่างไรดี ครับมียาอะไรที่ทานแก้อักเสบได้บ้าง เอาแบบกินดีที่สุดเลยนะครับ แล้วต้องระวังเรื่องการกินอะไรเป็นพิเศษหรือปล่าวครับ ขอบคุณครับ
ส่งโดย: jaranrak Email     180.183.197.*


« ความเห็นที่ #7 เมื่อ: 11/03/09 เวลา 21:13:43 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

แล้วที่ผ่านๆ มาได้ไปพบคุณหมอแล้วหรือยังคะ เพราะจะได้จัดการได้ตรงประเด็นกว่า  
 
หากอยากรับประทานยาบรรเทาอาการ ควรปรึกษาเภสัชกรก่อนนะคะ  
 
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าไม่แพ้ยากลุ่มเพนิซิลิน แนะนำลองหายา amoxycilin 500 mg รับประทาน 3 เวลาหลังอาหาร รับประทาน 5 วัน  
 
ยาปฏิชีวนะ ที่รุนแรงกว่านี้ ไม่ค่อยอยากแนะนำ เพราะโรคภายในช่องปาก จะต้องกำจัดที่สาเหตุ ยาอะไรก็คงไม่สามารถจัดการได้เด็ดขาด
 
ถ้าปวดด้วย สามารถหายาแก้ปวดมารับประทานได้ค่ะ เช่น พารา / บรูเฟ่น 400 mg  
 
ก็ประมาณนี้น่ะค่ะ ขอให้รีบไปหาหมอนะคะ จะได้หายไวๆ ค่ะ
ส่งโดย: หมอหนิง
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 9097  
   
58.64.89.*


Page(s) : 1 


แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print



Reply this Topic reserved for registed member only. Register



  • ข้อความและรูปภาพที่ท่านเห็นส่วนใหญ่ ได้ถูกส่งมาจาก ทางบ้าน
    ทางเว็บไซต์ Thaiclinic.com ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของข้อความและรูปภาพที่ถูกส่งมา

  • ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชนและส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ
    เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง
    ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง

  • ถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมหรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล
    หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ webmaster@thaiclinic.com หรือ กดแจ้งที่ปุ่ม
    "แจ้งลบกระทู้"
    เพื่อให้ทีมงานทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ครับ

ThaiClinic.Com . All Rights Reserved. !--BEGIN WEB STAT CODE-->

Powered by