ThaiClinic.Com (http://www.thaiclinic.com/cgi-bin/wb_xp/YaBB.pl)
ห้องถามตอบสุขภาพ >> ทันตกรรม >> พิษปรอทใน Amalgam
(Message started by: กลัว on 01/25/10 เวลา 03:00:01)

Title: พิษปรอทใน Amalgam
ส่งโดย กลัว on 01/25/10 เวลา 03:00:01
อยากทราบว่าปรอทที่ใช้ในวัสดุอุด Amalgam มีพิษยังไงบ้างค่ะ

แล้ววจะมีวิธีการกำจัดพิษมันได้ยังไง

คือวัสดุอุดAmalgam ที่อุดเนี่ยมีโอกาสที่ปรอทออกมาทำให้เกิดพิษต่อร่ายกายได้บ้างมั๊ยค่ะ  แล้วถ้าต้องกำจัดพิษเนี่ยต้องทำยังไง

??? ???

Title: Re: พิษปรอทใน Amalgam
ส่งโดย หมอหนิง on 01/25/10 เวลา 09:33:30
เมื่อได้รับสารปรอท สารปรอทจะ กระจายเข้าสู่เซลล์สมอง เริ่มแรกจะชาที่เท้าและมือจากนั้นลามไปถึงแขน ขา ริมฝีปาก ต่อมา 2-3 อาทิตย์ม่านตาหรี่เล็กลง จิตใจหงุดหงิด ไม่สบายใจ กระวนกระวายพูดช้าและไม่เป็นภาษา การใช้มือและเท้า กล้ามเนื้อไม่สัมพันธ์กัน ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ยกแขนขาไปมาอย่างสั่นๆ และชักกระตุก เห็นได้ชัด พูดเพ้อเจ้อหมดสติผู้ป่วยตายในระยะสั้น บางส่วนที่เหลือพิการและทรมานทางร่างกายและจิตใจ

ร่างกายสามารถได้รับปรอทโดยเข้าทางจมูก ปอด ปาก ผัวหนัง โดยซึมผ่านทางกระแสเลือด ไปสู่เนื้อเยื่อต่างๆ

การแก้พิษปรอท
โดยการที่พยายามให้ปรอทซึม ซาบเข้าสู่ระบบทางเดินอาหารให้น้อยที่สุดแล้วพยายามชะล้างออกจากกระเพาะ อาหารให้มากที่สุด โดยให้ผู้ป่วยดื่มนมหรือกินไข่ดิบ หรือให้กินสารต่อต้านพิษคือ โซเดียม ฟอมอลดีไฮล ซัลฟอกซ์วีเลท การแก้พิษเหมือนสารตะกั่ว

เทอร์โมมิเตอร์หรือที่เรามักเรียกกันว่าปรอทวัดไข้และปรอทวัดอุณหภูมิห้อง (ชนิดสีเทา) ที่ใช้กันมาอย่างแพร่หลายเป็นเวลานาน ทำมาจากหลอดแก้วบรรจุสารปรอทอยู่ภายใน สารปรอท (mercury) เป็นสารที่มีพิษมากชนิดหนึ่ง มีลักษณะเป็นโลหะ มันวาว ไหลได้เหมือนของเหลว ดังนั้นจึงควรระมัดระวังในเรื่องการใช้ การเก็บรักษา รวมถึงการกำจัดสารปรอทหากเกิดอุบัติเหตุปรอทแตกขึ้น

ปรอทให้ไอระเหยเข้าสู่บรรยากาศได้ จึงเป็นอันตรายเมื่อสูดดม และเมื่อมีการสะสมการสะสมเป็นระยะเวลานานในร่างกาย เป็นพิษอย่างมากต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำ อาจก่อให้เกิดผลเสียระยะยาวต่อสภาวะแวดล้อมในน้ำ สารปรอทไม่ลุกไหม้แต่จะปล่อยไอพิษออกมาเมื่อได้รับความร้อน หากเกิดอุบัติเหตุทำให้ปรอทรั่วไหลออกมาไม่มาก ให้ใช้ผลกำมะถันโรยลงไปแล้วเก็บกวาด ผงกำมะถันจะคลุมผิวปรอทและบางส่วนกลายเป็นสารประกอบซัลไฟด์ ถ้าจะป้องกันไม่ให้ปรอทให้ไอระเหยออกมา ถ้าปรอทที่ หกมีปริมาณมากอาจใช้คลุมด้วยปูนขาวแห้ง ทราย ผงกำมะถันหรือโซดาแอซ แล้วกวาดเก็บในภาชนะที่ปิดโดยใช้เครื่องมือที่ไม่ก่อให้เกิดประกายไฟ เคลื่อนย้ายออกสู่ที่โล่งระบายอากาศในบริเวณนั้น และทำความสะอาดตำแหน่งที่สารหกหลังจากที่เก็บสารออกหมดแล้ว ปกติเวลาเก็บปรอทไว้ใช้ในห้องปฏิบัติการ เขาจะใส่ในขวดแก้วแล้วปกคลุมด้วยน้ำ เพื่อกันการระเหยของไอต้องดูแลไม่ให้น้ำแห้ง

ปัจจุบัน มีวิธีวัดไข้อื่นอีกหลายวิธี เช่นใช้เครื่องวัดแบบไฟฟ้าที่วัดไข้ได้ทางหู หรือทางใต้รักแร้ ซึ่งเหมาะกับการใช้กับเด็ก เพราะให้ผลที่แม่นยำและรวดเร็ว ไม่ทำให้เกิดความรำคาญกับเด็กมากนัก แต่อุปกรณ์ชนิดนี้มีราคาแพงมาก หรืออาจใช้แผ่นวัดอุณหภูมิทาบกับหน้าผาก ซึ่งใช้เวลาไม่นานนัก และให้ผลได้ค่อนข้างชัดเจน ราคาไม่แพง แต่ใช้ได้กับอุณหภูมิในช่วงไม่กว้างนัก ประมาณ 36-39 องศาเซลเซียส สำหรับการวัดอุณหภูมิห้องก็อาจใช้เทอร์โมมิเตอร์ชนิดแอลกอฮอล์ (สีแดง) หรือแบบดิจิทัลซึ่งปราศจากสารปรอทก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า

พิษปรอทเกิดได้อย่างไร

ไอปรอทหรือปรอทที่เป็นไปและถูกหายใจเข้าไปจะถูกจับไว้ที่ถุงลมปอดเป็นส่วนใหญ่ประมาณ 30 % ของปรอทที่หายใจเข้าไป ส่วนปรอทอนินทรีย์ทั้งที่เป็นโลหะเหลวนั้น ถ้าถูกกินเข้าไปจะไม่ถูกดูดซึมโดยลำไส้ สำหรับปรอทอินทรีย์จะถูกดูดซึมได้ที่ลำไส้ เกลือของปรอทชนิดเมอคิงรัง (HG) จะเปลี่ยนเป็นเกลือของปรอทชนิดเมอคิงริ้ว (HG) ซึ่งละลายน้ำได้จนถูกดูดซึมที่ทางเดินอาหารง่ายและเข้าสู่กระแสเลือด และปรอทอินทรีย์ยังสามารถผ่านเข้าสู่สมองไปทำอันตรายต่อสมองได้เช่นเดียวกันยังสามารถผ่านทางรกไปทำอันตรายต่อทารกในครรภ์ได้ด้วย

ปรอทในกระแสเลือดจะไปจับกลุ่มซัลไฮดริลของเอ็นไซม์ในเซลล์ของร่างกาย ทำให้เซลล์ของร่างกายที่ปรอทจับกับเอนไซม์ที่มี Sulfhydryl (-SH) ไม่ทำงาน จึงเกิดเป็นพิษขึ้นได้ ซึ่งจำแนกได้เป็นพิษเฉียบพลันและเรื้อรัง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะและระยะเวลาที่ร่างกายได้รับปรอท ปรอทที่เข้าสู่ร่างกายส่วนใหญ่จะไปสะสมที่ไตประมาณร้อยละ 50 รองลงไปคือที่ตับ และสมอง จึงทำอันตรายต่ออวัยวะดังกล่าว ปรอทจะ ถูกขับถ่ายออกทางปัสสาวะเป็นส่วนใหญ่ นอกจากนั้นยังถูกขับถ่ายออกทางอุจจาระ เหงื่อ น้ำลาย ลมหายใจ และน้ำนม โดยจะขับออกครั้งหนึ่งได้ในเวลา 30 วัน

โรคพิษปรอทแบบเฉียบพลันเกิดจากการได้รับปรอทเข้าสู่ร่างกายจำนวนมาก ในระยะเวลาสั้น ยังจำแนกตามชนิดของปรอทได้ 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ

พิษปรอทอนินทรีย์ ได้พิษจากการสูดดมไอปรอทมีอาการหายใจลำบาก ไอ มีไข้ อาจรุนแรงถึงขั้นปอดอักเสบ ปวดบวมน้ำ หรือปอดทะลุได้ มักเป็นสาเหตุการตายในเด็กที่ได้รับปรอทได้ นอกจากนั้นจะมีอาการระบบทางเดินอาหารได้ ได้แก่ อาการคลื่นไส้อาเจียน ท้องเสีย แผลในช่องปาก มีน้ำลายออกมาก มีลิ้นรู้สึงรับรสโลหะ (Metallic taste) ได้ และมีอาการของภาวะไตวายได้
พิษเกลือของปรอท มักได้รับพิษโดยการกิน หรือติดเข้าไปกับอาหารที่มีการปนเปื้อนด้วยเกลือของปรอทเม อคิวริว เช่น Murcuric Chloide) มีผลทำให้เกิดลิ้นรู้สึกรับรสโลหะ (Metallic taste) กระหายน้ำ อาเจียน ปวดท้อง ถ่ายอุจจาระเป็นมูกเลือด ปัสสาวะน้อย ไม่ปัสสาวะ มีภาวะไตวาย และเสียชีวิตได้อย่างรวดเร็ว
พิษปรอทอินทรีย์ ปรอทในกลุ่ม Organic Mercury ได้แก่ alkyl mercury มีพิษต่อ ระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้เกิดอาการสั่น เซ ชักกระตุก และมีการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อที่เกิดจากการควบคุมของประสาทผิดปกติอื่นๆ เป็นความผิดปกติแบบถาวร


อาการของโรคพิษปรอทเรื้อรัง

โรคพิษปรอทเรื้อรังเกิดจากการได้รับปรอทเข้าสู่ร่างกายทีละเล็กละน้อยเป็นเวลานาน เข้าไปสะสมในร่างกาย จะเกิดพิษต่อ ระบบสมอง ไต ตับ ผิวหนังและอื่น ๆ โดยมีอาการและอาการแสดงดังนี้ สั่น แบบ Hatter Shakes มีการทรงตัวและการเดินผิดปกติ เซง่าย ชัก กระตุก ชา และเจ็บที่ปลายมือปลายเท้า ปวดศีรษะ หงุดหงิด ซึมเศร้า ขี้ลืม โมโหง่าย ประสาทหลอน พูดผิดปกติ ช่องปากอักเสบ น้ำลายมาก ฟันหลุด พบเหงือกมีเส้นทึบ สีน้ำเงิน หรือน้ำตาล ท้องเสีย น้ำหนักลด ซีด มีภาวะเลือดจาง เม็ดเลือดขาวน้อย อาการของตับและไตอักเสบและอาการอื่นๆ

ความผิดปกติที่แสดงถึงภาวะพิษปรอท

พบความผิดปกติที่อวัยวะเป้าหมายของการเกิดพิษปรอทได้แก่ ความผิดปกติระบบไตมีโปรตีนในปัสสาวะ มีเลือดในปัสสาวะ หรือความผิดปกติทางโลหิตวิทยา เช่น การตรวจนับเม็ดเลือด (Proteinuria , Hematuria , Abnormal CBC )



การป้องกันโรคพิษปรอท

ให้ความรู้แก่ผู้ที่ต้องสัมผัสกับปรอท ได้แก่ ผู้ที่ทำงานในอุตสาหกรรมที่ระบุ หรือผู้ที่ใช้สิ่งที่มีปรอทผสมอยู่เพื่อให้ตระหนักและป้องกัน
ผู้ประกอบการจัดให้มีสถานที่ทำงานที่ปลอดภัย สะอาด ไม่เป็นที่เก็บกักฝุ่นและละอองของปรอท
ผู้ประกอบการจัดให้มีการระบายอากาศเฉพาะที่ เพื่อกำจัดไอและผ่านปรอทมิให้ฟุ้งกระจาย
ถ้ามีปรอทรั่วไหล ให้ใช้ภาชนะที่มีน้ำรองรับไว้ ปรอทจะได้ไม่ระเหยเมื่ออยู่ในน้ำ
จัดให้มีและใช้เครื่องป้องกันตัวแก่ผู้ที่ทำงานเกี่ยวข้องหรือผู้ที่ต้องสัมผัสสารปรอท ได้แก่ จัดหาห้องเปลี่ยนชุดปฏิบัติงาน ห้องอาบน้ำ ที่ล้างมือ ถุงมือ ชุดปฏิบัติงาน รองเท้ายาง
ให้มีการตรวจสุขภาพทางอาชีวเวชศาสตร์แก่ผู้สัมผัสกับปรอททั้งนี้เพื่อการเฝ้าระวังการเกิดโรคพิษปรอทและการค้นพบโรคนี้ได้ตั้งแต่ระยะเริ่มแรก

ในวัสดุอุดฟันอะมัลกัม มีส่วนผสมของปรอทอยู่ก็จริงค่ะ แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องถกเถียงกันเป็นวงกว้าง ความเห็นแตกเป็นสองฝ่าย คือฝ่ายสนับสนุนอะมัลกัมและต่อต้าน

ฝ่ายสนับสนุน เชื่อว่า อะมัลกัม เกิดจาการผสมของโลหะผสมหลายชนิดกับปรอท จนเป็นเนื้อเดียวฟัน ปฏิกิริยาทางเคมี ทำให้ปรอทคงตัว ไม่สามารถแตกตัวออกมาเป็นอนุภาคที่ทำให้เกิดอันตรายได้ จากการศึกษาย้อนหลังเป็นเวลานานก็ไม่พบความเชื่อมโยงที่ชัดเจนว่า คนไข้ได้รับอันตรายจากพิษสารปรอทในอะมัลกัม อีกทั้งคุณสมบัติของอะมัลกัมที่มีประโยชน์ในการใช้บูรณะฟันนั้นมีอยู่มาก เกินกว่าที่จะละทิ้งมันไปเสีย

สมัยนี้การเตรียมวัสดุอะมัลกัมก็ปลอดภัยกว่าแต่ก่อน มีการบรรจุไว้ในแคปซูลเพื่อป้องกันการรั่วไหลของปรอท ค่ะ

ฝ่ายต่อต้าน เชื่อว่ายังไงเสีย มันก็คือปรอท มีความเสี่ยง ที่ควรจะเลิกใช้ไปเลย สมัยนี้ มีวัสดุอุดฟันชนิดสีเหมือนฟัน ใช้แล้ว ก็ควรหันมาใช้ ซึ่งอย่างไรก็ดี วัสดุอุดฟันชนิดสีเหมือนฟัน ยังมีคุณสมบัติที่ไม่แข็งแรงเท่ากับอะมัลกัม กรณีที่อุดฟันกราม การใช้งานอาจทำให้แตกได้ง่าย ซึ่งในอนาคตก็คงมีการพัฒนาเรื่องวัสดุศาสตร์กันต่อไปค่ะ

ทีนี้ คุณหมอเองก็ต้องตัดสินใจว่าจะเชื่อฝ่ายไหน คุณหมอในประเทศไทย หลายๆ ท่านยังเชื่อมั่นในวัสดุอะมัลกัมอยู่ ซึ่งมีการใช้อย่างแพร่หลาย หลายสิบปี แต่คนไข้เองก็มีสิทธิ์เลือกได้ เมื่อได้รับข้อมูลมาพอสมควร ว่าต้องการอุดฟันด้วยวัสดุแบบไหน นะคะ  :)

Title: Re: พิษปรอทใน Amalgam
ส่งโดย อยากรู้ด้วยคน on 01/30/10 เวลา 16:37:19
พอจะมีบทความที่พูดถึงการค้นคว้าวิจัย เกี่ยวกับพิษปรอทในอมัลกัมบ้างมั้ยคะ ว่าได้ข้อสรุปออกมาแบบไหนบ้าง

Title: Re: พิษปรอทใน Amalgam
ส่งโดย หมอหนิง on 01/30/10 เวลา 18:42:46
ลองค้น amalgam controversy ใน google ดูนะคะ

หรือเว็บวิกิ ก็ได้ค่ะ http://en.wikipedia.org/wiki/Dental_amalgam_controversy

หรือลองอ่านของคนไทยดูก่อน http://dc.oas.psu.ac.th/dcms/files/02178/111123.pdf

ไม่รู้ว่าเคยชินกับการอ่านงานวิจัยมาบ้างหรือเปล่า เพราะจะมีพวก reference ซึ่งเราสามารถค้นหาต่อได้ ถ้าเราสนใจนะคะ

อย่างที่บอกไว้ตอนต้นว่า เรื่อง amalgam ยังเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันอยู่ค่ะ :)

Title: Re: พิษปรอทใน Amalgam
ส่งโดย อยากรู้ด้วยคน on 01/31/10 เวลา 21:32:00
ขอบคุณมากๆเลยค่ะ\thank

พอดีตอนนี้เป็นที่ถกเถียงกับเพื่อนๆไม่จบ :P  :-/ เลยพยามหาข้อสรุปล่าสุดจากADAหรือWHOอยู่อ่ะค่ะ



ThaiClinic.Com . All Rights Reserved.