แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print

 หัวข้อ 38721: เครียดเรื่องการตัดสินใจเรียนต่อ อยากรบกวนขอคำแนะนำค่ะ  (จำนวนคนอ่าน 3200 ครั้ง)
« เมื่อ: 02/06/21 เวลา 00:25:59 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ตอนนี้เป็น intern2 รพช. ห่างไกล แห่งนึงค่ะ แฟน(คบมาตั้งแต่สมัย นศพ)เป็น intern2 ทำงานที่เดียวกัน เป็นคนกรุงเทพทั้งคู่เลยค่ะ ตอนนี้หนักใจเรื่องการเรียนต่อมาก
 
แฟนอยากเรียนต่อสาขาเฉพาะทางที่หาทุนยากมากๆ สาขาหนึ่ง ตอนนี้แฟนได้ทุนเรียนต่อแล้วแต่เป็นจังหวัดที่ไกลกรุงเทพมากแต่มีสนามบิน
 
ส่วนตัวเรารู้สึกไม่ชอบเฉพาะทางไหนเป็นพิเศษ แต่ไม่อยากเป็น GP ไปตลอดค่ะ ที่พอน่าจะเรียนไหวคงเป็นเด็กค่ะ แต่ รพ ที่แฟนเราได้ทุนไม่เปิดทุนเด็ก
 
คุยกับแฟนแล้วว่าหลังเทรนจบแฟนจะกลับไปทำงานให้ตามที่ขอทุนมาค่ะ แต่ส่วนตัวเรากับแฟนก็ยังอยากกลับมาอยู่กรุงเทพกัน และอยากอยู่ด้วยกัน ทำให้เราหนักใจมากๆ ในการตัดสินใจเรื่องการเรียนต่อของเรา ตอนนี้ตัวเลือกในใจมีแบบนี้ค่ะ
 
1. เราหาทุนเรียนเด็กจังหวัดใกล้ๆ กทม (เท่าที่ลองโทรถามน่าจะพอหาได้อยู่ค่ะ) แล้วรอแฟนทำงานใช้ทุนครบย้ายมาอยู่ด้วยกัน (ตรงนี้ไม่แน่ใจเลยค่ะว่าการย้ายยุ่งยากหรือไม่ หรือมีข้อจำกัดอะไรที่จะทำให้ย้ายไม่ได้หรือเปล่า) แต่ข้อนี้ก็มีข้อจำกัดที่เราต้องแยกอยู่กับแฟนช่วงที่แฟนใช้ทุนค่ะ
 
2. เราฟรีเทรนเด็ก คิดว่าโปรไฟล์เราไม่ขี้เหร่มาก หวังว่าอาจจะพอหาที่เรียนได้ แต่ตรงนี้ไม่แน่ใจเลยค่ะว่าหลังฟรีเทรนจะสามารถย้ายที่ทำงานตามไปอยู่กับแฟน ได้ไหม แล้วถ้าย้ายไปอยู่ด้วยกันได้ หลังแฟนใช้ทุนครบจะมีแนวโน้มได้ย้ายกลับมาอยู่กรุงเทพหรือปริมณฑลมากน้อยแค่ ไหน (เอกชนหรือรัฐบาลก็ได้ค่ะ เราไม่เกี่ยงเลย จริงๆออกจะชอบทำงาน รพ รัฐมากกว่าเสียด้วยซ้ำ)
 
3. รพ ที่แฟนเราได้ทุนมีเปิดทุน rehab Anes ค่ะ อย่างที่บอกไปตอนต้นค่ะว่าเราไม่ได้ชอบสาขาไหนเป็นพิเศษ สาขา rehab กับ anes ก็เป็นอีกสาขาที่เราคิดว่าเรียนไหว แต่มีปัญหากังวลเรื่องการหาที่เรียนที่คงไม่ได้เรียนในโรงเรียนแพทย์ใน กทม ง่ายๆ จริงๆ เราไม่ซีเรียสว่าต้องเรียนโรงเรียนแพทย์นะคะ แต่เราอยากเรียนใน กทม เพราะแฟนก็คงเรียนใน กทม
 
เราคิดไม่ตกจริงๆ ค่ะ แต่เราตอบเป้าหมายชีวิตเราได้ชัดเจนว่า
1. เราให้ความสำคัญกับครอบครัวมาเป็นอันดับแรกค่ะ ไม่อยากแยกกันอยู่กับแฟน และอยากกลับมาอยู่ กทม กับครอบครัวค่ะ
2. เราไม่โอเคกับการเป็น GP จริงๆค่ะ เรารู้สึกไม่แฮปปี้เลยกับการทำงาน GP ทุกวันนี้
3. การอยู่ กทม สำหรับเราสำคัญค่ะ เราโตมาที่นี่ เพื่อนๆญาติๆพี่น้องเราอยู่ที่นี่ และเรามองไกลถึงอนาคตหากมีลูกกฏอยากให้ลูกมีโอกาสได้รับการศึกษาที่ดี เข้าถึงทรัพยากรต่างๆ ได้อย่างไม่ลำบากค่ะ
 
หรือถ้าพี่ๆมีคำแนะนำอื่นๆก็ยินดีรับฟังนะคะ อยากได้ความคิดเห็นในหลายๆมุมมอง ขอบคุณค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้ายเมื่อ: 02/06/21 เวลา 00:53:33 by GPKK »
ส่งโดย: GPKK
สถานะ: Newbie *
จำนวนความเห็น: 1  
   
49.228.42.*


« ความเห็นที่ #1 เมื่อ: 02/06/21 เวลา 06:28:27 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

อาจจะต้องจัดลำดับความสำคัญ หกอย่าง
สนใจแต่สามอย่างแรก  
และต้องเพิกเฉยต่อสามอย่างอย่างหลัง
เรื่องของชีวิต บางครั้งถ้าอยากจะได้อะไร ก็ต้องเสียอะไรไปเช่นเดียวกัน
ส่งโดย: 6699
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1520  
   
223.205.235.*


« ความเห็นที่ #2 เมื่อ: 02/06/21 เวลา 08:33:57 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

เลือกแฟน เรียนanesthesia หรือrehab ทั้งสองอันเงินดีอันแรกเงินดีแต่เหนื่อย อันที่สองไม่เหนื่อยแต่ลงทุนสูง  
ส่วนเลือก กทม ถามแฟน เค้าอยากอยู่มั้ย ได้คำตอบยังไง ก็อย่างนั้นล่ะ อย่าไปคาดคั้นเค้าเอาที่เค้าแบบชอบจริงๆ ถ้าไม่ตรงกัน ก็plan อนาคตตัวเองครับ ชีวิตคู่ไม่ได้ขึ้นกับเราว่าอยากอะไรข้างเดียวต้องอยากทั้งคู่ ส่วนเรื่องลูกเอาแค่ได้แต่งก่อนดีกว่า อยู่กับปัจจุบัน รู้จักน้องหมอผู้หญิงสวยๆสมัยนี้หลายคน เปลี่ยนแฟนเป็นว่าเล่น แล้วเลือกที่สะดวกที่สุดแต่งงาน สวย รวย เก่ง เลือกได้ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้ายเมื่อ: 02/06/21 เวลา 08:35:26 by doreus »
ส่งโดย: doreus
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 10681  
   
182.232.122.*


« ความเห็นที่ #3 เมื่อ: 02/06/21 เวลา 08:50:37 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

คำถามที่จะปรึกษาคืออะไร?

The day you went away . . .
ส่งโดย: SantaNiCo female
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1378  
   
118.175.250.*


« ความเห็นที่ #4 เมื่อ: 02/06/21 เวลา 09:50:36 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ความเห็นส่วนตัวของใน ตาม Condition mี่กล่าวมา ผมคิดว่า Choice # 2... น่าจะเหมาะที่สุดมั้งครับ
เพราะจู่ๆ มีหมอจบบอร์ดฟรีเทรนมาสมัครงานที่รพ.ของรัฐ รพ.ของรัฐได้ประโยชน์ (ไม่ต้องเสียเงินส่งเรียน ตั้ง 3- 4 ปี)/ รับค่อนข้างแน่ โดยเฉพาะ 4 สาขาหลักซึ่งมี ผู้ป่วยค่อนข้างมากอยู่แล้วครับ
ส่งโดย: Dr._Panya male
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1916  
   
49.228.153.245 fwd for 192.168.14.*


« ความเห็นที่ #5 เมื่อ: 02/06/21 เวลา 13:58:10 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

2 ดีมากถ้าทำได้ 3 ดีรองลงมา  
 
 
 
ส่งโดย: positive male
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1020  
   
125.27.141.*


« ความเห็นที่ #6 เมื่อ: 02/06/21 เวลา 19:12:15 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ขอแสดงความเห็นนะครับ ขออภัยหากคำพูดอาจจะไม่เหมาะสมนะครับ..
ดูเหมือนแฟนจะเป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจ เช่น ต้องเรียนใกล้แฟน ทำงานใกล้แฟน..
เท่าที่ผมเห็นๆมา มีหมอผู้หญิงหลายคนเขาไม่ได้อยู่ใกล้แฟนช่วงเรียนครับ เอาอนาคตเรื่องการเรียนมาก่อน
จริงๆเวลาสามปีในการเรียนไม่นานเลยครับ...
แฟน..อาจจะเลิกกันก็ได้ อนาคตไม่แน่นอน (ขออภัยนะครับ)  
การเรียนต่อสำคัญกว่า เพราะมันจะเปลี่ยนชีวิตเราไปเลยครับ เราจะเก่งขึ้น มีหน้าที่การงาน รายได้ที่ดีขึ้นมาก  
ถ้าแฟนรักเราจริง...อยู่ห่างกันสามปี ต้องทำได้ครับ
ผมคงเลือกสิ่งที่เราอยากเรียนมากที่สุด  ไม่เลือกแบบตัดช้อยทิ้งเพราะแฟน
คิดอีกแง่...ทำไมแฟนไม่ย้ายตามเราบ้าง ทำไมแฟนไม่เลือกสาขาที่เราสะดวกบ้าง ...  ต่างคนก็ต่างมีเหตุผลกันไป  ความรักไม่ใช่เราจะต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลา แต่เป็นความใส่ใจ ให้เกียรติ และยอมให้คู่ชีวิตมีอิสระในชีวิตของเขาด้วยครับ  
สรุปคือ ผมจะคิดถึงตนเองก่อน และหาทางย้ายกลับมาสร้างครอบครัวทีหลังครับ
ส่งโดย: พุฝอยสาหร่าย
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1028  
   
203.150.119.*


« ความเห็นที่ #7 เมื่อ: 02/07/21 เวลา 12:03:28 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ถ้าคนหนึ่งได้ทุนแล้วกลับมาก็ต้องรับราชการที่ที่กำหนดไว้ จะย้ายไปไหนน่าจะยาก อีกคนฟรีเทรนจะดีกว่าพราะสะดวกในการหาที่ทำงานใกล้ๆหรือที่ต้องการ ไม่ต้องหวังพึ่งตำแหน่งข้าราชการ ถ้าเป็นข้าราชการทั้งคู่จะย้ายทั้งคู่ไปลงสถานที่เดียวกันหรือใกล้กันน่าจะย ากเป็นหลายๆๆเท่า
การเบิกค่ารักษาใช้สิทธิของคนที่รับราชการคนใดคนหนึ่งก็พอเพียง  
สถานที่เทรนอยู่คนคนละที่ก็พอไหวเพราะแค่สามสี่ปีเอง
ส่งโดย: only2b male
สถานะ: Full Member ***
จำนวนความเห็น: 166  
   
49.228.224.*


« ความเห็นที่ #8 เมื่อ: 02/07/21 เวลา 17:56:06 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ฟรีเทรนเด็ก ใน กทม เลือกสถาบันที่แข่งขันไม่สูง
ส่งโดย: PaopaoFC
สถานะ: Newbie *
จำนวนความเห็น: 12  
   
27.55.80.*


« ความเห็นที่ #9 เมื่อ: 02/07/21 เวลา 19:28:37 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

คิดว่า จขกท น่าจะ ฟรีเทรน สาขาใดสาขาหนึ่งใน กทม.  
จบแล้วไปอยู่เอกชน เก็บเงิน อย่าเพิ่งกลับเข้าราชการเพราะสุดท้ายมีแผนจะย้ายกลับ กทม.อยู่ดี ช่วงนี้ก็เป็นเอกชนfulltimeเก็บเงินไปก่อน
ส่วนตัวแอบเชียร์anes เพราะว่างานดี รายได้ดี เหมาะแก่การเก็บเงิน

ส่งโดย: น้ำเน่าในเงาจันทร์ male
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 6054   Email
   
171.6.243.*


« ความเห็นที่ #10 เมื่อ: 02/08/21 เวลา 13:27:12 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ถ้าตามตัวเลือกที่ว่ามา  
1. แยกกันอยู่สักช่วงก็ดีครับ มีเวลาพิจารณาอะไรหลายๆอย่าง  
2. ถ้าคิดจะฟรีเทรนแล้วกลับไปสมัคร รพ.ที่แฟนอยู่ มีโอกาสได้สูง แต่ว่า ถ้าตำแหน่งเต็มจริงๆโอกาสไม่ได้ก็มี อาจต้องไปอยู่ จังหวัดใกล้ๆกัน หรือ รพ.เอกชนในจังหวัดนั้น  
3. Anes น่าจะคล่องตัวสุดในการย้ายถิ่นฐานครับ แต่อาจต้องมี connection กับที่ๆจะรับ
ส่งโดย: Innominate male
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1943  
   
202.28.21.*


« ความเห็นที่ #11 เมื่อ: 02/09/21 เวลา 06:35:56 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

6699-doctor2.JPG
-ข้อมูลจากแพทย์สภาจำนวนแพทย์ไทยปี 63 อายุ 20-40 ปี มีจำนวนประมาณ 56% แต่เมื่อแก้ไขข้อมูล เพราะคนจบแพทย์มีอายุ 24 ปี ทำการขยายจำนวนปีให้เต็มช่วง 20-30 ปี จะได้ตัวเลขแพทย์อายุ 20-40 ปี จะมีประมาณ 74% ของแพทย์ทั้งหมดและในจำนวนนี้อายุ20-30 ปีจะมีประมาณ 27,198คน หรือ 44%อายุ 31-40 ปี จะมีประมาณ 18,754 คน หรือ 30% จำนวนแพทย์ไทยที่เพิ่มขึ้น จะส่งผลให้  
 
1.ไม่สามารถเลือกที่ทำงานหรือรพ.ได้ตามต้องการ
2.ไม่สามารถเรียนต่อสาขาที่ชอบและใช่ได้ตามต้องการ
3.ตำแหน่งราชการอาจจะไม่เพียงพอ ถ้าลาออกไปแล้ว อาจจะไม่ได้รับบรรจุเข้ามาได้อีกง่ายๆ แม้แต่ จบ subboard ก็ยังไม่ได้บรรจุราชการง่ายๆ
4.แพทย์ในปัจจุบัน ถ้าไม่ได้รับราชการ โอกาสก้าวหน้าทางวิชาชีพมีไม่มาก มีน้อยรายที่ก้าวหน้าได้โดยไม่มีราชการหนุนหลัง
 
แชร์ข้อมูล เพื่อประกอบการตัดสินใจของเจ้าของกระทู้ในการเลือกสถานที่ทำงาน การเลือกการเรียนต่อ และการอยู่ในราชการหรือเอกชน  ถ้าใครแนะนำให้ลาออกจากราชการ ควรจะคิดให้แน่ใจ ดูตัวเลขจำนวนแพทย์ที่เพิ่มขึ้น ในรอบ 20 ปี  
 
 
 
ส่งโดย: 6699
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1520  
   
223.205.223.*


« ความเห็นที่ #12 เมื่อ: 02/09/21 เวลา 10:18:32 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 02/09/21 เวลา 06:35:56, 6699 wrote:
-ข้อมูลจากแพทย์สภาจำนวนแพทย์ไทยปี 63 อายุ 20-40 ปี มีจำนวนประมาณ 56% แต่เมื่อแก้ไขข้อมูล เพราะคนจบแพทย์มีอายุ 24 ปี ทำการขยายจำนวนปีให้เต็มช่วง 20-30 ปี จะได้ตัวเลขแพทย์อายุ 20-40 ปี จะมีประมาณ 74% ของแพทย์ทั้งหมดและในจำนวนนี้อายุ20-30 ปีจะมีประมาณ 27,198คน หรือ 44%อายุ 31-40 ปี จะมีประมาณ 18,754 คน หรือ 30% จำนวนแพทย์ไทยที่เพิ่มขึ้น จะส่งผลให้  
 
1.ไม่สามารถเลือกที่ทำงานหรือรพ.ได้ตามต้องการ
2.ไม่สามารถเรียนต่อสาขาที่ชอบและใช่ได้ตามต้องการ
3.ตำแหน่งราชการอาจจะไม่เพียงพอ ถ้าลาออกไปแล้ว อาจจะไม่ได้รับบรรจุเข้ามาได้อีกง่ายๆ แม้แต่ จบ subboard ก็ยังไม่ได้บรรจุราชการง่ายๆ
4.แพทย์ในปัจจุบัน ถ้าไม่ได้รับราชการ โอกาสก้าวหน้าทางวิชาชีพมีไม่มาก มีน้อยรายที่ก้าวหน้าได้โดยไม่มีราชการหนุนหลัง
 
แชร์ข้อมูล เพื่อประกอบการตัดสินใจของเจ้าของกระทู้ในการเลือกสถานที่ทำงาน การเลือกการเรียนต่อ และการอยู่ในราชการหรือเอกชน  ถ้าใครแนะนำให้ลาออกจากราชการ ควรจะคิดให้แน่ใจ ดูตัวเลขจำนวนแพทย์ที่เพิ่มขึ้น ในรอบ 20 ปี  
 
 
 

 
ข้อ4นี่มีข้อมูลอ้างอิงไหมครับ  

ส่งโดย: น้ำเน่าในเงาจันทร์ male
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 6054   Email
   
49.237.23.*


« ความเห็นที่ #13 เมื่อ: 02/09/21 เวลา 12:10:01 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ข้อมูลเหล่านี้ จะมีอยู่ใน สสจ ของแต่ละจังหวัด เพื่อวางแผนการบริหารจำนวนแพทย์ในจังหวัด ในปัจจุบัน แม้แต่ subboard เมื่อย้ายเข้ามาในจังหวัด เพื่อรับราชการ ยังทำได้ยาก  
 
สมมุติว่า หมอคนหนึ่ง จบsubboard  ทุนอิสระ ต้องการย้ายมาที่รพ.ศูนย์แห่งหนึ่ง โอกาสที่รพ.ศูนย์แห่งนั้น จะรับ มีไม่ถึงครึ่ง เนื่องจากเหตุผลทางราชการ และเหตุผลอื่นๆ  
และหมอคนไหน ถ้าไม่ได้มีผู้ป่วยรักษาให้ตรงสาขา แค่สองปี ความรู้จะลดไปมาก
 
ถ้าดูข้อมูลเรื่องการส่งเสริม ให้แพทย์อยู่ รพสต หรือ PCC  หรืออนามัย จะเห็นได้ชัดในเรื่องการกระจายแพทย์ แพทย์ยินดีจะอยู่ที่ PCC  มากกว่าแต่เดิมมาก  
 
ลองดูข้อมูลที่สสจ. เรื่องการวางแผนอัตรากำลังของแพทย์  จะเป็นข้อมูลอ้างอิงได้
ส่งโดย: 6699
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1520  
   
223.205.251.*


« ความเห็นที่ #14 เมื่อ: 02/09/21 เวลา 12:51:47 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

เปลี่ยนแฟนจบ
ส่งโดย: +SandsOfTime+
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 2088  
   
203.114.116.*


« ความเห็นที่ #15 เมื่อ: 02/09/21 เวลา 13:40:01 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

คนตั้ง  หายเข้ากลีบเมฆไปแล้ว
ส่งโดย: Pandermonium
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 662  
   
118.174.62.*


« ความเห็นที่ #16 เมื่อ: 02/09/21 เวลา 18:14:48 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

     เทคนิกผ่านสอบสัมภาษณ์ ? - " ผิวขาว หน้าใส และไม่ใส่กางเกงใน ครับ "
ส่งโดย: หมอเมืองสยาม
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 11432  
   
171.98.90.*


« ความเห็นที่ #17 เมื่อ: 02/09/21 เวลา 23:11:53 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ตอนนี้แพทย์จะล้นแล้วครับ  จากที่ประชุม พรส ของ รพ มาตอนนี้แพทย์เฉพาะทางแทบจะเต็มจำนวน ใน รพศ  รพท  แล้วคิดว่าอีก ปี ถึง 2 ปีล้นเกินต้องลงไป รพช ขนาดใหญ่่ก่อน  ซึ่งก็มีจำนวนแพทย์ GP จะล้นแล้ว เพราะ โควิท ที่ผ่านมาแพทย์แทบไม่ลาออกกัน ลาออกน้อยมาก   ส่วน กรอบอัตรากำลังไม่ได้ดูแต่เฉพาะทางสาขานั้นๆเท่านั้นใน รพ นะ จะดูกรอบที่ว่า รพ.จะมีแพทย์ได้ไม่เกินเท่าไรด้วย ซึ่ง รพ ใหญ่ๆบางสาขาก็มีมากเกินจนไปกินกรอบแพทย์ของทั้ง รพ ที่ควรจะมี  จึงเพิ่มจำนวนแพทย์ได้ยากขึ้น  
 
การย้าย หรือ บรรจุใหม่  จึงต้องดู  ว่าสาขานั้นใน รพ ขาดใหม และ กรอบอัตรากำลังแพทย์ทั้ง รพ ว่าเกินกรอบหรือยัง   จึงมีให้เห็นแล้วว่าขอย้าย  รพ.ต้นทางปล่อย  รพ.ปลายทางรับ  แต่กระทรวงไม่ให้ไปเพราะเกินกรอบอัตรากำลังแพทย์ รพ นั้นแล้้ว
ส่งโดย: gamma48
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 509  
   
223.204.174.*


« ความเห็นที่ #18 เมื่อ: 02/10/21 เวลา 07:21:53 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

อยากให้ทำตามที่คุณต้องการค่ะ
เรื่องแฟนควรเป็นเรื่องรอง ถ้ายังไม่ได้แต่งงานนะคะ
จากประสบการณ์ที่เห็นมา เพื่อนผู้หญิงหลายคนยอมเปลี่ยนแผนตัวเองเพื่อให้เข้ากับของแฟน แต่สุดท้ายก็มีอันต้องเลิกรากันไป ถึงเวลานั้นก็มานึกเสียใจว่าไม่น่าทำแบบนั้นเลย
เห็นกรณีแบบนี้หลายเคสแล้วค่ะ เลยอยากเตือน
เรื่องแบบนี้มันไม่แน่นอน ใจคนเรามันเปลี่ยนได้ตลอด
ส่งโดย: jengirl
สถานะ: Full Member ***
จำนวนความเห็น: 123  
   
76.94.216.*


« ความเห็นที่ #19 เมื่อ: 02/10/21 เวลา 09:24:06 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 02/09/21 เวลา 23:11:53, gamma48 wrote:
ตอนนี้แพทย์จะล้นแล้วครับ  จากที่ประชุม พรส ของ รพ มาตอนนี้แพทย์เฉพาะทางแทบจะเต็มจำนวน ใน รพศ  รพท  แล้วคิดว่าอีก ปี ถึง 2 ปีล้นเกินต้องลงไป รพช ขนาดใหญ่่ก่อน  ซึ่งก็มีจำนวนแพทย์ GP จะล้นแล้ว เพราะ โควิท ที่ผ่านมาแพทย์แทบไม่ลาออกกัน ลาออกน้อยมาก   ส่วน กรอบอัตรากำลังไม่ได้ดูแต่เฉพาะทางสาขานั้นๆเท่านั้นใน รพ นะ จะดูกรอบที่ว่า รพ.จะมีแพทย์ได้ไม่เกินเท่าไรด้วย ซึ่ง รพ ใหญ่ๆบางสาขาก็มีมากเกินจนไปกินกรอบแพทย์ของทั้ง รพ ที่ควรจะมี  จึงเพิ่มจำนวนแพทย์ได้ยากขึ้น  
 
การย้าย หรือ บรรจุใหม่  จึงต้องดู  ว่าสาขานั้นใน รพ ขาดใหม และ กรอบอัตรากำลังแพทย์ทั้ง รพ ว่าเกินกรอบหรือยัง   จึงมีให้เห็นแล้วว่าขอย้าย  รพ.ต้นทางปล่อย  รพ.ปลายทางรับ  แต่กระทรวงไม่ให้ไปเพราะเกินกรอบอัตรากำลังแพทย์ รพ นั้นแล้้ว

 
แพทย์ล้มบางที  มันก็ถ่ายเทไปที่อื่นได้
 
กลัวไร
ส่งโดย: Pandermonium
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 662  
   
118.175.175.*


« ความเห็นที่ #20 เมื่อ: 02/10/21 เวลา 09:58:15 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 02/09/21 เวลา 23:11:53, gamma48 wrote:
ตอนนี้แพทย์จะล้นแล้วครับ  จากที่ประชุม พรส ของ รพ มาตอนนี้แพทย์เฉพาะทางแทบจะเต็มจำนวน ใน รพศ  รพท  แล้วคิดว่าอีก ปี ถึง 2 ปีล้นเกินต้องลงไป รพช ขนาดใหญ่่ก่อน  ซึ่งก็มีจำนวนแพทย์ GP จะล้นแล้ว เพราะ โควิท ที่ผ่านมาแพทย์แทบไม่ลาออกกัน ลาออกน้อยมาก   ส่วน กรอบอัตรากำลังไม่ได้ดูแต่เฉพาะทางสาขานั้นๆเท่านั้นใน รพ นะ จะดูกรอบที่ว่า รพ.จะมีแพทย์ได้ไม่เกินเท่าไรด้วย ซึ่ง รพ ใหญ่ๆบางสาขาก็มีมากเกินจนไปกินกรอบแพทย์ของทั้ง รพ ที่ควรจะมี  จึงเพิ่มจำนวนแพทย์ได้ยากขึ้น  
 
การย้าย หรือ บรรจุใหม่  จึงต้องดู  ว่าสาขานั้นใน รพ ขาดใหม และ กรอบอัตรากำลังแพทย์ทั้ง รพ ว่าเกินกรอบหรือยัง   จึงมีให้เห็นแล้วว่าขอย้าย  รพ.ต้นทางปล่อย  รพ.ปลายทางรับ  แต่กระทรวงไม่ให้ไปเพราะเกินกรอบอัตรากำลังแพทย์ รพ นั้นแล้้ว

 
 
ถ้ามีแพทย์ ใน รพช./ รพท./ รพศ. เต็ม หรือเกือบจะล้นกรอบฯ แบบนี้ ก็นานๆอยู่เวรทีนึง (ตัวหารมากขึ้น แต่ได้ค่าเวรต่อเดือนน้อยลง) หรือ อยู่เวรทุกๆ 3- 4 วันเหมือนเดิม แต่มีแพทย์ในแผนกเดียวกันเข้าเวรในคืนเดียวกันหลายคนมากขึ้น (ได้ค่าเวร/ เดือนเท่าเดิม แต่งานสบายขึ้น) สินะ
 
อิ อิ อิ
ส่งโดย: Dr._Panya male
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1916  
   
49.228.194.63 fwd for 192.168.14.*


« ความเห็นที่ #21 เมื่อ: 02/10/21 เวลา 13:53:05 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

มีข้อมูลแพทย์ในภาเอกชนไหมครับ ว่าเป็นอย่างไรกันบ้าง

ส่งโดย: น้ำเน่าในเงาจันทร์ male
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 6054   Email
   
110.170.77.132 fwd for 10.161.153.106, 192.168.162.*


« ความเห็นที่ #22 เมื่อ: 02/10/21 เวลา 13:54:39 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 02/10/21 เวลา 07:21:53, jengirl wrote:
อยากให้ทำตามที่คุณต้องการค่ะ
เรื่องแฟนควรเป็นเรื่องรอง ถ้ายังไม่ได้แต่งงานนะคะ
จากประสบการณ์ที่เห็นมา เพื่อนผู้หญิงหลายคนยอมเปลี่ยนแผนตัวเองเพื่อให้เข้ากับของแฟน แต่สุดท้ายก็มีอันต้องเลิกรากันไป ถึงเวลานั้นก็มานึกเสียใจว่าไม่น่าทำแบบนั้นเลย
เห็นกรณีแบบนี้หลายเคสแล้วค่ะ เลยอยากเตือน
เรื่องแบบนี้มันไม่แน่นอน ใจคนเรามันเปลี่ยนได้ตลอด

 
อันนี้เห็นด้วยนะว่าไม่ควรเปลี่ยนตัวเองหรือเอาตัวเองไปผูกติดกับใคร

ส่งโดย: น้ำเน่าในเงาจันทร์ male
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 6054   Email
   
110.170.77.132 fwd for 10.161.153.106, 192.168.162.*


« ความเห็นที่ #23 เมื่อ: 02/10/21 เวลา 15:09:18 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

คุณน้องมาขอคำปรึกษาแล้วตัดสินใจยังไงคะ  หายไปเลย
ส่งโดย: Pandermonium
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 662  
   
118.175.175.*


« ความเห็นที่ #24 เมื่อ: 02/14/21 เวลา 18:09:08 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

บาง รพ หมอเด็ก( ที่ ไม่ได้จบซับ ) เริ่มเต็ม
 บางที่ ซับ ก็ยังไม่อยากรับ

"ท่านทั้งหลายจงมีธรรมเป็นที่พึ่งเถิด อย่ามีอย่างอื่นเป็นที่พึ่งตถาคตเองเป็นที่พึ่งแก่ท่านทั้งหลายไม่ได้ ตถาคตเป็นเพียงผู้ชี้บอกทางเท่านั้น ส่วนความเพียรพยายามเพื่อเผาบาปอกุศล ท่านทั้งหลายต้องทำเอง ทางมีอยู่ เราชี้แล้วบอกแล้ว ท่านทั้งหลายต้องเดินเอง
ส่งโดย: soon_soon
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 3169  
   
124.122.40.*


« ความเห็นที่ #25 เมื่อ: 04/28/21 เวลา 12:49:08 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ตอบยาก ....ข้อ1 ดูน่าจะปลอดภัยที่สุด
 
1. เรียน ตามแฟน มีทุน  เป็นข้าราชการไม่ตกงานแน่นอน  
และได้อยู่กับแฟน
2.  freetrian  ตอนนี้งานในกทม.ก็เริ่มหายาก แม้แต่ parttime
3. โอกาสย้ายใกล้กทม. ตอนนี้ค่อนข้างเต็ม หมอจบเยอะมากๆ
 
เอาเป็นว่าเอาทุนไปเรียนก่อนนะคะ  โอกาสได้รับเลือกมากกว่าและไม่ต้องกังวลเรื่องตำแหน่งงานที่ทำงานในอนาคต  
 
 
ส่งโดย: luzeus
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1170  
   
110.164.159.*


Page(s) : 1 


แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print



Reply this Topic reserved for registed member only. Register



  • ข้อความและรูปภาพที่ท่านเห็นส่วนใหญ่ ได้ถูกส่งมาจาก ทางบ้าน
    ทางเว็บไซต์ Thaiclinic.com ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของข้อความและรูปภาพที่ถูกส่งมา

  • ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชนและส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ
    เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง
    ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง

  • ถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมหรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล
    หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ webmaster@thaiclinic.com หรือ กดแจ้งที่ปุ่ม
    "แจ้งลบกระทู้"
    เพื่อให้ทีมงานทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ครับ

ThaiClinic.Com . All Rights Reserved. !--BEGIN WEB STAT CODE-->

Powered by