« ความเห็นที่ #20 เมื่อ: 07/20/20 เวลา 21:32:12 » |
|
on 07/20/20 เวลา 15:32:28, Dr._Panya wrote:สมมติว่า เมื่อหารเวรกันแล้ว แพทย์แต่ละคนต้องอยู่เวรใน รพ.รัฐของตัวเองประมาณ 10 เวร/ เดือน และได้ค่าเวรๆละ 2 พันบาท หาก 1. อยู่เวรของตัวเอง ในรพ.เต็มทั้ง 10 เวร/ เดือน แล้ว 20 วันที่เหลือ อาจจะไป รับจ้อบ/ ช่วยเพื่อนที่อยู่ต่างรพ.รัฐบ้าง เป็นครั้งคราว... หลายๆเดือนสักครั้ง/ เวร ก็คงจะไม่เป็นไร มั้ง 2. อยู่เวรของตัวเอง เต็มทั้ง 10 เวร/ เดือน แต่วันที่เหลือ ไปรับจ้อบ ที่รพ.(ของรัฐ) อื่นๆในละแวกใกล้เคียง บ่อยๆ เดือนละ หลายๆๆๆ เวร เนื่องด้วยต้องการใช้เวรมากขึ้น (พ่อป่วย/ จะแต่งงาน/ จะซื้อรถมาแทนคันเก่าที่พังมากแล้ว ฯลฯ) โดยที่ไม่ทำให้งานใน รพ. ของตัวเอง+ รพ. ที่ ไปรับขึ้นเวรเสียหายใดๆๆเลย ...น่าจะต้องบอก/ ขอโทษเพื่อนร่วมงานบ้าง (หากนั่งหลับในห้องประชุม/ ห้องตรวจ เป็นครั้งคราว) หรือ แจ้ง/ ขออนุญาตจาก รพ. รพ. ว่าเรามีความจำเป็นต้องใช้เงินมากขึ้นในช่วงนี้จริงๆ และจำทำแบบน้ไม่นาน/ ไม่บ่อยจนเกินไป ก็น่าจะได้รับตามเมตตา/ สงสารจาก ผอ. รพ. ให้ไม่เอาเรื่อง/ ได้รับเงินหมื่นในเดือนนั้นๆอยู่เหมือนเดิม 3. หากแทบจะไม่อยู่เวรของตัวเองในรพ.ของตัวเอง แต่บังคับ/ หักคอรุ่นน้อง/ รุ่นเดียวกันให้อยู่เวรทั้ง 10 เวรหรือ เกือบ 10 เวร/ เดือน โดยไม่จ่าย Top UP ให้อีกต่างหาก เพื่อนที่ รพ. ก็ต้องอยู่เวรมากขึ้น/ อดนอนบ่อยขึ้น...แต่ตัวเอง ไปรับค่าเวรที่อื่น (สมมติว่า ค่าเวรๆละ 3 พันบาท 10- 20 เวร/ เดือน) และยังอยากจะได้เงินหนจากรพ.ต้นสังกัดอยู่อีก แบบนี้ยิ่งต้องบอก/ ขออนุญาต จาก ผอ. รพ.ของตัวเอง ครับ (รพ. ปลายทาง เค้าอาจจะไม่เห็นด้วยกับการกระทำนี้ ดังนั้นผอ. รพ.ปลายทาง เค้าคงจะไม่ออกหนังสือยืมตัว ถึงผอ. รพ. ของเราให้ง่ายๆแน่ครับ) |
| ถ้าหากเป็นกฎเกณฑ์ หรือเงื่อนไขที่ห้ามไปขึ้นเวรอื่น การกระทำในข้อ 1 และ 2 ก็ถือว่าผิดอยู่ดีครับ เพราะ ผอ.ที่ "อะลุ่มอะหล่วย" ให้ทำได้ จะแน่ใจยังไงว่าจะไม่โดนตรวจสอบภายหลัง ที่ต้องทราบแน่ชัด คือ คำจำกัดความของคำว่า "เวชปฏิบัติส่วนตัว" หมายถึงอะไรบ้าง ถ้าไม่ชัดเจน มันจะเป็นการใช้ "ดุลยพินิจ" ของแต่ละคน ซึ่งเถียงกันไม่จบสักที
|
|