« ความเห็นที่ #16 เมื่อ: 08/07/19 เวลา 22:57:32 » |
|
on 08/07/19 เวลา 21:47:01, Omo wrote:รุ่นหลังๆ แพทย์จบปีละเกือบ 2000++ คน เข้าเรียนต่อ board ได้จำนวนจำกัดไม่รู้ถึง 30%หรือเปล่า? ประกอบด้วยหมอรุ่นใหม่ Gen Z, gen Y รักอิสระ ต้องการทำอะไรที่สบายและรวยเร็ว จึงมาลงที่ Cosmetic short course แล้วเปิดคลีนิคความงาม หรือเป็นลูกจ้างในคลีนิคความงาม กลุ่มที่ได้ประโยชน์คือ 1. Supplier เช่น ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องเลเซอร์ โบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ ไหมที่ร้อย วิตามิน ครีม บลาๆๆ 2. เจ้าของอสังหาขายหรือปล่อยให้เช่าห้องเปิดคลีนิค 3. อาจารย์ที่เปิดสอน short course หรือ hand on ราคาหลายหมื่นบาท หรือเป็นแสน คอร์สจะออกมาเรื่อยๆ หมอๆก็กลัวจะตกเทรนด์ก็ไปประชุมตลอด 4. เอเจนซี่ที่ส่งคนไข้เข้าคลีนิค รวมทั้งนักการตลาด กลุ่มที่เสียผลประโยชน์ 1. หมอ GP ทำความงามกันมาก ความรู้แบบ short course มีวิชามารในการรักษาคนไข้ มีการแย่งเคสกัน ทำการตลาดที่รุนแรง มีสงครามตัดราคา 2. เกิดการแข่งขันระหว่างคลีนิค และส่งเรื่องฟ้องร้องกันเอง 3. ต้องพยายามทำ product ใหม่ๆออกมา หลอกล่อให้ ลค. ว้าว แต่จริงๆแค่เปลี่ยนชื่อ เบื้องลึกคือวิชามาร หลักการคือรักษาต้นทุนให้ต่ำสุด 4. หลักการของหมอกลุ่มนี้คือ กระตุ้นให้คนไข้หลงในกิเลสตัณหา ห้ามเหี่ยว ห้ามแก่ ขัดแย้งกับหลักอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ฟังแล้วเหนื่อยแทน.. |
| จริงค่ะ แต่เงินมันหอมค่ะ. เรายังอยากทำเลย
|
|