แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print

 หัวข้อ 37504: ต่างประเทศหมอรังสี พาโถ กำลังกลัวจะโดน AI แย่งงาน ส่วนเมืองไทย คนสมัคร  (จำนวนคนอ่าน 4340 ครั้ง)
« เมื่อ: 03/11/19 เวลา 17:36:03 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ต่างประเทศ กำลังมีข้อถกเถียงกันว่า เทคโนโลยี AI Machine learning deep learning จะส่งผลกระทบอย่างไร กับสายที่ใช้ pattern recognition เป็นหลัก อย่าง รังสี และพาโถ
บางคนเชื่อว่า เทคโนโลยีนี้ จะถึงขั้น แย่งงาน ไปจนถึง กวาดล้าง (sweeping) 2 สาขานี้ได้เลย ภายในเวลาอีกไม่ถึง 10 ปี
แต่บางคน เชื่อว่า จะยังไปได้ โดยเทคโนโลยีจะมาช่วย ให้ทำงานได้แม่นยำ และรวดเร็วมากขึ้น จึงไม่ต้องกังวลใดๆ
จนตอนนี้ ก็ยังถกเถียงกันอยู่ และไม่ตกผลึก เพราะต่างเป็นการคาดเดากันทั้งนั้น ถูกผิด ไม่มีใครรู้
ที่แน่ๆ ก็ถือว่ามีความเสี่ยงมากกว่าสายอื่น ซึ่งน่าจะยังไม่ถูกท้าทาย ในช่วง 10 ปี ข้างหน้า (แต่ถ้าถึงขนาด 30-40 ปี คาดว่าคงไม่มีสาขาไหน รอดไปได้)
 
ในไทย ยังไม่ค่อยเห็นมีการคุยกันถึงประเด็นนี้ และรังสีวินิจฉัย ก็ยังเป็นสาขาบูม ยอดนิยม แย่งกันสมัคร แย่งกันเรียนอยู่
เด็กเกียรตินิยมมากมาย
ส่วนพาโถ ก็ไม่ได้กระแสหวือหวา อะไร
 
ไม่ทราบแต่ละท่าน มีความเห็นเรื่องนี้ อย่างไรครับ
เพราะนี่ถือเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้น คือหมอ กำลังเสี่ยง จะตกงาน
ไม่เคยเกิดขึ้นจริงๆ
ส่งโดย: Sandoz
สถานะ: Newbie *
จำนวนความเห็น: 29  
   
223.24.184.*


« ความเห็นที่ #1 เมื่อ: 03/11/19 เวลา 17:56:53 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

คงใช้เวลาอีกหลายปี
ส่งโดย: crv01
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1964  
   
182.232.169.*


« ความเห็นที่ #2 เมื่อ: 03/11/19 เวลา 17:57:50 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ปรับตัว
 
เพิ่มเป็นคน Operate Analyse
 
ไปได้แน่นอน
 
 Smiley Smiley
ส่งโดย: Any_Obtion
สถานะ: Full Member ***
จำนวนความเห็น: 243  
   
119.76.25.*


« ความเห็นที่ #3 เมื่อ: 03/11/19 เวลา 18:07:51 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ถึงจุดนึงที่เครื่องสามารถทดแทนครอบคลุมได้ทั้ง Job
จริงอยู่ ว่าต้องมีคน operate เครื่อง แต่ความจริง ใช้เพียงแค่ technician จะพอไหม เพราะในความจริง ผู้ประกอบการ นายจ้าง ไม่มีใครอยากจ่ายเงินแพงๆ จ้างคนมา operate เครื่อง (หมอรังสี พาโถ จะกลายเป็น overqualified) และอาจจะหายไป เหลือบ้างตาม รรพ หรือสถานวิจัย ทำวิจัยเป็นหลัก แต่บทบาทใน service คงจะน้อยลง ... นี่เป็นเพียงการคาดเดา สำหรับ worst case scenario ... ครับ
ส่งโดย: Sandoz
สถานะ: Newbie *
จำนวนความเห็น: 29  
   
223.24.184.*


« ความเห็นที่ #4 เมื่อ: 03/11/19 เวลา 19:58:31 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

เอาจริงๆผมGIนี่ใช้บริการpathoบ่อยมาก ส่วนตัวชอบคุยกะคนมากกว่านะ เพราะมีอะไรสงสัยโทรไปคุยกับคนได้ ปรึกษาได้ หลายโรคมันก็pathoเหมือนกันต้องอาศัยclinical correlationอ่ะ  คือถ้ามีclinical suspicious +pathologyถึงจะdefinite diagnosisอ่ะนะ

ส่งโดย: น้ำเน่าในเงาจันทร์ male
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 6054   Email
   
171.5.22.*


« ความเห็นที่ #5 เมื่อ: 03/11/19 เวลา 20:04:24 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

Tsubasa-villous_atrophy.jpg
ยกตัวอย่างคนไข้ผมมาด้วยchronic diarrhea ครับ biopsy small intestine ออกมาเจอvillous atrophy มันคงให้โรคให้ผมไปนั่งหาต่ออีกซัก10โรคอ่ะครับ อย่างในตัวอย่าง

ส่งโดย: น้ำเน่าในเงาจันทร์ male
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 6054   Email
   
171.5.22.*


« ความเห็นที่ #6 เมื่อ: 03/11/19 เวลา 20:44:40 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

Tsubasa-patho_diagnosis.jpg
อันนี้เคสchronic diarrheaจริงครับ
AI คงreport ออกมาแบบนี้

ส่งโดย: น้ำเน่าในเงาจันทร์ male
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 6054   Email
   
171.5.22.*


« ความเห็นที่ #7 เมื่อ: 03/11/19 เวลา 20:45:18 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

Tsubasa-pathodx.jpg
และก็แบบนี้
AIบอก กรูอ่านให้แระเมิงไปแปลผลเองแล้วกัน

ส่งโดย: น้ำเน่าในเงาจันทร์ male
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 6054   Email
   
171.5.22.*


« ความเห็นที่ #8 เมื่อ: 03/11/19 เวลา 20:49:15 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

Tsubasa-patholdx2.jpg
แต่สิ่งที่AI ไม่มีคือส่วนนี้ครับ comment ของPathologist
ซึ่งผมได้ไปซักประวัติย้อนหลัง สรุปคนไข้มีunderlying HTกินยาolmesartanมาเป็น 10 ปีแล้วเพิ่งdevelop watery diarrhea แบบ large volumeมาได้1เดือน
Definite diagnosis คือ olmesartan associated enteropathyครับ
แค่หยุดยาolmesartanคนไข้ก็หาย
 
AI มีน่ะมันดีครับ อย่างน้อยการแปลผลทำได้แม่นยำขึ้น แต่สิ่งที่ต่างไปคือคงใช้เวลาอีกซักระยะใหญ่ในการพัฒนาของAI กว่าจะสามารถให้opinionได้แบบpathologistครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้ายเมื่อ: 03/11/19 เวลา 20:59:15 by น้ำเน่าในเงาจันทร์ »

ส่งโดย: น้ำเน่าในเงาจันทร์ male
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 6054   Email
   
171.5.22.*


« ความเห็นที่ #9 เมื่อ: 03/11/19 เวลา 20:52:02 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

และradiologist ก็มีบทบาทไม่แพ้กันครับ อย่างผมจะตัดCT กะMRIซักครั้งผมจะโทรไปคุยกับradiologistก่อนว่าผมอยากได้อะไร จะได้ตัดimagingถูกprotocol และได้แบบที่ผมต้องการครับ  
แบบนี้AIก็ยังทำไม่ได้ครับ

ส่งโดย: น้ำเน่าในเงาจันทร์ male
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 6054   Email
   
171.5.22.*


« ความเห็นที่ #10 เมื่อ: 03/11/19 เวลา 21:34:13 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

อันนี้อ่านกันขำๆครับสนุกดีเรื่องolmesartan induce enteropathy
 
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3538487/
 
https://www.hindawi.com/journals/crigm/2013/618071/
 
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC5468041/
 
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC5344475/
 
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3956379/

ส่งโดย: น้ำเน่าในเงาจันทร์ male
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 6054   Email
   
171.5.22.*


« ความเห็นที่ #11 เมื่อ: 03/12/19 เวลา 13:47:06 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

มีประโยชน์สำหรับที่ที่ขาดแคลนบุคลากร บทบาทหลักน่าจะเป็นการมาเสริมไม่ใช่การทดแทน ซึ่งน่าจะต้องadvanceกว่านี้มากๆและต้องพัฒนากันอีกยาวๆครับ
ส่งโดย: vit
สถานะ: Newbie *
จำนวนความเห็น: 10  
   
159.192.246.*


« ความเห็นที่ #12 เมื่อ: 03/12/19 เวลา 14:36:27 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

AI แย่งงานได้ชัวร์
AI นะครับ ไม่ได้เหมือนพวกโปรแกรม interprete EKG  
AI สามารถเรียนรู้ปรับเปลี่ยนทักษะได้ตลอด  
ป้อนข้อมูลฟิล์มไปสักล้านฟิล์ม AI ที่อ่านก็เปลี่ยนไปเหนือกว่า radiologist ทุกคนในโลกแล้ว (เพราะไม่เคยมี radiologist คนไหน มีประสบการณ์อ่านฟิล์มได้ถึง 1 ล้านฟิล์ม)
ส่งโดย: Hybrid VI
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 6180  
   
182.232.142.*


« ความเห็นที่ #13 เมื่อ: 03/12/19 เวลา 15:00:49 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

Tsubasa-AI.jpg
สุดท้ายAI มันก็ชนะคนแหละครับ ถ้ามันพัฒนาถึงจุดหนึ่ง  
แต่ถ้าให้ทำงานด้วยผมคงเลือกทำงานกับexperience radiologist มากกว่าAI

ส่งโดย: น้ำเน่าในเงาจันทร์ male
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 6054   Email
   
115.31.146.247 fwd for 10.161.102.*


« ความเห็นที่ #14 เมื่อ: 03/12/19 เวลา 16:41:18 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ผมมองว่าทั้ง RadioDx และ Patho มีโอกาสที่งานจะลดลงครับ แต่คงไม่ถึงขนาดตกงาน เพราะงานหลายๆอย่างยังต้องอาศัยแพทย์อยู่
ส่งโดย: simath
สถานะ: Senior Member ****
จำนวนความเห็น: 328  
   
1.46.201.*


« ความเห็นที่ #15 เมื่อ: 03/12/19 เวลา 20:39:00 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

 ผมมอง ว่า   WIN   WIN
 
  AI =  Technician
 
  AI =  Levelarge อย่างหนึ่ง
 
 
 
 สุดดท้ายแล้วต้องให้  หมอเซ็น  กำกับ  รับผิดชอบ ลงท้ายอยู่ดี
 
  เพราะต้องมีคนรับผิดชอบกรณีฟ้องร้อง
 
 
 เหตุผล  เพราะ  มนุษย์  ไม่เชื่อมั่นในเครื่องจักร  ขนาดให้ตัดสินชีวิต
 
 แต่  จะช่วยให้หมอสาขานั้นๆ  ทำงานสบายมากขึ้น  ทำปริมาณงานได้มากขึ้น
 
 
  จงอยู่ร่วมกับ  AI   และใชัมันให้เป็นประโยชน์
 
 
ต่อไป  echocardiography   cardiologist  ก็ไม่ต้องทำเองแล้ว
 
ให้พยาบาลแค่เอ่ probe มาถู ที่หน้าอก
 
 
AI  จะจับภาพและอ่านเอง  ดู EF  + other  เอง
 
cardiologist แค่มาสรุป   ตอนนี้อยู่ระหว่างการพัฒนา
 
 
 
 
 
 
 
   
 
 
   
ส่งโดย: philosophy
สถานะ: Senior Member ****
จำนวนความเห็น: 419  
   
134.196.76.*


« ความเห็นที่ #16 เมื่อ: 03/12/19 เวลา 21:29:20 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

AI มาแน่ครับ และ จะชนะขาดลอย แบบไม่มีวันเชื่อถือมนุษย์อีกเลย  
 
สิ่งที่จะเป็นปัจจัยหลักคือ พฤติกรรม ผู้บริโภค ที่เปลี่ยนไป กับเทคโนโลยี 5G  
 
 
ผมกำลังคิดว่า ถ้าทุกวันนี้เราเก็บข้อมูลคนไข้ได้มากขึ้น real time การวินิจฉัยโรค ก็อาจจะเปลี่ยนไปอีก จนทฤษฎีเดิมอาจใช้ไม่ได้ องค์ความรู้ก็อาจจะเปลี่ยนไป    
 
จนทำให้แนวทางการรักษา ที่ควบคู่ไปการติดตามอาการแบบ real time จะสร้างความได้เปรียบ ที่แพทย์ไม่สามารถทำได้  แม้แต่จะวิเคราะห์ก็ไม่ได้  เพราะข้อมูลมากเกินไป ต้องใช้ Ai อยู่ดี  ผู้บริโภคจะเริ่มซึมซับแนวทางนี้  พอใช้ไปมากเข้า สุดท้าย ก็ใช้ AI ทั้งหมด หมอแบบเดิมๆจะหายไปหมดครับ เกิดหมอแบบใหม่
ส่งโดย: positive male
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1020  
   
101.109.144.*


« ความเห็นที่ #17 เมื่อ: 03/12/19 เวลา 22:07:54 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ทำไม รู้สึก ว่าตรงกันข้าม มีความต้องการหมอ xray มากขึ้น งานเยอะขึ้นอ่ะ
ส่งโดย: x101
สถานะ: Junior Member **
จำนวนความเห็น: 98  
   
223.206.8.*


« ความเห็นที่ #18 เมื่อ: 03/13/19 เวลา 13:35:04 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

โปรแกรมหมากรุกไทย ขนาดแค่ 421 K  แต่เรายังเอาชนะไม่ได้เลย  
โกดัก ต้องเสียแชมป์ไปให้กล้องดิจิทัล ทั้งที่ตัวเองเป็นคนคิดเรื่องนี้ เพราะโกดัก ไม่เชื่อว่า ดิจิทัลจะเอาชนะบริษัทโกดักได้  
ในยุคนี้ อะไรที่เป็นดิจิทัล เอาชนะอานาล๊อกได้เสมอ
ส่งโดย: 6699
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1520  
   
223.205.246.*


« ความเห็นที่ #19 เมื่อ: 03/13/19 เวลา 13:51:12 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

AI อาจทำให้ปัญหาการฟ้องร้อง ลดลงได้  หากเราทำให้ผู้บริโภค เข้าใจว่าการรักษาเป็นเรื่องที่คนไข้ สามารถเลือกที่จะรับความเสี่ยงของตัวเองได้ โดยไม่มีหมอมาเกี่ยวข้อง
 
อาจจะมีนโยบายเยียวยา หากได้รับผลกระทบจาก AI  
ส่งโดย: positive male
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1020  
   
101.109.28.*


« ความเห็นที่ #20 เมื่อ: 03/16/19 เวลา 01:20:13 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ผมว่าเอาเข้าจริง หมอทั่วไปก็น่ากลัวจะตกงานเหมือนกัน เพราะ AI เจอโรคง่าย typical รักษาตาม guideline ได้เลย โรคยากคัดกรองแยกโรค ส่งต่อไปหา specialist ได้เลยไม่ต้องรอคิวตรวจ GP  
 
หมอสาขาหัตถการน่าจะสบายใจได้มากที่สุด เพราะขนาดเครื่องบินมี auopilot ร่วมกับนักบินยังตก รถไร้คนขับยังมีคนกลัวกันเกิน 70% กว่าจะให้หุ่นยนต์รักษาแทนมนุษย์ 100% คงอีกสัก 50+ ปี แต่แพทย์ต้องหัดควบคุมหุ่นยนต์ให้เป็น ภายใน 20 ปีนี้ robotic assist จะมาเป็น main stream แทน minimally invasive surgery  
 
patho/x-ray dx ช่วงนี้วิกฤติสุด นอกจากคนจะล้นงานแล้ว ยังมีตัดราคาจนถึงขั้นต้องกำหนด ราคาขั้นต่ำ ของแต่ละงาน ราชวิทยาลัยอื่นๆเค้ามีแต่กำหนดราคาขั้นสูงกันทั้งนั้น ต่อไปคนจะยิ่งล้นเพราะมี AI assist หุ่นช่วยอ่านพวกงาน routine หมอมา confirm อย่างเดียวยิ่งอ่านได้ไวขึ้นไปอีก  Lips Sealed
ส่งโดย: Innominate male
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1943  
   
184.22.33.*


« ความเห็นที่ #21 เมื่อ: 03/16/19 เวลา 02:24:53 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 03/16/19 เวลา 01:20:13, Innominate wrote:
ผมว่าเอาเข้าจริง หมอทั่วไปก็น่ากลัวจะตกงานเหมือนกัน เพราะ AI เจอโรคง่าย typical รักษาตาม guideline ได้เลย โรคยากคัดกรองแยกโรค ส่งต่อไปหา specialist ได้เลยไม่ต้องรอคิวตรวจ GP  
 
หมอสาขาหัตถการน่าจะสบายใจได้มากที่สุด เพราะขนาดเครื่องบินมี auopilot ร่วมกับนักบินยังตก รถไร้คนขับยังมีคนกลัวกันเกิน 70% กว่าจะให้หุ่นยนต์รักษาแทนมนุษย์ 100% คงอีกสัก 50+ ปี แต่แพทย์ต้องหัดควบคุมหุ่นยนต์ให้เป็น ภายใน 20 ปีนี้ robotic assist จะมาเป็น main stream แทน minimally invasive surgery  
 
patho/x-ray dx ช่วงนี้วิกฤติสุด นอกจากคนจะล้นงานแล้ว ยังมีตัดราคาจนถึงขั้นต้องกำหนด ราคาขั้นต่ำ ของแต่ละงาน ราชวิทยาลัยอื่นๆเค้ามีแต่กำหนดราคาขั้นสูงกันทั้งนั้น ต่อไปคนจะยิ่งล้นเพราะมี AI assist หุ่นช่วยอ่านพวกงาน routine หมอมา confirm อย่างเดียวยิ่งอ่านได้ไวขึ้นไปอีก  Lips Sealed

 
ตอนนี้คนไม่ได้ล้นงานนะครับ สำหรับ patho
ตำแหน่งราชการใน กทม ยังว่างอยู่หลายตำแหน่ง แบบไม่ต้องแย่ง
พตส ยังได้เรทสูงสุด 15,000 อยู่ และตอนนี้ในไทย รวมถึงที่อเมริกา ยังไม่มี system ที่ approve ให้อ่านสไลด์แทน pathologist นะครับ
 
ที่ต้องประกันราคาขั้นต่ำ เพราะโครงสร้างราคาแล็บเอกชน เก็บกันแบบ ประมูลราคา ดังนั้นใครประมูลถูกกว่า ก็ชนะ ที่เหลือไปกด DF หมอเอา ตอนนี้เลยต้องมีการประกันราคาออกมา ปัญหานี้มีมานานเกิน 10 ปีแล้วครับ และไม่ได้เกี่ยวกับไอเอ แต่งอย่างใด
 
แต่แน่นอนครับ อนาคต เอไอจะส่งผลอย่างไร เป็นเรื่องที่น่าติดตาม
ส่งโดย: Sandoz
สถานะ: Newbie *
จำนวนความเห็น: 29  
   
223.24.155.*


« ความเห็นที่ #22 เมื่อ: 03/16/19 เวลา 13:49:25 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ทำไมถึงชอบกังวลสิ่งทั้ยังไม่เกิดอะ แบบถ้าอนาคตใกล้4-5ปีว่าไปอย่างนี่อีกกี่สิบกว่านั้นคงเกษียรแล้วมั้ง
ส่งโดย: Xanz
สถานะ: Junior Member **
จำนวนความเห็น: 66  
   
1.47.73.*


« ความเห็นที่ #23 เมื่อ: 03/16/19 เวลา 16:17:47 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 03/16/19 เวลา 13:49:25, Xanz wrote:
ทำไมถึงชอบกังวลสิ่งทั้ยังไม่เกิดอะ แบบถ้าอนาคตใกล้4-5ปีว่าไปอย่างนี่อีกกี่สิบกว่านั้นคงเกษียรแล้วมั้ง

 
 
555  จริง
ส่งโดย: Any_Obtion
สถานะ: Full Member ***
จำนวนความเห็น: 243  
   
58.11.42.*


« ความเห็นที่ #24 เมื่อ: 03/16/19 เวลา 16:31:27 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

บางคนจบบอร์ดใหม่ๆ เขายังเหลือเวลาต้องทำงานอีก 30 ปี
เอาเข้าจริงในยุคนั้น อาจต้องทำงานนานกว่านั้น เพราะจะเป็นสังคมผู้สูงอายุ ตนต้องเป็นที่พึ่งแห่งตน
จะน่ากลัวแค่ไหน เมื่อตัวเองรู้ว่า สาขาที่ตัวเองจบมา อาจเลี้ยงตัวเองถึงแก่เฒ่า ... ไม่ได้ครับ
ส่งโดย: Sandoz
สถานะ: Newbie *
จำนวนความเห็น: 29  
   
223.24.165.*


« ความเห็นที่ #25 เมื่อ: 03/17/19 เวลา 03:31:42 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ส่วนตัวคิดว่า AI มาแน่ แต่ไม่ถึงกับแย่งงานค่ะ มันจะมาช่วยเรามากกว่า แต่เราต้องปรับตัว
 
สาขาไม่หัตถการก็ไม่ได้จะโดนแย่งงานในเร็ววันนี้แน่ๆค่ะ เพราะในเรื่องการ Dx, treatment มันไม่ได้ตรงไปตรงมาขนาดนั้น
ทุกวันนี้ที่เรา practice กัน เราก็ไม่ได้ตาม guidelines  มันมีความซับซ้อนอะไรอีกเยอะที่เราต้องเอา knowledge base, evidence รวมไปถึง experience ต่างๆมา apply อีกทีอยู่แล้ว
ส่งโดย: jengirl
สถานะ: Full Member ***
จำนวนความเห็น: 123  
   
104.237.80.*


« ความเห็นที่ #26 เมื่อ: 03/19/19 เวลา 21:23:19 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

เกาะอยู่กับระบบราชการไว้
 
ก็ไม่มีอะไรน่าห่วง แม้จะอีก 30 ปี
 
แม้งานนอกเวลาอาจน้อยลงบ้าง  
 
แต่ถ้าปรับตัวได้  รายได้อาจมากขึ้นทำงานง่ายขึ้นก็ได้
ส่งโดย: Any_Obtion
สถานะ: Full Member ***
จำนวนความเห็น: 243  
   
119.76.9.*


« ความเห็นที่ #27 เมื่อ: 03/23/19 เวลา 23:20:56 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 03/16/19 เวลา 02:24:53, Sandoz wrote:

 
ตอนนี้คนไม่ได้ล้นงานนะครับ สำหรับ patho
ตำแหน่งราชการใน กทม ยังว่างอยู่หลายตำแหน่ง แบบไม่ต้องแย่ง
พตส ยังได้เรทสูงสุด 15,000 อยู่ และตอนนี้ในไทย รวมถึงที่อเมริกา ยังไม่มี system ที่ approve ให้อ่านสไลด์แทน pathologist นะครับ
 
ที่ต้องประกันราคาขั้นต่ำ เพราะโครงสร้างราคาแล็บเอกชน เก็บกันแบบ ประมูลราคา ดังนั้นใครประมูลถูกกว่า ก็ชนะ ที่เหลือไปกด DF หมอเอา ตอนนี้เลยต้องมีการประกันราคาออกมา ปัญหานี้มีมานานเกิน 10 ปีแล้วครับ และไม่ได้เกี่ยวกับไอเอ แต่งอย่างใด
 
แต่แน่นอนครับ อนาคต เอไอจะส่งผลอย่างไร เป็นเรื่องที่น่าติดตาม

 
ถ้าแลบเอกชนมีคนน้อยกว่างาน แล้วมากด DF ได้แสดงว่ามีหมอเยอะกว่าตำแหน่งงานในเอกชนน่ะสิครับ เพราะถ้าหมอน้อย หมอก็เรียกค่าตัวได้ แต่ถ้าเรียกแล้วเค้าไปหาคนอื่นอ่านแทนได้ก็แสดงว่า supply มันล้นแล้ว ส่วนตำแหน่งภาครัฐเงินเดือนคงไม่พอที่จะอยู่กทม.ได้แบบสบายๆต้องไปหางานข้าง นอกทำกันทั้งนั้น ซึ่งก็จะเข้าสู่การ oversupply อยู่ดี  
 
ส่วน AI ในช่วงนี้คงเป็นตัวช่วย เช่นให้ AI กวาดตาสักรอบ ระหว่างที่หมอก็ไปอ่านอีกแผ่น ตรงไหน AI ไม่แน่ใจก็ถ่ายภาพไว้เอามาปรึกษาแพทย์ พอแพทย์สอนไป AI ก็เก่งขึ้นทุกครั้ง
ส่งโดย: Innominate male
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1943  
   
184.22.19.*


Page(s) : 1 


แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print



Reply this Topic reserved for registed member only. Register



  • ข้อความและรูปภาพที่ท่านเห็นส่วนใหญ่ ได้ถูกส่งมาจาก ทางบ้าน
    ทางเว็บไซต์ Thaiclinic.com ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของข้อความและรูปภาพที่ถูกส่งมา

  • ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชนและส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ
    เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง
    ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง

  • ถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมหรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล
    หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ webmaster@thaiclinic.com หรือ กดแจ้งที่ปุ่ม
    "แจ้งลบกระทู้"
    เพื่อให้ทีมงานทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ครับ

ThaiClinic.Com . All Rights Reserved. !--BEGIN WEB STAT CODE-->

Powered by