|
« เมื่อ: 11/05/25 เวลา 10:57:34 » |
|
ปัจจุบันการทำธุรกรรมทางการเงินสะดวกง่ายดายด้วยการใช้ บัตรเดบิต และบัตรเครดิต แตะจ่ายซื้อสินค้าและบริการได้ทันที รองรับสังคมไร้เงินสด สามารถโอนเงินในบัญชีธนาคารผ่านแอปพลิเคชันจ่ายเงินผ่านการสแกน QR Code, จ่ายผ่าน e-Wallet หรือระบบพร้อมเพย์ (PromptPay) นั่นเอง บัตรเดบิตต่างจากบัตรเครดิตอย่างไร บัตรเดบิต และบัตรเครดิต มีความแตกต่างกันหลายเรื่อง ดังนี้ 1.วงเงินสำหรับใช้จ่าย บัตรเดบิต เป็นการใช้จ่ายจากเงินในบัญชีโดยตรง จึงไม่มีเงื่อนไขหรือการจ่ายคืน แต่ใช้ได้เท่ากับจำนวนเงินจริงในบัญชีเท่านั้น ใช้บัตรเดบิตซื้อของออนไลน์ได้ บัตรเครดิต มีวงเงินอนุมัติจำกัด ทางธนาคารเจ้าของบัตรเป็นฝ่ายกำหนดวงเงินเอาไว้ จะใช้เงินได้ไม่เกินวงเงินใช้จ่ายของบัตรนั้น ทั้งยังมีเงื่อนไขว่าต้องชำระเงินเต็มจำนวนให้ตรงเวลาด้วย 2.การผ่อนสินค้า บัตรเดบิต ใช้ผ่อนสินค้าไม่ได้ บัตรเครดิต ใช้จ่ายผ่อนสินค้าได้ตามวงเงินในบัตรและผ่อนชำระตามระยะเวลาที่กำหนด มีหรือไม่มีดอกเบี้ยแล้วแต่เงื่อนไขของบางธนาคาร 3.ดอกเบี้ย บัตรเดบิต ใช้จ่ายอย่างอิสระตามจำนวนเงินที่มีในบัตร ไม่เรียกเก็บดอกเบี้ย เป็นข้อที่แตกต่างจากบัตรเครดิตที่สุด บัตรเครดิต คือการยืมเงินจากธนาคารมาใช้ตามวงเงินที่ได้รับอนุมัติ นั่นคือใช้ตามวงเงินคงเหลือ ซึ่งเป็นวงเงินที่ได้รับอนุมัติให้ใช้จ่ายได้ โดยเกิดดอกเบี้ยต่างกันไปในแต่ละกรณี เช่น ดอกเบี้ยจากการซื้อสินค้าแบบผ่อน, หรือชำระบิลล่าช้า, หรือผิดนัดชำระ, หรือนำบัตรเครดิตไปกดเงินสด 4.ซื้อ กองทุน บัตรเดบิต ซื้อหน่วยลงทุนของ กองทุุนรวม ธนาคารผ่านบัตรเดบิตได้ สามารถสะสมคะแนนรวมกับการใช้จ่ายประเภทอื่น บัตรเครดิต นำบัตรเครดิตไปใช้ซื้อ กองทุน ได้ในบางกรณี เสียแต่ว่าการลงทุนกับ กองทุน หรือ กองทุุนรวม ไม่มีคะแนนสะสม ไม่มีของแถม และผ่อนแบบ 0% ไม่ได้ 5.ลดหย่อนภาษี บัตรเดบิต การรับชำระเงินด้วยบัตรเดบิตให้ประโยชน์ด้านการลดหย่อนภาษีด้วย สามารถนำใบกำกับภาษีไปยื่นประกอบเพื่อลดหย่อนในการเสียภาษีได้ บัตรเครดิต เป็นตัวช่วยลดหย่อนภาษีประจำปี ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับคนที่ต้องเสียภาษี และยังมีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนเพิ่มด้วย อย่างไรก็ตาม การซื้อหน่วยลงทุนผ่านบัตรเครดิตจะไม่ได้รับคะแนนสะสม 6.สิทธิประโยชน์ บัตรเดบิต มีสิทธิประโยชน์บางอย่าง เช่น ประกันอุบัติเหตุ ส่วนลดตามร้านค้าและเว็บซื้อสินค้าออนไลน์ บางบัตรมีวงเงินค่ารักษาพยาบาล นอกจากนี้นั้นหากเลือกลงทุนกองทุนรวมกับธนาคารที่น่าเชื่อถือจะมีโอกาสทำกำไ รก้อนโตได้ง่าย ๆ บัตรเครดิต มีสิทธิประโยชน์มากกว่า ส่วนจะมากแค่ไหนขึ้นอยู่กับวงเงินและฐานเงินเดือนของผู้ถือบัตร เช่น ใช้แต้มบัตรเครดิตรับส่วนลดต่าง ๆ หรือรับเงินคืนจากการใช้จ่าย หรือสิทธิใช้ช่องจอดรถตามห้างชั้นนำ 7.เครดิตความน่าเชื่อถือ บัตรเดบิต ไม่มีผลต่อคะแนนความน่าเชื่อถือ บัตรเครดิต หากมีประวัติทางการเงินดี ไม่เคยชำระเงินล่าช้า อย่างน้อยก็จ่ายขั้นต่ำเป็นประจำ ช่วยให้การขอสินเชื่อมีโอกาสประสบผลสำเร็จมากขึ้น การทำบัตรเดบิตออนไลน์เป็น การลงทุน ที่คุ้มค่า นอกจากผลตอบแทนที่ได้จากกองทุนรวม ได้แก่ เงินปันผล และกำไรส่วนเกินของราคาทุนแล้ว ยังนำบัตรเดบิตไปใช้จ่ายซื้อสินค้าหรือบริการได้ง่ายและสะดวกมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าอินเทอร์เน็ต ตลอดจนค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันอย่าง ซื้ออาหาร เติมน้ำมัน ซึ่งใช้บัตรเดบิตแทนเงินสดได้แทบทุกอย่าง นอกจากนี้ยังมีส่วนลดพิเศษที่ช่วยประหยัดได้ด้วย การทำบัตรเดบิตนับเป็น การลงทุน ที่มีประโยชน์มากกว่าที่คิด ยิ่งถ้าได้ลงทะเบียนบัตรเดบิตให้ใช้จ่ายออนไลน์แล้วก็ยิ่งสะดวกมากขึ้น เท่านี้ก็พอจะเลือกได้แล้วว่าระหว่าง บัตรเดบิตและบัตรเครดิต แบบไหนที่เหมาะกับเรา https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/img-Governance.md.we" alt="" border="0">
|
|