|
« ความเห็นที่ #7 เมื่อ: 08/15/12 เวลา 21:02:14 » |
|
- ฟันผุก็ต้องอุดไงคะ จึงไม่ใช้วิธีเคลือบ มีบางกรณีเหมือนกันที่อาจใช้ทั้งการอุดฟันและเคลือบหลุมร่องฟัน ผสมกัน ซึ่งมักทำในเด็ก - ฟันผุจะผุจากด้านนอกเข้าไป มีเหมือนกันที่ฟันผุข้างใต้วัสดุอุดฟันหรือครอบฟัน แต่ทิศทางการผุก็จะลุกลามเข้าไปข้างในอยู่ดี หรืออาจลามออกไปทั่ว สรุปคือทำลายเนื้อฟันเรื่อยๆ จนกว่าจะหมด ฉะนั้นเราจึุงพบคนที่ฟันผุแหว่งมาก ฟันผุเหลือแต่ราก นั่นเอง ฟันที่เริ่มผุึแล้ว จะต้องอุดฟันเท่านั้น ไม่ใช่การเคลือบหลุึมร่องฟัน การเคลือบหลุมร่องฟันทับลงไปทั้งๆ ที่ฟันผุ จะทำให้ฟันผุข้างใต้วัสดุ และลุกลามต่อได้ - ยาสีฟันไม่ได้มีฟลูออไรด์ทุกยี่ห้อ แต่ส่วนใหญ่มีค่ะ ยาสีฟันสมุนไพรบางยี่ห้อ ยาสีฟันไทยโบราณ ยาสีฟันผสมเกลือบางยี่ห้อ ไม่มีฟลูออไรด์ คนไข้สามารถเลือกยาสีฟันยี่ห้อไหนก็ได้ที่ผสมฟลูออไรด์เป็นเบื้องต้น ใช้ที่เราไม่แพ้ บางคนอาจชอบซ่า ไม่ซ่า แล้วแต่ความชอบค่ะ การเสริมการป้องกันฟันผุ ให้เน้นที่การดูแลรักษาความสะอาดช่องปาก แปรงฟันและใช้ไหมขัดฟัน ทานอาหารที่มีน้ำตาลน้อย ทานผักผลไม้ อาหาร 5 หมู่ และหาคุณหมอเพื่อเช็คสภาพฟันอยู่เสมอค่ะ - การเคลือบหลุมร่องฟัน กับการฟลูออไรด์ เป็นคนละเรื่องเลยเดียวกัน ทั้ง 2 อย่างช่วยป้องกันฟันผุ แต่คนละแนวทาง การเคลือบหลุมร่องฟัน เป็นการป้องกันฟันผุโดยการปิดหลุมร่องบนฟันให้ตื้นลงด้วยวัสดุทันตกรรม เมื่อตื้นก็แปรงทำความสะอาดได้ ป้องกันเชื้อโรคแทรกลงไปในหลุมร่องลึกๆ ในขณะที่ฟลูออไรด์คือสารเคมีมีฤทธิ์ช่วยทำให้ผิวเคลือบฟันมีโครงสร้างทางเคม ีที่แข็งแรงขึ้น การได้รับฟลูออไรด์เข้าสู่ร่างกายมีหลายทาง ทั้งการกิน (ปกติในน้ำ, อาหารอาจมีบ้าง หรืออาจได้รับเสริมสำหรับเด็ก) การทา, เคลือบโดยทันตแพทย์ และการใช้วัสดุผลิตภัณฑ์ทางทันตกรรมต่างๆ เช่น ยาสีฟัน น้ำยาบ้วนปาก เป็นต้น ถ้าเป็นไปได้ เด็กๆ ควรได้รับการเคลือบหลุมร่องฟัน และการให้ฟลูออไรด์เสริม ส่วนผู้ใหญ่ การเคลือบหลุมร่องฟัน ต้องดูเป็นรายๆ ไป (ส่วนใหญ่ไม่ทำแล้ว มักจะทำในเด็กมากกว่า) การให้ฟลูออไรด์ ก็ได้รับการแปรงฟันก็เพียงพอค่ะ
|
|